[ทดลองอ่าน] เจ้าแมวน้อยกับดอกกุหลาบแสนสวยของเขา ตอนที่ 6

猫咪的玫瑰
เจ้าแมวน้อยกับดอกกุหลาบแสนสวยของเขา

 

一十四洲 (อีสือซื่อโจว) เขียน
จิงจิง แปล
Caring Wong ภาพ

 

– โปรย –

การที่ถูกดีดออกจากยานหลักและติดอยู่ในหลุมดำ
ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของยานเขตหกตึงเครียดถึงขีดสุด
หลังจากหลินซือสลบไปเพราะถูกรังสีอันแรงกล้าจากหลุมดำ
พอฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าเกิดเรื่องวิกฤติขึ้นแล้ว

เพราะร่างทดลองที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมร่างหนึ่งดันตื่นขึ้นมา
เดาว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะรังสีจากหลุมดำที่ทำเขาสลบไปนั่นแหละ
แต่นอกจากจะไร้ความทรงจำ และมีท่าทางไม่เป็นมิตรแล้ว
หลิงอีก็ยังทำเขาไหล่หลุดอีกด้วย!

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่
เพจ >> Rose Publishing
ทวิตเตอร์ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

6

สู่ดาวแม่อันไกลโพ้น (2)

 

การกลายพันธุ์ของหลิงอียังไม่นับว่าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ดี ร่างกายจะค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเชื่องช้า ด้วยเหตุนี้เวลานอนจึงยาวนานเป็นพิเศษ หลินซือเพิ่งก้าวขึ้นเตียงไม่ทันไร หลิงอีก็ทนไม่ไหวสัปหงกไปเสียก่อน สุดท้ายจึงผล็อยหลับไป

เมื่อหลับสนิท จากตอนแรกที่คุดคู้อยู่อีกฟากของเตียงก็เริ่มพลิกตัวขยับ แล้วกลิ้งมานอนข้างกายหลินซือ ศีรษะซบลงบนแผงอกเขาพอดิบพอดี

อุปกรณ์สื่อสารของหลินซือสั่นครืดเบา ๆ

‘คุณหลิน ฉันดูข้อมูลแล้ว แต่ยังต้องขอยืนยันข้อมูลส่วนอื่นอีกนิดหน่อย’

เป็นข้อความจากคุณนายเฉิน

ช่างไม่เหมือนจอมพลเอสยอร์ชผู้เต็มไปด้วยความก้าวร้าว คุณนายเฉินคือนักวิชาการ นักคณิตศาสตร์ผู้เฉลียวฉลาด สงบเงียบและจิตใจอารีท่านหนึ่ง แต่กระนั้นก็ไม่ได้แปลว่าเธอขาดพลังความเข้มแข็งของบุรุษเพศ ในทางกลับกัน มันหมายถึงว่าเธอตัดสินใจอย่างรอบคอบมากกว่า ชวนให้ผู้คนศรัทธาและเชื่อถือ

หลินซือตอบกลับ ‘ครับ คุณนาย’

‘คุณตัดสินใจดูแลเขาเพราะตัวตนของเขาหรือเปล่า’

‘ระบบจะสุ่มเลือกร่างทดลองเอง ตอนที่ผมเห็นข้อมูล เขาก็ถูกดำเนินการคัดแยกคุณลักษณะไปแล้ว ตอนตั้งค่าระบบคัดกรองร่างทดลอง ไม่ได้ตั้งค่าอายุขั้นต่ำไว้ มันเป็นความผิดของผมเอง แต่ไม่ว่าหลิงอีจะเป็นใคร ผมก็ยังเลือกที่จะดูแลเขาไปจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะครับ’

‘โอเค’

หลังจากข้อความสั้นกระชับนี้ หลินซือยังคงเฝ้ารอข้อความถัดไป แต่จนแล้วจนรอดคุณนายเฉินก็ไม่ส่งข้อความอะไรมา กระทั่งราวสามนาทีต่อมา หน้าจอฮอโลแกรมก็ปรากฏตัวหนังสือลอยขึ้นมาแถวหนึ่ง

‘หลินซือ คุณทะเลาะกับท่านจอมพลมาตลอด ปีนี้วอยเอเจอร์ได้จากดาวแม่มาหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดปีแล้วนะ คุณยังดำเนินชีวิตไปพร้อมกับความเจ็บปวดอยู่อีกเหรอ’

‘ถ้าจอมพลไม่พุ่งเป้ามาที่ผม ผมก็จะมีความสุขมาก’ เขาเลี่ยงโดยการตอบติดตลกเพื่อปัดข้อสงสัย

‘ฉันคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบที่แท้จริง’ คุณนายเฉินจับสังเกตได้อย่างชัดเจน

หลินซือเงียบไปสักพัก แล้วพิมพ์ตอบ ‘ครับ’

คุณนายเฉินเงียบไปหนึ่งนาที จากนั้นค่อยส่งข้อความกลับมา ‘คุณได้รับสิทธิ์เป็นผู้ปกครองเขาก่อนจะบรรลุนิติภาวะ ฉันหวังว่าชีวิตน้อย ๆ ของเด็กคนหนึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างนะ’

‘ขอบคุณครับ’

ข้อความสนทนาสิ้นสุดลง หลินซือปิดอุปกรณ์สื่อสาร แล้วปิดไฟที่สาดแสงจ้าภายในห้อง

ทั่วทั้งห้องมืดสนิท เนิ่นนานที่ไม่อาจข่มตาหลับ ข้างกายมีเพียงเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาของหลิงอี

 

หลิงอีกำลังฝัน

ฝันว่าแหงนหน้าขึ้น จึงได้เห็นทิวทัศน์เหนือศีรษะที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ไม่เหมือนเพดาน มันทั้งสูง ทั้งหนา และเป็นสีเทา จู่ ๆ ตัวอักษรแปลกตาคำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมอง

ท้องฟ้า

หลิงอีหยุดยืนอยู่หน้าบางสิ่งที่มีลักษณะสูงใหญ่และกลมมน ก่อนผู้หญิงคนหนึ่งจะวางมือบนลาดไหล่เล็ก

“ลูกรัก วันนี้พ่อกับแม่มารับลูกไม่ได้แล้วนะครับ”

แม้หลิงอีจะเห็นใบหน้าเธอไม่ชัดนัก แต่ก็ได้ยินเสียงของเธอชัดเจน

หลิงอีพยายามขยับเข้าไปใกล้ คิดจะมองให้ชัด ๆ แต่ในชั่วพริบตานั้นกลับตื่นจากห้วงฝันขึ้นมาเสียก่อน

“ทำงานได้แล้ว ลุกขึ้นมาทำงานได้แล้ว” มีคนลากเสียงร้องตะโกนไปทั่วโถงทางเดิน

ถึงแม้ออกจากโลกมนุษย์มาแล้ว แต่บนยานอวกาศยังคงยึดระบบเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ ได้เวลาตื่นตอนหกโมง แล้วเริ่มทำงาน

เมื่อหลิงอีลืมตาตื่น จึงพบว่าหลินซือไม่อยู่ข้างกายแล้ว

มือเล็กขยี้ดวงตา ส่งเสียงร้องเรียก “หลินซือ…”

หลินซืออยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง หลังได้ยินเสียงเรียกจึงสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนข้างเตียง แล้วถาม “ใส่เสื้อผ้าเป็นไหม”

เมื่อวานเขตห้านำลูเซียกลับไปดำเนินการอัปเกรด จึงไม่สามารถดูแลชีวิตประจำวันของหลิงอีได้ชั่วคราว

หลิงอีพยักหน้ารับ

บิดดี้เตรียมเสื้อผ้าขนาดพอดีตัวหลิงอีไว้ให้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน เนื่องจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ทำให้สิ่งทอและการตัดเย็บสูญหายไป แต่ใช้เทคโนโลยีประเภทการพิมพ์สามมิติผลิตเสื้อผ้าแทน ขอเพียงป้อนรูปแบบเข้าไป มันก็จะผลิตออกมาได้อย่างรวดเร็ว

หลิงอีกลัดกระดุมเสร็จ พบว่ายังเหลือสายคาดสีน้ำตาลอยู่เส้นหนึ่ง ความที่ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร จึงได้แต่เงยหน้าขึ้นมาสบตาอ้อนวอนหลินซือ

