Into The Magic Shop หนังสือที่จองกุก BTS ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง Magic Shop

Into The Magic Shop ฉบับแปลไทยมีชื่อว่า เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Amarin How-to และเป็นหนังสือที่จองกุก วง BTS ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงด้วย

จองกุก แต่งเพลง Magic Shop ขึ้นมาเพื่อช่วยปลอบโยนจิตใจของแฟนคลับ (อาร์มี่) ในวันที่รู้สึกแย่ รู้สึกเกลียดตัวเองหรืออยากหายไปตลอดกาล เปรียบเสมือนร้านเวทมนตร์แห่งนี้เป็นที่พักพิง เป็น Safe zone ที่ไม่ว่าจะเจ็บปวดหรือเหนื่อยจากเรื่องไหนมาก็เข้ามาพักที่ร้านเวทมนตร์นี้ได้เสมอ

จองกุกได้พูดถึงเพลงนี้ในงานเปิดตัวอัลบั้ม LOVE YOURSELF เอาไว้ว่า 

อัลบั้มนี้มีเพลงที่เราแต่งให้แฟนคลับชื่อว่า Magic Shop เป็นเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความรักและความในใจที่เรามีต่อแฟนคลับ เมื่อคุณรู้สึกเหนื่อย ถ้าคุณเปิดประตูคุณจะพบกับ Magic Shop และ BTS กำลังรอคุณอยู่ และพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณ ผมหวังว่าแฟนๆ จะมีความสุขและได้รับกำลังใจจากเพลงนี้ โปรดเดินเข้ามาที่ Magic shop เมื่อคุณเจอปัญหาครับ

 

Into The Magic Shop เป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไร

เป็นเรื่องราวของ จิม เด็กชายวัย 12 ปีที่บ้านมีฐานะยากจน พ่อติดเหล้าและชอบทำร้ายร่างกายแม่ ส่วนแม่ป่วยออดๆ แอดๆ และเป็นโรคซึมเศร้า รวมถึงพี่ชายที่ชอบเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร วันหนึ่ง จิมปั่นจักรยานไปทั่วเมืองเพื่อตามหาซื้อปลอกนิ้วมายากลที่เขาทำหาย กระทั่งไปเจอร้านมายากลแห่งหนึ่ง

จิม ผลักประตูเข้าไปในร้านและได้พบกับ รูธ หญิงชราผู้เป็นแม่ของ นีล เจ้าของร้านมายากล น่าเสียดายที่รูธไม่สามารถหาปลอกนิ้วมายากลให้เขาได้เพราะนีลไม่อยู่ และเธอก็ไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นอยู่ที่ไหน

แต่รูธได้ยื่นข้อเสนอให้กับจิมว่า ถ้าจิมยอมมาหาเธอที่ร้านมายากลตลอด 6 สัปดาห์นับจากนี้ เธอจะสอนมายากลอย่างหนึ่งให้เขา มายากลที่หาซื้อไม่ได้ตามร้าน และใครจะรู้ว่ามันสามารถเปลี่ยนชีวิตเขาไปได้ตลอดกาล…

ผ่อนคลายร่างกาย

กลของรูธข้อแรก เธอสอนให้จิมรู้จักร่างกายของตัวเอง รู้ว่านิ้วเท้าขยับอยู่ เพ่งความสนใจไปที่จุดจุดเดียว มีสมาธิไม่ว่อกแว่กต่อสิ่งรบกวนต่างๆ เรียนรู้การกำหนดลมหายใจและการผ่อนคลายเพื่อรับรู้การตอบสนองของสมองและร่างกายต่อความเครียด เมื่อจิมมีอาการโกรธ เศร้า กดดัน หรือเครียด เขาจะสามารถใช้กลข้อนี้ในการจัดการอารมณ์เหล่านั้นได้

กำจัดเสียงในหัว

รูธบอกว่าเราทุกคนมีเสียงที่อยู่ในหัวตลอดเวลา เสียงที่คอยบอกว่าเราเป็นใคร เราต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน ตั้งแต่วินาทีที่ตื่นนอนจนเข้านอน เสียงจะอยู่ตลอด เหมือนดีเจที่คอยบอกว่าจะมีอะไรต่อ มีรายการต่างๆ มาให้เราฟังทุกวินาทีของวัน บางครั้งเราก็ชินกับมันจนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าวิทยุในหัวของเรานั้นเสียงดังอยู่ตลอดเวลาและไม่เคยปิดเลย

