ซาโกะ ไอซาวะ เขียน ธนพล ศักดิ์สมุทรานันท์ เเปล (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) ———————————————————— อารัมภบท ความตายอันมิอาจหลบเลี่ยงกำลังมาเยือน “อยากให้อาจารย์ช่วยตามหาคนร้ายที่ฆ่าลูกสาวของดิฉันค่ะ” สุภาพสตรีเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยคำนั้น เมื่อเห็นดวงตาของเธอ ชิโร่ โคเก็ทสึ สัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ซึ่งคล้ายจะเป็นชะตาลิขิต ลางสังหรณ์ที่บ่งบอกว่าความตายอันไม่อาจต่อต้านกำลังคืบเคลื่อนมาพร้อมเสียงฝีเท้า ไล่ประชิดไปยังที่แห่งนั้นโดยไม่รอช้า ดวงตาของสุภาพสตรีฉายแววเศร้าหมองและโกรธแค้นซึ่งไม่รู้จะระบายสู่ที่ใด นี่คือฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณบูธที่นั่งซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในร้านกาแฟอันคุ้นเคย บนโต๊ะมีเอกสารเกี่ยวกับคดีต่อเนื่องคดีหนึ่งที่เธอรวบรวมมาด้วยตัวเองอย่างสุดความสามารถ เอกสารเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมอำพรางศพต่อเนื่องที่สร้างความโกลาหลไปทั่วภูมิภาคคันโต[1]ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา จากข้อมูลที่ปรากฏชัดในตอนนี้ชี้ให้เห็นว่า ฆาตกรสังหารหญิงสาวไปแล้วอย่างน้อยแปดราย เขาไม่เคยทิ้งหลักฐานไว้แม้แต่เศษเสี้ยว การสืบสวนของตำรวจเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้พยายามดำเนินการอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน แต่ผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการสืบสวนทุกคนต่างเผยสีหน้าสิ้นหวัง โอดครวญว่าฆาตกรเคลื่อนไหวราววิญญาณดับสูญหรือกระทั่งยมทูต ใช่ มันคือวิญญาณร้ายที่นำความตายมาเยือน ปราศจากรูปร่าง เจ้าเล่ห์เพทุบาย ลอบประชิดเหยื่อโดยไม่ทิ้งร่องรอย ปลิดโปรยความตายไปทั่ว เป็นสิ่งมีชีวิตไร้เทียมทาน ไม่มีผู้ใดต่อกร จะมีใครจับกุมคนร้ายเช่นนั้นได้บ้าง “ผม…” โคเก็ทสึพยายามเฟ้นหาถ้อยคำแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือนักสืบครับ เป็นแค่นักเขียนธรรมดาเท่านั้น” ทว่าสุภาพสตรีจ้องโคเก็ทสึด้วยแววตาท้าทายแล้วตอบกลับ “อาจารย์มีคนติดตามเป็นผู้มีญาณวิเศษใช่ไหม” โคเก็ทสึสะดุ้งเมื่อได้ยินคำนั้น “ดิฉันได้ยินว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา อาจารย์ร่วมมือกับผู้ติดตาม ช่วยกันไขคดีต่าง ๆ ได้สำเร็จจำนวนหนึ่ง รวมทั้งคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฆ่ารัดคอนักเรียนหญิงมัธยมปลายที่เคยเป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้ไม่นาน ว่ากันว่าอาจารย์โคเก็ทสึไขคดีได้ด้วยคำชี้แนะของผู้ติดตามคนนั้น“ […]
Category Archives: Amarinbooks Podcast
