การอ่านนิทาน เป็นหนึ่งในกิจกรรมง่ายๆ ที่ทุกครอบครัวทำได้ ระยะเวลาที่พ่อแม่ลูกได้ใช้ร่วมกันตอนอ่านนิทานนั้นเป็นประโยชน์กับเด็กๆ ทั้งในด้านการพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ และพัฒนาการด้านภาษา วันนี้แพรวเพื่อนเด็กจึงเลือก นิทานญี่ปุ่น ที่ทั้งสนุกและช่วยส่งเสริมนิสัยที่ดีให้กับเด็กๆ มาแนะนำเพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการเลือกหนังสือ นิทานญี่ปุ่น ดีๆให้ลูกๆ ค่ะ
นิทานญี่ปุ่น เรื่องนี้คือนิทานภาพที่เป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ด้วยภาพประกอบที่สวยงามและเนื้อหาที่ช่วยให้เด็กๆ มีความั่นใจในตัวเองมากขึ้น เมื่อคุณแม่ขอให้มี้จังออกไปซื้อนมให้ ระหว่างทางนั้นเจอทั้งจักรยาน ทั้งหกล้ม แต่มี้จังก็ไม่ยอมแพ้ แม้จะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ก็พยายามจนซื้อนมได้สำเร็จ การบอกให้เด็กๆ มั่นใจหรือไม่ตกใจกลัวง่ายเกินไป อาจจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่สักหน่อย แต่ถ้าหากเด็กๆ ได้เห็นภาพว่า การทำอะไรตามลำพัง มีความมั่นใจ ก็ไม่มีอะไรที่ยากและน่ากลัวเกินไปก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้เขาเข้าใจได้มากขึ้น
นิทาน สำหรับคำว่า ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ เรื่องราวของแมว 11 ตัวที่ออกเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างทางเจอป้ายห้ามมากมาย ทั้งห้ามปีนต้นไม้ ห้ามเด็ดดอกไม้ ห้ามข้ามสะพาน ห้าม ห้าม ห้าม และห้าม แต่คำห้ามไม่เป็นผล แมว 11 ตัว ทำทุกอย่างที่ห้าม เพราะคิดว่านิดหน่อยน่า ไม่เป็นไรหรอก แต่สุดท้าย แมว 11 ตัวก็ได้เรียนรู้เรื่องการทำตามกฏกติกา เข้าใจว่า ทำไมบางเรื่อง ห้ามแล้วจึงต้องฟัง
เรื่องราวของกุริกับกุระ คือ นิทาน ว่าด้วยหนูนาสองตัวที่วันหนึ่งเดินไปเจอไข่ใบใหญ่เข้า จะทำอย่างไรดีนะ ไข่ใบใหญ่ขนาดนี้ จะเคลื่อนย้ายยังไงดี ทั้งสองพูดคุยและปรึกษากัน จนกระทั่งแก้ปัญหาได้ นอกจากนั้นกุริกับกุระยังแบ่งหน้าที่และร่วมมือกันจนกระทั่งการทำขนมไข่สำเร็จ และมีน้ำใจแบ่งขนมไข่ที่มีมากมายพอจะแบ่งปันให้เพื่อนๆ ในป่าได้กินอีกด้วย
เรื่องราวของเหล่าสัตว์ที่เดินหลงป่าในวันที่หมอกลงหนา พวกเขามองไม่เห็นทางกลับบ้าน แต่เจอบ้านหลังหนึ่งกลางป่า จึงตัดสินใจว่าจะขอค้างที่บ้านหลังนั้นหนึ่งคืน ก่อนเข้าบ้านหลังนั้น พวกเขาต่างบอกว่า ขอค้างหนึ่งคืนนะ นิทานเรื่องนี้เป็นการขออนุญาตก่อนที่จะลองมือทำ และแม้จะหวาดกลัวว่า ใครกันนะจะมาเคาะประตู แต่พวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับความกลัวนั้นจนผ่านได้ นิทานที่ทำให้เด็กๆ ลุ้นทุกๆ ครั้งที่มีเสียงเคาะประตู
