สรุป “TIMELINE THE WITCHER” เทียบเวอร์ชันนิยายกับซีรีส์

 (* ในบทความนี้เรียงลำดับเหตุการณ์โดยยึดตามเวอร์ชันนิยาย ซึ่งมีความแตกต่างกับเวอร์ชันซีรีส์*)

 

หลายคนที่อ่าน  “คําอธิษฐานสุดท้าย” (THE LAST WISH) กับ  “ดาบแห่งโชคชะตา” (SWORD OF DESTINY) จบแล้วสับสนกับลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนิยายเล่าเรื่องไม่เหมือนกับซีรีส์ แพรวสำนักพิมพ์จึงทำบทความนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้กระจ่างว่าเรื่องสั้นเรื่องไหนเกิดก่อน เรื่องสั้นเรื่องไหนเกิดหลัง และตรงกับซีรีส์ของ NETFLIX ตอนไหนบ้าง ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในซีรีส์จะเล่าไทม์ไลน์ทั้ง 3 คนไปพร้อมๆ กัน คือ เกรอลท์ เยนเนเฟอร์ และซิริ แต่ในนิยายจะเล่าแค่ไทม์ไลน์ของเกรอลท์เท่านั้น ในโพสต์นี้จึงขอกล่าวถึงแค่ไทม์ไลน์ของเกรอลท์เพียงคนเดียวตามต้นฉบับในนิยาย  มาไล่ดูไปทีละภาพไปพร้อม ๆ กันเถอะ

 

 

 : 1
ตอน : เศษเสี้ยวแห่งความจริง
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย
ซีรีส์ : ออกฉายในซีซั่น 2

เรื่องสั้นลำดับที่ 2 ต่อจากตอน “วิทเชอร์” แต่จริงๆ แล้วเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลำดับแรกสุดในเล่มนี้ ซึ่งไม่มีในซีรีส์ แต่มีข่าวที่ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าตอนนี้จะออกฉายในซีซั่น 2

เรื่องย่อ :
ระหว่างผ่านหุบเขาแห่งหนึ่ง เกรอลท์บังเอิญพบเข้ากับร่างไร้วิญญาณของมนุษย์ผู้โชคร้ายคู่หนึ่งที่เพิ่งถูกสัตว์ประหลาดบริเวณนั้นเล่นงานไปหมาด ๆ เขาจึงบุกตะลุยไปในป่าเพื่อตามล่ามัน ก่อนจะไปพบเข้ากับคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่าทึบ ที่นั่นเองเขาได้พบกับสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ถูกสาปให้มีรูปร่างเหมือนสัตว์ป่า แม้ว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นจะต้อนรับเกรอลท์ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร แต่ทว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างที่อบอวลไปทั่วคฤหาสน์หลังนี้

 

 

 

 : 2
ตอน : ความชั่วร้ายที่น้อยกว่า
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย
ซีรีส์ : EP 1 จุดเริ่มต้นของจุดจบ

เหตุการณ์ถัดมา คือเรื่องสั้นลำดับที่ 3 ที่เกรอลท์ต้องเผชิญหน้ากับเรนฟริ เด็กสาวแห่งคำสาปสุริยุปราคา ตรงกับตอนแรกของซีรีส์ และมีรายละเอียดที่คล้ายกัน แต่แฟนๆ หลายคนก็ชอบเวอร์ชันนิยายมากกว่า

เรื่องย่อ :
นี่คือการตัดสินใจที่ยากเย็นที่สุดครั้งหนึ่งของเกรอลท์ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเรนฟริ เด็กสาวที่เกิดมาพร้อมคำสาปจากสุริยุปราคา โดยเขามีทางเลือกแค่สองทางในการหยุดยั้งนาง แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหน ผลลัพธ์จากการเลือกนั้นจะตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต เกรอลท์จึงจำเป็นต้องเลือกทางที่ “ชั่วร้ายน้อยที่สุด” เท่าที่เขาจะทำได้

 