หลินซือดึงสายคาดออกจากมืออีกฝ่าย พันรอบคอเสื้อ แล้วจับผูกเป็นหูกระต่ายไว้ด้านหน้า

นิ้วมือเรียวยาว ท่วงท่าในการผูกหูกระต่ายก็ดูคล่องแคล่วและสง่างาม หลิงอีรู้สึกมหัศจรรย์มาก ที่แท้มือของหลินซือไม่เพียงใช้ปลายเข็มทิ่มแทงร่างกายตัวเองเท่านั้น หากยังทำเรื่องพรรค์นี้เป็นด้วยเช่นกัน

หลินซือผูกเสร็จแล้วก็ดึงออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพูดราบเรียบ “ทำเป็นหรือยัง”

ความทรงจำหลิงอีเมื่อสักครู่นี้ล้วนโฟกัสอยู่ที่มือของหลินซือเสียหมด ไร้ภาพจำใด ๆ ทั้งสิ้น จึงหลับหูหลับตาใช้สายคาดสองด้านพันทบไปมาสองสามครั้ง จากนั้นค่อยเงยหน้ามองหลินซือ

ใบหน้าเล็กแสนสวย ประกอบด้วยนัยน์ตาสีดำขลับฉ่ำวาว ยิ่งดูคล้ายลูกแมวตัวน้อย ๆ เข้าไปใหญ่

“…”

หลินซือแก้เงื่อนตายที่หลิงอีผูกไว้ จากนั้นก็แสดงให้ดูเป็นตัวอย่างอีกรอบ เจ้าสิ่งเล็ก ๆ ได้แต่พยักหน้ารับคล้ายเข้าใจระคนไม่เข้าใจ

ผูกหูกระต่ายเสร็จ สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ถัดมาก็ย่ำเท้าลงไปในรองเท้าบู๊ตข้อสั้นสีน้ำตาล เสื้อผ้าที่บิดดี้ตระเตรียมไว้ให้สไตล์ค่อนข้างย้อนยุค ทำให้หลิงอีคล้ายคุณชายน้อยในคฤหาสน์บนโลกมนุษย์เมื่อครั้งโบราณกาล

หลินซือเปิดลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำในวันนี้

ก่อนอื่นต้องไปยุบกลุ่มทดลอง ‘limitless’ ระยะที่สอง จัดแบ่งเจ้าหน้าที่ให้กระจายไปตามโปรเจ็กต์อื่น ๆ จากนั้นก็ยังมีโปรเจ็กต์ที่ร่วมมือกับเขตห้า และสุดท้ายต้องพาหลิงอีไปรายงานตัวที่เขตสาม

จริงอยู่ที่หลินซือได้รับสิทธิ์เป็นผู้ปกครอง แต่จอมพลเอสยอร์ชต้องการให้คอยจับตาดูเขากับหลิงอีอย่างละเอียด นอกจากนี้เด็กน้อยจะต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้การใช้ร่างกายของตัวเอง สำหรับด้านนี้แล้ว ชัดเจนว่ากองทัพเชี่ยวชาญกว่าเขตหกมาก

หลินซือตั้งใจให้หลิงอีทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในยานอวกาศก่อนสักหน่อย จากนั้นค่อยพาไปที่เขตสาม

เขาแสดงภาพฮอโลแกรมสามมิติของยานอวกาศ หลิงอีจับจ้องด้วยสายตาใคร่รู้

เขตหนึ่งเป็นพื้นที่วิจัยทางคณิตศาสตร์กับฟิสิกส์ คุณนายเฉินเองก็อยู่ที่นี่ หัวใจหลักของเขตหนึ่งคือเครื่องจำลองเอกภพขนาดใหญ่ โดยใช้สุดยอดสมองกลอัจฉริยะทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยเครื่องช่วยคำนวณ จำลองสภาพแวดล้อมในจักรวาลบริเวณรอบ ๆ ยานอวกาศเป็นระยะทางหลายพันปีแสง ซึ่งยาน ‘วอยเอเจอร์’ จะกำหนดเส้นทางตามเครื่องนี้ เขตสองมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลวางแผนและควบคุมพลังงานกับวัสดุ ขณะเดียวกันยังเป็นพื้นที่ติดตั้งวาร์ปไดรฟ์หลัก