จิ๊ดจิออกเดินทางไปบ้านคุณยายเพียงลำพัง ระหว่างทางเจอเพื่อนๆ มากมาย จิ๊ดจิเดินทางผ่านลำธาร ผ่านป่าที่เงียบและดูน่ากลัว แต่จิ๊ดจิก็เดินทางไปบ้านคุณยายได้สำเร็จ แถมยังมีดอกไม้ไปฝากคุณยายอีกด้วยนะ นิทานเรื่องนี้ให้เด็กๆ ได้เห็นว่า การทำอะไรตามลำพังไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และแม้จะตัวเล็กก็เก่งมากพอจะทำอะไรได้ด้วยตัวเองแล้วเช่นกัน ส่งเสริมความมั่นใจและการมุ่งเป้าหมาย
การผจญภัยกับเด็กๆ เป็นเรื่องคู่กันเสมอ เพราะการผจญภัยมีทั้งเรื่องน่าตื่นเต้น น่าประหลาดใจ จิ๋วหลิวผจญภัย ก็เป็นนิทานอีกเล่มที่เป็นการผจญภัย แต่พิเศษตรงที่ตัวละครขนาดตัวเล็กๆ จิ๋วๆ พร้อมเชื่อมโยงกับเรื่องที่ว่า ต้นไม้ตามริมทางเดิน ดอกไม้ตามขอบกำแพงเกิดขึ้นได้อย่างไรนะ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ทั้งสนุกว่า จิ๋วหลิวจะเดินทางไปที่ไหน จะปลูกดอกไม้อะไรบ้าง และได้รู้จักต้นไม้ดอกไม้อีกด้วย
นิทานเรื่องนี้จะให้เด็กๆ ได้รู้จักสัตว์ทีละตัว ไปพร้อมๆ กับการลุ้นว่า ที่เขาต่อแถวกันยาวขนาดนี้ เขาต่อแถวอะไรกันอยู่นะ ได้เห็นว่า บางตัวหงุดหงิดไม่อยากรอนาน แต่ก็ยังรอต่อไป ไม่มีใครแตกแถว ไม่มีใครแซงคิว ดังนั้น สุดท้ายแล้วพวกเขาจึงได้เล่นสนุกสมกับที่รอคอย ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องการเคารพกติกา ความอดทน และการรอคอยไปพร้อมๆ กับความสนุก
ต่อทางรถไฟ และ ต่อทางรถไฟยาวไกล นิทานที่ให้เด็กๆ ได้ลองตั้งคำถามว่า พวกเขาทำอะไรกันนะ อ๋อ สร้างทางรถไฟยังไงละ แล้วถ้าสร้างทางรถไฟแล้วเจอภูเขาจะทำยังไงดีนะ เจอแม่น้ำจะทำยังไงดี แล้วถ้าเจอปัญหาที่ยากขึ้น อย่างเจอฝูงเป็ด เจอหุบเขาสูง จะสร้างทางรถไฟยังไงดีนะ การถามและช่วยกันคิดหาคำตอบ จะทำให้เด็กๆ ได้ฝึกกระบวนการคิดโดยที่ไม่รู้ตัว
นิทาน เรื่องน้องหนูอยู่ไหนและน้องหนูอยู่โรงพยาบาล เป็นนิทานที่แสดงให้เห็นความรักระหว่างพี่น้องได้เป็นอย่างดี ในเล่ม น้องหนูอยู่ไหน แสดงให้เห็นความรับผิดชอบของการเป็นพี่ เมื่อแม่ฝากให้ช่วยดูน้องแต่เผลอละสายตา น้องจึงหายไป พี่จึงได้รู้ว่าควรดูแลน้องให้ดีกว่านี้ เมื่อถึงเล่มน้องหนูอยู่โรงพยาบาล ก็ทำให้เห็นการเติบโตอีกขั้นของการเป็นพี่ นั่นก็คือ ยอมยกตุ๊กตาให้น้องที่ไม่สบาย ซึ่งนิทานได้ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่น้องนั้น เป็นเรื่องที่ปลูกฝังและส่งเสริมให้รู้จักรักและหวังดีต่อกันได้
