หลายครอบครัวสอนลูกให้เรียนเก่งด้วยการให้ลูกเรียนพิเศษเยอะๆ จนลืมไปว่า ภาวะผู้นำในวัยเด็ก ก็เป็นสิ่งที่ต้องสอนลูกด้วยเหมือนกัน เพราะเป้าหมายของพ่อแม่คืออยากให้ลูกมีหน้าที่การงานที่ดี เป็นเจ้าคนนายคน ภาวะผู้นำจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และทำได้ไม่ยาก
4 วิธีต่อไปนี้เป็นวิธีที่จะทำให้เด็กๆ โตไปเป็นคนดีของสังคม มีคุณภาพ และมีภาวะเป็นผู้นำ
[su_note note_color=”#25b7f0″ text_color=”#ffffff”]ให้ลูกตัดสินใจเอง[/su_note]
การปลูกฝังภาวะผู้นำให้ลูกตั้งแต่วัยเด็กที่สำคัญที่สุดคือ ต้องให้ลูกได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ให้สิทธิ์เขาได้เลือกเรียนด้วยตัวเอง เช่น คุณแม่อยากให้ลูกเรียนเปียโน แต่เมื่อลูกเรียนแล้วไม่ชอบ ไม่อยากไปเรียน อยากเรียนกีตาร์มากกว่าก็อย่าบังคับ ปล่อยให้เขาตัดสินใจเรียนในสิ่งที่เขาอยากเรียน
การปล่อยให้ลูกพิจารณาติดสินเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเองก่อให้เกิดความเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง การปลูกฝังให้ลูกกล้าตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้นั้น ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องปล่อยให้ลูกได้ค้นหาสิ่งที่เขาชอบอย่างอิสระ เพราะคนเราไม่อาจเรียนในสิ่งที่คนอื่นยัดเยียดได้นานนัก ยิ่งถูกบังคับ ลูกยิ่งอยากจะปิดกั้น ไม่ยอมรับ
พ่อแม่ส่วนมากชอบดูแลและจัดแจงให้ลูกไปเสียทุกอย่าง จนกลายเป็นความเคยชิน แต่การเชื่อมั่นในตัวลูกและยอมรับการตัดสินใจของลูกอย่างเปิดกว้างต่างหาก คือสิ่งที่สำคัญมากในการปลูกฝังภาวะผู้นำ และสร้างค่านิยมของตัวลูกเอง
[su_note note_color=”#25b7f0″ text_color=”#ffffff”]ปลูกฝังความอดทน ไม่ให้ล้มเลิกอะไรง่ายๆ[/su_note]
คนที่ประสบความสำเร็จจะไม่หยุดยั้งถ้ายังไม่ถึงเป้าหมาย ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ควรปลูกฝังให้ลูกตั้งแต่เด็ก เพื่อให้เขาเป็นคนจริงจัง ไม่ล้มเลิกอะไรง่ายๆ
ตัวอย่างเช่น การเลี้ยงของพ่อลูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคู่หนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความเป็นผู้นำ ที่พ่อไม่เคยพูดเรื่องการเรียนกับลูกสักครั้งเดียว จนเมื่อลูกชายจะลงสมัครรับเลือกตั้ง พ่อพูดเรียบๆ ว่า “ในเมื่อตัดสินใจเองแล้ว ก็ต้องทำให้ตลอด” นั่นเป็นการสั่งสอนโดยคำพูดเพียงครั้งเดียวในชีวิต
เมื่อจะปลูกฝังความเป็นผู้นำตั้งแต่วัยเด็ก อาจต้องปล่อยให้ลูกจมน้ำบ้าง ไม่ได้หมายถึงให้จับลูกโยนลงสระน้ำจริงๆ แต่หมายความว่า ควรปล่อยให้ลูกเผชิญความผิดหวังตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าไม่พยายามก็ย่อมเจอความพ่ายแพ้ในอนาคตนั่นเอง
[su_note note_color=”#25b7f0″ text_color=”#ffffff”]เรียนรู้จากความล้มเหลวร่วมกัน[/su_note]
เด็กที่ถูกผู้ใหญ่ดุด่าว่ากล่าวรุนแรงเมื่อทำผิดจะหงอ หวาดกลัว และกลายเป็นคนขี้โกหก คำตอบให้แบบสอบถามพบว่า มีหลายครั้งที่เด็กรู้สึกขอบคุณความกรุณาของพ่อแม่ที่ไม่ดุด่าให้เสียใจเมื่อทำผิด แต่ชี้แนะให้เห็นบทเรียนจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
