โฮวาร์ด ชูลท์ส ผู้ปลุกปั้นร้านกาแฟเล็กๆ ในซีแอตเทิล สู่ร้านกาแฟระดับโลกที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ และดูแลพนักงานกว่า 191,000 ชีวิตทั่วโลก
กว่าที่ โฮวาร์ด ชูลท์ส จะมีวันนี้ เขาต้องผ่านอะไรบ้าง มาดูกัน
แรงบันดาลใจของโฮวาร์ด ชูลท์ส
เมื่อปี 1961 พ่อของโฮวาร์ดประสบอุบัติเหตุ ต้องใส่เฝือกที่ขาเพราะลื่นลมจนข้อเท้าหัก เป็นผลที่ทำให้พ่อต้องตกงานโดยที่ครอบครัวไม่มีสวัสดิการรองรับเลย แม่ซึ่งตั้งท้องเจ็ดเดือนไปทำงานไม่ไหว ครอบครัวของเขาไร้ตัวช่วยยามคับขัน หลายครั้งที่เขาต้องนั่งฟังพ่อแม่เถียงกันว่าจะไปยืมเงินใครดี เวลาใครโทรศัพท์มา แม่จะสั่งให้เขาบอกว่าพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน
โฮวาร์ด ฝันจะสร้าง “บริษัทแบบที่พ่อผมภูมิใจจะทำงานด้วย” ซึ่งดูแลพนักงานเป็นอย่างดีพร้อมให้สวัสดิการด้านสุขภาพ เขาแทบไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขาต้องมาดูแลพนักงานกว่า 191,000 คน ซึ่งทำงานในร้าน 21,000 แห่งทั่วโลก ประสบการณ์ในชีวิตที่พ่อต้องเสียงานเพราะอุบัติเหตุ คือแรงบันดาลใจให้เขาสร้าง Starbucks จนกลายเป็นร้านกาแฟชั้นนำของโลก
ปีศาจและความกลัวจากอดีต
โฮวาร์ดเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย พูดเจือสำเนียงบรุกลิน ชอบกินอาหารอิตตาเลียน ชอบใส่กางเกงยีนสบายๆ และเคารพคนทุกแบบ เขาไม่เคยลืมที่มาของตัวเองหรือหลงคิดว่าตัวเองร่ำรวย “ผมอยู่ในแวดวงผู้คนที่ทำงานแบบปากกัดตีนถีบให้พอค่าใช้จ่าย ไม่มีความหวังอะไร แล้วก็ไม่มีสิทธิ์หยุดงานเลย ”
ตั้งแต่ที่เขาจำความได้ แม่พร่ำบอกเขาอยู่เสมอว่า ให้ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำในอเมริกา ส่วนพ่อกลับสร้างผลกระทบตรงข้าม อาชีพคนขับรถบรรทุก ขับรถรับจ้าง และคนงานโรงงานทำให้พ่อไม่เคยมีรายได้เกินปีละ 20,000 ดอลลาร์ โฮวาร์ดเฝ้าดูพ่อรำพันระบายอารมณ์อย่างขมขื่นเรื่องที่คนอื่นไม่ให้โอกาสหรือความเคารพนับถือ
สมัยเป็นวัยรุ่นโฮวาร์ดชอบเถียงพ่อบ่อยๆ เพราะขายหน้าที่พ่อล้มเหลว เขาเล่าว่า “ผมขมขื่นกับเรื่องที่พ่อขาดความรับผิดชอบ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ผมคิดว่าถ้าพ่อพยายามจริงๆ คงทำได้สำเร็จมากกว่านั้นเยอะ” เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะหนีชะตากรรมแบบนั้น
จุดมุ่งหมายแรก
ความรู้สึกด้อยทำให้โฮวาร์ดปักใจแน่วแน่ว่าต้องประสบความสำเร็จให้ได้ กีฬาเป็นอย่างแรกที่เขาทุ่มให้ เพราะ “เวลาอยู่ในสนามแข่ง ผมไม่โดนตราหน้าว่าเป็นเด็กจนๆ” เขาครองตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็กระดับดาราของทีมฟุตบอลประจำโรงเรียนมัธยมปลาย ได้รับทุนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นมิชิแกน จนกลายเป็นคนแรกในครอบครัวที่คว้าปริญญามาครอง ความมุ่งมั่นแข่งขันแรงกล้าของเขาไม่เคยจางหาย แต่เปลี่ยนจากฟุตบอลเป็นธุรกิจ