เรื่องราวของลูกหมีที่ตื่นมาแล้วหาแม่ไม่เจอ จะทำอย่างไรดีนะ .. หาไม่เจอ ก็ออกตามสิ ลูกหมีจึงออกเดินทางตามหาแม่ ระหว่างทางเจอเพื่อนๆ มากมาย และคนที่ดูคล้ายกับแม่หลายคน แต่ก็ยังไม่เจอแม่เสียที หนทางก็สลับซับซ้อน (เพราะเป็นทางแบบเขาวงกต นิทานเล่มนี้จึง เล่าก็ได้ เล่นก็ได้) สุดท้ายแล้วก็ได้เจอแม่สักที ในเรื่องแสดงให้เห็นการแก้ปัญหาของลูกหมี ที่ค่อยๆ ตามหาแม่ไปเรื่อยๆ รู้จักถามทางและไม่ร้องไห้โวยวาย (แม้ว่าตอนท้ายจะน้ำตาซึมก็ตาม) ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาแบบสนุกๆ
นอกจากนี้ ขอแนะนำเซ็ทนิทานเสริมทักษะ EF นั่นคือ นิทานเซ็ตบ้าน 100 ชั้น ซึ่งเป็นนิทานขวัญใจเด็กๆ ด้วยเนื้อเรื่องที๋โดดเด่นเกี่ยวกับการเดินทางและผจญภัย ถึง 100 ชั้น พร้อมทั้งรายละเอียดภาพที่มีจุดต่างๆ ให้สังเกต ตั้งแต่ชั้นที่ 1 ถึง 100 รวมถึงการเปิดแบบพิเศษคือ เปิดขึ้นด้านบนเมื่อเนื้อเรื่องขึ้นไปบนฟ้า และเปิดลงข้างล่างเมื่อเนื้อเรื่อลงด้านล่าง ทำให้บ้าน 100 ชั้นเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ได้ไม่ยาก
โทจิคุงได้รับจดหมายจากใครคนหนึ่งที่อยู่บนชั้นบนสุดของบ้าน 100 ชั้น โทจิคุงจึงเดินตามแผนที่ไป และได้พบบ้าน 100 ชั้น จริงๆ เขาเริ่มเดินทางจากบ้านชั้นที่ 1 ขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงชั้นที่ 100 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมุ่งไปสู่ชั้นที่ 100 ใส่ใจจดจ่อในการเดินผ่านบ้านแต่ละชั้น ทำให้การมุ่งสู่บ้านชั้นที่ 100 ของโทจิคุงสำเร็จได้ด้วยดี
นอกจากทักษะ EF ที่เราเห็นได้จากโทจิคุงแล้ว ยังได้เห็นการพูดคุย การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในระหว่างที่โทจิคุงเดินผ่านบ้านแต่ละชั้นอีกด้วย
วันหนึ่งคูจังได้รับคำชวนในขณะที่กำลังแช่น้ำร้อนอยู่ว่า บ้านใต้ดิน 100 ชั้นกำลังจะมีงานเลี้ยง เธอจะไปด้วยกันไหม เมื่อได้รับคำชวน คูจังจึงออกเดินทางไปงานเลี้ยงนั้น แต่ที่บ้านใต้ดิน 100 ชั้นจะมีงานอะไรกันนะ การเดินทางสู่บ้านใต้ดิน 100 ชั้น จึงเริ่มต้นขึ้น ระหว่างทางคูจังได้พบเพื่อนๆ ที่อยู่ใต้ดินมากมาย ตั้งแต่ชั้นที่ 1 – 100 คูจังเดินทางมุ่งสู่บ้านชั้นที่ 100 ด้วยความใส่ใจจดจ่อ ไม่ยอมแพ้ไประหว่างทาง มุ่งเป้าหมายและเรียนรู้ที่จะลงมือทำ ทำให้การเดินทางของคูจังเป็นได้ด้วยดี นอกจากนั้นยังได้เห็นการพูดคุยและเรียนรู้ผู้อื่นไปกับคูจัง พร้อมทั้งได้รู้จักสัตว์ชนิดต่างๆ อีกด้วย
