“เมื่อปราศจากฟีดแบ็ก พนักงานย่อมขาดความสามารถ ส่วนหัวหน้าก็จะกลายเป็นเผด็จการ !” นี่คือพลังของฟีดแบ็กที่หลายคนไม่รู้ เพราะมักคิดว่าการให้หรือได้รับฟีดแบ็ก ต้องเป็นเรื่องแง่ลบเสมอ แต่จริง ๆ แล้ว ฟีดแบ็กเป็นเครื่องมือในการช่วยผลักดันศักยภาพคนทำงานให้พัฒนาได้ง่าย ๆ เราไปดูกันว่า “พลังของฟีดแบ็กมีดีกว่าที่คุณคิด !” มากแค่ไหนกัน คนทำงานต้องรู้ว่าสถานะของตัวเองเป็นอย่างไร คนทำงานจำเป็นต้องรู้ว่าสถานะของตัวเองเป็นอย่างไร เพื่อชดเชยข้อบกพร่องในปัจจุบันและปรับปรุงประสิทธิภาพในอนาคต ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เพราะอย่างนี้นี่เอง หลายคนจึงไม่สามารถรับรู้ความจริงข้อนี้ได้ และปัญหาก็เริ่มต้นจากตรงนี้ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อปรับปรุงผลงานคือ การระบุรูปแบบพฤติกรรมที่คุณแสดงออกมาจนถึงตอนนี้อย่างถูกต้องแม่นยำ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำอะไรและต้องทำอย่างไรหากไม่รู้รูปแบบพฤติกรรมในปัจจุบันของตัวเอง จริง ๆ แล้วมีหลายครั้งที่คนรอบตัวที่เฝ้าจับตาดูเราอยู่สามารถเข้าใจพฤติกรรมของเราได้ถูกต้อง ในขณะที่เรากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองดี เพราะการวิเคราะห์และประเมินตัวเองจากมุมมองของผู้อื่นเป็นเรื่องยากนั่นเอง ลองถามคนที่ทำงานใกล้ชิดกับคุณที่สุดว่า พฤติกรรมใดของคุณที่พวกเขาคิดว่ามีอิทธิพลมากที่สุดต่อการทำผลงาน แน่นอนว่าการทำเช่นนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงว่า เพื่อนร่วมงานจะเข้าใจพฤติกรรมของคุณชัดเจนกว่าตัวคุณเอง เพราะนอกจากการทำความเข้าใจพฤติกรรมของตัวเองจะขาดความเป็นกลางแล้ว เมื่อถูกงานไล่ล่าทุกวัน เราก็ไม่ค่อยมีเวลานึกถึงพฤติกรรมตัวเองนัก การสังเกตและการจดบันทึก คือทักษะหลักในการให้ฟีดแบ็ก การสังเกตเป็นนิสัยที่นักธุรกิจที่เป็นผู้นำแห่งยุคมีเหมือน ๆ กัน แม้แต่อัจฉริยะในด้านต่างๆ เช่น สตีฟ จ็อบส์ ผู้มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมในการมองเห็นถึงแก่นแท้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสังเกตอย่างจริงจัง และลีโอนาร์โด ดาวินชี ผู้ใช้ดวงตาแห่งจินตนาการมองลึกลงไปกว่าสิ่งที่ตามองเห็น […]