[ทดลองอ่าน] โชคลาภหมื่นล้านบันดาลรัก ตอนที่ 47

โชคลาภหมื่นล้านบันดาลรัก
天降横财一百亿

เจียงจื่อกุย 江子归 เขียน
เหวินหรง แปล

 

— โปรย —

สวี่รุ่ย อดีตคุณหนูไฮโซต้องตกระกำลำบากทำงานทุกอย่าง
เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและย่าผู้รักเธอสุดหัวใจ
ยังไม่ทันจบมหาวิทยาลัย เธอกลับต้องเสียชีวิตขณะขับรถรับจ้าง

สวรรค์บันดาลให้เธอย้อนเวลากลับมาเจ็ดปีก่อน
พร้อมกับระบบผลาญเงินที่แต่ละครั้งจะเพิ่มจำนวนเงิน
และระยะเวลาในการใช้เงินขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงหนึ่งหมื่นล้านหยวน!
สำหรับคุณหนูที่เคนใช้ชีวิตอู้ฟู่ การใช้เงินมือเติบอย่างนี้นับเป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว

แต่เงื่อนไขของภารกิจคือ หลังจบการทดลองระบบผลาญเงินแล้ว
จะริบสิ่งของทุกอย่างที่ใช้เงินภารกิจซื้อกลับคืน
เธอจึงต้องวางแผนหรือกระทั่งเล่นเล่ห์หาช่องโหว่ด้วยการใช้เงินต่อเงิน
เพื่อที่จะมีเงินเป็นของตัวเอง

ดังนั้นไม่ว่าธุรกิจอะไรที่เธอรู้ว่าจะเติบโตในอนาคต เธอล้วนลงทุนทั้งหมด
ขณะเดียวกันเธอยังต้องกลับมาสานสัมพันธ์กับคนในครอบครัว
ที่ชาติก่อนเธอเคยคิดว่าเกลียดเธออย่างตาและน้าชายด้วย
ชีวิตใหม่ของสวี่รุ่ยจึงยุ่งวุ่นวายอย่างช่วยไม่ได้

 

_______________________________

 

ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ

สำนักพิมพ์อรุณ

 

(ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)

 

47

 

ภายในคอนโดมิเนียมระดับไฮคลาสของเมืองหนึ่ง จ้าวอีอีสูบบุหรี่ติดต่อกันหลายมวน พลางคุยโทรศัพท์ไม่หยุด

“ว่าไงนะ ตอนแรกคุณขอร้องให้ฉันเปิดร้านอาหารโดยใช้ชื่อเสียงของฉัน พอตอนนี้ถูกด่า คุณยังจะให้ฉันชดใช้อีกงั้นเหรอ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”

จ้าวอีอีกดวางสายอันน่ารังเกียจนี้ และมีอีกสายหนึ่งโทร.เข้ามา เป็นสายจากฮ่องกง เธอไม่รอช้ารีบกดรับทันควัน

น้ำเสียงของเธอไร้ซึ่งความอดทน “เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่ แค่รูปไม่กี่ใบไม่ใช่เหรอ สองสามวันแล้วยังทำไม่สำเร็จอีก”

เสียงผู้ชายปลายสายเอ่ยอย่างร้อนรน “เรื่องนี้พังไม่เป็นท่าแล้ว ไอ้คนที่ผมให้ไปถ่ายรูปถูกจับได้ ผมเองก็โดนตำรวจเพ่งเล็งอยู่”

จ้าวอีอีสังหรณ์ใจไม่ดี “คุณเป็นมืออาชีพไม่ใช่เหรอ แล้วได้รูปมาหรือเปล่า”

ฝ่ายชายบอกด้วยน้ำเสียงกังวล “ไม่ คุณให้เงินผมก่อน ผมต้องคิดหาวิธีหลบซ่อนตัว”

“ทำงานไม่สำเร็จแล้วยังมีหน้ามาขอเงินจากฉันอีก!”

