ห้องเรียนมิสเตอร์ทีกับปีต้องมนตร์
Rated 5.00 out of 5 based on 4 customer ratings
(4 customer reviews)
฿ 245.00
เรื่องเล่าจากเด็ก 7 คน ผู้ตกอยู่ในเทอมต้องมนตร์กับครูคนพิเศษ ครูผู้รู้วิธีรับมือกับเรื่องต่างๆ ได้ดีเหลือเกิน โดยเฉพาะการรับมือนักเรียนในปกครอง
ถัดจากนี้ ปีเตอร์, เจสสิกา, อะเล็กเซีย, เจฟฟรีย์, แอนนา, แดเนียล และลูค จะผลัดกันมาเล่าเรื่องราวความยาวหนึ่งปีการศึกษา ว่าด้วยเรื่องของครูประจำชั้นกับนักเรียนหนึ่งห้อง ที่ทั้งสนุก เศร้า สวยงาม ร้ายกาจ และน่าจดจำเหลือเกิน
Out of stock
ซื้อครบ 600 บาทหลังหักส่วนลด ส่งฟรี!Weight | 290 g |
---|---|
Dimensions | 18.4 × 13.7 × 1.7 cm |
4 reviews for ห้องเรียนมิสเตอร์ทีกับปีต้องมนตร์
Add a review Cancel reply
You must be logged in to post a review.
Nittaporn –
ซื้อเล่มนี้เพราะนึกว่าเป็นแฟนตาซีมีเวทมนตร์ แต่จริงๆแล้วไม่แฟนตาซีเลยซักนิด 555+ แต่ความหักมุมคืออ่านรวดเดียวจบ ประทับใจจนต้องไปบังคับน้องชายอ่านด้วย กลายเป็นเล่มโปรดไปได้ไงไม่รุ
dara_honeybear3 –
“เมื่อคุณครูสุดเจ๋งต้องมาปราบนักเรียนเจ้าปัญหาความน่ารักของพวกเขาจะตรึงไว้ด้วยความประทับใจไปอีกนาน”
ฉันอ่านรวดเดียวจบในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
ที่ฉันได้เข้าเรียนพร้อมกับเด็กๆชั้นปอห้า
และได้รู้จักกับเด็กๆทั้ง 7 คนที่มาเล่าเรื่องของคุณครูที่รักให้ฟัง
มิสเตอร์แทรัปต์ เป็นคุณครูคนใหม่มาช่วยสอน แต่เขาไม่เหมือนใคร เขาฉลาด มีวิธีรับมือกับเด็ก
ชี้แนวทางที่เหมาะกับเด็กแต่ละคน เด็กๆทั้ง 7 ที่มาเล่าเรื่องต่างมีปมขัดแย้งในตัวเอง
ฉันรักหนังสือเล่มนี้จริงๆ ไม่งั้นคงไม่อ่านรวดเดียวจบแบบนี้
ด้วยความหนาเกือบสามร้อยหน้า แต่ทุกหน้าที่อ่านรู้สึกเหมือนผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที
หนังสือเรื่องนี้ให้ข้อคิดดีๆ ให้รอยยิ้ม
ให้รอยน้ำตาที่ซึมมาตอนช่วงนั้นของเรื่อง ให้ความตื่นเต้นและอบอุ่นใจ
จนบางครั้งฉันก็แอบคิดถึงการได้เป็นคุณครูของใครสักคน
มันคงจะวิเศษมากหากได้เฝ้าพร่ำสอนและมองดูเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ส่วนหนึ่งหลังจากอ่านจบ ฉันคิดถึงคุณครูของฉัน คุณครูทำให้ฉันมาไกลจนถึงขนาดนี้
หากไม่มีคุณครู เด็กอย่างเราคงไม่ได้เรียนรู้ใดๆ
หากใครมีครูดี นับว่าเป็นความโชคดีจริงๆ …
Chatravee Pichitpunpong –
