ทุกคนสามารถเพิ่มทรัพย์สินได้จากความสามารถ 4 อย่าง ได้แก่ ความสามารถในการหาเงิน เก็บเงิน รักษาเงิน และใช้เงิน คนที่มีความสามารถในการหาเงินจะเรียกว่าคนรวยได้ แต่ถ้าพวกเขาตั้งใจจะรักษาความมั่งคั่งนั้นไว้ตลอดไป จะต้องมีความสามารถครบทั้ง 4 อย่าง เพราะการมีความสามารถเพียงอย่างเดียว แม้จะทำให้ร่ำรวยขึ้นก็จริง แต่ใช่ว่าความร่ำรวยนั้นจะคงอยู่ตลอดไป เราไปรู้จัก ความสามารถ 4 อย่าง ที่ช่วยให้มั่งคั่ง ร่ำรวย กัน!
ความสามารถในการหาเงิน
คนที่มีความสามารถในการหาเงิน คนกลุ่มนี้จะโดดเด่นชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำธุรกิจได้เก่งมาก หรือมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลกว่าคนทั่วไป เป็นคนที่มีความสามารถในการขาย มองโลกในแง่ดีไม่ล้มเลิกอะไรง่ายๆ ในแวดวงธุรกิจมีคนแบบนี้มากมาย คนที่ฉลาดทำงานอย่างขยันขันแข็ง มีอาชีพเฉพาะทางมักมีความสามารถด้านนี้ โดยเฉพาะนักธุรกิจทั้งหลาย
หากคนกลุ่มนี้ขาดความสามารถในมิติอื่น ก็อาจกลายเป็นหนี้หรือถูกหลอกลวงได้ เผลอๆ อาจถูกลูกน้องหลอกเงินโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่ถนัดเรื่องการจัดการรายได้ที่หามา พวกเขาเลยมักพูดติดปากว่า “ขอแค่หาเงินได้เท่ากับที่จ่ายไปก็พอน่า” ไม่ชอบอ่านและพยายามทาความเข้าใจงบการเงิน จึงมีปัญหาทางด้านบัญชี เพิกเฉยในรายละเอียดยิบย่อยเมื่อต้องลงทุน เงินของพวกเขามักหายไปทั้งก้อน ทุกครั้งที่เก็บสะสมได้
นอกจากนี้ยังไม่ใส่ใจเรื่องเอกสารภาษี หรือสัญญาการลงทุนที่ซับซ้อน ทำทีเป็นคนใจป้ำราวกับเชื่อมั่นและไว้ใจมาก ทั้งที่จริงแค่รำคาญและไม่เข้าใจ พวกเขามักได้รับคำถามจากผู้คนรอบข้างเสมอว่า ทาไมหาเงินเก่งจัง แต่กลับไม่รู้ตัวว่า ตัวเองหาเงินเก่งมาก เนื่องจากพอหามาได้ก็ใช้หมดไปในทันที แทบไม่มีเงินเหลือเก็บเลย แม้จะหาเงินได้เยอะแต่ไม่รู้สึกว่ามีเยอะ
ความสามารถในการเก็บเงิน
ความสามารถในการเก็บเงิน เป็นความสามารถที่แตกต่างจากความสามารถในการหาเงิน การหาเงินเก่งกับการเก็บเงินเก่งเป็นคนละเรื่องกัน หากเราตั้งใจจะเก็บเงินจริงจัง ต้องปรับสมดุลตัวเอง ให้มีทักษะในการจัดการค่าใช้จ่ายทุกกระเบียดนิ้ว จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นระบบ ตั้งแต่การเก็บใบเสร็จ ดูแลข้าวของ การจับจ่ายใช้สอย รู้จักแบ่งแยกเงินที่ต้องใช้ไว้เป็นประเภท ไปจนถึงมีความเข้าใจและความรู้เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา การลงทุน ดอกเบี้ย และอัตราภาษี อีกทั้งเวลาใช้เงิน จะต้องซื่อสัตย์กับตัวเองอย่างที่สุด
เราไม่ควรใช้เงินก้อนเล็กก้อนน้อยไปตามใจชอบ แต่ควรเก็บรวบรวมให้ได้ก้อนใหญ่ แล้วส่งไปลงทุนในสิ่งที่เหมาะสม บางคนเวลาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ผู้คนพากันห้อมล้อม แต่เมื่อถึงคราวต้องจ่ายเงินก้อนโต เพื่อนรอบข้างก็ทยอยจากไป
สุดท้ายไม่เหลือทั้งคนและเงิน ความสามารถในการเก็บเงินจึงขึ้นอยู่กับอุปนิสัยโดยตรง พวกเราต้องมีทั้งความเฉียบขาด และความใจกว้างอย่างพอเหมาะพอดี คนที่หาเงินมาได้เยอะ แต่ไม่รู้จักเก็บ เปรียบเหมือนไหพื้นรั่ว ต่อให้หามาได้มากแค่ไหน ถ้าพื้นมีรอยรั่ว ในวันหนึ่งไหใบนั้นก็ต้องว่างเปล่า
ความสามารถในการรักษาเงิน