จ้าวอีอีสบถด่าอย่างหยาบคายหลายคำ และกดตัดสายทิ้งโดยไม่ฟังแม้กระทั่งหมายเลขบัญชีของเขา จากนั้นปามือถือไปบนโซฟา

ช่วงนี้ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด

ข่าวอื้อฉาวนับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทแนะนำให้จ้าวอีอีทำตัวสงบเสงี่ยม พักผ่อนอยู่บ้านสักระยะแล้วค่อยว่ากัน ทว่าจะให้เธอยินยอมได้อย่างไร เธอรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของวงการนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ปากพูดว่าพักผ่อนสักพัก แต่พอเวลาผ่านไปจะต้องมีคนใหม่มาแทนที่แน่นอน

การแข่งขันดุเดือดถึงเพียงนี้ ใครบ้างจะไม่เหยียบหัวคนอื่นปีนขึ้นไป

ไม่ง่ายเลยกว่าจ้าวอีอีจะปีนป่ายขึ้นมาได้ จะให้เธอยินยอมลงมาง่ายๆ ได้อย่างไร นึกถึงช่วงนี้ที่สูญเสียงานพรีเซ็นเตอร์ถึงสองงาน และคนที่อีกฝ่ายเซ็นสัญญาด้วยกลับเป็นห่าวชิว เธอก็เดือดดาลจนอกแทบระเบิด

ยิ่งคิดจ้าวอีอียิ่งนั่งรอความตายไม่ได้ เธอหยิบมือถืออีกครั้งแล้วกดโทร.ออกไปยังหมายเลขคุ้นเคย

 

คนทางฝั่งหมู่บ้านชิงเฉวียนจำนวนไม่น้อยเป็นญาติของจี้จวี๋ฟาง สำหรับสวี่รุ่ยแล้วย่อมไม่นับว่าเป็นคนแปลกหน้า

ด้วยเหตุนี้สวี่รุ่ยจึงนำของขวัญไปด้วยจำนวนหนึ่งแล้วช่วยย่ามอบให้คนอื่น ยังจัดหาพี่เลี้ยงที่หมู่บ้านให้ด้วย ย่าจะได้ไม่ต้องหักโหมทำงานหนัก

ระหว่างเดินทางกลับ สวี่รุ่ยนัดหมายทีมประชาสัมพันธ์ของเธอให้มาเจอกันที่บ้านเพื่อหารือเรื่องจ้าวอีอี

เมื่อเร่งรีบมาถึงบ้าน ไป๋ฟางกับเสี่ยวจูมากันพร้อมหน้าแล้ว

สวี่รุ่ยพาทั้งคู่เข้าบ้าน และพูดเข้าประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในฮ่องกงอย่างไม่อ้อมค้อม “แม้รูปถ่ายจะถูกเก็บกวาดหมดแล้ว แต่ครอบครัวของฉันยังหวั่นใจว่ายายจ้าวอีอีนั่นจะสร้างปัญหาให้อีก พวกคุณคิดยังไงคะ”

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่วันคริสต์มาสมีประเด็นร้อนเรื่องการเหมาซื้อสินค้าปลอดภาษีในเวยปั๋ว แม้ถูกลบหมดเกลี้ยงในตอนนั้น แต่ตอนนี้ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่มาก”

ไป๋ฟางเปิดโน้ตบุ๊ก และนำข้อมูลที่จัดเรียงไว้เรียบร้อยแล้วมาเปิดให้สวี่รุ่ยดู

ปรากฏว่าคำสำคัญเกี่ยวกับ [หลานสาวของจู้หงเซิน] ในทุกๆ เสิร์ชเอนจินยังคงติดอันดับท็อป

นอกจากนี้ยังมีกระทู้แยกที่ได้รับความนิยมจำนวนหนึ่งซึ่งชาวเน็ตถกเถียงกันเรื่อง “การเหมาซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเครื่องบิน” หลายคนรู้สึกว่าการที่โพสต์เวยปั๋วถูกลบ ย่อมเป็นการพิสูจน์และยืนยันว่าตัวเอกหญิงในรูปคือ “หลานสาวของจู้หงเซิน” อย่างแน่นอน

[เจ็ดคูณเจ็ดไม่ใช่สี่สิบเก้า : ยิ่งลบยิ่งน่าสงสัย ดูท่าภาพของเจ้าของกระทู้คงเป็นของจริง] [กระต่ายขาวตัวน้อยผู้ชอบกินเนื้อ : ไม่ใช่หรอกมั้ง ภาพลักษณ์ “เศรษฐีสาว” ของเจ้าของกระทู้ดูมีเงื่อนงำอยู่นะ ก่อนหน้านี้เคยหน้าแตกมาแล้ว ไม่น่าจะรู้จักคนระดับหลานสาวของจู้หงเซินจริงๆ หรอก] [ฤดูร้อนไม่กินแตง : แต่รูปพวกนั้นน่าจะเป็นรูปถ่ายจริงๆ และเป็นรูปแรกที่หล่อนไม่ได้ใช้โฟโตช็อปตัดต่อแน่ๆ] [เหมียววว : ความจนปิดกั้นจินตนาการของฉัน ฉันยังคิดว่าการใช้เงินหนึ่งล้านบนเครื่องบินมีอะไรให้น่าเอามาพล่าม เป็นการตลาดของสายการบินรึเปล่า] [สิ้นเดือนกินแกลบ : การตลาด+1]

