มูมิน และชาวหุบเขามูมิน มีเรื่องราวน่าสนใจเยอะแยะเหลือเกิน ซึ่งไม่อาจจะเล่าจบได้ภายในเล่มหรือสองเล่ม ตูเว ยานซอนเลยเขียนเล่าเรื่องมูมินออกมาให้อ่านกัน 9 เล่มซะเลย และแน่นอนว่า ในเมื่อเรื่องราวยาวถึง 9 เล่ม สิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นก็คือความเปลี่ยนแปลงของ มูมิน ที่เติบโตขึ้นทุกเล่ม ถ้าเป็นคน…มูมินก็คงโตมาเป็นชายหนุ่มที่น่าหลงรักจนหัวปักหัวปำคนหนึ่งเลยละ!
ส่วนเรื่องราวแต่ละเล่ม จะพูดถึงอะไรบ้าง เชิญทัศนาพร้อมกัน ณ บัดนี้…
หนังสือเล่มแรกในชุดมูมิน แต่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเป็นเล่มสุดท้าย เพื่อฉลองที่มูมินเล่มแรก (ซึ่งที่จริงเป็นเล่ม 2) มีอายุครบ 60 ปี เมื่อปีค.ศ.2005 นี่เอง ฉบับภาษาอื่นๆ รวมถึงฉบับภาษาไทยของเราจึงแปลเล่มนี้ เป็นเล่มสุดท้ายเช่นเดียวกัน
หนังสือเล่มนี้จะเฉลยเรื่องที่นักอ่านหลายคนสงสัยมาตลอด เช่น สนิฟฟ์คือใคร ทำไมมาอยู่ในบ้านมูมินในฐานะลูกชายคนหนึ่งได้ แฮตตี้แฟตเทนเนอร์คือตัวอะไร ทำไมคุณพ่อมูมินจึงหายออกไปผจญภัยอยู่บ่อยๆ แล้วบรรพบุรุษมูมินล่ะ ทำไมต้องอยู่ในเตาไฟ มูมินมีครอบครัวอื่นๆ อีกหรือเปล่า ฯลฯ
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
หลายคนคิดว่าเล่มนี้คือเล่มแรก แต่…ผิด! นี่คือเล่มที่ 2 ของชุดต่างหาก (ส่วนเหตุผลที่ภาษาอื่นๆ รวมถึงภาษาไทยพิมพ์เป็นเล่มที่ 2…ย้อนกลับไปอ่านภาพแรกได้เลย)
อยู่ดีๆ ก็จะมีดาวหางมาพุ่งชนหุบเขามูมิน แล้วยังไงล่ะ โลกเล็กๆ ที่แสนปลอดภัยของมูมินกำลังจะระเบิดเหรอ!!!
มูมินกับเพื่อนเลยยกพวกบุกไปหานักดาราศาสตร์ เพื่อหาคำตอบเรื่องดาวหาง...แต่ในขณะที่อกสั่นขวัญแขวนอยู่นั่นเอง มูมินกับสาวสนอร์กก็ได้พบกันเป็นครั้งแรก แล้วก็ปิ๊งกันซะงั้น
เรื่องราวผจญภัยแสนสนุก เกือบกลายเป็นนิยายรักของเจ้าอ้วนนี่แล้วไง!