จอมโจรขโมยหนังสือ The Book Thief มาร์กัส ซูซัก เขียน พรรณี ชูจิรวงศ์ แปล ติดตามการวางจำหน่ายได้ทางเพจ “เเพรวนิยายเเปล” (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) คำนำสำนักพิมพ์ ช่วงเวลาแห่งสงครามนับเป็นช่วงเวลาเลวร้าย เพราะมันมักมีแต่ความเจ็บปวด ความสูญเสีย การพลัดพราก ไปจนกระทั่งความตาย ใครจะไปคาดคิดว่าจะมีสิ่งที่ดีงามต่อหัวใจเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งฝุ่นควันเช่นนั้นได้ด้วย จอมโจรขโมยหนังสือ เป็นสุดยอดวรรณกรรมที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อบรรยายช่วงเวลาที่โลกต้องประสบกับสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วงเวลาที่มีความตายมากมายถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวโดยยมทูต ฉายให้เห็นภาพชีวิตรอบตัวเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อ “ลีเซล เมมิงเกอร์” เราจะได้มองเห็นภาพอันงดงามของมิตรภาพบนถนนคลุกฝุ่น ความอบอุ่นในบ้านหลังเล็กๆ ที่หนาวแทบตาย ความเป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ทว่าเล็กจ้อย และได้เห็นว่านี่คือช่วงเวลาที่ถ้อยคำและตัวหนังสือ…มีพลังยิ่งกว่าช่วงเวลาไหนๆ หากคุณพร้อมแล้ว เราอยากชวนคุณเปิดหัวใจออกให้กว้าง แล้วโอบรับถ้อยคำเหล่านี้เข้าไปทีละนิดๆ จอมโจรหนังสือกำลังรอคุณอยู่ค่ะ แพรวสำนักพิมพ์ เปิดฉาก ซากปรักหักพังกองพะเนิน นักเล่าเรื่องของเราขอแนะนำให้รู้จัก: ตัวเขา – สี – และจอมโจรหนังสือ […]
จากผลสำรวจในปี 2019 เด็กดีแบบไหนถึงจะมงลง เป็นสุดยอดเด็กดีขวัญใจมหาชน แล้วจะมีนิทานอะไรบ้างที่ส่งเสริมลูกให้เป็นเด็กดีโดนใจพ่อแม่ที่สุด ถ้าอยากรู้ ลองมาฟังกันใน FamiRead Podcast เลยค่ะ
นากอ่าน EP. นี้ เราเปิดปี 2020 ด้วยเทรนด์การตลาดยุคใหม่ที่น่าจับตามองที่สุด และหลายๆ แบรนด์เริ่มนำไปปรับใช้แล้ว นั่นก็คือ Personalized Marketing การตลาดแบบรู้ใจ พร้อมแขกรับเชิญคนพิเศษคุณ ณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน
ใครๆ ก็บอกว่าเด็กยุคนี้ต้องมี EF ถึงจะประสบความสำเร็จและอยู่รอดในสังคมอย่างมีความสุข แล้ว EF คืออะไร ทำอย่างไรลูกของเราถึงจะมี EF บ้างนะ เรามาหาคำตอบใน FamiRead Podcast กันเลยค่ะ รายการ FamiRead รายการผู้ช่วยมือหนึ่งของพ่อแม่ พิธีกร คือ บ.ก.แสตมป์จาก Amarin Kids คุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ กล่าวไว้ในหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้EF ว่า เด็กบางคนเรียนเก่งตอนเด็ก แต่ยิ่งโตผลการเรียนยิ่งแย่ลง เด็กบางคนตอนเด็กๆ เล่นตลอด แต่เมื่อโตกลับยิ่งตั้งใจเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จในชีวิต สิ่งที่ทำให้เด็กมีศักยภาพแตกต่างกันไม่ใช่ความฉลาด แต่เป็น Executive functions หรือที่คุ้นหูคุ้นปากกันดีว่า EF นั่นเองค่ะ EF คืออะไร ดีต่อเด็กๆ อย่างไร ทำอย่างไรลูกถึงจะมี EF วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ โครงสร้างสมองของมนุษย์มี 3 ส่วน ได้แก่สมองส่วนหน้า สมองส่วนกลางและสมองส่วนท้าย สมองส่วนท้ายคือสัญชาตญาณของชีวิต เป็นสมองส่วนที่ควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย […]