: 3
ตอน : สุดขอบโลก
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย
ซีรีส์ : EP 2 สี่มาร์ค
เหตุการณ์ถัดมาเป็นเรื่องสั้นลำดับที่ 5 แต่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นหลังจากตอน “ความชั่วร้ายที่น้อยกว่า” เป็นการผจญภัยครั้งแรกของเกรอลท์ และแดนดิไลออน สองสหายที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว ตรงกับตอนที่ 2 ของซีรีส์ แต่รายละเอียดค่อนข้างน้อยกว่านิยายอย่างเห็นได้ชัด

เรื่องย่อ :
เกรอลท์และแดนดิไลออนกวีผู้เป็นสหายรักได้เดินทางไปยังสถานที่อันห่างไกลที่รู้จักกันในชื่อ สุดขอบโลก อันเป็นดินแดนซึ่งตัดขาดจากความเจริญทั้งปวง ระหว่างทางทั้งสองได้พบกับชาวบ้านในท้องถิ่นที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา ชาวบ้านคนนั้นอ้างว่าหมู่บ้านของตนกำลังถูกรบกวนจาก “ซิลแวน” ปีศาจโบราณ และขอให้เกรอลท์ช่วยจัดการกับปีศาจตนนี้เสีย

แม้แดนดิไลออนจะไม่เชื่อว่าปีศาจตนนี้มีตัวตนอยู่จริง ๆ แต่เกรอลท์ก็รับปากว่าจะจัดการปีศาจตนนี้ให้

 

 

 : 4
ตอน : คำอธิษฐานสุดท้าย
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย
ซีรีส์ : EP 5 ความต้องการที่เก็บงำไว้

เหตุการณ์ถัดมาเป็นเรื่องสั้นที่ถูกวางไว้ลำดับสุดท้ายของเล่ม ต่อจากตอน “สุดขอบโลก” เราจะเห็นว่าเกรอลท์ยังคงอยู่กับแดนดิไลออน ตอนนี้จะเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของจอมเวทหญิง “เยนเนเฟอร์” ซึ่งตรงกับตอนที่ 5 ของซีรีส์

เรื่องย่อ :
เกรอลท์และแดนดิไลออนกำลังตกปลาอยู่ริมแม่น้ำสายหนึ่ง ตอนนั้นเองที่ทั้งสองบังเอิญพบไหที่ผนึกจินน์เอาไว้ ด้วยความประมาทจินน์จึงถูกปล่อยออกมา พร้อมกับเข้าทำร้ายแดนดิไลออนจนบาดเจ็บสาหัส ทำให้เกรอลท์ต้องรีบหาทางช่วยก่อนสายเกินไปและคนที่จะช่วยสหายรักของเกรอลท์ได้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือจอมเวทหญิงผู้มีนามว่า เยนเนเฟอร์

 

 

 

 

 

 : 5
ตอน : คำถามเรื่องราคา
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย
ซีรีส์ : EP 4 งานเลี้ยง คนชั่ว และการฝังศพ

เหตุการณ์ถัดมาจะเป็นเรื่องสั้นลำดับที่ 4 เกรอลท์เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่อาณาจักรซินทรา ซึ่งในนิยายจะเป็นเหตุการณ์หลังจากตอน “คำอธิษฐานสุดท้าย” แต่ในซีรีส์จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น แม้ไทม์ไลน์จะต่างกัน แต่เรื่องสั้นนี้ก็ตรงกับตอนที่ 4 ของซีรีส์

เรื่องย่อ :
เกรอลท์ได้รับเชิญจากคาลานเธ ราชินีผู้เลอโฉมให้ไปร่วมงานเลี้ยงของนางในฐานะแขกผู้มีเกียรติ ซึ่งเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อหาชายหนุ่มมาหมั้นหมายกับบุตรสาวของนางนามว่า พาเวตตา องค์หญิงผู้งามสง่า ทว่าก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อดูนีอัศวินครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจปรากฏตัวขึ้นในงานเลี้ยง เขาเอ่ยปากขอแต่งงานกับองค์หญิงพาเวตตาทว่าราชินีคาลานเธไม่อาจยอมให้บุตรสาวผู้งดงามของเธอแต่งงานกับอมนุษย์หน้าตาน่าเกลียดตนนี้ได้ นางจึงขอให้เกรอลท์สังหารอัศวินผู้นั้นเสีย ซึ่งนางอนุญาตให้เขาใช้วิธีไหนก็ได้ โดยไม่เกี่ยงว่าวิธีนั้นจะผิดหลักการของวิทเชอร์หรือไม่

