บ้านเล็กในป่าใหญ่ ปีทองอันแสนสุข 8
Rated 5.00 out of 5 based on 1 customer rating
(1 customer review)
฿ 235.00 ฿ 211.50
ขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกลับขอบฟ้า พ่อก็เล่นเพลงเก่าๆ ที่ลอร่าเคยได้ยินมาตั้งแต่จำความได้ เสียงนี้ทำให้หวนนึกถึงวันเวลาในบ้านโพรงดินริมลำห้วยพลัมครีกและตอนค่ำในฤดูหนาวที่ในบ้านใหม่ซึ่งพ่อสร้างขึ้นที่นั่น แล้วซอก็ครวญเพลง ที่พ่อเคยเล่นในตอนคริสต์มาสที่ริมทะเลสาบสีเงิน และฤดูใบไม้ผลิหลังฤดูหนาวครั้งที่นานแสนนานครั้งนั้น ครั้นแล้วซอก็บรรเลงทำนองที่แสนจะไพเราะและเสียงลึกทุ้มๆ ของพ่อก็ประสานขึ้นมาเป็นเพลงรัก
Out of stock
ซื้อครบ 600 บาทหลังหักส่วนลด ส่งฟรี!Weight | 306 g |
---|---|
Dimensions | 18.5 × 12.8 × 1.9 cm |
1 review for บ้านเล็กในป่าใหญ่ ปีทองอันแสนสุข 8
Add a review Cancel reply
You must be logged in to post a review.
turnnar_stay.strong –
” ปีทองอันแสนสุข ” -อ่านแล้วมีความสุข รู้สึกดีที่หัวใจ
หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชนที่ผู้ใหญ่อ่านได้ และวัยรุ่นก็อ่านได้ดี / เรื่องนี้ เป็นเล่มที่ 8 ในหนังสือชุดบ้านเล็กในป่าใหญ่ เขียนโดย “ลอร่า อิงกัลล์ส ไวล์เดอร์” ที่เขียนบรรยายถึงชีวิตตนเอง และความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตของชาวอเมริกันในยุคที่ลอร่าเกิดและเติบโต ผ่านเส้นทางการเดินทาง สู่ดินแดนต่างๆ ที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา เรียนรู้สภาพทางด้านภูมิศาสตร์ และรวมถึงสังคมศาสตร์ ผ่านการอ่านหนังสือวรรณกรรมที่อ่านง่ายในรูปแบบนิยาย ซึ่งจะง่ายต่อการเรียนรู้ รวมถึงรายละเอียดที่ผู้เขียนใส่ใจให้เราได้รับรู้ตามในแต่ละบท แต่ละตอน
โดยส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าเป็นแฟนหนังสือชุดนี้ มีครบทุกเล่ม และอ่านทุกเล่ม แต่เลือกที่จะเขียนเกี่ยวกับเล่มนี้ เพราะเป็นเล่มที่หลังจากอ่านจบแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุข เหมือนตนเองได้เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมๆกับลอร่า
หนังสือเล่มที่ 8 ปีทองอันแสนสุขนี้ บอกเล่าถึงช่วงเวลาปีที่แสนสุข ในเมืองเล็กๆของทุ่งอันกว้างใหญ่ที่กำลังเจริญก้าวหน้า บอกเล่าถึงวัยอันแสนสุขของลอร่า “วัยแห่งการเติบโต” ซึ่งในเรื่องเราจะเห็นการเติบโตของลอร่าอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องที่ต้องตัดสินใจ มุมมองใหม่ๆทางความคิด และสิ่งที่ต้องเรียนรู้ และสิ่งที่ต้องทำเป็นครั้งแรก แม้จะหลงเหลือกลิ่นไอของความเป็นเด็กสาวที่ยังรักสนุกซุกซนอยู่บ้างในเล่มที่ 7 ก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่เล่มนี้ข้าพเจ้าชื่นชอบที่ผู้เขียนบรรยายถึงวิถีชีวิตของตนในช่วงวัยสาวเป็นอย่างมาก เป็นวัยแห่งการเปลี่ยนผ่าน