เด็กที่พ่อแม่คอยสอนบทเรียนจากความผิดพลาด แนะนำ และเป็นกำลังใจให้ก้าวข้ามความผิดพลาดไปได้โดยไม่ดุด่าให้ขุ่นเคืองใจ จะไม่กลัวการท้าทายสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้วิธีก้าวข้ามและจัดการเรื่องที่ไม่ได้ดังใจ ด้วยประสบการณ์จากความผิดพลาดในเรื่องต่างๆ ที่ประสบมา
ชีวิตคนเรายังต้องเจออะไรอีกมาก มีเรื่องท้าทายอีกร้อยแปดอย่าง ยิ่งพลาดเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจะรอดหรือไม่รอดก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณสอนลูกให้เผชิญหน้ากับความผิดพลาดอย่างไร
[su_note note_color=”#25b7f0″ text_color=”#ffffff”]ให้ลูกเรียนรู้สิ่งที่อยู่นอกห้องเรียน[/su_note]
สิ่งที่อยู่นอกห้องเรียนในที่นี้คือ “ลักษณะนิสัย” นั่นเอง คนที่เป็นผู้จำมักเป็นคนที่ได้รับการปลูกฝัง อบรมสั่งสอนมาอย่างดี ทำตัวเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นได้โดยไม่ต้องมีใครบอก
นิสัยที่จำเป็นที่จะต้องปลูกฝังให้ลูกมี 3 ข้อใหญ่ๆ คือ
1.สอนให้มีระเบียบวินัยและเกรงใจผู้อื่น
2.สอนเรื่องการใช้เงิน
3.ปลูกฝังความสนใจใฝ่รู้
ในวัยเด็กอาจจะสอนแบบเข้มข้นมากไม่ได้นัก อาจจะเริ่มสอนจากสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเขาก่อน เช่น
■ต้องตรงต่อเวลา ไม่สาย
■ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ต้องมีเงินเหลือมาหยอดกระปุกออมสินทุกวัน
■แบ่งปันสิ่งของให้เพื่อนใช้
■มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นๆ (เช่นช่วยเพื่อนยกของ)
■แบ่งเวลาชัดเจน เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น
■ทำการบ้านสม่ำเสมอ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
■อ่านหนังสือใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม” (อาจจะเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่อยากทำก็ได้ เช่น เรียนดนตรี เล่นกีฬา)
สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการเป็นผู้นำ ช่วยให้รู้จักจัดระเบียบตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ สอนลูกให้ได้ดีและมีความสุข
หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
หรือสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
บทความอื่นๆ
นิทานญี่ปุ่น ส่งเสริมนิสัยและความคิดเด็ก
ค้นหาพรสวรรค์ในตัวลูก เพื่ออาชีพที่ใช่ในอนาคต
EF คืออะไร ทำไม EF ถึงสำคัญกับลูก
เลี้ยงลูกให้สุขภาพจิตดี ทำอย่างไร
เลี้ยงลูกให้ฉลาด ไม่สำคัญเท่ากับเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดี มีความสุข
อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังแล้วได้อะไร?
7 เคล็ดลับเพื่อฝึกลูกน้อยให้รักการอ่าน
“เลี้ยงลูกด้วยนิทาน” ปูพื้นฐานพัฒนาการชีวิต 6 ด้าน
อ่าน 15 นาทีทุกวัน สร้างมหัศจรรย์แห่งชีวิต
5 คำสอนแสน Wonder จาก ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์
Pingback: อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังแล้วได้อะไร โดยคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
Pingback: อ่านนิทานให้ลูกฟัง แล้วได้อะไร โดยคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
Pingback: พัฒนา "ทักษะEF" ให้ลูกได้ไม่ยาก ด้วยการ "เลี้ยงลูกด้วยนิทาน"