我愛種田
ผมแค่อยากปลูกผัก ส่วนความรักน่ะ… เล่ม 2
ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน
ตัวละครผู้ถูกแทงที่ท้อง แปล
ชุยชีฉาว เตรียมเข้าสู่โลกที่สองในบทบาทใหม่
บารอนหนุ่มผู้เป็นเจ้าเมืองเล็กๆ อย่าง นอร์ทัมเบอร์แลนด์
เมื่อสายเลือดเสินหนงมาปรากฏตัวในยุโรปยุคกลางทั้งที
แผ่นดินที่เคยแห้งแตกระแหงจะเขียวขจีได้ขนาดไหนกัน
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 3.6
ถึงชุยชีฉาวจะเคยเตือนเสี่ยวไป๋ว่าห้ามรังแกต้าไป๋กับต้าจวี๋ แต่การสั่งสอนแบบนี้ไม่นับ เสี่ยวไป๋ชักได้ใจ ใช้โอกาสนี้ฟาดแมวอีกสองตัวอย่างเต็มที่
“แขวนแล้วต้องคอยมาตรวจดูตลอด ไม่งั้นอาจเกิดการเน่าเสียขึ้นได้ ต้องจัดการให้ทันท่วงที” ชุยชีฉาวย้ำเตือนหัวหน้าแม่ครัวในขณะที่เสียงแมวดังขึ้นข้างหูไม่ขาดสาย เขาหมุนตัวไปหยิบหัวหมูที่ใหญ่เท่าลูกบาสเกตบอลไปดันเสี่ยวไป๋จนมันเสียหลัก “นายพอได้แล้ว อย่าฉวยโอกาสหาเรื่อง!”
เสี่ยวไป๋มองหัวหมูหัวนั้น “…”
มันโมโห ชุยชีฉาวต้องตั้งใจแน่ๆ !
คอมเมนต์บนแพลตฟอร์ม LJJ “เร็ว รีบเอาคำว่าสัตว์เลี้ยงน่ารักออกด้วย นี่เป็นการดูแลสัตว์เลี้ยงน่ารักได้เลวร้ายที่สุดในแชนเนลแล้ว!”
ดวงตากลมมนของเสี่ยวไป๋ฉายความรู้สึกที่หลากหลายซับซ้อน ความรู้สึกสุดท้ายหยุดอยู่ที่ความคับแค้น มันพุ่งตัววิ่งออกจากปราสาทโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ
หัวหน้าแม่ครัว “อ๊ะ…”
นางอ้าปากค้างอยู่ครึ่งค่อนวันก่อนเอ่ย “นายท่าน ต้องสั่งให้คนไปจับแมวกลับมาไหมเจ้าคะ”
ตามหลักแล้ว ไม่มีคนใส่ใจว่าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเหมือนกับสัตว์เลี้ยงหรอก แต่แมวตัวนี้ไม่ใช่แมวปกติทั่วไป ฤดูหนาวนี้นายท่านยังต้องทรมานพวกมันเล่นอยู่นะ
ดังนั้น หัวหน้าแม่ครัวจึงลังเลพร้อมเอ่ยปากถามเสียงแห้ง
“ไม่ต้องไปสนใจแมวโง่นั่น” ชุยชีฉาววางหัวหมูกลับลงบนเขียง ใช่แล้ว เขาตั้งใจ อย่าคิดว่าเขาจะปล่อยเรื่องที่เสี่ยวไป๋โดนหมูขวิดไปง่ายๆ
และนี่ก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ดำมืดที่เสี่ยวไป๋ไม่สามารถลบล้างได้
ชุยชีฉาวกลับห้องหลังเฝ้าหัวหน้าแม่ครัวหมักเนื้อหมูยันอาทิตย์ตกดิน เขารออยู่ในห้องจนเวลาล่วงเลยไปช่วงกลางคืน นอกประตูถึงมีเสียงตะกุยประตูชวนให้คนเสียวฟันดังขึ้น
ชุยชีฉาวเปิดประตู เห็นเสี่ยวไป๋กำลังนั่งก้มหน้าอยู่ตรงประตู
“กลับมาแล้วเหรอ” ชุยชีฉาวแง้มประตูเป็นช่องให้มันเข้ามา
เสี่ยวไป๋นั่งอยู่ที่เดิมอย่างแง่งอน คิดไม่ถึงเลยว่าชุยชีฉาวจะไม่ไปตามหามัน มันเตร็ดเตร่อยู่ในปราสาทนานสองนาน หลอกให้ทาสตกใจไปก็หลายคน พอหิวจนทนไม่ไหวถึงได้กลับมาตะกุยประตู
“นายนี่เจ้าอารมณ์จริงนะ” ชุยชีฉาวย่อตัวลงประคองหน้าเสี่ยวไป๋ขึ้น “ทำไม นายรังแกต้าไป๋กับต้าจวี๋ได้ แต่ฉันรังแกนายไม่ได้เหรอ”
ปัญหาอยู่ที่ต้าไป๋กับต้าจวี๋เหรอ ปัญหาอยู่ตรงหัวหมูต่างหาก! เสี่ยวไป๋คิดพลางจ้องชุยชีฉาวเขม็ง
ชุยชีฉาวเหมือนจะรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ เขาหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างหาได้ยาก “นายผิดที่เปิดโอกาสให้ฉันเอาหัวหมูมาล้อนายเองนะ”
เสี่ยวไป๋ “…”
ชุยชีฉาวอุ้มเสี่ยวไป๋ขึ้น มันขัดขืนพอเป็นพิธี ปากก็ร้องเหมียวๆๆ อย่างไม่พอใจไปด้วย
“เหลือถั่วกับกากหมูจากเมื่อกลางวันให้นายไว้นิดหน่อย” ชุยชีฉาวถือชามไม้ในมือพลางป้อนเสี่ยวไป๋
นานๆ ทีเสี่ยวไป๋จะถูกปรนนิบัติถูกป้อนอาหารอยู่ในอ้อมอกของชุยชีฉาวแบบนี้ พอกินอิ่ม มันก็เสียดายที่จะโดดลงไป พื้นที่ปูด้วยผ้ากระสอบเนื้อหยาบจะไปอบอุ่นเท่าร่างกายของชุยชีฉาวได้อย่างไร
ชุยชีฉาวอุ้มเสี่ยวไป๋จนถึงเวลานอน จึงได้ปล่อยมันลง
“มี้…” เสี่ยวไป๋ส่งเสียงออกมาจากลำคอ มันกอดแขนของเขาไม่ยอมปล่อย
ชุยชีฉาวเคยปล่อยให้เสี่ยวไป๋นอนด้วยแค่ครั้งเดียวในโลกก่อน และไม่เคยให้เสี่ยวไป๋นอนด้วยอีกเลย เขาดันเสี่ยวไป๋ออกแล้วลูบหัวมัน “เอาละ นอนได้แล้ว”
เสี่ยวไป๋งัวเงียหลับไปบนผ้ากระสอบ ต้าไป๋กับต้าจวี๋ที่นอนหลับไปแล้วเเบียดตัวเข้าหามันโดยอัตโนมัติ สิ่งสุดท้ายที่มันเห็นคือใบหน้าอันคับแค้นของชุยชีฉาว มันคิดในใจ…สักวัน ฉันจะต้อง จะต้อง…