ไป๋ฟางเคาะแป้นพิมพ์พลางวิเคราะห์ “หัวข้อในปัจจุบันยังไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ตัวคุณ แต่ถ้ามีข่าวอะไรอีก บอสอาจถูกเปิดเผยตัวตนได้ค่ะ”

สวี่รุ่ยไม่ทันคิด แม้แจ้งทีมประชาสัมพันธ์ได้ทันท่วงที ทว่าข่าวที่แพร่สะพัดหลายชั่วโมงในไซเบอร์ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง ขืนยังช้ากว่านี้อีกหนึ่งก้าว มีหวังเธอได้กลายเป็นคนดังในอินเทอร์เน็ตแน่ๆ

เสี่ยวจูจ้องโน้ตบุ๊กสักพักแล้วจู่ๆ ก็รีบหอบโน้ตบุ๊กมาให้ดู “แย่แล้วค่ะ มีข่าวจริงๆ ด้วย! พี่ฟาง พี่รีบดูรูปนี้เร็วเข้า!”

สวี่รุ่ยมองอยู่เช่นกัน แต่พาดหัวข่าวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ [ผู้ผลิตภาพยนตร์แฟนของซ่งซือซือพบรักครั้งใหม่ในวันคริสต์มาส]

พาดหัวข่าวไม่เกี่ยว เนื้อหาไม่เกี่ยว แต่รูปกลับลากเธอไปเอี่ยวด้วย

ภาพที่นำมาประกอบข่าวบันเทิงนี้เป็นรูปคู่ซึ่งถูกถ่ายจากระยะไกลในวันคริสต์มาสวันนั้น เป็นฉากที่สวี่รุ่ยกับโอวหยางจิ้นซึ่งคุยกันถูกคอเดินออกจากบริษัทประมูลและกอดลากัน

เนื่องจากรอบข้างของคนทั้งคู่ไม่มีใครอื่นอยู่ด้วยพอดิบพอดี มุมกล้องของรูปนี้จึงแสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมกันอย่างชัดเจน

ประกอบกับส่วนสูงและการแต่งกายของสวี่รุ่ย ทำให้ดูอายุจากในรูปไม่ออก ไม่แปลกที่จะมีปาปารัซซี่กล้าหยิบยกคำว่า “รักครั้งใหม่” ไปเขียนข่าวเสียใหญ่โต

สวี่รุ่ยขมวดคิ้ว นับว่าเธอได้รับประสบการณ์ตรงจากวงการบันเทิงที่แสนวุ่นวายแล้วจริงๆ

เมื่อไป๋ฟางเห็นบอสอารมณ์เสียจึงรีบยืนยัน “ไม่เป็นไรค่ะ จากรูปนี้ต้องเป็นคนที่เคยเจอคุณเท่านั้นถึงจะนึกออก ลำพังดูแค่รูป ชาวเน็ตไม่มีทางเชื่อมโยงมาถึงตัวคุณหรอกค่ะ”

สวี่รุ่ยกลับนึกกลัวผลที่จะตามมาอยู่บ้าง ไม่มีลม คลื่นก็ก่อตัวได้ เคราะห์ดีที่รูปในงานเลี้ยงวันนั้นจับพลัดจับผลูมาอยู่ในมือเธอ หากคนถ่ายรูปไม่โลภ แล้วส่งให้จ้าวอีอีโดยตรง จ้าวอีอีต้องปั้น “ข่าวอื้อฉาว” ของเธออย่างแน่นอน

สวี่รุ่ยไม่อยากถูกพวกโจรชั่วจ้องเล่นงานอีก ด้วยเหตุนี้เธอจึงโทร.ติดต่อเอมี่ผู้ช่วยของน้าสะใภ้ที่ฮ่องกง

“พี่เอมี่ ฉันอยากจ้างคนในฮ่องกงให้ตามหาคนค่ะ คนที่ถูกจ้างให้แอบถ่ายก่อนหน้านี้ เขาน่าจะยังอยู่ที่ฮ่องกงใช่ไหมคะ”

