黄金台
หวงจินไถ ปรปักษ์เร้นรัก
ชางอู๋ปินไป๋ เขียน
ฟองสมุทร แปล
Mao Shu วาด
– โปรย –
ฟู่เซิน แม่ทัพหนุ่มผู้มากความสามารถที่ชีวิตกลับพลิกผันเพราะใช้การขาทั้งสองข้างไม่ได้
ซ้ำยังได้รับพระราชทานงานสมรสกับศัตรูคู่อาฆาตอย่าง เหยียนเซียวหาน
เขาจึงเลือก “หวงจินไถ” แท่นพิธีอันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งเกียรติยศเป็นสถานที่ไหว้ฟ้าดิน
เพราะที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรุ่งโรจน์
เขาจึงขอเลือกที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความอัปยศเช่นกัน
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่
เพจ >> Rose Publishing
ทวิตเตอร์ >> Rose Publishing
…XOXO…
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทนำ
รัชศกหยวนไท่ปีที่ยี่สิบห้าแห่งราชวงศ์ต้าโจว ชนเผ่าต๋าตะวันออกรุกรานเป่ยเจียง กองทัพม้าเหล็กเป่ยเยี่ยนที่รักษาการณ์อยู่หนิงโจวและถงโจวผนึกกำลังกันที่แถบแม่น้ำอู๋ติ้ง เอาชนะชนเผ่าต๋าตะวันออก ยึดด่านซีชิวกว่าเจ็ดร้อยหลี่[1]กลับมาได้
เดือนแปดในปีเดียวกัน ชนเผ่าอูจูตะวันออกยอมสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ต้าโจว วันที่สิบหกเดือนแปด ทูตทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นพิธียอมรับการจำนนที่แม่น้ำอู๋ติ้ง และตกลงว่าชนเผ่าอูจูจะส่งเครื่องบรรณาการให้ทุกปี อาทิ หนังและขนสัตว์ สมุนไพร ม้า ทอง เงิน และอื่นๆ พร้อมส่งบุตรชายตระกูลข่านเข้าเมืองหลวง เรียนรู้ประเพณีจงหยวน[2]ที่กั๋วจื่อเจี้ยน[3]
เดือนเก้า ราชสำนักมีคำสั่งให้จิ้งหนิงโหว[4]ฟู่เซิน แม่ทัพกองทัพม้าเหล็กเป่ยเยี่ยน คุ้มกันคณะทูตชนเผ่าต๋าตะวันออกไปเข้าเฝ้าหวงตี้ที่เมืองหลวง
ตอนนี้สงครามสิ้นสุด ชนเผ่าอูจูถอยกลับไปนอกด่าน ฟู่เซินจึงไม่กังวลใดๆ เขาสั่งการให้หยวนหวน ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขานำกองกำลังหลักกลับเป่ยเจียงก่อน ส่วนตนนำกองทัพม้าฝีมือดีคุ้มกันคณะทูตลงใต้ด้วยตัวเอง
วันที่เก้าเดือนเก้า เมื่อมาถึงช่องเขาชิงซา คณะทูตพลันรับรู้ถึงพื้นดินที่สั่นสะเทือน กำแพงภูเขาทั้งสองข้างทลายลง ก้อนหินร่วงหล่นราวกับสายฝน ม้าตื่นวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความกระชั้นชิด รถม้าที่องค์ชายน้อยแห่งชนเผ่าต๋าตะวันออกนั่งหลีกไม่ทัน จึงถูกหินขนาดใหญ่กระแทกเข้าเต็มๆ
ช่องเขาชิงซาตั้งอยู่ในอาณาเขตต้าโจว ภูมิประเทศทั้งชันและแคบ แต่สงบสุขมาตลอด ตามหลักจึงไม่น่าเกิดการซุ่มโจมตี แม้ฟู่เซินระมัดระวังมาตลอดทาง กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดอุบัติเหตุอย่างภูเขาถล่มหน้าประตูบ้านตนเช่นนี้ ขณะนั้นไม่มีเวลาสนใจองค์ชายเล็กองค์ชายใหญ่อะไร เห็นก้อนหินกลิ้งตกลงมาเบื้องหน้า จึงหันหัวม้าทันทีพลางตะโกน “ถอยไป” แล้วนำทุกคนกลับไปยังทางเข้าช่องเขา
ฝุ่นควันตลบอบอวล เกือบทั้งช่องเขาถูกย้อมเป็นสีของดินทราย กลางพุ่มไม้บนที่สูง หน้าไม้หันเปลี่ยนทิศทางทันที ปลายลูกศรไร้ปรานีเล็งไปยังแม่ทัพเป่ยเยี่ยนที่กำลังควบม้า
สัญชาตญาณอันเฉียบแหลมที่เคี่ยวกรำมาจากสนามรบช่วยชีวิตเขาในยามวิกฤติ ขณะที่ลูกศรพุ่งมา ฟู่เซินราวกับมีตาหลัง เขาก้มตัวต่ำลงพร้อมดึงบังเหียน ม้าศึกหยุดกะทันหัน มันยกขาหน้าขึ้นสูงพร้อมหมุนตัวอยู่กับที่ครึ่งรอบ จึงหลบเลี่ยงลูกศรที่หมายเอาชีวิตได้พอดิบพอดี ปลายลูกศรเฉียดผ่านหลังเขา พุ่งไปเสียบเข้ากับกำแพงหินลึกลงไปครึ่งชุ่น[5] ไม่ทันไรก็ถูกหินที่ถล่มกลบมิด
“ใคร!”