พูดคุยกับ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ในเรื่องที่เรา…ชาวมนุษย์เงินเดือนต้องเจอในแต่ละวัน เพราะทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับงานมากกว่าอยู่บ้าน อย่างน้อยสมดุลของชีวิตก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนต้องหาให้เจอ เพื่อเอาตัวรอดจากเดนตายให้ได้ด้วยสันติวิธี รายการ “เป็นไร ไหนเล่าซิ” ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลก ถึงตอนนี้จะยังแก้ไขไม่ได้ แต่เล่าให้เราฟังได้ รายการที่เราจะชวนคนหลายแวดวงมาเป็นผู้รับฟังปัญหาต่างๆ ที่ตอนนี้คุณอาจจะยังหาคำตอบไม่ได้ แต่อยากหาคนรับฟังหรือคนปรึกษา พวกเขาจะบอกเล่าความคิดมุมมองของเขาให้คุณได้ฟังกัน ใน 1 ปีมนุษย์ออฟฟิศจะทำงานเฉลี่ยปีละ 200 วันต้นๆ เฉลี่ยวันละ 8 -10 ชั่วโมงที่เราต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในทุกๆ ด้าน เพราะว่าทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ในที่ทำงานเป็นหลัก เราจึงต้องหาสมดุลให้กับชีวิตที่เราจะได้อยู่ในที่ทำงานอย่างสันติสุขกับทุกสรรพสิ่ง EP นี้เราเลยเชิญแขกรับเชิญที่พนักงานรวมไปถึงเจ้านายในองค์กรส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยและรู้จักเขาเป็นอย่างดี มาพูดคุยเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับสรรพสิ่งต่างๆ ในออฟฟิศ เผื่อว่ามนุษย์เงินเดือนเช่นเราจะได้แง่คิดดีๆ ในการทำงานหรือแง่มุมที่ต่างจากเดิม ให้อาจารย์แนะนำตัว เคยทำงานที่ไหน ทำงานอะไรอยู่ ดร.วรภัทร์ : อายุเยอะประวัติก็เลยยาว จบเคมีเทคนิคคณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ จบปริญญาโทด้านวิศวะและปริญญาเอกด้านวิศวะจากมลรัฐโอไฮโอ USA ในระหว่างที่เรียนปริญญาเอกก็ทำงานเป็นนักวิจัยที่องค์การอวกาศนาซาทางด้านเครื่องบินไอพ่นในส่วนที่เป็นเครื่องยนต์พวกผิว เซรามิกเคลือบ จบจากนาซาก็กลับมาเมืองไทย ก็มีความเห็นว่าถ้าเข้าบริษัทใหญ่ๆอย่าง ปตท. หรือ SCG ไล่หลังเพื่อนไม่ทันแล้ว […]
ใครๆ ก็พูดกันว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ทักษะหรือความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมีก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แค่เรียนเก่ง ไอคิวดี อาจไม่เพียงพอสำหรับลูกเมื่อเติบโต แล้วลูกเราต้องฉลาดเรื่องอะไรบ้าง ถึงจะอยู่รอดและเติบโตในสังคมอย่างมีความสุข มาหาคำตอบใน FamiRead Podcast กันเลยค่ะ รายการ FamiRead รายการผู้ช่วยมือหนึ่งของพ่อแม่ พิธีกร คือ บ.ก.แสตมป์จาก Amarin Kids ไอคิว หรือ ความฉลาดทางสติปัญญา น่าจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ได้ยินกันมานานแล้ว หลายๆ โรงเรียนก็ให้เด็กทำข้อสอบวัดไอคิวเพื่อคัดเด็กเข้าโรงเรียนหรือแบ่งห้อง จนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่คิดว่าความฉลาดทางสติปัญญาหรือไอคิวคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการเรียนและความสำเร็จในอนาคต แต่ความคิดนี้ถูกเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น เพราะการทีเด็กคนหนึ่งจะเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต แท้จริงแล้วต้องใช้ความฉลาดหลากหลายด้าน ไม่ใช่เพียงความด้านสติปัญญาเท่านั้น แต่จะมีความฉลาดเรื่องอะไรบ้าง ลองมาฟังกัน หนึ่ง IQ หรือ ความฉลาดทางสติปัญญา ได้แก่ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ จดจำ มีทักษะทางวิชาการ ทั้งการคำนวนและการใช้ภาษา ตามที่คุณพ่อคุณแม่รู้จักกันดีอยู่แล้ว สอง EQ หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถในการรู้จักอารมณ์ของตัวเอง มีทักษะจัดการอารมณ์ตัวเองอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น เด็กที่ขาดอีคิวเศร้าก็จะเศร้าสุด โมโหก็โมโหสุดๆ ซึ่งอารมณ์เหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคในชีวิตลูกได้มาก […]
รายการ เทคนิคการเล่านิทาน พิธีกรคือบ.ก. พี่แสตมป์จาก Amarin Kids วันนี้ บ.ก. พี่แสตมป์ มีเทคนิคและตัวอย่างการเล่านิทานชุด ข้าวสวย ข้าวต้ม ฉลาดครบ 7Q มาฝากกัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักนิทานชุดนี้กันก่อนว่ามีกี่เล่ม แต่ละเล่มจะเสริมความฉลาดให้ลูกน้อยอย่างไรได้บ้าง นิทานชุด ข้าวสวย ข้าวต้ม ฉลาดครบ 7Q เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดด้านต่างๆ ที่สำคัญสำหรับการเติบโตของลูกน้อย ซึ่งประกอบไปด้วยนิทาน 7 เล่ม เพื่อเสริมความฉลาด 7 ด้าน ได้แก่ ข้าวสวย ข้าวต้มพี่น้องสมองดี เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดทางสติปัญญาหรือไอคิว เพื่อให้เด็กมีทักษะคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องอารมณ์ดี เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิว เพื่อให้เด็กเรียนรู้การจัดการอารมณ์ของตนเองอย่างเหมาะสม ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องไอเดียดี เป็นนิทานเสริมสร้างใยการคิดริเริ่มหรือซีคิว ส่งเสริมให้เด็กคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และมีความคิดยืดหยุ่น ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องทำดีเป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดทางศีลธรรมและจริยธรรมหรือเอ็มคิว เพื่อให้เด็กดำเนินชีวิตอย่างรู้ผิดชอบชั่วดี ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องฉลาดแข็งแรง เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดที่เกิดจากเล่นหรือพีคิว เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามวัยที่เหมาะสม […]
คุณพ่อ คุณแม่ หลายคนอยากรู้ว่าต้องเล่านิทานอย่างไร ลูกถึงจะสนุก วันนี้ บ.ก. พี่จ๊ะ จาก Amarin Kids มีเทคนิคการเล่านิทานเรื่อง นกพิราบไม่ยอมอาบน้ำ มาฝากกันค่ะ ไปฟังกันเลย เจ้านกพิราบต้องอาบน้ำนะ เป็นเรื่องราวของเจ้านกพิราบตัวหนึ่งที่ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ว่าเนื้อตัวของมันจะดูสกปรก หรือว่าจะมีใครมาบอกว่ามีกลิ่นเหม็นก็ตาม เจ้านกพิราบก็ไม่อาบน้ำอยู่ดี มีเหตุผลสารพัดที่จะปฏิเสธ แต่สุดท้ายแล้วเจ้านกพิราบก็ยอมอาบน้ำจนได้ นิทานเรื่องนี้เขียนโดย โม วิลเลียม เนื้อเรื่องดำเนินด้วยเจ้านกพิราบที่หลายคนอาจจะเคยเห็นมาก่อนจากเรื่อง อย่ายอมให้นกพิราบขับรถเมล์นะ การดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทั้งท่าทางและคำพูดของเจ้านกพิราบ จะทำให้เด็กๆหัวเราะได้ไม่ยาก