กว่าที่พวกเขาจะก้าวขึ้นมาเป็น คนดังระดับโลก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็น สตีฟ จ็อบส์, อีลอน มัสก์ หรือบิล เกตส์ พวกเขาล้วนมีแนวคิด แปลก แตกต่าง จากคนทั่วไปอย่างเหลือเชื่อ และทำให้ความคิดของเขาที่คนอื่นมองว่า บ้า เป็นไปไม่ได้แน่ ให้ประจักษ์แก่คนทั้งโลกเห็นว่ามัน “เป็นไปได้” และประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนเสียด้วย
มาดูกันว่า คนดังระดับโลก ได้ฝากข้อคิดอะไรไว้เป็นแรงบันดาลใจไว้ให้กับคนทั่วโลกบ้าง
สตีฟ จ็อบส์
นับตั้งแต่สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิต ทรัพย์สินส่วนตัวของจ็อบส์ซึ่งมีค่าประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์ได้ถูกเก็บรักษาในสตีเวน พี. จ็อบส์ทรัสต์ โดยภรรยาของเขา ลอรีน เพาเวลล์ จ็อบส์ เป็นผู้ดูแล การถ่ายโอนทรัพย์สินทำให้เพาเวลล์เป็นผู้หญิงที่รวยเป็นอันดับ 9 ของโลก เธออุทิศเวลาและเงินทุนให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ ได้แก่ เอเมอร์สันคอลเลคทีฟ, คอลเลจแทร็ก ซึ่งลอรีนก่อตั้งในปี 1997 เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ครอบครัวมีฐานะไม่ดีให้มีโอกาสเรียนต่อ และองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย
ลอรา เอริลลากา-แอนดรีสัน เพื่อนสนิทของเพาเวลล์ ได้ประมาณจำนวนเงินที่เพาเวลล์ใช้ในการกุศลว่า “ถ้าคุณรวมการใช้เงินเพื่อการกุศลทั้งหมดของลอรีนที่สาธารณะชนทราบ นั่นเป็นเพียง 1% ของจำนวนเงินที่ใช้ในการกุศลทั้งหมดของเธอ
ในปี 1993 จ็อบส์ให้สัมภาษณ์วารสารวอลล์สตรีทว่า
“การเป็นคนที่รวยที่สุดในสุสานไม่ใช่เรื่องสำคัญของผม การเข้านอนตอนกลางคืนพร้อมกับพูดว่าเราได้ทำบางสิ่งที่มหัศจรรย์… นั่นต่างหากที่สำคัญสำหรับผม”
และดูเหมือนว่าจ็อบส์จะสมปรารถนาในที่สุด
อาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์
อาร์โนลด์ สร้างชื่อเสียงครั้งแรกจากการเป็นนักเพาะกาย เขาฝึกซ้อมอย่างหนัก ฝึกที่โรงยิมแถวบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ และฝึกยาวจนถึงเวลาปิดทำการ ถ้าเขาไม่ได้ออกกำลังกาย อาร์โนลด์จะรู้สึกเหมือนไม่สบาย ในเวลาที่ว่างจากการฝึก เขาจะไปโรงหนังเพื่อดูนักเพาะกายที่เป็นไอดอลของตัวเองบนจอขนาดใหญ่ ซึ่งได้แก่ เรก พาร์ค, สตีฟ รีฟส์ และจอห์นนี ไวส์มูลเลอร์
อาร์โนลฝันถึงการเป็นนักเพาะกายในตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันเขาฝึกฝนทุกชั่วโมงเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง และเขาก็ทำสำเร็จจนได้
บิล เกตส์
การคิดนอกกรอบเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วิธีคิดเช่นนี้เป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ และให้คำตอบแก่ปริศนาที่แสนจะซับซ้อน สำหรับคนทั่วไป การคิดนอกกรอบช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน หรือปัญหาในระยะยาว ทั้งยังเป็นคุณลักษณะที่ผู้คนต่างเฟ้นหาในการสัมภาษณ์งานในตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูง
เขานำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบธุรกิจ เขาเลือกที่จะมอบหมายงานยากๆ ให้กับคนขี้เกียจ เพราะคนขี้เกียจจะหาวิธีง่ายๆ เพื่อให้งานนี้สำเร็จลุล่วงนั่นเอง
โดนัลด์ ทรัมป์
โดนัลด์ ทรัมป์ผ่านการทำธุรกิจมาหลากหลายรูปแบบ และเป็นบทเรียนที่สอนให้เขาระมัดระวังตัว ทรัมป์เคยต้องลดการถือหุ้นในบริษัทจนเหลือ 27% ในปี 2004 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้สามารถยกหนี้ได้โดยจ่ายเป็นหุ้นแทน แต่หนี้สินก็ยังมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อปี 2009 บริษัทของเขาติดหนี้ทั้งหมด 1,200 ล้านดอลลาร์
ทรัมป์คิดว่าบางครั้งต้องยอมถอยบ้างเพื่อมองหาวิธีใหม่ๆ ในการเอาชนะ เขาตัดสินใจเสี่ยงด้วยการซื้อหุ้นบริษัทต่างๆ 45 แห่ง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ซิตี้กรุ๊ป ธนาคารแห่งอเมริกา ฯลฯ การลงทุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ทรัมป์อ้างว่าเขาได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้ถึง 27 ล้านดอลลาร์
อีลอน มัสก์
การดำเนินกิจการของสเปซเอกซ์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จรวดทดลองสามลำแรกล้วนระเบิดก่อนที่จะเข้าสู่วงโคจร ทำให้มัสก์เหลือเงินสำหรับทดลองจรวดได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น การทดลองครั้งที่สี่จะต้องประสบความสำเร็จ มิฉะนั้นจะไม่มีใครมอบทุนให้บริษัทจนกว่าจะปล่อยจรวดสำเร็จอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โชคเข้าข้างมัสก์ เมื่อจรวดฟัลคอนสามารถขึ้นสู่วงโคจรได้ในครั้งที่สี่
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ โลกเป็นของคนที่เห็นอนาคตก่อนใคร
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
Pingback: โอปราห์ วินฟรีย์ จากวัยเด็กสุดรันทด สู่พิธีกรทอล์คโชว์ระดับตำนาน
Pingback: วัยเด็กของอีลอน มัสก์ : โตมาแบบไหน...ถึงได้เป็นแบบนี้ รู้จักอีลอน มัสก์ให้มากกว่าเดิม
Pingback: จุดเริ่มต้นและการทำงานของ พิกซาร์ บริษัทแอนิเมชั่นชื่อดัง
Pingback: Factfulness ฉบับแปลไทย! หนังสือที่บิล เกตส์มอบให้นักศึกษาจบใหม่ทุกคน