ใครต้องการฆ่าเขา
ความคิดอันเย็นเยียบนี้แวบเข้ามาในใจของฟู่เซิน ชั่วขณะต่อมา เสียงตะโกนขององครักษ์ที่อยู่รอบๆ ดึงสติของเขากลับมา
“ท่านแม่ทัพระวัง!”
ก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมาบดบังสายตาของเขาโดยสมบูรณ์
รัชศกหยวนไท่ปีที่ยี่สิบห้าวันที่เก้าเดือนเก้า คณะทูตเผ่าต๋าตะวันออกถูกโจมตีที่ช่องเขาชิงซาในถงโจว องค์ชายเล็กแห่งชนเผ่าต๋าตะวันออกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สูญเสียคณะทูตไปเกินกว่าครึ่ง จิ้งหนิงโหวฟู่เซินที่ติดตามคุ้มกันคณะทูตถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับขาทั้งสองจนบาดเจ็บสาหัส ทหารคนสนิทจึงส่งตัวกลับเป่ยเจียงในคืนนั้น แม้โชคดีที่ยังรอดชีวิต แต่เกรงว่าหลังจากนี้คงยากจะกลับไปเป็นปกติ
เมื่อข่าวแพร่ไปยังเมืองหลวง ทั้งราชสำนักและราษฎรต่างวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเบื้องบนเบื้องล่างตื่นตระหนกถ้วนหน้า
หยวนไท่หวงตี้โมโหอย่างยิ่ง จึงมีราชโองการให้ฝ่ายตุลาการทั้งสาม[6]ตรวจสอบคดีนี้อย่างเข้มงวด พร้อมปลอบขวัญฟู่เซินโดยเพิ่มเบี้ยหวัดหนึ่งพันตั้นในตำแหน่งจิ้งหนิงโหว แต่งตั้งให้เขาเป็นเจิ้นกั๋วเจียงจวิน[7] มอบตราทองแถบม่วง[8] และอนุญาตให้กลับมาฟักฟื้นในเมืองหลวง
ข่าวอาการบาดเจ็บของฟู่เซินแพร่ไปทั่วเมืองหลวง หลายคนคาดเดาว่าอำนาจทหารของกองทัพเป่ยเยี่ยนจะตกอยู่ในมือผู้ใดหลังจากเขาได้รับบาดเจ็บ แต่แล้วราชโองการพิเศษของหวงตี้ก็ยับยั้งข่าวลือต่างๆ เป็นความจริงที่แม่ทัพยังอยู่ เพียงจากเป่ยเจียงชั่วคราว แต่หากแม่ทัพฟู่ฉลาดพอ คงเดาได้ว่าหลังกลับถึงเมืองหลวงก็ต้องสละตำแหน่ง คืนอำนาจทหารแก่หวงตี้ เท่านี้ก็สามารถใช้ขาทั้งคู่แลกความมั่งคั่งไปตลอดชีวิต
ดูเหมือนว่าหวงตี้ไม่เพียงพยายามช่วยเหลือขุนนางผู้มีความชอบ แต่ยังต้อนรับขับสู้อย่างดีด้วย
จิ้งหนิงโหวฟู่เซินและกองทัพเป่ยเยี่ยนซึ่งเป็นศูนย์กลางของข่าวลือได้รับราชโองการจากหวงตี้แล้ว ทว่ากลับยังไร้ความเคลื่อนไหว จวบจนปลายเดือนเก้า ฟู่เซินจึงมอบสารฉบับหนึ่ง เนื้อความเขียนรายละเอียดการเตรียมส่งมอบกองทัพเป่ยเยี่ยน และขอให้หวงตี้อนุญาตให้เขาออกจากตำแหน่งไปรักษาตัว
สารฉบับนี้ทำให้หยวนไท่หวงตี้โล่งอก จากนั้นก็ปฏิเสธการสละตำแหน่งของอีกฝ่ายตามธรรมเนียม และอนุญาตให้เขากลับเมืองหลวง
ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงมีผู้คนมากน้อยเท่าใดที่นับวันรอดูว่าจิ้งหนิงโหวผู้เลื่องชื่อมีสภาพเช่นไร
ห่างออกไปหลายพันหลี่ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางแสงสลัวยามพลบค่ำ รถม้าคันเล็กที่รายล้อมด้วยองครักษ์ก็ออกจากเมืองเยี่ยนโจว เร่งรุดไปยังเมืองหลวงพร้อมการคุ้มกันแน่นหนา
[1] 1 หลี่ เท่ากับ 500 เมตร
[2] จงหยวน คือประเทศจีนในสมัยโบราณ
[3] กั๋วจื่อเจี้ยน เป็นสถาบันศึกษาสูงสุดของจีนโบราณ
[4] โหว คือบรรดาศักดิ์ของเชื้อพระวงศ์และขุนนางลำดับที่ 3 จาก 6 ลำดับ ได้แก่ หวัง(อ๋อง) กง โหว ปั๋ว จื่อ หนาน
[5] 1 ชุ่นเท่ากับ 1 นิ้ว
[6] ฝ่ายตุลาการทั้งสาม ประกอบด้วยฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายสอบสวน และฝ่ายตัดสินคดี
[7] เจิ้นกั๋วเจียงจวิน ชั้นยศขั้น 1 ของขุนนางฝ่ายทหาร
[8] แถบม่วง เป็นไหมถักลักษณะแบนคล้ายริบบิ้นใช้ผูกกับเหรียญหรือตราประทับเพื่อแบ่งลำดับยศขุนนาง