และจุดเด่นอีกอย่างของนิทานเรื่องนี้ ก็คือเป็นนิทานกึ่งบทสนทนา เจ้านกพิราบในเรื่องเหมือนกำลังพูดคุยกับเด็กๆ ที่ได้อ่าน ฟังนิทานเรื่องนี้อยู่ ซึ่งในระหว่างที่อ่านคุณพ่อคุณแม่สามารถเว้นจังหวะและชวนเด็กๆ คุยจากสิ่งที่เจ้านกพิราบพูดได้ นอกจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ยังหยิบยกเรื่องการอาบน้ำซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน และเป็นสุขลักษณะพื้นฐานมาพูดคุยกับเด็กๆ ได้อีกด้วย นิทานเรื่องนี้จะสนุกและมีอารมณ์ขันยังไง เดี๋ยวพี่จ๊ะจะลองเล่าให้ฟังเป็นตัวอย่าง เรื่อง เจ้านกพิราบต้องอาบน้ำนะ เรื่องและภาพโดย โม วิลเลียมแปลโดย พี่นานะ สวัสดี ไม่รู้ว่าเด็กๆสังเกตไหม ว่าเจ้านกพิราบน่ะสกปรกมาก เด็กๆ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม เพราะว่าเจ้านกพิราบต้องอาบน้ำนะ “เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างคิดนะ” […]
“การเลี้ยงลูกนั้นจริงๆ ไม่ยากเลยค่ะ แต่การเลี้ยงลูกด้วยความประณีต ตั้งใจ ให้เด็กเติบโตมาอย่างมีสุขภาพจิตที่ดีต่างหากที่ยาก เพราะต้องใช้ทั้งความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่เหมาะสม” – หมอก้อย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น แล้วการเลี้ยงลูกให้เติบโตมาอย่างมีสุขภาพจิตที่ดีจะทำได้อย่างไร ลูกในแต่ละวัยพ่อแม่ควรใส่ใจเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง ลองมาฟังใน FamiRead Podcast กันเลยค่ะ รายการ FamiRead รายการผู้ช่วยมือหนึ่งของพ่อแม่พิธีกร คือ บ.ก.แสตมป์จาก Amarin Kids เป็นธรรมดาของคุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่จะรักลูกและคาดหวังให้ลูกเติบโตไปมีอนาคตที่ดี บางคนอาจตั้งความหวังไว้ไม่มาก เช่น แค่ลูกแข็งแรงและมีความสุขก็พอแล้ว พ่อแม่บางคนอาจหวังขึ้นมามากอีกหน่อย คืออยากเห็นลูกเป็นคนดี หาเลี้ยงตัวเองได้ แต่พ่อแม่บางคนก็ตั้งความหวังกับลูกไว้สูงลิบ อยากเห็นลูกเรียนเก่ง เป็นอัจฉริยะ ร่ำรวย มีชื่อเสียง ซึ่งสิ่งที่พ่อแม่คาดหวังส่วนใหญ่จะสะท้อนออกมาผ่านการเลี้ยงดูของพ่อแม่เอง เพราะฉะนั้นยิ่งหวังมาก ลูกก็ต้องแบกรับความคาดหวังของพ่อแม่มาก ความเสี่ยงก็มีมาก เพราะคนที่จะประสบความสำเร็จขั้นสุดหรืออัจฉริยะได้มีแค่หยิบมือเท่านั้น เมื่อเสี่ยงมากก็มีโอกาสผิดหวังมากด้วย และเมื่อมีโอกาสผิดหวังมาก็เครียดมากตามไปอีกจริงไหม เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราเลี้ยงลูกเป็นเพียงคนปกติที่มีความสุขได้ทั้งกับเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ อาจจะไม่ต้องเก่งกาจมากมาย ปรับตัวได้ ลุกขึ้นสู้เป็น ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะที่รู้ทุกเรื่องบนโลก แต่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ชอบอะไรไม่ชอบอะไร และเป็นคนดีพอประมาณ คือมีความรักให้คนรอบข้างแต่ก็ไม่ได้ดีเหมือนนางเอกในละครที่ยอมให้ใครต่อใครมาเบียดเบียนหรือรังแก หากคุณพ่อคุณแม่อยากเลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติแบบนี้แล้ว […]