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
เล่มนี้มีชื่อภาษาต้นฉบับว่า Trollkarlens hatt แปลว่า “หมวกของผู้วิเศษ” แต่ฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Finn Family Moomintroll ซึ่งเน้นให้เห็นความเป็น “ครอบครัว” ของหนังสือชุดนี้ เพราะตั้งแต่เล่มแรกเป็นต้นมาไม่ว่าจะเกิดภัยใดๆ หรือต้องเผชิญหน้ากับสิ่งร้ายแรงที่ไม่รู้จัก หนุ่มน้อยมูมินจะเชื่อมั่นขึ้นมาเสมอ เมื่อนึกได้ว่ามีแม่อยู่ข้างๆ
นี่คือจุดต่างอย่างหนึ่งจากวรรณกรรมเยาวชนทั่วไป ซึ่งมักให้เด็กๆ ผจญภัยกันตามลำพัง ผู้ใหญ่มีบทบาทน้อยมาก หรือถ้าจะมีก็มักจะเป็นฝ่ายผู้ร้าย ในขณะที่มูมินทุกเล่มจะเน้นความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะเล่มนี้ ในเวลาที่หมวกก่อให้เกิดสิ่งประหลาดมหัศจรรย์หลายอย่างนั้น ทั้งคุณพ่อและคุณแม่มูมินต่างก็อยู่ในเหตุการณ์และผจญภัยไปพร้อมกัน
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
เล่มนี้คือทางลัดในการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของครอบครัวตัวอวบเลยก็ว่าได้ เพราะคุณพ่อมูมินลงมือบันทึกความทรงจำเก่าเก็บด้วยตัวเอง
คงเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากใครสักคนมีประสบการณ์ที่น่าจดจำ หากแต่ไม่มีใครรู้ และต่างก็ปล่อยให้ความทรงจำนั้นค่อยๆเลือนหายไป คุณพ่อมูมินตระหนักเรื่องนี้ได้ในวันหนึ่งเมื่อคุณแม่มูมินคิดว่ารถรางทนไฟในตู้ลิ้นชักห้องรับแขกนั้น เป็นของที่ได้มาจากการชิงโชค!
การที่ไม่มีใครรู้ที่มาของรถรางคันนี้ หรือจำไม่ได้ ก็เท่ากับไม่มีใครรู้หรือจดจำเรื่องสำคัญอื่นๆในชีวิตของเขาด้วย ว่าแล้วคุณพ่อมูมินก็เก็บตัวอยู่เงียบๆ ในห้อง พลางลงมือเขียนบันทึก (แน่ละว่าคนจัดหาสมุดบันทึกเล่มหนามาให้ก็ย่อมต้องเป็นคุณแม่มูมินนั่นเอง) แล้วอ่านให้มูมินและผองเพื่อนฟัง
บันทึกมูมินเล่มนี้ เป็นเล่มสำคัญมาก หากต้องการจะเข้าใจตัวละครแต่ละตัวในหุบเขามูมินแห่งนี้ รวมทั้งที่มาที่ไปอันประหลาดมหัศจรรย์ของพวกเขา
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
มูมินแต่ละเล่มจะเน้นอารมณ์และความรู้สึกเด่นๆ ที่แตกต่างกัน แต่เล่มนี้น่าจะเป็นเล่มที่มีการผจญภัยสนุกสนานและคาดไม่ถึงมากที่สุดเล่มหนึ่ง แม้ตอนเริ่มต้นจะคล้ายเป็นฤดูร้อนที่แสนอบอุ่นก็ตาม
แต่สิ่งที่พวกมูมินพบเจอแต่ละครั้ง ไม่ว่าเป็นดาวหางพุ่งชนโลกในเล่มแรก หรืออื่นๆ อีกมากในเล่มนี้ ก็ดูเหมือนไม่ได้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวหรือวิตกในการใช้ชีวิต พวกเขายอมรับมันด้วยความเคารพในธรรมชาติ เผชิญกับมันด้วยจิตใจอันมั่นคงและมองโลกในแง่ดี แถมยังปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้อย่างสนุกสนาน
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
วันหนึ่งมูมินโทรลทำสิ่งที่ไม่มีมูมินตัวไหนเคยทำเลยในประวัติศาสตร์ของมูมิน เมื่อจู่ๆ เขาก็ตื่นขึ้นกลางฤดูหนาวอันเป็นเวลาที่มูมินทุกตัวจะต้องจำศีล