เอมี่ค่อนข้างหลากใจ “อยู่ค่ะ ตำรวจกำลังตามหาตัวเขาอยู่เหมือนกัน คุณจะตามหาเขาทำไมคะ”

สวี่รุ่ยเม้มปาก “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้าวอีอีสร้างเรื่องอื้อฉาวให้คนอื่น เธอต้องมีคนคอยทำงานสกปรกแน่ อาจเป็นเขาก็ได้ค่ะ ฉันอยากซื้อข้อมูลที่มีประโยชน์จากเขาสักหน่อย หลังจากนี้จ้าวอีอีจะได้ทำตัวดีๆ และไม่มีเวลามาจ้องเล่นงานฉันอีก”

เอมี่ฟังจบก็คิดว่ามีเหตุผล “ได้ค่ะ แต่จะยุ่งยากหน่อยนะคะ เฮ้อ ใครบ้างจะมีเวลามาป้องกันโจรขโมยได้ถึงร้อยวัน”

สวี่รุ่ยเองก็คิดเช่นนั้น “ลำบากพี่เอมี่แล้วค่ะ”

เอมี่หัวเราะนิดๆ “เรื่องเล็กน้อยค่ะ อ้อ นาฬิกาข้อมือที่คุณให้ฉัน ฉันชอบมากเลยนะคะ”

สวี่รุ่ยกล่าวเจือหัวเราะ “ชอบก็ดีแล้วค่ะ อย่าลืมส่งใบเสร็จค่าใช้จ่ายมาให้ฉันนะคะ เดี๋ยวฉันจ่ายเอง”

เอมี่รับปากโดยพลัน

สวี่รุ่ยมองไป๋ฟางหลังจากกดวางสาย แล้วบอกหล่อนด้วยท่าทางเคร่งเครียด “ช่วงนี้รบกวนพี่ฟางช่วยฉันจับตาดูด้วยนะคะ อย่าให้มีข่าวอะไรอีก ฉันยังไม่อยากเปิดเผยตัวตน”

ไป๋ฟางรู้ข้อนี้อยู่แล้ว จึงตอบรับพลางพยักหน้า “วางใจได้เลยค่ะ ต่อให้เป็นคลื่นลมเล็กๆ พวกเราก็จะตั้งรับทันที และพยายามไม่ให้เกิดผลกระทบจากประเด็นฮ็อตในตอนนี้ ผ่านไปสักพักก็คงไม่มีคนสนใจเรื่องนี้แล้วค่ะ”

สวี่รุ่ยก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แม้ข่าวในโลกออนไลน์จะเป็นกระแสได้ง่าย แต่สงบลงง่ายเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่จะสงบลง สองวันต่อมาก็มีข่าวใหญ่สะเทือนวงการข่าวหนึ่งซึ่งส่งผลให้สวี่รุ่ยขึ้นไปติดอันดับท็อปอีกครั้ง

ขณะนั้นสวี่รุ่ยกำลังกินข้าวเย็นกับเซี่ยซือหย่าและเหอจี้ข่ายอยู่ข้างนอกพอดี

จัดการเรื่องไปต่างประเทศเกือบเสร็จแล้ว เซี่ยซือหย่าได้แต่ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มอยู่ที่โต๊ะอาหาร “เฮ้อ รักสนุกทุกข์ถนัด ยังสนุกไม่พอก็จะต้องไปใช้แรงงานอย่างหนัก ต่อไปก็จะไม่ได้เจอยายรุ่ยที่รักของฉันแล้ว”

สวี่รุ่ยหัวเราะเสียงดังลั่น “เธอกลับมาหาฉันได้จ้า ฉันก็ไปหาเธอที่ฝรั่งเศสได้เหมือนกัน”

เหอจี้ข่ายทำท่าจะพูดบางอย่าง มือถือที่อยู่ข้างๆ ก็แผดเสียง

เหอจี้ข่ายกดรับสาย ไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไรบ้าง เขาลดมือถือแล้วก้มลงดู ก่อนเบิกตากว้างพลางมองสวี่รุ่ยด้วยท่าทางเหมือนไม่อยากเชื่อ

สวี่รุ่ยรู้สึกแปลกๆ “เกิดอะไรขึ้น”