ความสามารถในการรักษาเงิน การรักษาทรัพย์สินเป็นเรื่องหนึ่งที่ยากที่สุด คล้ายกับฝ่ายตั้งรับคอยคุมเกม ซึ่งยากกว่าการบุกโจมตีมาก ตอนนี้ทุกคนเริ่มปฏิบัติต่อเราแบบคนรวย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีความหรูหราฟุ้งเฟ้อรออยู่นอกประตูบ้านเสมอ เราเริ่มแสวงหาบ้าน รถ อาหาร เพื่อน และสินค้าแบรนด์เนมที่เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คิดว่าวิสัยทัศน์ของตัวเองต่อการเงิน การเมือง และเศรษฐกิจ ลุ่มลึกต่างจากคนทั่วไป ไม่พยายามแสวงหาอาจารย์อีก แต่กลับตั้งตนเป็นอาจารย์เอง และวางตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
หากประมาท ทรัพย์สินที่หามาทั้งชีวิตก็อาจสูญหายในชั่วข้ามคืน การสร้างบ้านอาจใช้เวลายาวนานถึง 3 ปี แต่ทำลายทิ้งได้ภายในหนึ่งวัน เหตุผลที่ผู้คนไม่สามารถรักษาทรัพย์สินไว้ได้ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า ต้องนำทรัพย์สินที่มีไปลงทุนอีก การลงทุนเป็นเรื่องยาก แต่การไม่ทำอะไรเลยเป็นการลงทุนที่เลวร้ายที่สุด เราจึงไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ได้ การลงทุนเป็นศาสตร์ ที่ไม่ได้ใช้ความขยันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีวิสัยทัศน์มองเห็นทุกสิ่งได้อย่างทะลุปรุโปร่ง รวมถึงมีมุมมองที่กว้างไกล ต้องรู้จังหวะที่จะเข้าซื้อและขายทิ้ง เพราะปราสาทถล่มลงมาได้ทุกวินาที
ความสามารถในการใช้เงิน
ความสามารถในการใช้เงิน ไม่ต่างจากความเก๋าเกมทางการเมือง ความเรียบง่ายไม่ใช่ความตระหนี่ ถึงเราจะใช้ชีวิตอย่างพอเพียง แต่ก็ไม่ควรบังคับคนในครอบครัว ผู้คนรอบข้าง หรือแม้แต่ลูกน้องให้ทำตาม อย่าคิดไปเองว่า “ฉันรวยขนาดนี้ยังประหยัดเลย เธอเองก็ควรประหยัดด้วยสิ” เพราะคุณค่าชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างกัน
สิ่งที่เราต้องจ่าย ควรจ่ายให้ตรงกำหนด ห้ามสายหรือเลื่อนเด็ดขาด แม้กระทั่งเงินค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ ก็ควรกำหนดวันจ่ายไว้ให้แน่นอน เหมือนวันที่เงินเดือนออก สาหรับคนที่ใช้ชีวิตแบบหาเงินรายวัน เมื่อเสร็จงาน เราควรจ่ายเงินพวกเขาภายในวันนั้นเลย ส่วนอาชีพที่ลงทุนด้วยเวลา หากเราเผลอไปขโมยเวลาจากพวกเขา ก็ควรจ่ายเงินชดเชย เช่น กรณีที่ลืมนัดร้านทำผมหรือไปสาย ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถทำงานได้ในเวลาที่กำหนดไว้ แม้จะไม่ได้ทำผมก็ควรจ่ายเงิน เพราะเวลาของช่างทำผมคือทรัพย์สินที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้
ในกรณีที่เราขอความคิดเห็นจากเพื่อนผู้เป็นทนายความ ไม่ควรจ่ายแค่อาหาร แต่ต้องจ่ายค่าตัวของเขาเต็มจำนวน เนื่องจากเพื่อนมีเงินมากพอ ที่จะจ่ายค่าข้าวอยู่แล้ว และค่าปรึกษาที่ใช้สมองครุ่นคิดน่าจะแพงกว่ากันมาก เขาอุตส่าห์ทุ่มเทเสียเวลาศึกษามานานหลายปี กรณีสุดท้ายหากเราจองร้านอาหารไว้ แล้วไม่สามารถไปได้ อย่าเอ่ยแค่คำขอโทษ แต่จงจ่ายเงิน ทั้งหมดนี้คือสามัญสานึก
ในทางตรงกันข้าม อย่าหน้าใหญ่ เลี้ยงข้าวคนอื่นไปทั่ว ถึงแม้ตอนนี้เราจะร่ำรวย ก็ใช่ว่าควรคบกับคนที่คิดแต่จะให้เราเลี้ยงข้าวแค่ฝ่ายเดียว เราไม่ได้รับเกียรติยศจากสิ่งเหล่านี้ สาหรับคนที่รู้จักเคารพเงินคนอื่น เราอาจอาสาจ่ายค่าอาหารให้พวกเขาบ่อยๆ ได้ แต่คนที่หวังให้เราเลี้ยงข้าวทุกครั้ง เงินจะหันมาตำหนิเราแทน ด้วยเหตุนี้ก่อนจะมีความสามารถในการใช้เงินเต็มขั้น เราอาจต้องชินชากับการถูกด่าให้ได้เสียก่อน ดีกว่าให้เงินย้อนมาตำหนิตัวเรา เพราะหากเป็นเช่นนั้นเงินจะหาทางหนีไปจากเราทันที
ความสามารถ 4 อย่าง ที่ช่วยให้มั่งคั่ง ร่ำรวย
หนังสือ จงคบค้ากับความร่ำรวย
เขียนโดย จิม คิม
วางจำหน่ายแล้วที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