我愛種田
ผมแค่อยากปลูกผัก ส่วนความรักน่ะ… เล่ม 2
ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน
ตัวละครผู้ถูกแทงที่ท้อง แปล
ชุยชีฉาว เตรียมเข้าสู่โลกที่สองในบทบาทใหม่
บารอนหนุ่มผู้เป็นเจ้าเมืองเล็กๆ อย่าง นอร์ทัมเบอร์แลนด์
เมื่อสายเลือดเสินหนงมาปรากฏตัวในยุโรปยุคกลางทั้งที
แผ่นดินที่เคยแห้งแตกระแหงจะเขียวขจีได้ขนาดไหนกัน
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 3.3
เรื่องที่ปุ๋ยคอกโดนขโมยแว่วเข้าหูผู้รับผิดชอบไร่นา ก่อนจะไปถึงหัวหน้าพ่อบ้าน สุดท้ายจึงมาถึงท่านบารอนเจ้าเมืองในที่สุด
“หืม” ชุยชีฉาวช้อนตามอง “ขโมยปุ๋ยคอก”
เขาวางแผนจะปล่อยให้ทุกคนตั้งตารอสักพักค่อยเติมปุ๋ยคอกเพิ่ม เฮ้อ ไร้ความอดทนกันเกินไปแล้ว
หัวหน้าพ่อบ้านกล่าวเสียงดัง “นายท่านขอรับ มันเป็นพวกไม่รักดี สอนไม่จำ ท่านดูสิขอรับ ท่านเลี้ยงเนื้อพวกเขา แต่กลับมีคนขโมยปุ๋ยคอก! ท่านแลกมาด้วยถั่วทั้งนั้น!”
เหล่าผู้รับผิดชอบเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง “จริงขอรับ เจ้าพวกสัตว์เดรัจฉานสมควรตาย ให้หมากินสตูเนื้อยังดีกว่าให้พวกมัน”
“เพิ่งผ่านอาหารมื้ออิ่มมาได้ไม่กี่วันแท้ๆ ความหวังดีของท่านถูกย่ำยีเสียแล้ว!”
“อย่าพูดแบบนั้น” ชุยชีฉาวเอ่ยเสียงเรียบ “ดูสิ มีอีกตั้งหลายพันคนที่ไม่ได้มาขโมยไม่ใช่หรือ”
พ่อบ้าน “…”
หัวหน้าพ่อบ้านพูดไม่ออก ได้แต่กล่าวอย่างอัดอั้น “นายท่าน หากท่านปล่อยไปเช่นนี้ สักวันคงมีคนเอาเปรียบท่านยิ่งกว่านี้”
ชุยชีฉาวรู้ดีว่าคนสมัยนี้ยังมีจิตสำนึกไม่สูงนัก เขาเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าคงไม่มีสิ่งใดที่สมบูรณ์แบบ ไม่งั้นเขาเองก็คงไม่อนุมัติให้มีคนเฝ้ามูล ที่นี่คงพบเห็นสังคมที่คนไม่เก็บของตกพื้นหรือกลางดึกไม่ปิดบ้านปิดประตู[1]ได้ยาก
ทว่าเขาก็ไม่ได้ผิดหวังต่อทุกคนด้วยเรื่องแค่นี้ นี่เป็นเพียงการพิสูจน์ว่านอกจากเรื่องเพาะปลูก ทุกคนยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่ม
หัวหน้าพ่อบ้านยังคงนึกว่าชุยชีฉาวจะไม่ทำอะไร จึงถามขึ้นอีก “นายท่าน เรื่องนี้ท่านจะปล่อยไปเช่นนี้จริงหรือ”
“ข้าไม่ได้บอกอย่างนั้น” ชุยชีฉาวสะบัดเชือกจูงแมวในมือ “คนที่ขโมยปุ๋ยคอกอันล้ำค่าไป ต้องได้รับบทลงโทษที่สมน้ำสมเนื้อ”
โลกความเป็นจริง แพลตฟอร์มไลฟ์ของทาง LJJ
หลังรายการชุยชีฉาวในยุคกลางเริ่มฉายบนแพลตฟอร์มของ LJJ ได้สักพัก ผ่านไปได้หลายตอน เหล่าผู้ชมจากแชนเนลชายถึงตระหนักได้
ไม่มีการสำรวจดูสถานการณ์การกุมอำนาจของทั่วทุกสารทิศ ไม่วุ่นกับการฝึกอัศวิน วันๆ เอาแต่ศึกษาเรื่องปลูกพืชผัก ทำเครื่องมืออุปกรณ์ เลี้ยงสัตว์ กินข้าว อีกทั้งยังมีแต่คอมเมนต์ที่ให้กำลังใจพร้อมชื่นชมอย่างแปลกๆ อีก
หากพวกเขาลองไปเสิร์ชสักนิด ก็จะได้พบกับความเป็นจริง
ผู้ชมแชนเนลชายร้องโวยวายอย่างโกรธแค้น…
“พวกเธอมันไม่ใช่คน!!”