เหอจี้ข่ายอึ้งงันแล้ว “ห่าวชิว ที่ผ่านมาห่าวชิวอยู่กับเธอหรือเปล่า พวกเธอพักอยู่ด้วยกันเหรอ”

สวี่รุ่ยนึกว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนของเขาที่พบเห็น แม้ก่อนหน้านี้เธอปิดบังไว้ ทว่าตอนนี้ห่าวชิวไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป

เธอพยักหน้าตอบส่งๆ “ใช่”

เหอจี้ข่ายหน้าเปลี่ยนสี “งั้นเป็นเรื่องจริงสินะ”

สวี่รุ่ยพยักหน้า “จริงสิ”

เหอจี้ข่ายเห็นเธอพยักหน้าโดยไม่ลังเลพลันยิ้มแหย “ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอ…”

เซี่ยซือหย่าเห็นพวกเขาสองคนพูดจาวกไปวนมาก็หงุดหงิด “เป็นอะไรไปไม่ทราบ นายมีอะไรก็พูดมา อย่ามัวแต่ลีลา!”

เหอจี้ข่ายยื่นมือถือให้เซี่ยซือหย่า ก่อนดื่มน้ำอึกใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์

เซี่ยซือหย่ามองก็พบว่าเป็นข่าวบันเทิงข่าวหนึ่ง หล่อนอ่านออกเสียงตามพาดหัวข่าว “ห่าวชิวกับเศรษฐีสาวพักอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน เปิดเผยภาพสนิทสนม ห่าวชิวผู้มีข่าวด้านลบแบบกู่ไม่กลับมาโดยตลอด ช่วงนี้มีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาไม่ขาดสาย ไม่เพียงได้ร้องเพลงปิดของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แต่ยังได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าคุณภาพสูงสองรายการติดต่อกัน…คนวงในเผยว่าทั้งหมดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์หลักล้านของเศรษฐีสาวคนหนึ่ง…”

อ่านถึงตรงนี้เซี่ยซือหย่าก็อ่านต่อไม่ได้อีก เนื่องจากมีรูปภาพโผล่มา

รูปหนึ่งเป็นรูปกระซิบกระซาบกันหน้าประตูหมู่บ้าน ท่าทางเหมือนกำลังจูบกันจนไม่รู้จะเหมือนอย่างไร นอกจากนี้ยังมีรูปกอดกันอีกหลายรูป หรือแม้กระทั่งรูปที่ห่าวชิวแบกเด็กสาวคนหนึ่งและหัวเราะเริงร่าก็ยังมี

รูปถ่ายหลายรูป ประกอบกับบทความที่เขียนเป็นตุเป็นตะ จากมื้ออาหารหลักแสน สู่ค่าประชาสัมพันธ์นับล้าน ช่วยห่าวชิวโจมตีคู่แข่ง ช่วยห่าวชิวทำการตลาด…โดยพื้นฐานแล้วทำให้คนที่อ่านเฉพาะเนื้อหาข่าวนี้คิดว่าห่าวชิวเป็นผู้หญิงที่รักใคร่ชอบพอกับผู้หญิงด้วยกันและมีเศรษฐีนีคอยให้เงินสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแบบไม่มีข้อโต้แย้ง

“สวรรค์เถอะ นี่มันมั่วชัดๆ ถ้ารุ่ยที่รักจะเปลี่ยนรสนิยมละก็ ไม่ใช่ว่าต้องปิ๊งฉันก่อนหรือไง”

เซี่ยซือหย่าโวยวายแปลกๆ ก่อนผลักเหอจี้ข่ายที่ยังดึงสติกลับมาไม่ได้ “เฮ้ อย่าบอกนะว่านายเชื่อข่าวพรรค์นี้กับเขาด้วย”

น้ำเสียงของเหอจี้ข่ายแหบแห้ง “แต่รูปพวกนั้น…”

เซี่ยซือหย่าหันกลับไปโอบเอวสวี่รุ่ย แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ “ฉันถ่ายรูปสนิทสนมกว่ารูปนั้นเป็นร้อยเท่า! อา ยังมีค่าประชาสัมพันธ์หลักล้านด้วยนะ ใครนะช่างมีความพยายามคิดหาวิธีใส่ร้ายห่าวชิวขนาดนี้ แถมยังลากรุ่ยที่รักของพวกเราไปเกี่ยวด้วย! ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด!”