เขตสามเป็นของกองทัพ มียานอวกาศขนาดเล็กและยานบรรทุกหน่วยจู่โจมจำนวนมาก มักจะดำเนินการฝึกซ้อมทหารนอกยาน

เขตสี่ถูกสละทิ้งไปแล้ว เขตห้ามีขนาดใหญ่โตที่สุด เป็นเขตอุตสาหกรรมเครื่องจักรที่เจิ้งซูคอยดูแลควบคุมอยู่ และมีโปรเจ็กต์เกี่ยวเนื่องกับอีกหลาย ๆ เขต ส่วนเขตเจ็ดก็ถูกสละทิ้งไปแล้วเช่นกัน

เขตแปดคือฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ มีเครื่องเมนเฟรมสำรองขนาดมหึมา สำหรับเก็บข้อมูลความรู้ทั้งหมดที่ ‘วอยเอเจอร์’ สามารถบันทึกไว้ได้ก่อนจากโลกมา

“อย่าไปเขตเก้าล่ะ ข้างในมีแต่ร่างแช่แข็ง” หลินซือบอก

เขาเห็นแววตาคล้ายเข้าใจระคนไม่เข้าใจของหลิงอี จึงใช้ภาษาที่เด็กน้อยฟังเข้าใจง่าย ๆ สำทับขึ้นมาหนึ่งประโยค “มีหลายคนกำลังนอนหลับอยู่ในเขตเก้า อย่าไปรบกวนพวกเขา”

หลิงอีพยักหน้า

หลังจากนั้นหลินซือก็หยิบอุปกรณ์สื่อสารเครื่องใหม่ออกมา อุปกรณ์สื่อสารนี้ดูเผิน ๆ เหมือนกำไลข้อมือสีเงินธรรมดาทั่วไป หลินซือนำไปรัดบนข้อมือของหลิงอี พลางสั่งว่า “ตอนฉันไม่อยู่ ถ้าเจอเรื่องที่แก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ ให้ใช้เครื่องนี้ติดต่อไปหาบิดดี้ ตอนที่บิดดี้แก้ปัญหาไม่ได้ ให้ติดต่อไปหาเจิ้งซูคนที่เห็นเมื่อวาน แค่ตะโกนชื่อใส่มันก็พอ”

เขาเว้นจังหวะไปชั่วขณะแล้วกำชับต่อ “บนยานอวกาศ ให้นายเชื่อใจฉันเป็นอันดับแรก รองลงมาให้เชื่อใจเจิ้งซู”

หลิงอีพยักหน้ารับหงึกหงัก

อธิบายเรื่องสำคัญจบ หลินซือก็เตรียมตัวพาหลิงอีไปยังเขตสาม

ทันทีที่เขากำลังจะเปิดประตูนั้น อุปกรณ์สื่อสารของหลินซือก็พลันสั่นครืดขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

ไม่ใช่ข้อความ หากแต่เป็นสายเรียกเข้า

หลินซือรับสาย บนจอฮอโลแกรมปรากฏภาพใบหน้าของคุณนายเฉิน แววตาเธอเคร่งขรึม ทั้งยังเอ่ยคำฉับไว

“หลินซือ วางธุระในมือคุณลงเดี๋ยวนี้ เขตหนึ่งเกิดอุบัติเหตุปนเปื้อนนิวตรอนระดับเจ็ดขณะทดลองปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น”

หลินซือส่งเสียงตอบรับสั้น ๆ “ครับ” จากนั้นก็ตัดสายคุณนายเฉิน แล้วพูดกับอุปกรณ์สื่อสารว่า “เปิดวิทยุกระจายเสียงทั่วเขต”

ครึ่งวินาทีให้หลัง อุปกรณ์สื่อสารทั่วทั้งเขตก็ถูกบังคับเชื่อมต่อ

“เจ้าหน้าที่เขตหกทุกคน” น้ำเสียงเขาเย็นยะเยือกและเรียบนิ่งคงเส้นคงวา ทว่าใคร ๆ ต่างก็ฟังออกถึงความร้ายแรงของสถานการณ์