“ฉันแทบกระอักเลือด ที่แท้ก็มีสายเลือดของจักรพรรดิท่านนี้–”
“ติดกับซะแล้ว ตอนแรกก็นึกว่าเป็นราชันย์ ที่แท้ก็เป็นไอ้บ้าปลูกผักนี่เอง คนจีนนี่มีพิษสินะ”
“บริษัท LJJ ก็ไม่ใช่คน ตั้งชื่อคลิปอย่างหลอกลวง!”
“ผู้ชมจากแชนเนลหญิงสาวจะน่ากลัวเกินไปแล้ว…”
แต่เมื่อก้าวเข้ารังโจร พวกเขาก็เริ่มอยากรู้แล้วสิว่า ผลผลิตในปีหน้าจะเป็นอย่างไร
อีกทั้งพวกเขายังมีอาการไม่ยอมแพ้เช่นเดียวกับพวกผู้ชมแชนเนลหญิงสาวตอนตามดูแรกๆ
พวกเขาไม่เชื่อหรอก ถ่ายรายการนานขนาดนี้ นอกจากเอาแต่ปลูกผักจะไม่ทำอย่างอื่นเลยหรือไง
–ผู้ชมแชนเนลหญิงสาวเมื่อตอนนั้นก็คิดอย่างใสซื่อแบบนี้เหมือนกัน
หลังจากตอนล่าสุดออกฉาย คอมเมนต์ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
“ขอใช้คำหยาบด่าคนดูเก่าที่หลอกฉันเข้ามาติดกับที”
“ขอด่าด้วยคน น้ำหนักขึ้นตอนละครึ่งกิโล เมียฉันเริ่มรังเกียจแล้วเนี่ย”
“ชุยชีฉาวทำอะไรหน่อยได้ไหม จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ของเมืองรอบข้างเป็นยังไง หรือทั้งแผ่นดินมีแนวโน้มอำนาจยังไงบ้าง ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ จะได้เปิดแม็ปไหม”
“ตามหลักการแล้ว ที่อื่นน่าจะกำลังรบกันอย่างดุเดือดเลยมั้ง…นี่ยุคกลางนะ”
“งงมาก ทำไมแค่เห็นพวกเซิร์ฟกินกระดูกที่ไม่ใส่เกลือแล้วยังหิวได้ขนาดนี้”
“ฉันก็เหมือนกัน…ไปแกะมันฝรั่งทอดกินละ”
“เอ๋ ภาพคุ้นจังเลย โรงอาหารหนึ่งในยุคกลางเหรอ”
“…”
“แหวะ! มันฝรั่งทอดของฉัน! ทำไมไม่เตือนก่อนว่าจะมีขี้เยอะขนาดนี้!”
“กรี๊ด แย่มาก ใครเป็นคนขโมยปุ๋ยของชุยชุยกัน! มันไม่ใช่คน!”
“ฮือ ชั่วมาก กว่าเถ้าแก่ชุยจะหาปุ๋ยมาได้ขนาดนี้ เถ้าแก่ชุยยังเลี้ยงข้าวพวกนายอีก ทำไมไอ้บริษัท LJJ ระยำนี่ถึงไม่ตัดต่อให้ดูนะว่าใครเป็นคนขโมย ฉันอยากด่าคน!”
“ปวดใจแทนชุยชีฉาว ขโมยเงินยังไม่แย่เท่าขโมยปุ๋ยของชุยชีฉาวเลย!”