โลกฤดูหนาวเป็นโลกที่พวกมูมินไม่เคยรู้จัก และความไม่รู้นั้นก็ทำให้มูมินโทรลทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวาดกลัว และเหงาจับใจในเวลาเดียวกัน และในเมื่อจะกลับไปนอนอีกก็ไม่หลับเสียแล้ว มูมินก็ต้องเรียนรู้และต่อสู้เพื่อจะอยู่กับมันให้ได้
แม้ในเล่มนี้เราจะเห็นอารมณ์เศร้า เหงา โดดเดี่ยวของมูมิน ดังที่เห็นในทุกเล่ม แต่ที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ มูมินดูจะหงุดหงิดงุ่นง่าน และขี้โมโหอยู่บ่อย ๆ แน่ละ ก็เขามาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก หนาวเหน็บ ขาวโพลน ไม่น่าไว้วางใจ และที่สำคัญ ไม่มีคุณแม่มูมินคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
แต่ยังโชคดีที่มูมินได้พบเพื่อนใหม่—ทูทิกกี้
ตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในหนังสือชุดนี้ แม้จะมีบทบาทจริงๆ แค่เล่มนี้เล่มเดียวก็ตาม แต่เป็นบทบาทสำคัญที่ทำให้มูมินก้าวผ่านฤดูหนาวไปได้ เขาได้เรียนรู้โลกเดิม ๆ ในแง่มุมใหม่ ๆ เข้าใจผู้อื่นและโลกที่แตกต่างมากขึ้น ทั้งหมดนี้ก็ด้วยความช่วยเหลือของทูทิกกี้ ตามแบบของเธอเอง
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
เล่มนี้แตกต่างจากเล่มอื่นในชุดที่สุด เพราะแทนที่จะเป็นเรื่องยาวต่อกันทั้งเล่ม กลับเป็นเรื่องสั้นๆ หลายตอนมารวมกันแทน ซึ่งแต่ละตอนมีตัวละครจากในหุบเขามูมินมาสลับกันรับบทนำ
หุบเขามูมิน เป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด บ้างก็ไปๆ มาๆ บ้างก็อยู่ประจำ บางชนิดก็จำแนกประเภทไม่ได้ว่าคืออะไร และก็ล้วนแต่มีบุคลิกลักษณะและนิสัยเฉพาะตัว นั่นทำให้เรื่องราวต่างๆ ในหุบเขาแห่งนี้มีความประหลาดมหัศจรรย์ แม้แต่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งมีชีวิตที่เล็กน้อยที่สุด เป็นความประหลาดมหัศจรรย์ที่คล้ายๆ จะเหนือจริง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโดดเดี่ยว ความหวาดกลัว ความเศร้าโศก ความรัก ความเจ็บปวด ความสูญเสีย ความผิดหวัง ความวิตกกังวล ฯลฯ และอารมณ์อันซับซ้อนทุกชนิดซึ่งจะว่าไปแล้ว ในโลกแห่งความจริง อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ก็ดูลึกลับและเกินจริงอยู่แล้ว
เรื่องราวและเรื่องเล่าในหุบเขามูมิน จึงคล้ายกับว่ามันช่างห่างไกลราวกับเกิดขึ้นในดินแดนมหัศจรรย์ไกลโพ้น แต่ขณะเดียวกันก็ช่างคุ้นเคยราวกับเกิดขึ้นแถวๆ บ้านนี่เอง
และอาจจะในบ้านเราเองด้วยซ้ำ หรือเราต่างก็มีบ้านอยู่ในหุบเขามูมินด้วยกันทั้งสิ้น
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
สำหรับอดีตนักผจญภัยผู้เชี่ยวชาญการทะเลอย่างคุณพ่อมูมินแล้ว การนั่งอยู่นิ่งๆ รอคอยให้มีเหตุการณ์น่าตื่นเต้นเป็นเรื่องสุดแสนจะน่าเบื่อ ที่สำคัญ เมื่อมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นจริงๆ เขาก็กลับพลาดไปอย่างน่าโมโห ไม่มีใครนึกถึงเขา ราวกับว่าทั้งครอบครัวไม่จำเป็นต้องมี “พ่อ” อีกแล้ว
และนั่นแหละ ที่ทำให้จู่ๆคุณพ่อมูมินก็นึกอยากไปให้พ้นจากหุบเขามูมินอันแสนสงบเงียบเรียบง่าย กลับไปสู่ชีวิตแบบดั้งเดิม ชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและการผจญภัยอันน่าพิศวง บนเกาะของเขาเองที่เคยเห็นเพียงในแผนที่–เกาะลึกลับกลางทะเลอันไกลโพ้น