 

 

 

 

 : 6
ตอน : วิทเชอร์
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย

ซีรีส์ : EP 3 จันทร์เต็มดวงและคนทรยศ

เหตุการณ์ถัดมาคือเรื่องสั้นลำดับแรก “วิทเชอร์” แต่จริงๆ แล้วเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากงานเลี้ยงที่อาณาจักรซินทรา และเป็นเหตุการณ์สุดท้ายของเล่ม “คำอธิษฐานสุดท้าย” เกรอลท์ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับสตริกา เขาหลบไปพักรักษาตัวในโบสถ์แห่งหนึ่งภายใต้การดูแลของ “เน็นเนเค” นางชีที่รู้จักเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก (การพักรักษาตัวจะถูกบรรยายไว้ใน “เสียงแห่งเหตุผล” ซึ่งแทรกอยู่ตามเรื่องสั้นทั้ง 6 ตอน) ระหว่างที่เกรอลท์พักรักษาตัว เราจะได้พบกับเรื่องราวในอดีตของเขา ซึ่งก็คือเรื่องสั้น เศษเสี้ยวแห่งความจริง, ความชั่วร้ายที่น้อยกว่า, สุดขอบโลก, คำอธิษฐานสุดท้าย, คำถามเรื่องราคา ตามลำดับที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์ก่อนเรื่องสั้น เรื่องแรกนั่นเอง เรื่องสั้นนี้จะตรงกับตอนที่ 3 ของซีรีส์

เรื่องย่อ :
เมื่อเกรอลท์เดินทางมาถึงอาณาจักรเทเมเรีย เขาได้รับการจ้างวานจากกษัตริย์ฟอลเทสท์ให้ไปจัดการกับ “สตริกา” สัตว์ประหลาดที่มักจะออกมาทำร้ายผู้คนในยามค่ำคืน โดยมีเงื่อนไขสุดหฤโหดว่า ต้องจัดการโดยห้ามฆ่ามันโดยเด็ดขาด

 

 

 

 

 

:7
ตอน : เสียงแห่งเหตุผล
จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย
ซีรีส์ : ไม่ปรากฏ

เหตุการณ์ถัดมา จะเป็นเรื่องสั้นย่อยๆ 7 ส่วน ที่มีเพียงไม่กี่หน้า ซึ่งเป็นช่วงที่เกรอลท์พักรักษาตัวอยู่กับแม่ชีเน็นเนเค หลังจากที่ต่อสู้กับสตริกา โดยคอยเล่าแทรกอยู่ระหว่างเรื่องสั้นหลักทั้ง 6 เรื่องไปจนถึงหน้าสุดท้าย ทำให้ “เสียงแห่งเหตุผล” เป็นเรื่องสั้นสุดท้ายของเล่ม “คำอธิษฐานสุดท้าย” อย่างแท้จริง

กล่าวคือเรื่องสั้น “วิทเชอร์” และ “เสียงแห่งเหตุผล” คือเหตุการณ์หลักที่เกิดขึ้นในเล่มนี้ ส่วนเรื่องสั้นอื่นๆ คืออดีตของเกรอลท์ที่ อันเดรย์ ซาพคอฟสกี เล่าให้เราฟังเพื่อให้ทราบว่าวิทเชอร์ผู้นี้ผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเรื่องสั้น “วิทเชอร์” จึงถูกวางไว้เป็นลำดับแรกนั่นเอง

 : 8
ตอน : ขีดจำกัดของความเป็นไปได้
จากเล่ม : ดาบแห่งโชคชะตา
ซีรีส์ : EP 6 สิ่งมีชีวิตหายาก

หลังจากเหตุการณ์ “เสียงแห่งเหตุผล” จบลงเป็นเวลากว่า 1 ปี เหตุการณ์ถัดมาคือเรื่องสั้นลำดับแรก ของเล่ม 2 “ดาบแห่งโชคชะตา” ที่ เกรอลท์และเยนเนเฟอร์กลับมาพบกันอีกครั้ง ในช่วงที่เกิดการล่ามังกรขึ้น ซึ่งตรงกับตอนที่ 6 ของซีรีส์ แต่รายละเอียดน้อยกว่านิยายประมาณหนึ่ง