“แม่เจ้าโว้ย ทำไมต้องให้ซีนกับกองขี้ด้วย ฉันรู้สึกว่ากลิ่นโชยทะลุจอมาถึงนี่แล้ว”
“เป็นรายการเรียลิตี้ที่มีกลิ่นอายเอกลักษณ์จริงๆ ฉันหมายถึงว่ากลิ่นในรูปแบบต่างๆ น่ะนะ…”
“ไอ้บัดซบ ใครเป็นคนขโมยกัน”
“ต้องเป็นคนเฝ้ามูลแน่ๆ ฉันว่าหน้ามันดูขี้โกงตั้งแต่แรกแล้ว!”
“เหอะๆ ฉันว่าหัวหน้าหมู่บ้านขโมยแล้วทำเป็นเรียกจับโจรเอง นอกจากเขาแล้ว ใครจะไปดูออกว่าขี้กองยักษ์ขนาดนั้นน้อยลง เขาขโมยเองนั่นแหละ”
“ชุยชีฉาวจับคนมาแขวนแล้วเฆี่ยนเร็ว ไม่สิ เอาเครื่องมือทรมานออกมาด้วย! ดูซิว่าใครจะกล้าขโมยอีก!”
“โดนขโมยขี้แล้วยังทนได้เหรอ ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็จับขโมยมาอัดให้น่วมซะ”
“ฉันที่หลงรักรายการนี้ เพิ่งเข้ามาก็โดนตบหน้าแล้ว ตอนแรกอยากคอมเมนต์ว่า ‘หอมมาก[2]’ แต่ตอนนี้…”
“ไอ้ขยะ LJJ ฉันจะส่งขี้ไปให้พวกแก รีบลบคำว่า ‘อาหารอร่อย’ ในข้อความอธิบายใต้หัวข้อ เดี๋ยว-นี้!”
ชุยชีฉาวมาถึงยังโบสถ์ของเมืองนอร์ทัมเบอร์แลนด์ เทียบกับกระท่อมชาวนาที่สร้างจากหญ้าคากับดินโคลนและเศษไม้แล้ว โบสถ์ที่สร้างจากหินเรียกว่าหรูหราใช้ได้
ชุยชีฉาวเห็นแล้วรู้สึกอิจฉาด้วยซ้ำ แม้ว่าปราสาทของเขาจะเป็นที่พักระดับสูงที่สร้างด้วยหิน แต่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท
บ้านของนักบวชวิลเลี่ยมอยู่ไม่ห่างจากโบสถ์มากนัก วันนี้เป็นวันเทศนาของเขา เหล่าเซิร์ฟต่างมานั่งฟังเขาอยู่ที่นี่ วิลเลี่ยมมีท่าทีต้อนรับเมื่อเห็นว่าชุยชีฉาวมาหา ถึงเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ในตัวปราสาท แต่ทุกครั้งที่ท่านบารอนมีเนื้อก็จะเผื่อแผ่มาให้เขาชุดหนึ่งเสมอ เขาจึงมองท่านบารอนว่าเป็นคนกันเอง
ที่จริงแล้ว วิลเลี่ยมก็ได้ยินเรื่องที่กำลังพูดกันให้ว่อนในแมเนอร์เช่นกัน เหมือนว่าจะมีโจรขโมยมูลปรากฏตัวขึ้น พวกผู้รับผิดชอบตามหาร่องรอยไม่เจอจนหมดสิ้นหนทาง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะเทศนาสิ่งที่พระเจ้าเคยตรัสเกี่ยวกับเรื่องขโมยในวันนี้ การขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นการกระทำบาปอย่างหนักหนา ปุ๋ยหมักพวกนั้นไม่ใช่มูลสัตว์หรือมูลของตัวเองที่เก็บได้ตามข้างทาง พวกมันเป็นมูลที่ท่านลอร์ดใช้ถั่วซื้อมา เพราะฉะนั้นจึงเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล
ทว่าวิลเลี่ยมสงสัยเล็กน้อย ในปราสาทมีโบสถ์ขนาดเล็กอยู่ ท่านบารอนไม่มีความจำเป็นต้องมาเบียดเสียดสวดภาวนาร่วมกับเซิร์ฟเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