สวี่รุ่ยไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องเหล่านี้แล้ว เธอรีบบอกลาเพื่อนสนิททั้งสอง

หนึ่งเธอยังต้องไปรับคนที่สนามบิน เที่ยวบินของลั่วหานใกล้จะมาถึงแล้ว สองมีสายโทร.เข้ามาสองสายในเวลาเดียวกัน สายหนึ่งคือห่าวชิว อีกสายมาจากไป๋ฟางหนึ่งในทีมประชาสัมพันธ์นั่นเอง

สวี่รุ่ยกดรับสายจากไป๋ฟางก่อน “รีบช่วยฉันเก็บกวาดให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้!”

ไป๋ฟางรู้หลักการข้อนี้ดีเช่นกัน หล่อนสาธยาย “เวลานี้กำลังดำเนินการอยู่ค่ะ แต่ข่าวนี้ถูกรีโพสต์บนเวยปั๋วแล้ว และในเว็บบอร์ดใหญ่ๆ หลายเว็บก็มีคนคอยชักนำ การเก็บกวาดจึงจำเป็นต้องใช้เวลา แต่พวกเราจะเร่งให้เร็วที่สุดค่ะ”

สวี่รุ่ยคิดไม่ถึงว่าจ้าวอีอีจะกลายเป็นสุนัขจนตรอกเร็วอย่างนี้ นับว่าทางด้านเอมี่ยังคงช้าไปก้าวหนึ่ง

เธอยิ่งคิดไม่ถึงว่าจะเป็นข้อมูลลับที่มีมูลความจริงปะปนอยู่แบบนี้

ต้องขอบคุณที่จ้าวอีอีงัดมันออกมา

สวี่รุ่ยทำได้เพียงรอให้ทางเอมี่ได้ข่าวที่น่าตกใจมาตอกกลับจ้าวอีอีสักหน หล่อนจะได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้สักที

เทียบกับการถูกแฉอย่างไม่ทันตั้งตัวคราวก่อน คราวนี้เป็นการจงใจ มีทีมเปิดโปงข้อมูล เห็นได้ชัดว่าดุเดือดและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

ข่าวแพร่ไปได้ไม่นานก็มี “คนช่างใส่ใจ” ค้นพบประเด็นสำคัญ แปะรูปภาพการเหมาซื้อสินค้าบนเครื่องบินก่อนหน้านั้นเพิ่ม ทึกทักชี้จุดที่มีความคล้ายคลึงกับรูปแฟนสาวของห่าวชิว ไล่ตั้งแต่ทรงผม ใบหน้า และสไตล์การแต่งตัว…ไปจนถึงการเปิดเผยตัวตนเศรษฐีนีของห่าวชิวคนนั้น

[เจ้าอ้วนคูณสอง : แม่เจ้าโว้ย เมื่อวานฉันยังพูดอยู่เลยว่าฉันอาจได้เป็นหลานเขยตระกูลจู้ทันทีที่ลืมตาตื่นก็ได้ วันนี้ปรากฏว่าต้องไปแปลงเพศก่อน ฝันถึงจะเป็นจริงสินะ] [ดูซิว่าฉันจะฆ่าเธอได้ไหม : จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าฉันเข้าใจสายการบินผิดไป ก่อนหน้านี้น่าจะไม่ใช่การตลาด…] [ว่ากันว่าการล้างเครื่องสำอางเป็นการฆาตกรรม : งั้นนั่นก็คือหลานสาวของจู้หงเซินตัวจริงเสียงจริง หล่อนจ่ายเงินหนึ่งล้านซื้อสินค้าปลอดภาษี จ่ายเงินหนึ่งล้านเลี้ยงดูนักแสดงสาว จ่ายเงินหนึ่งล้านซื้อของที่มีดาษดื่นตามท้องตลาด ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกประหลาดใจเลยสักนิด] [หัวโจกแก๊งอนุบาล : ทำไมพวกเธอเอาแต่เถียงกันเรื่องหลานสาวของจู้หงเซิน ประเด็นหลักไม่ใช่ห่าวชิวไต่เต้าด้วยการเลียแข้งเลียขาคนรวยหรอกเหรอ] [ต่ำตมเป็นทัศนคติชนิดหนึ่ง : เหอะ จ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อทำการตลาด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมข่าวคาวก่อนหน้านี้ถึงถูกขัดสีฉวีวรรณจนหมดจด] [สั่งสอนเธอสักหน่อยยายตัวแสบ : ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่ห่าวชิวเป็นพวกรักร่วมเพศหรือไง น่าขยะแขยง ขอเปลี่ยนเป็นแอนตีแฟน!] [ข้าเป็นเด็กดื้อ : ไม่ๆ ประเด็นหลักอยู่ที่หลานสาวของจู้หงเซินดันเป็นพวกรักร่วมเพศต่างหาก!] [ชายหนุ่มผู้ดุดันกว่านมวัวเหมิงหนิว : ฉันไม่เข้าใจโลกของคนรวยเอาเสียเลย ผู้ชายดีๆ มีไม่ชอบ ทำไมจะต้องชอบคนที่ไม่ใช่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วย]