เรื่องย่อ :

เกรอลท์มีกฎสำคัญข้อหนึ่ง ห้ามฆ่า “มังกร” โดยเด็ดขาด!” มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่เเสนอันตราย วิทเชอร์จะฆ่าสัตว์ประหลาดตัวใดก็ได้ เเต่ต้องไม่ใช่มังกร เเล้วเกรอลท์จะทำอย่างไร เมื่อเขาต้องเข้าร่วม ขบวนล่ามังกรของราชานีดาเมียร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ในขบวนนี้มีทั้งเอค อัศวินผู้ทรงธรรม พี่น้องรีฟเฟอร์ผู้เชี่ยวชาญในการล่ามังกร เเละคนเเคระทั้งหกภายใต้การนำของยาร์เปน ชิกริน ทุกฝ่ายต่างมีเเรงจูงใจต่างกัน เเต่เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว โอกาสรอดของมังกรช่างริบหรี่นัก

 

: 9
ตอน : ผลึกน้ำแข็ง
จากเล่ม : ดาบแห่งโชคชะตา
ซีรีส์ : ไม่ปรากฏ

เหตุการณ์ถัดมาจะเป็นเรื่องสั้นลำดับ 2 ที่เกรอลท์กับเยนเนเฟอร์มาพักที่เมืองเอดด์กีนวาเอล เมืองเก่าแก่ที่ตั้งชื่อตามตำนานของพวกเอลฟ์ ช่วงนี้มีพูดถึง “ไวลด์ฮันท์” ที่เป็นชื่อเกม THE WITCHER ภาค 3 ด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่เรื่องสั้นนี้ไม่ปรากฏในซีรีส์

เรื่องย่อ :
เมืองนี้มีตำนานเล่าขานว่า “ราชินีเหมันต์ซึ่งเดินทางไปทั่วแดนทุกครั้งที่เกิดพายุหิมะโดยใช้เลื่อนที่ล่ามด้วยม้าขาว ระหว่างเดินทางนางจะเสกผลึกน้ำแข็งเล็กๆ คมปลาบไว้รอบตัว และหากผู้ใดถูกผลึกเหล่านั้นทิ่มแทงดวงตาหรือดวงใจเข้าก็ถือว่าโชคร้ายอย่างมหันต์” เกรอลท์และเยนเนเฟอร์ เดินทางมาพักที่เเอดด์กีนวาเอล ซึ่งเป็นเมืองที่เกรอลท์ไม่ถูกชะตาเอามากๆ เพราะเมืองนี้มีชายผู้เป็นจอมเวทประจำเมืองคือ “อิสเทรดด์” ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งกับเยนเนเฟอร์คนรักของเขา หลังจากที่เกรอลท์จัดการกับสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในบ่อขยะของเมืองเรียบร้อย เขาก็กลับมาหลับสนิทในห้องพักที่มีเยนเนเฟอร์อยู่เคียงข้าง แต่เมื่อตื่นขึ้นในรุ่งเช้าเขาก็พบว่านางไม่ได้อยู่ข้างกายอีกต่อไปแล้ว เกรอลท์รู้ดีว่านางไปหาใคร เขาจึงสะพายดาบไว้ที่หลัง ตรงไปยังหอคอยสูงตระหง่านกลางเมือง เพื่อเผชิญหน้ากับจอมเวทอิสเทรดด์

 

 : 10
ตอน : เปลวเพลิงนิรันดร์
จากเล่ม : ดาบแห่งโชคชะตา
ซีรีส์ : ไม่ปรากฏ

เหตุการณ์ถัดมาจะเป็นเรื่องสั้นลำดับที่ 3 ของเล่ม ที่เกรอลท์กับแดนดิไลออนต้องตามจับ “เว็กซ์ลิง” หรือ “ด็อปเปลอร์” สิ่งมีชีวิตที่สามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตนี้ปรากฏตัวในซีรีส์บางช่วงเช่นกัน แต่เรื่องสั้นนี้ไม่ปรากฏในซีรีส์เลย