และเริ่มทำสิ่งใหม่ เมื่อลอร่าต้องเริ่มทำงานครั้งแรกอย่างจริงจัง ด้วยการเป็นครูครั้งแรกในชีวิต ผู้เขียนได้บรรยายความรู้สึก ถึงความไม่รู้ของตนในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไร ตนจะสอนอย่างไร แต่ในท้ายที่สุดก็ผ่านมาได้ และผ่านมาได้ดีเสียด้วย แม้ว่าจะยากลำบากก็ตาม ตรงนี้ทำให้เราได้เห็นถึงวิถีชีวิตการเปลี่ยนผ่านของวัยหนุ่มสาวในแง่มุมหนึ่งของยุคนั้นได้ดี ละเอียดลออในความรู้สึก ซึ่งมีทั้งกังวล และครุ่นคิด เมื่อลอร่าเริ่มทำงาน และได้รับค่าตอบแทนกลับมา มันทำให้เธอภูมิใจ และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รวมถึงมีกำลังใจที่จะทำงานให้มากขึ้น
และไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตของลอร่าที่ต้องเปลี่ยนผ่าน และเติบโตเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวความรักในวัยหนุ่มสาว ผู้เขียนได้บรรยายถึงเรื่องราวความรักของตนเอง การพบรัก และการหยอกล้อสนทนากันแบบหนุ่มสาวในยุคสมัยนั้นได้อย่างละมุนละไม อ่อนโยน ดูเรียบง่าย แต่มีความหมายและแง่มุมที่ลึกซึ้งแฝงอยู่มากมาย “แอลแมนโซ ไวล์เดอร์” คือชายหนุ่มคนนั้น และแน่นอนว่าข้าพเจ้ารู้สึกหัวใจพองโตเสมอ เมื่อได้อ่านบทสนทนาของทั้งสอง และเห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละบทแต่ละหน้าของทั้งคู่ เมื่อได้อ่านเราจะได้เห็นวิถีตกหลุมรักของหนุ่มสาวในช่วงเวลานั้นชัดเจน ถึงความสนุกสนาน การละเล่นในแต่ละฤดูกาล มันทำให้ข้าพเจ้าผู้ที่อาศัยอยู่ในยุคปัจจุบันมีความสุข และคล้อยตามความรักที่เรียบง่ายของทั้งคู่ในสมัยนั้น
เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ข้าพเจ้ารัก เพราะทุกครั้งที่ได้อ่าน เหมือนข้าพเจ้าได้พักผ่อน และพาตนเองหลีกหนีจากสังคมที่วุ่นวายในปัจจุบัน กลับสู่อดีตที่มีเพียงธรรมชาติและความสุข เมื่อได้ผ่านความลำบาก ก็มักจะมีสิ่งที่ดีรอตอบแทนอยู่ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ครอบครัวและตัวลอร่าก็มักจะมีความหวังและไม่ย่อท้อเสมอ นั่นทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจ และเมื่อได้อ่านตั้งแต่เล่มแรก จนถึงเล่มสุดท้าย ข้าพเจ้าจึงกล้าที่จะบอกว่าหนังสือชุดนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่มีคุณค่าทั้งความรู้ และความรัก อิ่มเอมไปด้วยความรู้สึกของชีิวิต เพราะมันเขียนถึงการใช้ชีวิต ที่ต้องดิ้นรน ต่อสู้ ลำบาก และมีความสุข มันทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นถึงความอดทนของผู้คนในอดีต ความเฉลียวฉลาดในการเอาตัวรอด เพราะยุคสมัยนั้นไม่ได้สะดวกและง่ายดายเหมือนสมัยนี้ ข้าพเจ้าจึงรักหนังสือชุดนี้มาก ไม่ใช่แค่เพียงเล่มนี้เท่านั้น แต่เป็นทั้งหมดที่เกี่ยวกับหนังสือชุดนี้
ข้าพเจ้าอยากให้ทุกคนได้อ่านกัน และอยากให้เด็ก และเยาวชนรุ่นหลังได้อ่านต่อไป