ถึงแม้จะพยายามหลีกเลี่ยง ‘คนเฮงซวย’ มากแค่ไหนแต่คุณก็ต้องเจอพวกเขาอยู่วันยังค่ำ พฤติกรรมของคนพวกนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่แย่ให้กับองค์กรมีความมุ่งร้าย เสแสร้ง ปลุกปั่น จนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ น้อยลงรวมถึงคุณด้วย
ในเมื่อหลีกเลี่ยงพวกเขาไม่ได้ ก็ต้องหาทางอยู่ด้วยให้ได้ มาดูกันว่าเราจะสามารถอยู่ร่วมกับ คนเฮงซวย ได้อย่างไรบ้าง
ไม่พูดอะไรเลย
วิธีรับมือง่ายๆ อันดับแรกคือการไม่พูดอะไรเลย หรือ การนิ่งเฉย แม้คนเฮงซวยเหล่านั้นจะพูดจาแข็งกร้าว หรือชอบพูดจาตะคอก เหน็บแนมคนอื่นก็ตาม เมื่อคุณได้ยิน จงนิ่งเฉย และเดินออกมาจากบริเวณนั้นเสีย หากหลายๆ คนทำแบบคุณ คือการนิ่งและเดินออกมาแบบเงียบๆ คนเฮงซวยเหล่านั้นก็จะรู้ตัวเอง หรืออาจจะทำทองไม่รู้ร้อนต่อไปนั่นก็เป็นเรื่องของเขา ก็ถือว่าคุณได้พยายามออกห่างจากเขาอย่างเต็มที่แล้ว
ให้คำปรึกษา
บางครั้งคนเฮงซวย อาจไม่ได้เป็นคนเฮงซวยแบบ full time แต่เป็นคนเฮงซวย part time ซึ่งก็คือใครบางคนที่โดยปกติแล้วจะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างอ่อนโยนและให้เกียรติ แต่จะมีบางครั้งที่เขามีพฤติกรรมไม่เป็นมิตร ซึ่งหากเป็นคนรู้จักและปกติแล้วชอบพอกันดี คุณอาจจะมองได้ว่า ความไม่เป็นมิตรของเขานั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังมีเรื่องแย่ๆ และต้องการกำลังใจ
ให้ลองหาจังหวะแล้วสอบถามดู เผลอๆ คุณอาจเป็นคนที่ช่วยเยียวยาเขาให้กลับมาเป็นคนปกติอีกครั้ง
ระวังการแพร่เชื้อ
จะพูดว่าเชื้อของคนเฮงซวยร้ายแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่เลยก็ว่าได้ ปัญหาการแพร่เชื้อของคนเฮงซวยไปสู่คนอื่นๆ เกิดขึ้นได้เพราะ ‘อารมณ์’ อารมณ์เป็นสิ่งที่ติดต่อถึงกันได้อย่างชัดเจน อารมณ์เสีย ชอบดูหมิ่น และความหยาบคาย เมื่อเราอยู่ใกล้คนเหล่านี้มากๆ ก็มีโอกาสสูงที่เราจะกลายเป็นคนแบบนั้นได้
วิธีป้องกันคือการที่คุณต้องมีสติ คงอารมณ์ให้คงที่ที่สุด ที่ไม่ว่าสักกี่สิบคนมาหัวร้อน หรือโวยวายใส่ ก็จะไม่กระทบกระเทือนคุณแม้แต่น้อย แต่หากสุดจะทนจริงๆ คงต้องย้ายโต๊ะหนี หรือบอกหัวหน้าว่าคุณทนคนคนนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
หนีออกมาแบบสวยๆ
การหนีออกมาจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่ได้รับจากคนเฮงซวย หรือสถานที่ที่มีคนเฮงซวยอยู่ และยังช่วยปกป้องคุณจากการเผชิญหน้าในช่วงสั้นๆ ได้ แต่การหนีก็เป็นเพียง ‘แนวโน้ม’ เท่านั้น หลายคนไม่สามารถหนีออกมา บางคนก็แค่ไปไหนไม่ได้ จนต้องติดอยู่กับงานและที่ทำงานห่วยๆ เพียงเพราะคิดว่างานใหม่หายาก มีความพึงพอใจกับงานของตัวเองต่ำกว่าและรู้สึกเศร้ามากกว่าพนักงานคนอื่นๆ และยังต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ด้วย
การ ‘หนี’ ยังไม่ใช่คำตอบท้ายที่สุดของทุกคนเสมอไป บางคนอาจจะแค่หนีออกมาจากบริเวณนั้น ขอย้ายแผนก หรือบางคนอาจจะเกลียดคนเฮงซวยจนต้องขอหนีแบบลาออกไปเลยก็ย่อมได้
รักษาระยะห่าง
ยิ่งคนเรานั่งใกล้กันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสื่อสารกันบ่อยมากขึ้นเท่านั้นคน ตาม “กฎของความใกล้ชิด” ก็ยืนยันว่า คนมีแนวโน้มที่จะสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ห่างกันหกฟุต มากกว่าเพื่อนที่นั่งห่างออกไปหกสิบฟุตถึงสี่เท่า!
เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับคนเฮงซวย บางครั้งการเพิ่มอุปสรรคในการสื่อสารก็เป็นการกระทำที่ฉลาดกว่าการกำจัดอุปสรรคในการสื่อสาร ระยะห่างเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด คุณอาจต้องตกใจที่ได้พบว่า การเพิ่มพื้นที่ระหว่างคุณและคนเฮงซวยเพียงไม่กี่ฟุต ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากขนาดไหน ขอย้ายโต๊ะทำงานออกห่างจากคนเฮงซวยอีกสักนิด ชีวิตของคุณจะดีขึ้นอีกเยอะเลยละ
ข้อมูลจากหนังสือ ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ
ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็หาวิธีอยู่กับมันซะ!
เคล็ดลับการทำงานแบบคนโคตรเก่งจาก Netflix ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างทีมเก่ง
วิธีสร้างสมาธิในการทำงาน งานเยอะแค่ไหนก็ทำเสร็จได้แน่นอน
ทิ้งนิสัยไม่ดีเหล่านี้ แล้วการทำงานของคุณจะราบรื่นขึ้น
หมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) โรคยอดฮิตของเหล่ามนุษย์เงินเดือน