SocialOutcast
เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า
社交温度
卡比丘 ข่าปี่ชิว เขียน
G.N Voyager แปล
โปรย
เขาจำเสียงนี้ได้ดี
ไอ้ผู้ชายตุ้งติ้งน่ารังเกียจในห้องแล็บที่มหาวิทยาลัย
…
เพราะเพื่อนตัวดีของ ซ่งหย่วนสวิน แอบเล่นพิเรนทร์ติดตั้งแอปฯ หาคู่ไว้ในโทรศัพท์มือถือของเขา
แล้วจู่ ๆ มันก็เด้งเตือนการจับคู่กับบุคคลเลวร้ายที่สุดในความทรงจำของเขาอย่าง ฟางเจามู่
อีกทั้งไม่รู้ว่าปีศาจตนใดเข้าสิง แทนที่ซ่งหย่วนสวินจะลบแอปฯ นั้นทิ้ง
กลับเผลอคุยกับอีกฝ่ายไปเสียหลายประโยค
เรื่องราวหลังจากนั้นยิ่งบานปลาย
ทำให้ซ่งหย่วนสวินจำต้องแสร้งคุยต่อแล้วค่อยหาโอกาสสลัดอีกฝ่ายทิ้ง
แต่ไม่รู้ทำไม ไม่เพียงสลัดอีกฝ่ายออกไปไม่ได้ ดันติดต่อกันบ่อยขึ้นด้วยเนี่ยสิ!
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 2
ฟางเจามู่เพิ่งเคยเล่นแอปหาคู่เป็นครั้งแรกเลยตื่นเต้นนิดหน่อย แต่เพราะเขาไม่มีเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่พูดคุยด้วยได้แม้แต่คนเดียว ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน
เขายังไม่ค่อยคุ้นกับการทำงานของแอปพลิเคชันนี้เท่าไร เมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยก็ต้องเลือกสิ่งที่ชอบมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นระบบจะจับคู่ให้โดยอัตโนมัติ หลังจากเมินคนที่เขาไม่ได้สนใจไปสองสามคนก็มีคนที่ชื่อ Andrew ปรากฏขึ้นมา
Andrew อายุ 29 ปี เป็นวิศวกรเครื่องกลสัญชาติจีน รูปภาพของเขาไม่เปิดเผยใบหน้าเช่นเดียวกับฟางเจามู่ เขาสวมเสื้อเชิ้ตกลัดกระดุมเพียงสองสามเม็ดล่าง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องทั้งแปดก้อน ฟางเจามู่ไม่ได้ชอบรูปภาพโชว์สัดส่วนแบบนี้เท่าไร แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นวิศวกรที่อายุมากกว่าเขาถึงแปดปี ก็เริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาเล็กน้อย จึงเลือกที่จะแมทช์แล้วกอดโทรศัพท์รออีกฝ่ายตอบรับ
ปีนี้เขามาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัย T และต้องเผชิญความยากลำบากสารพัดรูปแบบหลายต่อหลายครั้ง
ช่วงที่มาแรก ๆ ทุกอย่างยังถือว่าปกติดี แต่จากนั้นฟางเจามู่ก็ค่อย ๆ พบว่าคนจีนในห้องแล็บดูไม่ยินดีที่จะคบหาสมาคมกับเขาสักเท่าไร แม้ว่าพวกคนขาวที่อยู่ในกลุ่มโปรเจ็กต์เดียวกันกับเขาค่อนข้างเป็นมิตร แต่กลับคุยกันได้ไม่มากนัก ส่วนเพื่อนที่จีน ด้วยความต่างของเวลา น้ำที่อยู่ไกลไม่อาจดับกระหายได้