แม้ว่าเด็กๆ จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อมูมิน แต่การมาอยู่เกาะร้างและใช้ชีวิตย้อนกลับไปสู่ยุคดั้งเดิม ก็ทำให้ทุกคนได้ค้นพบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง และโลกอันน่าพิศวงของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เจ้าหนุ่มน้อยมูมินนั้นเล่าเขาก็ได้เรียนรู้ความรู้สึกรักเป็นครั้งแรก แม้จะผิดหวังอยู่บ้าง ก็ดูเหมือนเขาจะยอมรับมันได้อย่างดี ที่สำคัญเขาได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจ และเห็นใจบางสิ่งที่น่าหวาดกลัวและเชื่อกันว่าเลวร้าย
ทุกชีวิตล้วนแต่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา และต่างก็แสดงออกมาในแบบของตัวเอง การเข้าใจความโดดเดี่ยวของคนอื่น จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การเข้าใจความโดดเดี่ยวในใจของตัวเอง
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
นี่คือเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดมูมิน และเป็นตอนอวสานที่จบแบบไม่คาดฝันอย่างที่สุด ไม่คาดฝัน แต่ไม่ผิดหวังแน่ๆ เช่นเดียวกับทุกๆ เล่มของเธอ
หลังจากจบเล่มนี้ ตูเว ยานซอนบอกตัวเองว่าเธอเขียนถึงหุบเขามูมินไม่ได้อีกแล้ว ความสุขความฝันในนั้นจบสิ้นลงแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไป หุบเขามูมินยังคงเป็นสถานที่แห่งความสุขสนุกสนานของเด็กๆ เพียงแต่ทุกอย่างจบลงแล้ว เด็กทุกคนต้องเติบโตและเข้าสู่โลกแห่งความจริงด้วยตัวเอง
หุบเขามูมินยังคงเป็นสถานที่ที่เข้าไปเยี่ยมเยียนได้ชั่วครั้งชั่วคราว เพราะมันยังเป็นสถานที่แห่งความสุข เพียงแต่ไม่มีใครจะได้เจอครอบครัวมูมินอีกต่อไปแล้ว พวกเขาไปอยู่ที่ไหน…ใครที่อ่านครบทั้งชุดย่อมรู้ดี
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
เล่มนี้ไม่เกี่ยวแต่ขอแถม!
ทอฟเฟิลเป็นตัวละครใหม่ ที่ยังไม่เคยโผล่ในเล่มไหนมาก่อน
เด็กตัวเปี๊ยกคนนี้ขี้กลัวไม่มีใครเกิน แถมยังโดดเดี่ยวได้อีก
ส่วนตัวละครจากหุบเขามูมินตัวอื่นๆ ก็ยังคงเดิม รื่นเริงกันจริง จนแทบไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่ามีทอฟเฟิลเดินจ๋องๆ อยู่ทุกหน้าเลย โธ่ๆๆๆ
นี่คือหนังสือของคนขี้กลัว ขี้เหงา และขี้เขิน
เหมาะจะอ่านปลอบประโลมตัวเอง และซื้อไปสร้างความอบอุ่นให้คนอื่น… : )
สั่งซื้อ คลิกที่นี่
Pingback: ประวัติศาสตร์มูมินฉบับย่อ อุ่นเครื่องก่อนพบกับ "โลกในหุบเขามูมิน"
Pingback: วรรณกรรมเยาวชน 7 เรื่อง จาก 100 หนังสือดีที่ Amazon แนะนำ
Pingback: วรรณกรรมเยาวชน ที่กระทรวงศึกษาธิการเลือกให้เป็น หนังสืออ่านนอกเวลา
Pingback: 4 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วรรณกรรมเยาวชน DID YOU KNOW ? โดย แพรวเยาวชน
Pingback: ครูต้นแบบ ในวรรณกรรมเยาวชน จาก สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน
Pingback: ชีวิต การงาน และความรัก ของผู้ให้กำเนิด มูมิน : ตูเว ยานซอน %