ไม่นานนัก เมื่อข้ารับใช้ด้านหลังชุยชีฉาวนำข้าวกับเนื้อมาวางในกล่องถวาย วิลเลี่ยมก็เข้าใจในทันที
ท่านบารอนถามขึ้นต่อหน้าเซิร์ฟทุกคน “ท่านบาทหลวง ข้ามีคำถาม ถ้าหากคนทำบาปโดยการลักขโมยแล้วไม่ไถ่บาป เขาผู้นั้นต้องได้รับผลของการทำชั่วใช่หรือไม่”
นี่เป็นคำสอนพื้นฐาน พวกเซิร์ฟอาจไม่รู้ แต่ท่านบารอนที่เป็นถึงขุนนางจะไม่รู้ได้อย่างไร วิลเลี่ยมเข้าใจว่าการที่อีกฝ่ายถามเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการขู่เซิร์ฟที่อยู่ในสถานที่นี้ให้ออกมายอมรับผิด
วิลเลี่ยมลอบถอนหายใจ มันจะไปง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร ชาวนาพวกนี้ดูมีความคิดเรียบง่าย แต่ความจริงในความโง่นั้นก็แฝงความฉลาดอยู่บ้าง เมื่อสบโอกาส พวกเขาก็รู้จักเอารัดเอาเปรียบเช่นกัน ใครจะไปโง่ออกมายอมรับผิดเพราะโดนขู่กัน
กระนั้นวิลเลี่ยมก็ตอบด้วยความสัตย์จริง “คือว่า…พระเจ้ามีแต่ความเมตตาให้แก่มนุษย์โลก ท่านรักคนดี แต่บทลงโทษสำหรับคนชั่ว…” ตอนแรกเขายังอยากพล่าม…ไม่สิ อธิบายให้ชัดเจนถึงจำพวกผลลัพธ์ของการเป็นคนดีกับคนชั่ว เหตุการณ์แบบไหนถึงนับว่าเป็นผลกรรม วันพิพากษาอาจมาถึงช้า แต่ก็ไม่ขาดที่ของใครไปอะไรเทือกนั้น แต่พอเห็นสายตาของชุยชีฉาว และนึกถึงเนื้อกับข้าวที่อีกฝ่ายนำมาให้เขาแล้ว จึงรีบแก้คำ “มีขอรับ มีแน่นอนขอรับ”
“ได้ ข้าเชื่อในพระเจ้า ขอสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ทรงตอบรับข้าพระองค์ และมอบบทลงโทษให้แก่หัวขโมย ขอให้ดินที่เขาใส่ของลักขโมยไปโดนไฟจากโลกันตร์แผดเผา” ชุยชีฉาวพูดด้วยท่าทีที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อ
มันเป็นการสาปแช่งล้วนๆ เลยไม่ใช่หรือไง ภายนอกวิลเลี่ยมยังคงรักษาท่าทีเคร่งขรึมไว้ “ท่านบารอน ขอบคุณสำหรับความใจกว้างของท่าน ขอให้พระเจ้าอวยพร”
ชุยชีฉาวนั่งอยู่ในโบสถ์อีกสักพัก ก่อนจะจากไปอย่างรีบร้อน เขาทิ้งเจ้าแมวดำอันแสนชั่วร้ายที่เข้ามาไม่ได้อยู่ด้านนอก
พอออกไปก็เห็นว่าเสี่ยวไป๋กำลังแทะหญ้าอยู่ คงใกล้ช่วงอ้วกก้อนขนแล้ว
ส่วนข้ารับใช้กลับคิด ท่านบารอนสามารถกำราบแมวดำชั่วร้ายได้อย่างสมบูรณ์ ปล่อยมันไว้ด้านนอกแล้วยังไม่กล้าหนีอีก
[1] เป็นการเปรียบเปรยถึงสังคมไร้ระเบียบ ไร้ซึ่งความไว้วางใจ เห็นเงินตกของตกก็เก็บฮุบเป็นของตนเอง บ้านช่องต้องปิดประตูแน่นเพื่อกันขโมย
[2] หอมมาก (真香) ในที่นี้เป็นสแลงในอินเทอร์เน็ตจีน แปลว่า ดี ยอดเยี่ยม ฯลฯ