กลข้อนี้ของรูธจะทำให้จิมปิดเสียงดีเจในหัวของเขาได้ ด้วยการใช้มนตร์ นั่นคือการคิดวลีหรือคำขึ้นมาคำหนึ่งที่พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือการจ้องเปลวเทียนที่จะช่วยให้ความคิดไม่ว่อกแว่ก ผลของการทำสิ่งนี้จะทำให้ความคิดจริงๆ ของเรากระจ่างชัดขึ้นมา

เปิดหัวใจให้เชื่อมโยงกัน

ลองคิดถึงคนที่มอบความรักให้คุณอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่จำเป็นต้องเป็นความรักที่สมบูรณ์แบบหรือเป็นความรักที่ไม่มีความเจ็บปวดเลย แต่หมายถึงการที่มีใครสักคนที่รักคุณโดยไม่เห็นแก่ตนเองเลยสักครั้ง และหายใจเข้า-ออกช้าๆ  และสัมผัสพลังของความรักนั้นและยอมรับความห่วงใย

จากนั้นลองคิดถึงคนที่คุณห่วงใย แล้วส่งความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขนั้นไปให้คนคนนั้น และมันจะทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่ามีคนห่วงใยปกป้อง และลองพิจารณาดูว่าตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไร การทำแบบนี้จะทำให้หัวใจได้เปิดออก และหัวใจที่เปิดแล้วจะเชื่อมโยงกับหัวใจของผู้อื่น และสิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

อยากได้อะไรมากที่สุดในชีวิต

กลข้อสุดท้ายของรูธเปรียบเสมือนขอพร 3 ข้อจากตะเกียงวิเศษ และแน่นอนสิ่งที่จิมขอเป็นอย่างแรกเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก “เงิน” รูธไม่ได้ให้จิมคิดถึงแต่เงินจำนวนมากเท่านั้น แต่ให้คิดภาพตัวเองตอนที่มีเงินมากมาย ลองจินตนาการว่าโลกของเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อเขามีเงินหนึ่งล้านดอลลาร์

จิมหลับตาและพยายามคิดถึงอนาคต เขามองเห็นรถหรูที่เขาอยากได้ แต่ไม่สามารถจินตนาการภาพตัวเองเวลาขับรถได้ รูธบอกว่ามันต้องใช้การฝึก ต้องใช้เวลา และฝึกให้มากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วจิมจะรับรู้ได้ถึงช่วงเวลาที่ได้จับพวงมาลัยหนัง ในรถมีกลิ่นอะไร วิวข้างทางคือที่ไหน และร่างกายรู้สึกอย่างไรตอนขับรถอยู่

ถึงแม้ว่าจิมจะไม่สามารถจินตนาการภาพตัวเองรวยได้ในตอนนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาตอบออกมาอย่างมั่นใจว่า “อยากเป็นหมอ” เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้เป็นหมอ ต้องเรียนเก่งขนาดไหน หรือมีทุนทรัพย์เท่าไร จิมไม่เคยรู้เลย แต่เขารู้อย่างเดียวว่ามันจะต้องเกิดขึ้น

เวทมนตร์อยู่ในใจของเราทุกคน

กลของรูธเป็นพลังที่อยู่ในตัวพวกเราทุกคนและรอเพียงการปลดปล่อยออกมาเท่านั้น มันเป็นของขวัญที่เราให้แก่กันและกันได้ จิมได้เริ่มต้นภารกิจการค้นหาความลึกลับของสมองและความลับของหัวใจในร้านมายากล แต่ความจริงคือ เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปในร้านมายากลเพื่อตามหาสิ่งเหล่านั้น เราเพียงแต่มองเข้าไปข้างในจิตและใจของเรา

สมองและหัวใจที่ทำงานด้วยกันจะทำให้เกิดกลที่วิเศษที่สุด มันไม่เกี่ยวกับการ ลวงตาหรือกลมือใด ๆ กลนี้คือความจริง และเป็นกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณก็ทำได้

ข้อมูลจากหนังสือ เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ

วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

สั่งซื้อออนไลน์ คลิก

บทความอื่นๆ

บทเรียนแห่งชีวิตจาก จอห์น โอเลียรี่ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจระดับโลก

8 หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ จากคนดังและองค์กรชั้นนำทั่วโลก

บทเรียนและข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตจากคนดังระดับโลก

Factfulness ฉบับแปลไทย! หนังสือที่บิล เกตส์มอบให้นักศึกษาจบใหม่ทุกคน

ใช้ชีวิตให้มีความสุข ด้วยการเลิกทำสิ่งเหล่านี้