幼崽护养协会
ผมจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่อนุบาลสัตว์ เล่ม 2
酒矣 (Jiu Yi)
เขียน
ชาเย็น Lover
แปล
— โปรย —
ด้วยความช่วยเหลือของเซี่ยหลวน
อนุบาลสัตว์ สาขาอวิ๋นเป่า พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
มีเหล่าลูกสัตว์สมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามามากมายในสาขา
การที่ได้ดูแลและอยู่กับเจ้าพวกตัวน้อยทั้งหลาย|
ทำให้เซี่ยหลวนเริ่มเข้าใจทีละนิด
ว่าเพราะอะไรเขาถึงถูกเลือกให้มาทำหน้าที่พี่เลี้ยงลูกสัตว์ ณ อวกาศแห่งนี้
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 48
วันที่สี่สิบแปดในฐานะพี่เลี้ยง
อัญมณีทรงรีเม็ดนี้มีสีดุจแสงจันทร์ละมุนละไม รายล้อมด้วยประกายแวววาวงดงามสมชื่อหินจันทราอย่างไร้ข้อกังขา
และเวลานี้ลูกสัตว์ตัวกลมขนปุกปุยก็ใช้ปากคาบอัญมณีเม็ดนี้มาพร้อมกับแหงนหน้าประชิดตัวชายหนุ่ม เห็นได้ชัดว่าลูกน็อกซ์อยากจะมอบอัญมณีที่คาบอยู่ให้เขา
“ฮู่ววว”
ลูกน็อกซ์เข้ามาใกล้อกของชายหนุ่ม แต่ไม่ได้ซบลงบนนั้น มันเพียงคาบอัญมณีไว้พลางร้องงึมงำเบา ๆ เป็นครั้งที่สองเท่านั้น
เซี่ยหลวนก้มหน้ามองลูกสัตว์ที่กำลังเงยหน้าจ้องเขาอย่างใจจดใจจ่อด้วยนัยน์ตาเรียวรีสีฟ้าอ่อนคู่นั้น ลูกน็อกซ์พยายามโชว์อัญมณีให้เขาเห็น เซี่ยหลวนจึงใจอ่อนยวบอย่างห้ามไม่อยู่
เขายกตัวลูกสัตว์ที่แทบจะซบอยู่กับอกขึ้นมาเล็กน้อย แล้วแกะเชือกผ้าคลุมที่ผูกตรงคอของมันออก
เพราะตอนนี้อยู่ในห้องพักของโรงแรมจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า
เมื่อไร้ผ้าคลุม ขนอันปุกปุยของลูกสัตว์ก็ปรากฏแก่สายตาของเซี่ยหลวนเต็มตา
เขายกมือขึ้นลูบหลังของลูกน็อกซ์ หลังจากลูบไปสองครั้งจึงยื่นมือขวาไปตรงหน้ามัน
เซี่ยหลวนเพิ่งยื่นมือออกไป ลูกน็อกซ์ก็ก้มหน้าวางอัญมณีรูปวงรีที่คาบไว้ลงบนฝ่ามือของเขา
เซี่ยหลวนรู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็น ๆ ของอัญมณีเม็ดนี้ในทันที แต่ผ่านไปเพียงชั่วครู่ก็รู้สึกว่าอุณหภูมิของอัญมณีรูปวงรีเม็ดนี้ค่อย ๆ เปลี่ยนมาใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกายเขา และเผยสีสันละมุนละไมเพิ่มขึ้นจาง ๆ
นี่คืออัญมณีอะไร ขณะที่เซี่ยหลวนมองรูปร่างภายนอกของอัญมณีเม็ดนี้ก็ได้คำตอบขึ้นรางๆ ในใจแล้ว
ดูจากลักษณะของมัน อัญมณีเม็ดนี้ตรงตามคำบรรยายที่เขาเพิ่งได้ยินก่อนหน้า
และเพราะลักษณะสอดคล้องต้องกัน ความรู้สึกของเซี่ยหลวนในตอนนี้จึงหวั่นไหวเล็กน้อย
น็อกซ์ตัวนี้ไม่ใช่ลูกสัตว์ แต่เป็นน็อกซ์ที่โตเต็มวัยแล้ว…