เรื่องย่อ :
“เพลิงนิรันดร์จุดโชติช่วงอยู่ในวิหารทั้งสิบเก้าแห่ง คอยปกปักรักษาเมืองนี้ด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์”

ในระหว่างที่ เกรอลท์และเเดนดิไลออน สหายรักอยู่ในเมืองโนวิเเกรด เมืองหลวงของโลก ศูนย์กลางและแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมของมนุษย์ ทั้งสองบังเอิญเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งๆ ของพ่อค้าฮาล์ฟลิงตนหนึ่งที่สูญเสียทรัพย์สินเพราะโดน “เว็กซ์ลิง” สิ่งมีชีวิตที่สามารถปลอมแปลงเป็นใครก็ได้ ทั้งหน้าตา น้ำเสียง เเละความคิดขโมยไป โดยมันได้ปลอมตัวเป็นเขา และทำธุรกิจพังจนหมดสิ้น ทำให้พ่อค้าฮาล์ฟลิงถูกกล่าวหาในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ เกรอล์และแดนดิไลออนจึงต้องช่วยเขาตามจับเว็กซ์ลิงตนนี้ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเสียทีเดียว เพราะโนวิแกรด ประชากรกว่า 30,000 คน แถมกลุ่มของเขายังถูกจับตามองจาก หน่วยราชการลับของโนวิแกรด ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่บูชา #เปลวเพลิงนิรันดร์ อันเป็นศาสนาที่มีคนนับถือเป็นจำนวนมากในมหาทวีป การตามหาเว็กซ์ลิงจึงยุ่งยากมากกว่าที่พวกเขาคิด

 

 

 

 : 11
ตอน : การเสียสละเล็กๆ น้อย ๆ
จากเล่ม : ดาบแห่งโชคชะตา
ซีรีส์ : ไม่ปรากฏ

เหตุการณ์ถัดมาจะเป็นเรื่องสั้นลำดับที่ 4 ของเล่ม ที่กล่าวถึงการผจญถัยในทะเลของเกรอลท์ และแดนดิไลออน แอดบอกเลยตอนนี้สนุกมาก น่าเสียดายที่ไม่ปรากฏในซีรีส์

เรื่องย่อ :
“มหาสมุทรนั้นกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก และก็ไม่มีผู้ใดเคยออกไปสำรวจมาก่อนว่าเบื้องหลังเส้นขอบฟ้านั้นมีสิ่งใดอยู่บ้าง” เกรอลท์ได้รับการว่าจ้างจากดยุคที่ปกครองเมืองเล็กที่ติดกับชายทะเลแห่งหนึ่ง ให้แล่นเรือไปยังสถานที่ที่เรียกว่าเขี้ยวมังกรเพื่อตามหาเบาะแสของกลุ่มนักงมมุกที่หายไป ซึ่งไม่รู้ว่าถูกสัตว์ประหลาดหรือมีสิ่งมีชีวิตตัวไหนลากลงไปในน้ำ บนเเผ่นดิน เกรอลท์รู้จักสัตว์ประหลาดทุกตัวที่ซ่อนอยู่ในพงไพรและหุบเขา แต่ในผืนทะเลอันกว้างใหญ่ เขาแทบไม่รู้จักสัตว์ประหลาดตนไหนเลย เพราะไม่เคยมีนักสำรวจคนไหนในมหาทวีปออกผจญภัยมาก่อน แต่เขาก็รับปากว่าจะไปยังเขี้ยวมังกร เพราะไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดตัวไหน ก็เป็นหน้าที่ของวิทเชอร์ที่ต้องจัดการให้ได้ นอกจากต้องทำภารกิจที่ยากจะเป็นไปได้แล้ว เกรอลท์ยังพบความลำบากอีกอย่าง นั่นคือต้องพาเเดนดิไลออนสหายรักไปด้วย เพราะเขายืนกรานว่าจะต้องไปงมไข่มุกเพื่อเอาไปมอบให้นักกวีสาวคนสนิทให้ได้ภารกิจนี้จึงเสี่ยงตายมากที่สุดเท่าที่เกรอลท์เคยทำมา