“เขตหนึ่งมีการปนเปื้อนนิวตรอนระดับเจ็ดฉับพลัน ใช้แผนรับมือการปนเปื้อนนิวเคลียร์ที่สาม เตรียมอุปกรณ์พันธุกรรมบำบัด”

เขาหันมองหลิงอีแล้วเอ่ย “โทษที ฉันต้องออกจากเขตหก” เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะหลิงอี “รอฉันกลับมานะ”

เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน พอเขาเปิดประตูก็ปะทะกับบิดดี้ซึ่งกำลังวิ่งตามมาอย่างเร่งรีบเช่นกัน

“คุณหลิน” เธอร้องเรียก “ยานเล็กเข้าประจำที่แล้ว เรารีบไปกันเถอะ”

ประตูห้องปิดลงตรงหน้า หลิงอีมองประตูที่ปิดสนิท สลับมองห้องที่ว่างเปล่าอีกครั้ง หลุบตาลง เบะปาก ท่าทางคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ สุดท้ายก็สลัดรองเท้าบู๊ตทิ้ง แล้วกลับขึ้นไปนอนขดตัวบนเตียงอีกครั้ง

แต่กลับนอนไม่หลับ ทำได้เพียงกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างไม่เป็นสุข ครุ่นคิดในใจว่าหลินซือคนนั้น ไม่หยิบเข็มมาแทงตนก็ปล่อยตนทิ้งไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า สมกับเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดในยานจริง ๆ เชียว

สายตรงคอนี่ก็รัดแน่นชะมัด ตอนแรกก็นึกอยากจะกระชากออกอยู่หรอก แต่พอย้อนภาพที่หลินซือช่วยผูกหูกระต่ายนี้ให้แล้วจึงแค่นเสียง “หึ” อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะลดมือลง

 

สาเหตุที่ยาน ‘วอยเอเจอร์’ โคจรรอบดาวเคราะห์ TN-III เป็นเวลานานเช่นนี้ เนื่องจากเขตหนึ่งต้องทำการทดลองปฏิกิริยาฟิวชั่นที่สำคัญมากโปรเจ็กต์หนึ่ง

เพราะการทดลองมีอัตราเสี่ยงสูงมากเกินไป เขตหนึ่งจึงถอยห่างจากยานหลักมาตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเลือกที่จะดำเนินการทดลองในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว นี่นับเป็นแผนการที่ชาญฉลาดมาก

เขตหนึ่งกับเขตห้ามีหน้าที่แก้ปัญหาสารกัมมันตรังสีตกค้าง ส่วนหน้าที่ของเขตหกมีอย่างเดียวคือ การช่วยเหลือผู้คน

เมื่อกระแสนิวตรอนไหลผ่านร่างกายมนุษย์ รังสีจะทำอันตรายมหาศาล ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อ กระตุ้นอวัยวะให้ล้มเหลว หากยังทำลายสารพันธุกรรม ก่อให้เกิดผลกระทบทางกรรมพันธุ์ และนี่ก็อยู่ในขอบเขตงานของหลินซือพอดี

ดังนั้นพอกลับจากหลุมดำ หลินซือพักผ่อนได้เพียงคืนเดียว ก็ต้องกลับมาทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างไม่หยุดพักอีกครั้ง จำต้องซ่อมแซมสารพันธุกรรมของคนที่โดนรังสีภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด และรักษาอาการบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทดลองครั้งนี้คือบุคคลอัจฉริยะเหนือชั้นด้วยกันทั้งนั้น แม้จะสูญเสียไปแค่หนึ่งคนก็นับว่าเป็นการสูญเสียอันยิ่งใหญ่

หลังเข้าช่วยเหลือจนพ้นจากอันตรายมาได้ จึงโยกย้ายผู้บาดเจ็บทุกรายมายังเขตหก

สองวันเต็ม ๆ ผ่านพ้นไปกว่าผู้บาดเจ็บรายแรกจะลืมตาขึ้นมา ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบอันดับสองของโปรเจ็กต์นี้