คิดไปถึงฝุ่นที่เปื้อนอยู่บนผ้าคลุมเล็กสีดำผืนนั้น และนึกถึงกิจกรรมค้นหาอัญมณีที่ได้ยินคนเดินถนนพูดก่อนหน้านี้อีกครั้ง เซี่ยหลวนก็รู้ว่าเมื่อครู่ที่น็อกซ์กลับคืนร่างลูกสัตว์จะต้องไปค้นหาอัญมณีในมือเขาที่สระจันทราเป็นแน่
ในระหว่างค้นหาผ้าคลุมเล็กถึงได้เปื้อนฝุ่นแบบนั้น
เมื่อเล่นอัญมณีวงรีในมือครู่หนึ่ง สัมผัสอบอุ่นของอัญมณีก็ส่งผ่านมาถึงมือของเซี่ยหลวน เขาสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นที่กำลังจับจ้องเขาอยู่
“หินจันทราเหรอ…” แม้จะค่อนข้างแน่ใจอยู่แล้ว เซี่ยหลวนก็ยังถามออกไป
“ฮู่ววว” ปลายหางปุกปุยกระดกขึ้นนิดหนึ่ง เวลานี้ลูกน็อกซ์ถึงได้ซุกอกของชายหนุ่มทีหนึ่ง แล้วร้องตอบงึมงำเบา ๆ
“ทำไมถึงอยากเอาให้ฉันล่ะ” แม้จะรู้สึกหวั่นไหวอยู่เล็กน้อย แต่เซี่ยหลวนเป็นคนสมองทึบกับเรื่องแบบนี้มาตลอด เขาจึงไม่เข้าใจปัญหาในข้อนี้
โดยมากหินจันทราใช้เป็นของแทนใจในเผ่าเงือก และจะมอบให้กันในเทศกาลเนเซร่าโดยเฉพาะ การกระทำแบบนี้ค่อนข้างมีความหมายทีเดียว
ตามหลักแล้วจะมอบให้มั่ว ๆ ไม่ได้ ทว่าเมื่อครู่เห็นท่าทางของน็อกซ์ที่คาบอัญมณีไว้และอยากจะมอบให้เขา เซี่ยหลวนก็รับรู้ถึงน้ำใจของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายจึงยื่นมือไปรับ
เขาไม่อาจตอบคำถามนี้ด้วยน้ำเสียงงึมงำแผ่วเบาอีกต่อไป ลูกน็อกซ์ที่ตอนแรกใช้เขาสองข้างดันตัวชายหนุ่มไว้เบา ๆ ก็ผละออกจากอกของชายหนุ่มเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะต้องการตอบคำถามด้วยภาษาที่ชัดเจนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะคำตอบนั้นสำคัญอย่างมาก ฉะนั้นเขาจึงต้องพูดมันด้วยตัวเอง
จู่ ๆ เจ้าตัวขนนุ่มปุกปุยที่เซี่ยหลวนอุ้มอยู่ก็อันตรธานหายไป เซี่ยหลวนยังไม่ทันได้ตั้งตัว วินาทีถัดมาก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นเย็นบางอย่างที่มุมปากก่อนผละออก
ราวกับถูกขนนกอ่อนนุ่มไล้เบา ๆ เซี่ยหลวนยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไรก็ได้ยินเสียงนุ่มทุ้มกล่าวเนิบช้าอยู่ใกล้ ๆ
“ชอบ”
สายตาที่ทำให้รู้สึกถึงความเย็นชาหลุบลงเล็กน้อย ยามเอ่ยคำนี้หางสีเงินด้านหลังของอัยห้อยลงอย่างนิ่ง ๆ แสดงถึงท่าทางจริงจังของเผ่าน็อกซ์
เซี่ยหลวนอึ้งกับคำสารภาพของน็อกซ์ตัวนี้อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเมื่อรู้ตัวว่าสัมผัสอ่อนโยนตรงมุมปากเมื่อครู่คืออะไร สมองเขาก็หยุดสั่งการไปพักใหญ่
กระทั่งสมองกลับมาใช้งานได้อีกครั้งเขาจึงยกมือขึ้นลูบเรือนผมสีเงินของน็อกซ์
นี่คงเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้เหมือนลูกนก เซี่ยหลวนคิด
