90 เปอร์เซ็นต์ของความรู้สึกในใจจะแสดงออกมาในรูปแบบบุคลิกและท่าทาง การ อ่านใจคน ให้ออกจะทำให้เราเป็นต่อทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือการงาน เราไม่สามารถในภาษาในการสื่อสารอย่างเดียว อวัจนภาษาหรือท่าทางก็ต้องสอดคล้องไปคู่กับการพูดด้วย เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังสื่อ เราจำเป็นต้องฝึกใช้ท่าทางและดูท่าทางของฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้เข้าใจนิสัยของฝ่ายตรงข้ามเพื่อรับมือและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอีกฝ่ายได้ด้วย มาดูกันว่าเราจะสามารถ “อ่านใจคน” จากการสังเกตบุคลิกและท่าทางได้อย่างไร สังเกตสิ่งนี้บนใบหน้า แล้วจะมองเห็นรอยยิ้มเสแสร้ง บางครั้งเราก็ต้องยิ้มเพื่อเอาใจเจ้านายเวลาที่ฟังเรื่องแสนน่าเบื่อ เจอคนที่ไม่ชอบหน้าที่ทำงาน เจอมุกตลกฝืดๆ วิธีสังเกตคนเวลาที่ยิ้มอย่าไม่เต็มใจนั้นให้ดูที่แก้ม เพราะเวลาที่คนเราหัวเราะหรือยิ้มจากใจจริงๆ กล้ามเนื้อไซโกมาติคัสเมเจอร์ตรงแก้มจะยกขึ้น ตัวอย่างเช่นเวลาเห็นใครเล่าเรื่องมุกตลกฝืดๆ แต่อีกฝ่ายยกแก้มขึ้น นั่นแปลว่าเขาตลกกับมันจริงๆ แต่ถ้าต่อให้หัวเราะดังแค่ไหนแต่แก้มไม่ยกขึ้นเลยนั่นคือการแสร้งยิ้ม และเขาคิดว่าสิ่งนี้มันน่าเบื่อ หากเรารู้แล้วว่าคนไหนที่แสร้งยิ้มกับเราสิ่งที่ควรทำคือควรหลบเลี่ยงก่อนที่จะโดนอีกฝ่ายเกลียดได้ มองไปทางขวาแสดงว่าเป็นคนมุทะลุ มองไปทางซ้ายแสดงว่าเป็นคนยอมแพ้ง่ายๆ หรือ เมื่อเรากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาอาจจะหันไปมองด้านซ้ายหรือขวาในทิศทางหนึ่ง การทำแบบนี้สามารถทำให้เราอ่านนิสัยได้ด้วย มีผลวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดว่า คนที่มองด้านขวา ขณะคิดจะเป็นคนที่แน่วแน่ พุ่งชนกับปัญหา แต่ถ้ามองไปทางซ้าย คือคนที่เมื่อเจอสถานการณ์ที่ไม่ชอบใจจะเลือกที่อดทน และมีพฤติกรรมที่กลุ้มใจง่าย สรุปแล้วคนที่มองไปทางขวาคือชอบคิดวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา ส่วนคนที่มองทางซ้ายจะมีแนวยอมแพ้ตั้งแต่ต้นนั่นเอง หากจะข่มขวัญผู้อื่นในเชิงจิตวิทยาต้องทำแบบนี้ การข่มขวัญทางจิตวิทยาส่งผลในเรื่องการเจรจาธุรกิจอยู่ไม่น้อย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม เทคนิคที่เราสามารถทำได้ทันทีคือ การเอนไปข้างหลังแล้วยืดอก และการเอนไปข้างหลังนั้นเป็นการแสดงออกอย่างธรรมชาติและมีความหมายว่ากำลังโกรธอยู่อีกด้วย และเมื่อเราเอนไปข้างหลัง อีกฝ่ายก็จะเริ่มแสดงอาการกังวลออกมาและยอมประนีประนอมให้เราเอง แต่ถ้าอยากแสดงความเป็นมิตร ให้เราโน้มตัวมาข้างหน้า […]
Tag Archives: อ่านใจคน
มนุษย์เรามีความซับซ้อนทางจิตใจ สมอง และการแสดงออกมาก ทำให้การ อ่านใจคน เป็นเรื่องที่ยาก การกระทำกับคำพูดอาจจะสวนทางกัน โดยที่เราไม่ทันได้เอะใจเลยสักนิด หรือไม่ก็กำลังมีใครบางคนโกหกหรือปกปิดบางสิ่งอยู่ ลองใช้วิธีเหล่านี้ที่จะทำให้คุณ อ่านใจคน ได้ง่ายขึ้น คนโกหกจะไม่โกรธ แต่จะหาข้ออ้าง การจับโกหกของคนที่กำลังคุยด้วยง่ายนิดเดียว จากตัวอย่างต่อไปนี้ ลูกค้าคนหนึ่งมาแจ้งปัญหาสินค้าโดยบอกว่าพริ้นเตอร์ที่ซื้อไปเมื่อสองวันก่อนไม่ทำงาน ลูกค้ามีใบเสร็จ ตัวพริ้นเตอร์ก็ยังอยู่ในสภาพดี แต่เมื่อตรวจสอบดูพบว่ามีชิ้นส่วนตัวหนึ่งหายไป และดูเหมือนว่าลูกค้าจะเป็นคนขโมยชิ้นส่วนนั้นไปเอง เดวิด ลีเบอร์แบน นักจิตวิทยาบอกว่าเมื่อเราแจ้งว่าชิ้นส่วนหายไป ลูกค้า “แสดงอาการโกรธหรือไม่” เมื่อเราถามว่า “คุณลูกค้าครับ สินค้าอยู่ในสภาพปกติก็จริง แต่เราพบว่ามีชิ้นส่วนหนึ่งหายไป” คำตอบจะออกมาสองแบบคือ 1.ลูกค้าตอบโดยเริ่มต้นว่า “ผมไม่ได้เอาไปนะ มันไม่ได้ใส่มาตั้งแต่ต้นแล้วหรือเปล่า” 2.ลูกค้าโกรธและโวยวายว่า “นี่คุณเอาของที่ไม่สมประกอบมาขายหรือ นี่ผมเสียเวลาเปล่าๆ ไปสองชั่วโมงเพื่อจะทำให้มันใช้งานได้” เดวิดกล่าวว่า ถ้าไม่ได้ขโมยจริงๆ คำตอบจะได้เป็นข้อ 2 เพราะทำให้เขารู้สึกโกรธ ส่วนคนที่แก้ตัวทั้งที่ยังไม่ได้ถามต่อก็สามารถเดาได้ว่าเขาพยายามหาข้ออ้างอยู่นั่นเอง จับโกหกด้วยการเปรยข้อมูลหลอกๆ คุณรู้สึกว่าลูกน้องแอบดื่มเหล้าทั้งที่เป็นเวลางานทั้งๆ ที่บริษัทมีกฎห้ามดื่มเหล้าอยู่ และถ้าลูกน้องคนนี้เคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาการเป็นประจำ ให้ลองแกล้งเปรยว่า“ วันก่อนฉันอ่านเจอว่า 42% ของคนติดสุรามักจะเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหาร” หากเขาดื่มเหล้าในเวลางานจริงเขาจะเลิกเคี้ยวหมากฝรั่งทันที แต่ถ้าแกล้งพูดไปแบบนั้นแล้วเขายังเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหารเหมือนเดิม นั่นแปลว่าเขาไม่ได้ดื่มเหล้า เลยไม่จำเป็นต้องเลิกเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อกลบเกลื่อน […]