เท็นจัง ตุ๊กตาตัวเล็กพลัดตกลงไปในทะเล ขณะที่ตกลงไป ชุดของเท็นจัง หลุดหายไปหมด การตามหาชุดของเท็นจังจึงเริ่มต้นขึ้น เท็นจังมองหาชุดของเธอที่หายไปตั้งแต่บ้านชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 100 บ้านใต้ทะเลแห่งนี้เต็มไปด้วยเพื่อนๆ ในทะเลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนากทะเล คุณโลมา ดาวทะเล คุณหมึกยักษ์ ฯลฯ ในแต่ละชั้น เพื่อนๆ นำชุดของเท็นจังไป (ด้วยความไม่รู้) แต่ก็แลกกันกับชุดใหม่จากใต้ท้องทะเล แม้จะไม่ใช่ชุดแบบเดิม แต่เท็นจังได้ทำให้เห็นถึงการยืดหยุ่นความคิดว่า แม้ไม่เหมือนเดิม แต่ก็มีสิ่งอื่นมาแทนกันได้
นอกจากนั้นเท็นจังยังทำให้เห็นถึงการรู้จักแลกเปลี่ยน แบ่งปัน รวมถึงความมีน้ำใจระหว่างเพื่อนๆ ที่คอยช่วยเหลือให้เท็นจังกลับขึ้นมาด้านบนได้อีกด้วย
เรื่องราวของจิ๊บคุง นกตี๊ดตัวจ้อยที่อยากกินเมล็ดทานตะวันเยอะๆ เขาจึงมองหาที่ปลูกเมล็ดนั้น แต่จะปลูกที่ไหนดีล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่หิมะนี่นา แต่เมื่อคุณเกล็ดหิมะแนะนำให้จิ๊บคุงลองนำเมล็ดขึ้นไปปลูกบนบ้านลอยฟ้า 100 ชั้น การเดินทางของจิ๊บคุงจึงเริ่มต้นขึ้น จิ๊บคุงมีความใส่ใจจดจ่อ และมุ่งสู่เป้าหมาย แม้ว่าจะผ่านบ้านคุณพายุที่ลมพัดแรงมาก หรือบ้านของคุณสายฟ้าที่มีไฟฟ้าช็อต ก็ไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน ทำให้การปลูกต้นไม้ของจิ๊บคุงประสบความสำเร็จ ขึ้นสู่บ้านชั้นที่ 100 ได้ และต้นทานตะวันก็เติบโต มีเมล็ดมากมายให้จิ๊บคุงได้กิน
นอกจากการผจญภัยของจิ๊บคุงแล้ว บ้านลอยฟ้า 100 ชั้นยังทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ธรรมชาติรอบตัว ได้รู้จักก้อนเมฆ สายรุ้ง ฯลฯ รวมถึงได้รู้วิธีการปลูกต้นไม้อย่างๆ ง่ายๆ อีกด้วย
สามารถเลือกซื้อนิทานดีๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อยเพิ่มเติมได้ ทางเว็บไซต์ — https://amarinbooks.com/kids/ และผ่านเพจ แพรวเพื่อนเด็ก
Pingback: ภาวะผู้นำสร้างได้ในวัยเด็ก มาเริ่มฝึกลูกน้อยได้ตั้งแต่วันนี้
Pingback: อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังแล้วได้อะไร โดยคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
Pingback: อ่านนิทานให้ลูกฟัง แล้วได้อะไร โดยคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
Pingback: พัฒนา ทักษะEF ให้ลูกได้ไม่ยาก ด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนิทาน
Pingback: นิทานก่อนนอน-สอนลูกเรื่องมิตรภาพ-ความเอื้อเฟื้อและการแบ่งปัน
Pingback: พัฒนา "ทักษะEF" ให้ลูกได้ไม่ยาก ด้วยการ "เลี้ยงลูกด้วยนิทาน"
Pingback: สอนลูกให้มีวินัย เริ่มวันนี้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
Pingback: จะเริ่ม อ่านนิทานให้ลูกฟัง ต้องทำยังไง ? : วิธีง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ทำตามได้ทันที