ตัดสินใจซื้อ Starbucks
โฮวาร์ด เจอร้าน Starbucks Coffee ในซีแอตเทิล เขาบอกว่า “ผมรู้สึกเหมือนตัวเองค้นพบทวีปใหม่เลยละ” เขาขมีขมันวางแผนเข้าร่วมบริษัทจนได้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและการตลาด ครั้งหนึ่งตอนเขาไปเจรจาการค้าที่อิตาลี เขาเจอร้านเอสเปรสโซบาร์แบบมิลานที่สร้างชุมชนแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะในชีวิตประจำวันของลูกค้า เขาฝันอยากสร้างชุมชนทำนองนี้ในอเมริกา เน้นสร้างบรรยากาศให้นั่งจิบกาแฟผ่อนคลาย ไม่ใช่แค่ขายกาแฟ
พอโฮวาร์ดรู้ข่าวว่าตนอาจซื้อกิจการ Starbucks จากผู้ก่อตั้งได้ เขาก็รวบรวมเงินจากนักลงทุนเอกชน แต่กลับเผชิญอุปสรรคอย่างร้ายแรงเมื่อผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่สุดตั้งท่าจะซื้อบริษัทนี้เสียเอง เขาเท้าความว่า “ผมเกรงว่าผู้สนับสนุนที่มีบารมีทั้งหลายจะเปลี่ยนใจไปหนุนนักลงทุนรายนี้ จึงไปขอให้บิล เกตส์ ซีเนียร์ พ่อของผู้ก่อตั้ง Microsoft ช่วยผมยืนหยัดด้านยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของซีแอตเทิล เพราะผมจำเป็นต้องอาศัยชื่อเสียง บารมีของเขา”
แรงผลักดัน
โฮวาร์ดใช้แรงผลักดันในตัวสร้างบริษัทซึ่งพ่อของเขาคงภูมิใจที่จะทำงานด้วย Starbucks จ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ให้สวัสดิการมั่นคง รวมทั้งให้สิทธิ์พนักงานทุกคนซื้อหุ้นบริษัท นับเป็นการมอบสิ่งที่พ่อเขาไม่เคยได้รับให้แก่พนักงาน และใช้สินน้ำใจเหล่านี้ดึงดูดคนทำงานที่มีค่านิยมตรงกับค่านิยมของบริษัท
ความสามารถเด็ดๆ อย่างหนึ่งของโฮวาร์ดคือ เขาคบค้ากับคนได้สารพัดภูมิหลัง เขาชอบเล่าเรื่องราวของตัวเองและเรื่องราวของ Starbucks ตามงานพิเศษๆ และตระเวนเยี่ยมร้าน Starbucks สัปดาห์ละยี่สิบกว่าแห่ง แต่ละวันเขาตื่นตีห้าครึ่งเพื่อทักทายพนักงานทั่วโลก เขาบอกว่า “Starbucks มอบผืนผ้าใบให้ผมระบายสี”
ข้อมูลจากหนังสือ เป็นผู้นำไม่ต้องซ้ำแบบใคร
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จากความชอบสู่รายได้มหาศาล
10 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ อีลอน มัสก์ อัจฉริยะหรือคนบ้า?
วาทะเด็ดจาก 5 คนดังระดับโลก สตีฟ จ็อบส์, อีลอน มัสก์, บิล เกตส์ ฯลฯ
8 หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ จากคนดังและองค์กรชั้นนำทั่วโลก
จุดเริ่มต้นและการทำงานของ พิกซาร์ บริษัทแอนิเมชั่นชื่อดัง
โอปราห์ วินฟรีย์ จากวัยเด็กสุดรันทด สู่พิธีกรทอล์คโชว์ระดับตำนาน
รู้จัก เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง หัวเว่ย HUAWEI
จากศูนย์สู่ ZARAอามันซิโอ ออร์เตกา จากลูกจ้างการรถไฟสู่อาณาจักรแฟชั่นหมื่นล้าน