หนังสือเล่มนี้เมื่อเห็นปกและพลอตเรื่องในตอนแรก… เราไม่กล้าคาดหวังว่าจะเป็นหนังสือที่จะเขียนออกมาได้ดี และคิดว่าก็คงเป็นเรื่องเล่าธรรมดาที่อ่านเพลินๆฆ่าเวลา แต่พออ่านๆไปเรารู้ตัวว่าเราคิดผิด…เนื้อเรื่องในเล่มเล่าผ่านมุมมองของเด็ก 7 คนที่ได้มาอยู่ในชั้นเรียนเดียวกัน แต่ต่างคนต่างที่มา ต่างคนก็ต่างมีบุคลิก และมีเรื่องราวประวัติหรือปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งที่เรารู้สึกได้คือ เด็กแต่ละคนก็ล้วนเป็นผ้าขาวที่ทำให้เรารู้สึกหลงรัก ผูกพัน ตลอดจนแอบขำไปความไร้เดียงสาของพวกเด็กๆ และแน่นอนว่าถ้าเป็นเรื่องจริงที่นำเด็กเหล่านี้มารวมกันคงทำให้อาจารย์หลายท่านต้องหนักอกหนักใจ (ไม่) นิดหน่อยกับการสอน แต่ในเล่มนี้มิสเตอร์ที (ย่อจากแทรัปต์) กลับรับมืออยู่และยังเป็นที่รักของเด็กๆทุกคนอีกด้วย
นอกจากความขำและความซึ้งของเหล่าเด็กแสบที่หนังสือเล่า เรายังได้เห็นการเรียนการสอนในที่ดูแตกต่างจากที่ประเทศของเราโดยสิ้นเชิง เพราะเป็น child center ที่ส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กสามารถคิดและทำได้อย่างที่ตนต้องการโดยที่เด็กรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการเรียน
'ห้องเรียนของมิสเตอร์ทีกับปีต้องมนตร์' เล่มนี้จึงเปรียบเสมือนห้องเรียนแห่งความฝันที่เราอยากให้เกิดขึ้นจริง ทั้งระบบและอาจารย์ที่ทุ่มเทให้กับเด็ก และกลิ่นอายความปรารถนาดีของอาจารย์ที่ทำให้เรารู้สึกคิดถึงอาจารย์ที่เรารักแบบไม่หน่อย และน่าแนะนำให้ทั้งทุกๆวัยได้ลองอ่านดู
mtnadam (verified owner) –
รื่องราวของเด็กชั้นป.5 ทั้ง 7 คนจากโรงเรียนสโนว์ฮิลล์
กับคุณครูคนใหม่ที่แสนธรรมดาแต่มาพร้อมกับความพิเศษ
.
.
ไม่ใช่เฉพาะรูปแบบการสอนที่ทำให้มิสเตอร์ที
“แตกต่าง” และ “พิเศษ
แต่เป็นเพราะ ……
.
ส่วนที่ชอบคือ “ปม” ของเด็กแต่ละคน
ที่ทำให้เกิดความแตกต่างในการแสดงออกมา
ผ่านทางพฤติกรรมของเด็กๆ
.
.
?ปีเตอร์…จอมแกล้งกับบทเรียนครั้งสำคัญ
??ลูค…เด็กเนิร์ด เจ้าพ่อศัพท์หนึ่งดอลลาร์
?เจฟฟรีย์…หนุ่มน้อยผู้อยู่กับความเงียบและแม่ในชุดนอนหลังการสูญเสีย “ไมเคิล”
? เล็กซี่ … สาวน้อยแฟชั่นนิสต้ากับสงครามเด็กผู้หญิง
?แดเนียล … สาวน้อยร่างอวบ กับครอบครัวเคร่งศาสนา
? แอนนา … อาศัยอยู่กับซิงเกิลมัมที่อายุน้อย กับบททดสอบที่เกิดจากความผิดพลาดในอดีต
? เจสสิก้า … สาวน้อยกับหนังสือคู่ใจ การย้ายที่อยู่โดยปราศจากพ่อ กับการทำความรู้จักเพื่อนใหม่
.
.
เด็ก 7 คน และบทเรียนของชีวิต
จากบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมิสเตอร์ที
ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของทุกคน
.
.
เวทมนตร์ … อาจไม่มีจริง
แต่อะไรนะ ที่ทำให้ครูธรรมดาๆ
กลายเป็นคนพิเศษของทุกๆคน
.
.
เล่มนี้ชอบมากกกกกกกกกกกก
อ่านแล้วติดหนึบ วางไม่ลง
เป็นวรรณกรรมเยาวชนเชิงจิตวิทยาที่นำเสนอออกมาได้ดี
ชอบวิธีการแปลแบบนี้ด้วย
เข้าใจง่าย มีเสน่ห์ น่าอ่าน
เก็บอะไรๆ มาคิดต่อได้อีก