 

มีทั้งนักแสดงหญิง มีทั้งรักร่วมเพศ ไหนจะหลานสาวของจู้หงเซิน อวดรวย เลี้ยงดู เป็นประเด็นร้อนเต็มไปหมด

ในโลกออนไลน์ถกเถียงกันอย่างร้อนแรง เป็นธรรมดาที่ทีมประชาสัมพันธ์จะเก็บกวาดได้ยากขึ้น และภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ก็ทะยานสู่อันดับการค้นหายอดนิยม

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งข่าวนี้ไปให้จู้หงเซินด้วยความไวแสง

พยาบาลสองสามคนกำลังวัดความดันโลหิตให้จู้หงเซิน เขาโบกมือให้ลูกน้องรายงาน

ผู้รับผิดชอบเห็นว่ามีคนนอกอยู่ด้วยก็อ้ำอึ้ง แต่เมื่อเห็นว่าท่านประธานกำลังจะหมดความอดทนจึงรีบรายงาน “เมื่อครู่มีข่าวหนึ่งเกี่ยวข้องกับหลานสาวของท่านปรากฏในการค้นหายอดนิยม ว่ากันว่าเธอกับนักแสดงสาวคนหนึ่งเป็นพวกรักร่วมเพศ ยังจ่ายเงินช่วยประชาสัมพันธ์ให้หนึ่งล้านหยวนเพื่อล้างข่าวฉาว…”

ใบหน้าของจู้หงเซินนิ่งสนิท “อะไรคือพวกรักร่วมเพศ”

ผู้รับผิดชอบเริ่มอึกอัก จู้หงเซินจึงยื่นมือไปหาเขาสีหน้าขรึม

ผู้รับผิดชอบทำได้เพียงยื่นแท็บเล็ตให้ ปากก็พูดไปด้วย “ท่านประธานจู้อย่าเพิ่งโมโหนะครับ เป็นข่าวลือในอินเทอร์เน็ต”

จู้หงเซินรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาย่อมอ่านแล้วเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือ รูปภาพ หรือแม้กระทั่งความคิดเห็นของชาวเน็ต

สักพักพยาบาลก็ร้องด้วยความตกใจ “ท่านประธานจู้คะ ความดันโลหิตของคุณ…”

จู้หงเซินสนใจเรื่องนี้ที่ไหน เขาดึงแขนออกจากเครื่องวัดความดันแล้วเรียกเลขาฯเข้ามา

ตอนเลขาฯโจวมาถึงก็เห็นท่านประธานกำลังตำหนิผู้รับผิดชอบฝ่ายประชาสัมพันธ์อยู่พอดี

น้ำเสียงของจู้หงเซินข่มขู่กดดันชวนให้ขวัญผวา “ไปหามาให้ได้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องเลวทรามแบบนี้”

คนอื่นๆ พยักหน้าพร้อมกับค้อมศีรษะเล็กน้อยแล้วรีบจากไป เลขาฯโจวรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ยังไม่ทันอ้าปากถาม จู้หงเซินก็พูด “โทร.หาเจ้าสี่”

เลขาฯโจวไม่กล้าชักช้าอืดอาด รีบต่อสายหาจู้หย่วนเฟิง ทว่ายิ่งไม่อยากชักช้ามากเพียงใด กลับโทร.ไม่ติดเสียอย่างนั้น เขาลนลานจนแทบร้องไห้อยู่รอมร่อ

“ท่านประธานจู้ครับ เป็นไปได้ว่าคุณชายสี่อาจยังอยู่ต่างประเทศ ทำยังไงดีครับ”

จู้หงเซินมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “โทร.ไปฮ่องกง”