เพราะคนแรกที่น็อกซ์ตัวนี้เห็นตอนเพิ่งกะเทาะออกจากเปลือกก็คือเขา และนอกจากรับรู้ถึงความหวังดีจากเขาแล้ว อีกฝ่ายก็รับรู้ถึงความหวังดีของคนอื่นได้น้อยมาก ดังนั้นมันจึงบอกว่าชอบเขา
คำว่าชอบของอีกฝ่ายเป็นความจริงอย่างแน่นอน แต่ตามความคิดของเซี่ยหลวนแล้ว ความชอบแบบนี้ไม่ใช่ความชอบแบบคนรัก
รอต่อไปภายภาคหน้า นอกจากเขา จะต้องมีคนที่ยินดีมอบความหวังดีให้น็อกซ์ตัวนี้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นมันคงจะหาคนที่ตัวเองชอบจริง ๆ เจอ
เมื่อเกลี้ยกล่อมตัวเองด้วยเหตุผลนี้แล้ว เซี่ยหลวนก็ค่อย ๆ สะกดกลั้นความรู้สึกแปลกประหลาดที่หลงเหลือจากสัมผัสตรงมุมปากลงได้
ความจริงแล้วเขาไม่เคยถูกใครจูบตรงมุมปากมาก่อน เรื่องนี้เซี่ยหลวนจึงต้องใช้เวลากลั่นกรอง
อัยที่ถูกชายหนุ่มลูบผมก้มหน้าลงอีกเล็กน้อยอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะหรี่ตาลงนิดหน่อย
ชายหนุ่มตรงหน้าคือสิ่งมีชีวิตที่สวยงามมาก เพราะถูกสิ่งมีชีวิตที่อบอุ่นเช่นนี้ดึงดูด อัยจึงไม่เคยละสายตาไปจากอีกฝ่ายเลย
ยิ่งเมื่ออยู่ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างจะพร่างพราวจับตายิ่งขึ้น นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ
สุดท้ายเซี่ยหลวนก็เก็บอัญมณีวงรีที่เป็นของขวัญชิ้นนั้นไว้อย่างดี พอเรื่องเมื่อครู่จบลง ชายหนุ่มจึงคิดว่าคืนนี้ควรจบลงได้แล้ว
ใต้สระน้ำเล็กในห้องพักของโรงแรมมีเตียงสำหรับลูกสัตว์ ตอนแรกเซี่ยหลวนคิดจะฮัมเพลงกล่อมลูกเงือกในสระเข้านอนก่อน ทว่าปฏิกิริยาของลูกเงือกกลับไม่เป็นไปตามที่เขาคิด
ระหว่างทางที่เซี่ยหลวนเดินหาโรงแรม ลูกเงือกที่ซุกในอกแสดงอาการอยากนอนเต็มแก่ แต่มาเวลานี้กลับดื้อดึงไม่ยอมเข้าไปนอนบนเตียงเปลือกหอย พอเขาเดินเข้าไปหาก็ยื่นมือมาจับชุดของเขาไว้
“ปะป๊า”
ลูกเงือกซึ่งว่ายอยู่ริมสระคว้าชุดของชายหนุ่มแล้วส่งเสียงเรียก
อยากนอนกับผู้ปกครอง
ลูกเงือกเห็นเตียงนอนอยู่ไม่ไกลจึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมา
เซี่ยหลวนอ่านความหมายของสิ่งที่ลูกเงือกอยากสื่อสารผ่านทางสายตาออก หลังจากลังเลอยู่สักวินาทีหนึ่ง เขาก็อุ้มลูกเงือกขึ้นจากสระเล็ก
ขอแค่ห่างจากน้ำไม่เกิน 12 ชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา จากตอนนี้ถึงพรุ่งนี้เช้าถือว่ามีเวลาเพียงพอ
เซี่ยหลวนเห็นน็อกซ์ในร่างมนุษย์ผมเงินดูไม่มีทีท่าจะกลับคืนร่างลูกสัตว์ เขาจึงให้อีกฝ่ายนอนด้านในเตียง
แต่ละห้องในโรงแรมแห่งนี้เป็นเตียงใหญ่ทั้งหมด หากนอนกันสองคนกับลูกสัตว์หนึ่งตัวก็นับว่ามีพื้นที่มากพอ
เซี่ยหลวนรอให้อัยนอนลงด้านในเรียบร้อยก่อนจึงปิดไฟแล้วนอนลงตรงที่ว่างบนเตียง
