ความคิดที่ขวางทางก้าวหน้า ทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จ

ทุกคนย่อมอยาก ประสบความสำเร็จ ในการพัฒนาตัวเอง แต่เรามักตกหลุมพรางความคิดจนทำให้ยังไม่ ประสบความสำเร็จ นี่คือความคิดที่ขวางทาง ประสบความสำเร็จของเรา

 

ยังไม่ ประสบความสำเร็จ

เพราะไม่อยากล้มเหลว

 

ใครๆ ก็กลัวล้มเหลวทั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากล้มเหลว แต่อย่ากลัวความล้มเหลวเลย เพราะ “ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น” และ “ความสำเร็จก็เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น” เช่นกัน

ในความสำเร็จมีความล้มเหลว ในความล้มเหลวก็มีความสำเร็จ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับความสำเร็จเท่านั้น แล้วก็ไม่จำเป็นต้องกลัวความล้มเหลวด้วยเช่นกัน แค่คิดว่า “เรื่องเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ” แล้วตั้งอกตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไป

ใช้ชีวิตแบบยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าตอนนี้ และมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ ดีกว่าชีวิตที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด

ถ้ากลัว เราจะไม่เริ่มทำอะไรเลย และจะไม่มีวันประสบความสำเร็จเลย

 

 

ไม่ลองทำสิ่งที่ทำไม่ได้

 

ตอนเด็กๆ การ “มีสิ่งที่ทำได้มากขึ้น” คือการค่อย ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่พอเป็นผู้ใหญ่แล้วเรามักคิดว่า การยอมรับว่ามีสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้เป็นเรื่องแย่ จนไม่ลองทำอะไร

จริงๆ แล้วการตระหนักได้ว่า “มีสิ่งที่เรายังทำไม่ได้อีกมากมาย มีสิ่งที่ยังไม่รู้อีกเยอะ” จะนำไปสู่ “การเติบโต” ของผู้ใหญ่

การรับรู้ว่า “มีสิ่งที่เราทำไม่ได้มากมาย” “เราไม่ได้เก่งกาจอะไร” จะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพในตัวเรา เมื่อรู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้บ้าง คุณก็จะค้นพบสิ่งที่ตัวเองควรพัฒนาต่อไปนั่นเอง

 

ขอลุยเดี่ยว

 

สิ่งที่เราทำไม่ได้หรือไม่ถนัดอาจมีคนอื่นทำได้ดีก็ได้ เมื่อรู้อย่างนั้น เราก็ขอให้เขาช่วยได้

บริษัท ทีมงาน หรือครอบครัวก็เหมือนกัน ไม่ว่าใครก็มีทั้งสิ่งที่ถนัดและไม่ถนัด เราไม่ต้องพยายามแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง ขอแค่ช่วยเหลือกันและกัน

เมื่อเรามีเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จ เช่น ในการทำงาน ควรรวบรวมสมาชิกที่มีแนวคิดและประสบการณ์หลากหลายแตกต่างกันมาร่วมทีม ช่วยกันปรึกษาหารือและนำพาโปรเจ็กต์หนึ่งไปสู่ความสำเร็จ

ทำแบบนี้เป็นการกระตุ้นทีมให้คึกคัก สมาชิกแต่ละคนก็ได้ซึมซับแนวความคิดหลากหลายและพัฒนาตัวเองให้เป็นคนใหม่ได้ด้วย

 

 

มีแต่เราที่ทำได้

 

เมื่อได้พบกับงานที่ “ใช่” หรือเมื่อทำบางอย่างให้คนอื่นรู้สึกดีได้เราจะรู้สึกว่า “เราเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้นี่เอง” การได้พบกับงานที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ได้ถือเป็นความสุข แต่มันก็มีหลุมพรางอันตรายอยู่ นั่นคือการยึดติดกับ “ภารกิจที่ต้องทำ” โดยคิดว่า “ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ”

ถ้ามีความรู้สึกแบบนั้นแว่บขึ้นมาบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารู้สึกแบบนั้นต่อไปเรื่อย ๆ ไม่นานนักมันจะกลายเป็นภาระที่ทำให้ตัวเราเป็นทุกข์ แม้จะเจออุปสรรคหรือรู้สึกเป็นทุกข์ เราก็ไม่อาจถอยหลังออกมาได้ เพราะคิดว่า “นี่คือภารกิจของเรา” “ทำมาถึงขนาดนี้แล้วจะถอนตัวไม่ได้” ทำให้งานไม่ราบรื่นอย่างที่เคย

ที่เราผูกมัดตัวเองกับภารกิจที่ต้องทำ อาจเป็นเพราะอยากมั่นใจในตัวเองและอยากค้นพบคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ แต่ลองคิดดูดีๆ ว่าทำแบบนั้นเพราะอยากรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่และเป็นที่ต้องการของคนอื่น หรือเปล่า

ไม่มีหรอกงานที่ “มีแต่เราที่ทำได้”

ถ้ารู้สึกเป็นทุกข์ก็ถอนตัวเสียเถอะ ต่อให้เราไม่ทำ คนอื่นก็ทำ เพราะนั่นเป็นสัมภาระที่ใครจะถือก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรา

แบบนี้จะช่วยให้เราทำงานได้ดีและคล่องตัวกว่าเยอะ

 

พบกับข้อคิดที่จะช่วยให้มี  mindset ของคนที่ประสบความสำเร็จได้จาก
หนังสือ ความสำเร็จไม่ได้เสร็จในวันเดียว
สนพ. short cut
ราคา 195 บาท
สั่งซื้อออนไลน์ลด 10%

---

บทความอื่นๆ

• 3 ข้อคิดในการทำงาน เพื่อการเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของงาน
• จากมดงานสู่มังกรรบ ด้วย 4 คติพจน์ของ ‘หัวเว่ย’
• 10 เทคโนโลยีพลิกอุตสาหกรรม งาน และชีวิตยุค 4IR
• การจัดการความเครียดในที่ทำงาน : โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
• 5 วาทะเด็ดสอนพนักงานของ เหรินเจิ้งเฟย CEO หัวเว่ย
• 10 เทคโนโลยีพลิกอุตสาหกรรม งาน และชีวิตยุค 4IR
• การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ : เมื่อ AI กำลังจะแย่งงานของคุณ
• 6 องค์ประกอบของการสร้างแบรนด์ให้ปัง! ในยุค 4.0
• 5 กลยุทธ์สร้างแบรนด์ไฮเอนด์จาก CEO ระดับโลก
• 4 เทคนิคขายของให้รุ่ง ขายได้ขายดี ไม่มีสต๊อกสินค้า
• 5 กลยุทธ์การทำธุรกิจแบบ หัวเว่ย HUAWEI