เมื่อก่อนฟางเจามู่กลัวการอยู่คนเดียวมาก เขาชอบหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนและไม่เคยต้องผ่านวันเวลาไปอย่างเงียบเหงาขนาดนี้มาก่อน…ถ้าแค่เงียบเหงาก็ไม่เท่าไรหรอก แต่นี่ยังทำให้เขาวิตกจริตถึงขั้นว่าทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาจะเริ่มหวาดกลัวช่วงเวลาที่ก้าวขาออกจากห้อง
ไม่เคยมีใครมาพูดอะไรกับเขา แต่ฟางเจามู่รู้สึกได้ว่าทุกคนเหมือนจะตีตัวออกห่างจากเขาเพราะซ่งหย่วนสวิน ทว่าฟางเจามู่เองก็ไม่รู้สาเหตุที่ซ่งหย่วนสวินไม่ชอบตนเช่นกัน
เขารู้แค่ว่าทุกคนเอาแต่รายล้อมรอบตัวซ่งหย่วนสวิน แต่ซ่งหย่วนสวินไม่ชอบเขา ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มมองข้ามเขาโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจไปด้วย
ความเย็นชาในแบบของผู้ใหญ่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว ฟางเจามู่เริ่มนับเวลาถอยหลังกลับประเทศ ทุกวันเขาจะรอคอยให้การแลกเปลี่ยนครั้งนี้สิ้นสุดลงเหมือนช่วงที่เฝ้ารอให้มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ฟางเจามู่โหลดแอปพลิเคชันนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากลับไม่กล้าใช้งาน แม้กระทั่งจะลงทะเบียนยังไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเมื่อช่วงกลางวันนี้เขาถูกยั่วโมโหจนโกรธและไม่มีที่ระบาย สุดท้ายเลยรวบรวมความกล้า คิดจะใช้แอปพลิเคชันนี้ระบายความเครียด
เขาส่งข้อความให้ Andrew สองข้อความแล้วเริ่มจ้องหน้าต่างแชตบนหน้าจออย่างเหม่อลอย ระหว่างที่เขากำลังทบทวนความทรงจำว่าสรุปแล้วตนเองกับซ่งหย่วนสวินเคยมีเรื่องผิดใจกันก่อนจะเข้าไปในห้องแล็บหรือไม่เป็นครั้งที่ยี่สิบ Andrew ก็ตอบข้อความกลับมา
[คุยอะไรล่ะ?]คำสามคำกับเครื่องหมายคำถามทำให้ฟางเจามู่ถึงกับช็อก เขาเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองไม่ได้พูดภาษาจีนกับคนอื่นในช่วงพลบค่ำของเมือง C มานานแค่ไหน
ฟางเจามู่เอื้อมมือไปกดปุ่มอัดเสียงค้างไว้แล้วถาม Andrew “คุณอยู่ที่ไหนน่ะ”
เขาออกจากหน้าต่างแชต มองไปมองมาก่อนจะพูดกับ Andrew “ผมเห็นในแอปบอกว่าเราอยู่ห่างกันแค่สามกิโลเมตร ถ้าจะเจอกันก็คงใช้เวลาไม่นานนัก”
ผ่านไปสักพัก Andrew ก็ตอบกลับฟางเจามู่ [เจอกัน?]
ระหว่างที่ฟางเจามู่ชะงักไปชั่วขณะ Andrew ก็ส่งข้อความที่สามมา [นายอยู่ที่ไหน]
ฟางเจามู่ครุ่นคิดก่อนบอก Andrew ว่า “ผมอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย T” เขาลองนัด Andrew อีกครั้ง “คุณเพิ่งใช้แอปนี้ครั้งแรกเหรอ จะว่างเมื่อไรครับ พวกเราออกมาดื่มกันก็ได้นะ”
