เข้าใจพฤติกรรมลูกกับปัญหา "ลูกติดโทรศัพท์" โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ปัญหาที่เกิดในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ในยุคปัจจุบันมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลูกติดโทรศัพท์ ลูกติดเกม ลูกไม่เชื่อฟัง ลูกชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง และปัญหาอื่นๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ยังหาทางออกและวิธีแก้ไขไม่ได้

ลองมาดูวิธีเหล่านี้ ที่จะช่วยแก้ปัญหา ” ลูกติดโทรศัพท์ “ และปัญหาอื่นๆ โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์กันค่ะ

ลูกติดโทรศัพท์มือถือ

อายุของเด็กที่ใช้โทรศัพท์มือถือกำลังลดลงเรื่อยๆ และจำนวนวัยรุ่นที่ใช้โทรศัพท์มือถือกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้เกิดจากการสนับสนุนของพ่อแม่ด้วย

ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือไม่ใช่เพียงไว้โทรเท่านั้น แต่ยังใช้เล่นเกม ฟังเพลง ถ่ายรูป ส่งข้อความ ส่งอีเมล ดูเวลา เป็นนาฬิกาปลุก รวมไปถึงประโยชน์ด้านอื่นๆ มากมาย ด้วยประโยชน์ที่มีเยอะจนเหลือเชื่อจนทำให้พ่อแม่ต้องหันมามองกันชัดๆ อีกครั้ง

การต่อสู้กับลูกที่ติดโทรศัพท์มือถือคงต้องใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ นั่นคือแทนที่จะเสียแรงไปต่อต้านมัน น่าจะเปลี่ยนเป็นออมแรงและรวมพลังกันลดราคาและค่าใช้จ่ายรายเดือนของลูกเสีย น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

ลูกหน้าบึ้งหน้างอ พูดน้อยลง

เรื่องหน้าบึ้งหน้างอลูกสาวมักจะเป็นมากกว่าลูกชาย พวกเขาจะเงียบๆ เวลาอยู่บ้าน นิ่งๆ ไม่พูดไม่จา ทำอะไรก็ไม่ค่อยตอบ ซักหนักขึ้นก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วก็ผลุบหายเข้าไปในห้อง

อันที่จริงปัญหานี้เกิดขึ้นเกือบทุกครอบครัว เขาพวกจะเก่งกาจสารพัดเวลาอยู่นอกบ้าน แต่ไม่ได้เรื่องเวลาอยู่ในบ้าน เช่น เป็นแกนนำโครงการ เป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่เมื่อถึงบ้าน พวกเขาจะใช้ชีวิตเป็นอีกอย่าง จานไม่ล้าง ห้องไม่เก็บ พูดกับพ่อแม่ไม่เพราะ

แล้วพ่อแม่ทำอะไรได้บ้างเวลาลูกเปลี่ยนไป ก่อนอื่น ต้องยอมรับก่อนว่าเราไม่สามารถชี้นิ้วบงการเขาตอบใจชอบได้อีกแล้ว และเลิกเซ้าซี้เขาเสียที แต่บางเรื่องก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนเกินเลย เช่น หน้างอตลอดเวลา แชตนานเกินสี่ชั่วโมง ห้องรก ไม่เก็บจานชามในห้องไปล้าง หากเป็นถึงขั้นนี้แล้วพ่อแม่ควรแทรกแซงด้วยการพูดกับเขาจากใจจริง เช่น

“แม่รู้ว่าลูกอยากมีเวลาเป็นส่วนตัว ถ้าแม่จะเรียกหาลูกแม่จะเคาะประตูบอกนะ”

“แม่รู้ว่าลูกรับผิดชอบการเรียนได้ แต่แม่ไม่อนุญาตให้ลูกใช้คอมพิวเตอร์เกิน 2 ชั่วโมงค่ะ”

“บ่ายวันนี้ทำความสะอาดห้องด้วยค่ะ ไม่ให้ทำอย่างอื่น ให้ทำความสะอาดห้องก่อน”