ลูกสัตว์ย่อมต้องนอนตรงกลางเป็นธรรมดา เซี่ยหลวนนอนตะแคงหันไปทางลูกเงือกเพื่อให้มันได้นอนซุกอ้อมกอดของเขาโดยง่าย
เมื่อครู่เขายังอยากกล่อมลูกสัตว์นอน แต่พอฮัมเพลงกล่อมเด็กไปเรื่อย ๆ เซี่ยหลวนกลับเป็นฝ่ายหลับก่อนเสียเอง
ลูกเงือกซึ่งนอนขดในอกของชายหนุ่มใช้ครีบหางตีลำตัวชายหนุ่มเบา ๆ ตามสัญชาตญาณ อีกทั้งแรงที่ตีก็เบามาก จึงไม่มีผลอะไรกับชายหนุ่มที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว
พฤติกรรมที่ยกครีบหางขึ้นลงเบา ๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอของลูกเงือกแสดงถึงความรู้สึกปลอดภัยที่ตัวเองได้รับ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่ามันไว้ใจผู้ปกครองของตัวเองมาก
ตอนแรกลูกเงือกกำลังจะตามเซี่ยหลวนเข้าสู่ห้วงนิทราไปติดๆ มันเกือบจะผล็อยหลับอยู่แล้ว แต่สัมผัสเย็นเยือกจากหางสีเงินก็ดึงดูดความสนใจของลูกสัตว์เข้า
หางสีเงินของน็อกซ์พันเอวของชายหนุ่มที่นอนหลับไปแล้วอย่างแผ่วเบา หรือพูดให้ถูกก็คือพาดเอวจะเหมาะกว่า ลูกเงือกที่เห็นหางสีเงินนี้จึงเบนความสนใจมาอยู่ที่ตัวของคนที่นอนด้านข้างแทน ดวงตาสีฟ้าครามจึงสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าของคนข้าง ๆ
“ปะป๊า…?”
มันไม่แน่ใจว่าต้องเรียกแบบนี้หรือเปล่า ลูกเงือกจึงเอ่ยออกมาแผ่วเบา ชั่วขณะนั้นมันไม่ได้ละสายตาไปจากตัวของอีกฝ่าย
ผลจากการสืบทอดของเผ่าพันธุ์ทำให้ลูกเงือกเข้าใจธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ เพียงเลือนราง หินจันทราเป็นของแทนใจสำหรับเผ่าเงือก และชายหนุ่มก็รับของขวัญชิ้นนี้มา ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่ด้านข้างคงจะเป็นผู้ปกครองอีกคนของมัน
แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพศชายอย่างชัดเจนก็ตาม
หลังลูกเงือกพูดสองพยางค์นั้นจบก็ยื่นมือไปแตะหางสีเงินที่ต่างจากหางของตัวเองด้วยความสงสัย
เมื่อลูกเงือกแตะหาง อัยก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับ
หางของเผ่าน็อกซ์ไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องได้ตามอำเภอใจ ยกเว้นผู้ปกครองหรือคนรัก
แต่ในความเป็นจริงยังมีอีกข้อยกเว้นหนึ่ง หากลูกของตัวเองอยากจะสัมผัสหางของพวกเขา ก็จะได้รับอนุญาตไปโดยปริยาย
อัยไม่ได้พูดอะไร เขาเรียนรู้จากการกระทำของชายหนุ่ม ยกมือขึ้นลูบผมสีทองนุ่มละมุนของลูกเงือกที่อยู่ข้าง ๆ
เพราะเงือกน้อยได้นอนอยู่ระหว่างคนที่คิดว่าเป็นผู้ปกครองทั้งสอง จึงเข้าสู่ห้วงนิทราในสภาพแวดล้อมอันน่าสบายใจนี้อย่างรวดเร็ว
และถึงลูกเงือกจะนอนหลับไปแล้ว แต่จากการขยับเล็กน้อยของครีบหางก็ทำให้รู้ถึงอารมณ์ในความฝันได้
ดูท่าเงือกน้อยจะฝันดีเอามาก ๆ