Andrew ตอบข้อความช้ามาก ฟางเจามู่เลยวางโทรศัพท์ลง หลังอ่านหนังสือไปสองสามหน้า Andrew ถึงตอบกลับมา [นายรีบขนาดนั้นเลยเหรอ]
ฟางเจามู่คิดว่า Andrew ทำตัวค่อนข้างพิลึกชอบกล เลยเปลี่ยนเป็นพิมพ์ข้อความถามกลับไป [ที่ใช้แอปนี้ก็เพื่ออะไรแบบนี้ไม่ใช่เหรอ]
คราวนี้ Andrew ตอบกลับเร็วมาก แต่เป็นอีกประโยคคำถาม [แล้วเพื่ออะไรล่ะ]
ฟางเจามู่หมดความสนใจจะตอบกลับหลังมองหน้าจออยู่หลายวินาที เขาทิ้งแชตที่คุยกับ Andrew ไว้แล้วไปดูข้อมูลของคนอื่นอีกครั้ง
ไม่นาน Andrew ก็ส่งข้อความมาถามฟางเจามู่ [นายใช้แอปนี้บ่อยเหรอ]
ฟางเจามู่ดูอีกรอบก็ยังไม่เจอคนที่สนใจเลยกลับมาคุยกับ Andrew อีกครั้ง เขาตอบไปตามตรง [ผมเพิ่งเล่นเป็นครั้งแรก คุณเป็นคนแรกที่แมทช์กับผม] [ทำไมถึงมาแมทช์กับฉัน] Andrew ถามเขา
การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตมักจะลดทอนความสมจริงในการสื่อสารลงไป Andrew ไม่ยอมส่งข้อความเสียง แถมถ้อยคำที่พิมพ์มายังสุดแสนจะเย็นชา ฟางเจามู่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังคุยกับหุ่นยนต์จนเขานึกอยากเย้าแหย่อีกฝ่ายด้วยคำพูดไร้สาระอย่างอดไม่ได้ ฟางเจามู่กดปุ่มอัดเสียง พูดกับ Andrew “ผมคิดว่าวิศวกรน่ะโคตรเซ็กซี่เลย แล้วผมก็ชอบคนที่แก่กว่าผมด้วย”
ผ่านไปพักใหญ่ Andrew ก็ยังไม่ตอบเขา ฟางเจามู่เลยถามไปอีก “คุณคงไม่ได้กำลังเขินอยู่หรอกนะ”
[เปล่า] Andrew ตอบกลับทันทีทันใดฟางเจามู่คิดว่าปฏิกิริยาตอบสนองของ Andrew น่าสนุกสุด ๆ เขาไม่ได้มีความสุขขนาดนี้ตั้งนานแล้วจึงพูดกับ Andrew ต่อ “ผมไม่เชื่อหรอก”
ไม่รอให้ Andrew ได้ตอบอะไรกลับมาฟางเจามู่ก็ถามเขาอีกครั้ง “แล้วทำไมคุณถึงเล่นแอปนี้ล่ะ เพราะในความเป็นจริงคุณขี้อายจนหาแฟนไม่ได้เหรอ”
[เปล่า] Andrew ตอบซ้ำอีกครั้ง“ผมคิดว่าใช่นะ” ฟางเจามู่หยอกเขา “ขนาดส่งข้อความเสียงให้ผมคุณยังไม่กล้าเลย”
ผ่านไปครึ่งนาที ในที่สุดอีกฝ่ายก็ส่งข้อความเสียงมาสองวินาที
ฟางเจามู่เปิดฟัง มันเป็นเสียงผู้ชายทุ้มต่ำและเย็นชาพูดว่า “เปล่า”
ทันทีที่เสียงนั้นลอยมาเข้าหู ฟางเจามู่ที่กำลังใจลอยก็รู้สึกว่าเหมือนเขาจะเคยได้ยินเสียงนี้ที่ไหนมาก่อน แต่แล้วก็ต้องหัวเราะออกมาชุดใหญ่อีกครั้งเพราะคำปฏิเสธอย่างจริงจังของอีกฝ่าย เขาฟังอยู่หลายรอบถึงส่งข้อความเสียงไปหยอกล้อ “Andrew คุณนี่ซื่อจริง ๆ เลย”
Andrew ไม่สนใจเขา ฟางเจามู่จึงพูดอีกครั้ง “ว่าแต่เคยมีใครชมว่าเสียงของคุณเพราะบ้างไหม
“เพื่อนวิศวกรของคุณคงไม่ชมคุณแหง ๆ” ฟางเจามู่ติดใจการหยอกเย้าอีกฝ่ายจึงพูดขึ้นมาอีก “ถ้างั้นผมจะชมคุณแล้วกัน Andrew เสียงของคุณเพราะมาก…กล้ามก็ดูดีมากด้วย”