ลูกติดเกม

ประเด็นเรื่องเด็กติดเกมเป็นเรื่องเวลา การจัดสรรเวลาเป็นเรื่องใหญ่ เด็กๆ ที่จัดสรรเวลาไม่เป็นมักเกิดจากไม่มีใครเคยสอน การแบ่งเวลาให้ถูกต้องเป็นเรื่องของพ่อแม่ที่จะต้องสอนเขา

นอกจากเด็กที่เล่นเกมแต่เช้าตรู่ แล้วยังมีเด็กที่กำเงินไปเล่นเกมทั้งวันไม่ยอมกลับบ้าน และยังมีเด็กที่โดดเรียนไปเล่นเกมอีกด้วย โดยที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่องเลย รวมถึงเด็กที่เล่มเกมในบ้านทั้งวันโดยที่พ่อแม่ไม่ได้ไปห้ามปรามอย่างเด็ดขาด

วิธีป้องกัน

ควรใช้วิธีต่อไปนี้ วันแรกที่เด็กให้เวลาเล่นเกมมากเกินควรนั้น เด็กทำไปเพราะความสนุก เมื่อผู้ใหญ่ไม่ได้ว่าอะไร วันต่อๆ ไปก็จะตามมา

เด็กๆ มีหน้าที่ดื้อ ลองดื้อดูสักครั้ง ถ้าพ่อแม่ไม่ให้ก็จะทำความเข้าใจและพร้อมจะเชื่อฟัง อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าอนุญาติให้ลูกเล่มเกมวันละเท่านี้ๆ นะ นอกนั้นต้องไปทำอย่างอื่น ไปอ่านหนังสือ เล่นกับสัตว์เลี้ยง รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ ปัญหามีอยู่ว่าพ่อแม่บางบ้านชอบใช้เกม การ์ตูนเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงลูกเพราะสบายดี กว่าจะรู้ตัวอีกทีลูกก็ติดทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว

วิธีแก้ไข

พ่อแม่ไม่สามารถห้ามให้ลูกเลิกเล่นเกมทันทีได้ ต้องค่อยๆ ลดจำนวนการเล่นลง สัปดาห์ละนิด วันละน้อย พอให้เขาปรับตัวได้ หรือลดจำนวนเงินที่ให้ไปเล่นลงทีละนิด หลังจากนั้นก็หากิจกรรมให้เขาทำเพื่อทดแทนเกม

ลูกอยู่ในห้องทั้งวัน

เมื่อลูกเข้าสู่อายุ 11 ปี เราจะพบว่าเขาเริ่มเก็บตัวอยู่ในห้องส่วนตัวบ่อยขึ้น บางบ้านซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนตัวไว้ในห้องให้ลูกตั้งแต่เล็กๆ ถ้าเป็นแบบนี้ การที่จะให้ลูกยอมออกมานอกห้องคงยากขึ้นกว่าเดิมมาก

หลังประตูห้องนอนคือโลกส่วนตัวที่ลูกเพิ่งค้นพบ เขาจะใช้ชีวิตในนั้น พื้นที่ที่รู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัว ส่องกระจก ลองชุดใหม่ คุยโทรศัพท์เม้าท์กับเพื่อน ฯลฯ

ความไม่สบายใจว่าลูกๆ ทำอะไรอยู่หลังประตูบานนั้นเป็นความไม่สบายใจของคนเป็นพ่อแม่ ลูกๆ ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย ปัญหาจึงอยู่ที่เรา ไม่ได้อยู่ที่ลูก เราเองที่กำลังมีปัญหา และคิดว่าลูกอาจทำอะไรบางอย่างที่เรากลัว วิธีที่ควรเข้าใจและทำคือให้เกียรติลูก และเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา

เตรียมรับมือกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไปเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น

ได้ในหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ วัยไหนก็ได้ดี

โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์