พอต่อสายไปฮ่องกง คนรับใช้ก็ส่งต่อให้คังซูเสียนเป็นคนรับสาย

คังซูเสียนไม่เคยรับสายของจู้หงเซิน เนื่องจากความสัมพันธ์ของจู้หย่วนเฟิงกับบิดาของเขาย่ำแย่มาก เทศกาลปีใหม่ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน ทว่ามารยาทพื้นฐานยังคงมีอยู่ แม้เธอจะไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย แต่ยังเรียกด้วยความเคารพว่า “คุณพ่อ”

จู้หงเซินถามเสียงเย็นชา “เธอรู้เรื่องของสวี่รุ่ยมากน้อยแค่ไหน”

คังซูเสียนไม่คิดว่าเขาจะโทร.มาถามเรื่องนี้ แต่เธอก็คิดเชื่อมโยงถึงเรื่องก่อนหน้านี้ได้อย่างเร็วรี่จึงอธิบาย “เรื่องนี้หนูแนะนำให้เชอร์รีบอกคุณพ่อแต่แรก แต่เธอกลัวคุณพ่อเลยไม่กล้าบอก หนูกำลังหาทางจัดการ…”

จู้หงเซินพูดแทรก “นี่หมายความว่าเธอรู้นานแล้วหรือว่าสวี่รุ่ยมีแนวโน้มที่จะรักชอบคนเพศเดียวกัน และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับแม่ดาราสาวคนนั้น”

คังซูเสียนตะลึง “รักชอบคนเพศเดียวกันเหรอคะ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเนี่ยนะคะ”

จู้หงเซินไออย่างหนัก พยาบาลข้างๆ ไม่รอช้ารีบส่งยากับน้ำให้เขา

สุดท้ายเขากำชับ “คืนนี้ฉันจะบินไปฮ่องกง เธอขังยายเด็กนั่นไว้ที่บ้าน ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”

ยามนี้คังซูเสียนรู้แล้วว่าคงปิดบังต่อไปไม่ได้อีก เธอจำใจตอบว่า “คุณพ่อคะ ความจริงเชอร์รี…ไม่ได้อยู่ที่ฮ่องกงแล้วค่ะ”

จู้หงเซินขมวดคิ้ว “ยายเด็กพวกนั้นหนีออกจากฮ่องกงไปอยู่ด้วยกันเหรอ พวกเธอเป็นน้าประสาอะไร”

คังซูเสียนอธิบาย “ไม่ใช่อย่างที่คุณพ่อคิดนะคะ ไม่ได้อยู่ใต้ชายคาเดียวกันอะไรทั้งนั้นค่ะ เป็นเพราะหย่วนเฟิงไม่ได้บอกคุณพ่อ ความจริงเชอร์รีพักอยู่ที่ฮ่องกงแค่ปีกว่าเท่านั้น ต่อมาทางแผ่นดินใหญ่มีข่าวคราวเกี่ยวกับพ่อของเธอ พอเชอร์รีรู้ข่าวก็ดีใจมาก ต้องการจะกลับไปหาพ่อที่แผ่นดินใหญ่ให้ได้ คุณพ่อก็รู้ว่าหย่วนเฟิงเป็นคนยังไง เขาตามใจเชอร์รีมาแต่ไหนแต่ไร เชอร์รีชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ หลังจากนั้นเขาก็ส่งเธอกลับไป”

ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ “งั้นแปลว่าเด็กนั่นกลับไปหาพ่อของมันแล้วงั้นเหรอ”

คังซูเสียนคิดว่าจะสรุปแบบนี้ก็คงไม่มีปัญหา “ใช่ค่ะ คุณพ่อคะ ถ้าคุณพ่อจะไปหาเชอร์รี บางทีอาจต้องไปที่เมือง C นะคะ”

ปลายสายไม่ได้พูดอะไรอีก

คังซูเสียนเคยได้ยินเรื่องนิสัยใจคอของพ่อสามีมานานแล้ว เธออดช่วยพูดแทนสวี่รุ่ยอีกสองสามคำไม่ได้ “คุณพ่อคะ หนูไม่รู้ว่าคุณพ่ออ่านรายงานข่าวจากที่ไหน แม้เชอร์รีรักสนุก แต่หนูเชื่อว่าเธอไม่ใช่เด็กที่จะทำตัวเละเทะแบบนั้น นอกจากคลั่งไคล้การช็อปปิง ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้วนะคะ”

จู้หงเซินปิดเปลือกตาลง น้ำเสียงสงบลงมาก “อืม ฉันจะให้คนตรวจสอบจนถึงที่สุด เธอไม่ต้องยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว”

 

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า