 

 

:12
ตอน : ดาบแห่งโชคชะตา
จากเล่ม : ดาบแห่งโชคชะตา
ซีรีส์ : ไม่ปรากฏ

เหตุการณ์ถัดมาจะเป็นเรื่องสั้นลำดับที่ 5 ของเล่ม เกรอลท์ต้องเข้าไปทำภารกิจในป่าโบรคิลอน ซึ่งในซีรีส์กล่าวถึงป่าแห่งนี้เช่นกัน แต่เป็นต่างไทม์ไลน์ไม่เหมือนกัน

เรื่องย่อ :
“พวกเจ้าครอบครองโลกทั้งใบไว้ในกำมือแล้ว และพวกเจ้าก็มีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะไปที่ไหน เราไม่ต้องการทั้งตัวเจ้าและความเจริญก้าวหน้าของพวกเจ้า จงออกไปจากโบรคิลอนเสีย!” เกรอลท์เดินทางมายังโบรลิคอน ป่าโบราณที่เป็นบ้านของเหล่านางไม้เพื่อทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับราชาแห่งอาณาจักร “บรูจจ์” อาณาจักรเล็กๆ ที่มีพรมเเดนติดกับป่าเเห่งนี้ ราชาแห่งบรูจจ์ต้องการทรัพยากรธรรมชาติของป่าโบรคิลอน เพื่อไปสร้างเป็นอาวุธสงคราม เกรอลท์จึงต้องเจรจากับราชินีของเหล่านางไม้อย่างระมัดระวังที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางจนกลายเป็นสงครามระหว่างมนุษย์กับเหล่านางไม้ขึ้น

แต่ระหว่างเดินทางอยู่ในป่า เกรอลท์ก็พบเข้ากับ

 : 13
ตอน : บางสิ่งที่มากกว่านั้น
จากเล่ม : ดาบแห่งโชคชะตา

ซีรีส์ : ไม่ปรากฏ

ถัดมาเป็นเหตุการณ์สุดท้ายของเล่มนี้ เป็นตอนที่เกรอลท์ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับฝูงสัตว์ประหลาด แล้วเดินทางไปกับพ่อค้าคนหนึ่ง ตรงกับตอนที่ 8 ของซีรีส์
แต่นิยายจะมีเหตุการณ์และรายละเอียดที่มากกว่า ซึ่งปูทางไปสู่เนื้อเรื่องในภาคหลักได้อย่างยอดเยี่ยม

 

หลังจากนี้จะเข้าสู่เนื้อหาของนิยายภาคหลัก สายเลือดแห่งเอลฟ์ (BLOOD OF ELVES)  

ที่ทั้งเข้มข้น สนุก ประทับใจ และไม่ว่าคุณจะติดตามวิทเชอร์จากเกม หรือ ซีรีส์ คุณก็ต้องไม่พลาดเล่มนี้เด็ดขาด

เรื่องย่อ :
วิทเชอร์เกรอลท์ และซิริ เด็กที่เขาเก็บมาท่ามกลางศึกสงครามต่างเป็นโชคชะตาของกันและกัน โชคชะตาอันไม่คาดฝันที่จะพลิกผันชีวิตของทั้งคู่ไปตลอดกาล เป็นเวลากว่าศตวรรษที่เหล่ามนุษย์ คนแคระ โนม และเอลฟ์ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่แล้วทุกอย่างกลับมีอันต้องเปลี่ยนแปลงไป เมื่อฉากหน้าแห่งความสงบสุขนั้นได้พังทลายลง การต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์กำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความสับสนและความคลางแคลงใจของทุกฝ่าย ซิริ บุตรแห่งโชคชะตาผู้มีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ คือตัวแปรสำคัญของความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ และย่อมเป็นหน้าที่ของเกรอลท์แห่งริเวีย นักฆ่าฝีมือฉกาจซึ่งรู้จักกันในฐานะวิทเชอร์ ในการปกป้องนางจากภยันตรายทั้งปวง วิทเชอร์ผู้นี้ไม่รู้จักความพ่ายแพ้อยู่แล้ว!