“คุณแลมเบิร์ต ผมเสียใจที่ต้องบอกคุณว่า ถ้าคุณทำการทดลองอันตรายแบบนี้ต่อไป ผมจะแจ้งคุณนายเฉินให้ยุติโปรเจ็กต์ของคุณซะ” หลินซือถือรายงานดัชนีมวลกายของชายคนนี้ ขณะกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ยินดีด้วยที่ฟื้นครับ ต่อไปผมขอแจ้งอาการบาดเจ็บในร่างกายแต่ละส่วนของคุณนะครับ…”

“คุณหลิน ฟังผมพูดก่อน คุณหลิน!” ผู้ชายคนนี้แสดงท่าทางตื่นเต้น ทว่าหลินซือกลับดันแว่นตาขึ้นเท่านั้น หาได้สนใจเสียงร้องตะโกนฟังดูอ่อนแรงนั่นแต่อย่างใด

“ระบบประสาทส่วนกลางของคุณได้รับ…”

“ไม่ ๆ ๆ คุณหลิน ผมซาบซึ้งมากที่สุดช่วยผมกลับมา แต่คุณต้องฟังผมพูดก่อน”

“ส่วนเลนส์แก้วตาคุณมีอาการซับซ้อนมาก….”

“คุณหลิน!”

ในที่สุดหลินซือก็ยอมหยุด แล้วพูดขึ้น “ร่างกายของคุณตอนนี้ไม่เหมาะที่จะพูดเสียงดังนะครับ”

“ไม่ คุณหลิน” นัยน์ตาแลมเบิร์ตฉายแววร้อนรน “คุณรู้ไหม พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”

“ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันน่ะเหรอ”

“ไม่ใช่แค่ปฏิกิริยาฟิวชัน แต่เราถึงขั้นโค่นรูปแบบปฏิกิริยาฟิวชันดั้งเดิม ต่อไปวอยเอเจอร์ก็ไม่ต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างกาแล็กซีเพื่อรับเอาสารตั้งต้นแล้ว เสียเวลาเดินทางอันล้ำค่าของเราเปล่า ๆ! เราบรรลุการทำฟิวชันขั้นสุดยอดแล้ว แค่มีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบหลัก ปฏิกิริยาของมันจะเหมือนภายในของดาวฤกษ์อย่างกับแกะ! ออกซิเจน[1]น่ะ ตรงไหนในห้วงอวกาศบ้างที่ไม่มีมัน”

แลมเบิร์ตใบหน้าแดงระเรื่อเพราะตื่นเต้นสุดขีด ทั้งยังกระโดดโลดเต้นอยู่บนเตียงด้วยความดีใจ “คุณหลิน คุณรู้ไหมว่านี่หมายความว่าไง”

หลินซือจดจ้องเขานิ่ง “พลังงานที่ไร้ขีดจำกัด”

“ใช่!” แลมเบิร์ตทุบเตียงอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็แย้มยิ้มกว้างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้า

หลินซือฝืนยิ้มด้วยความยากเย็น ฝืนใจก้าวเข้าไปแปะมือกับเขา

“ต่อไปการเดินทางของพวกเราก็ไม่ต้องถูกจำกัดเพราะพลังงานอีกแล้ว จะได้เดินทางไปยังดาวเคราะห์ปลายทางด้วยความเร็วเต็มสูบสักที” แลมเบิร์ตตื่นเต้นขนาดหนัก ทว่าหลังจากนั้นเพียงเสี้ยวนาที อารมณ์กลับดิ่งวูบลงมาเสียจนน่าประหลาด “ผมอยากให้โลกข้างหลังเราได้มีโอกาสเห็นสิ่งเหล่านี้มาก ๆ การดิ้นรนต่อสู้ของลูก ๆ ที่รอดชีวิตของเธอ ดาวแม่ของพวกเรา…”

หลินซือทอดมองไปยังทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่นอกหน้าต่าง “เธอต้องเห็นมันแน่”

 

 

[1] ณ ที่นี้หมายถึงอะตอมของออกซิเจน (O) ที่ไม่ใช่โมเลกุลออกซิเจน (O2) ในอวกาศมีอะตอมของออกซิเจน แต่ที่บอกว่ามนุษย์หายใจในอวกาศไม่ได้เพราะไม่มีออกซิเจน นั่นคือไม่มีออกซิเจนในเชิงพันธะ (O2) ที่มนุษย์จะหายใจเข้าไปได้

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า