สวัสดีทุกคน แอดนากเองจ้า บทความนี้นากหยิบเอาหัวใจสำคัญของผลงานเรื่องใหม่ของแดน บราวน์ “ออริจิน” ซึ่งเป็นคำถามที่ว่า “เรามาจากไหน” และ “เรากำลังจะไปไหน”
นากคงบอกไม่ได้ว่าสองคำถามนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับเนื้อเรื่อง นอกจากให้ทุกคนไปอ่านกันเอาเอง แต่นากจะขอใช้คำถามนี้ย้อนกลับไปถามแดน บราวน์ ผู้เขียนของเรากันสักหน่อยว่า “เขามาจากไหน” และ “เขากำลังจะไปไหน”
แดน บราวน์เกิดและเติบโตในครอบครัวที่เคร่งศาสนา
ถ้าใครได้อ่านผลงานของเขามาตลอดอาจไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องจริง แต่ครอบครัวของแดน บราวน์นับถือคริสต์นิกายเอปิสโคปัล ซึ่งเป็นนิกายที่แยกตัวออกมา (นิกายนี้เชื่อในพระเยซูและพระเจ้ามาก แต่ก็ยังเปิดกว้าง เช่น มองว่ากลุ่มคนรักร่วมเพศเป็นบุตรแห่งพระเจ้าและสมควรได้รับการยอมรับเหมือนคนทั่วไป)
แดน บราวน์ยอมรับว่าตอนเด็กเขาเคร่งศาสนา แต่พอเขาเรียนเกรดแปด (ม. 2 ไทย) เขาลงเรียนวิชาดาราศาสตร์และจักรวาล ทำให้รู้ว่าต้นกำเนิดโลกไม่ได้เกิดจากพระเจ้าสร้างโลกในเจ็ดวันอย่างที่เขารู้จากคัมภีร์ไบเบิล แต่โลกเกิดจากการระเบิดของบิ๊กแบง
แดน บราวน์น้อยจึงถามครูใหญ่เรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่าคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ฟังดูเข้าทีกว่าศาสนา แต่ครูใหญ่กลับบอกว่า
“เด็กดีเขาไม่ถามคำถามแบบนี้กัน”
นับแต่นั้นมาแดน บราวน์จึงเริ่มสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้นกว่าเดิม
แดน บราวน์เริ่มต้นด้วยอาชีพนักร้องและนักแต่งเพลง
ช่วงแรกหลังเรียนจบ แดน บราวน์เริ่มต้นอาชีพของเขาด้วยการเป็นศิลปิน แต่งเพลงเอง ทำเพลงเอง ออกอัลบั้มเอง ซึ่งเกิดจากการที่มีคุณแม่เป็นนักเล่นออร์แกนหลอดประจำโบสถ์ ทำให้เขามีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว
แดน บราวน์เปิดค่ายเพลงชื่อ Dalliance และเป็นครูประจำโรงเรียนที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ด้วย
และเพราะมาทำงานด้านนี้ ทำให้เขาได้พบกับศรีภรรยา ไบลธ์ นิวลอน ผู้อยู่ในวงการเพลงและแอบช่วยเขาโปรโมทงานเพลงโดยไม่คิดเงินสักบาท
ปี 1994 แดน บราวน์ออกอัลบั้มเพลงชื่อ Angels & Demons โดยใช้ภาพปกของศิลปิน จอห์น แลงดอน ซึ่งทั้งหมดนี้กลายมาเป็นชื่อเรื่องและชื่อตัวละครให้กับนิยายเล่มแรกของชุดโรเบิร์ต แลงดอน
ซิดนีย์ เชลดอน คือแรงบันดาลใจให้แดน บราวน์
ช่วงที่แดน บราวน์ไปพักผ่อนที่ตาฮิตีในปี 1993 เขาอ่านนิยายของซิดนีย์ เชลดอน เรื่อง The Doomsday Conspiracy ทำให้เขาได้แรงบันดาลใจ อยากเขียนงานแนวทริลเลอร์เจ๋งๆ แบบนี้บ้าง
แดน บราวน์จึงเริ่มจากการเขียน Digital Fortress (ล่ารหัสมรณะ) แต่ระหว่างนี้เขาก็ช่วยกันกับภรรยาเขียนหนังสือแนวอื่นๆ โดยใช้นามปากกว่า Danielle Brown ด้วย
แต่กว่า ล่ารหัสมรณะ จะเขียนเสร็จ ก็ปาเข้าไปปี 1998 (แดน บราวน์ถึงขั้นต้องออกจากงานประจำเพื่อมาเขียนนิยายจริงจัง)
นิยาย 3 เล่มแรกของแดน บราวน์ขายได้น้อยมาก
กว่าจะเป็นนักเขียนดังต้องใช้เวลา ทุกคนเป็นเหมือนกันหมด หลังตีพิมพ์ ล่ารหัสมรณะ แดน บราวน์เขียนเรื่อง Angels & Demons (เทวากับซาตาน) และ Deception Point (ล่ารหัสมรณะ) แต่ทั้งสามเรื่องขายได้ไม่ถึง 10,000 เล่ม
กระทั่งเขาออกเรื่อง The Davinci Code (รหัสลับดาวินชี) ในที่สุดนิยายเรื่องนี้ก็ติดลมบนและกลายเป็น Bestseller ในพริบตา และทำให้ผลงานเรื่องอื่นๆ ของแดน บราวน์ออกสู่สายตาประชาชีมากขึ้นด้วย
หลังจากเขียน Origin (ออริจิน) แดน บราวน์จะไปไหนต่อ
ในงานหนังสือ Frankfurt Book Fair 2017 ที่เยอรมนี แดน บราวน์ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าผลงานต่อไปของเขาอาจเป็น Non-fiction เพราะตอนเขียนออริจิน เขาค้นคว้าเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และศิลปะสมัยใหม่เยอะมาก ทำให้เขาเริ่มมีไอเดียอยากเขียนงานฝั่งนี้บ้าง
ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าผลงานเล่มต่อไปของแดน บราวน์จะมาเมื่อไร และจะมาในรูปแบบไหน
แต่ตอนนี้ ขออ่าน ออริจิน ก่อนนะ
Pingback: บทสัมภาษณ์ : แดน บราวน์ ผู้เขียนรหัสลับดาวินชี เปิดตัว Origin นิยายเล่มใหม่ปีนี้
Pingback: ออริจิน (Origin) ผลงานของแดน บราวน์ กับความจริงที่ถูกซ่อนไว้
Pingback: ชำแหละบ็อกเซต อกาธา คริสตี้ หนังสือทั้ง 7 เล่มนี้มีคดีอะไรบ้าง!