เด็กๆ มีโอกาสเรียนรู้ได้มาก ทั้งวิชาการ ดนตรี และศิลปะ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ เพื่อหาหนทางที่ตัวเองชอบให้เจอ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็มีหน้าที่สนับสนุนให้ลูกค้นหาตัวเองด้วยวิธีต่างๆ จนเจอ พรสวรรค์ ที่เขาสามารถเรียนรู้และทำได้ดี เพื่อกรุยทางอาชีพของลูกในอนาคต

ว่ากันว่า หากคนเราได้ทำงานที่เหมาะกับความสามารถของตนเอง ก็ถือว่ามีชัยไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งชีวิตแล้ว ตรงกันข้าม หากต้องทนทำงานที่ไม่เหมาะกับความถนัดของตนเอง ต่อให้กัดฟันพยายามสักเพียงใดก็คงไม่มีความสุข เพราะทำงานไม่ได้ผลดี และไม่เจริญก้าวหน้า

จะมีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถค้นหา พรสวรรค์ ในตัวลูกได้บ้าง มาดูกัน

 

เปิดโลกทัศน์

คนที่ได้เห็นอะไรมากมายตั้งแต่อายุยังน้อย จะเข้าใจคุณค่าของตนเอง ได้รู้ว่าตัวเองเข้มแข็งหรืออ่อนแอเพียงใด รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร เมื่อต้องเลือกการงานในอนาคต จะพบงานที่เหมาะสมกับความถนัดได้ง่าย

เมื่อลูกได้เปิดโลกทัศน์แล้ว ควรสนับสนุนให้ท้าทายความสามารถด้านต่างๆ ไม่ใช่เพื่อให้ทำได้หลายอย่าง อย่างละเล็กละน้อยแบบครึ่งๆ กลางๆ แต่สิ่งสำคัญคือให้ลูกได้รู้จักว่าตัวเองถนัดด้านไหนเป็นพิเศษ บอกตัวเองได้ว่าไปทางใดแล้วจะชนะ

เช่น เมื่อลูกสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ ให้คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนให้เขาลองทำดู คอยดูอยู่ห่างๆ ให้ลูกก้าวไปตามหนทางที่ตัวเองถนัด เพื่อค้นหา พรสวรรค์ ในตัวลูกให้เจอ

 

เพิ่มพูนปัญญาด้วยการอ่านหนังสือ

การสร้างนิสัยรักการอ่านให้ลูกเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยสามารถเริ่มปลูกฝังได้ตั้งแต่เป็นทารก อ่านนิทานให้ลูกฟัง ซื้อนิทานภาพให้เขาลองอ่านเยอะๆ จากนั้นเมื่อลูกโตขึ้นค่อยให้ลูกอ่านหนังสือที่เขาสนใจ

การอ่านหนังสือจะสร้างความสนใจใฝ่รู้ ทักษะการอ่าน และสมาธิ ทั้งยังส่งเสริมให้อ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนด้วยตัวเอง เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นขั้นเป็นตอนโดยอัตโนมัติ และไม่มีสิ่งใดเป็นมิตรที่ดีกับลูกได้เท่ากับหนังสืออีกแล้ว เพราะนอกจากการอ่านจะช่วยเปิดโลกทัศน์ ยังให้ความรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน สอดแทรกเรื่องคุณธรรม ความดีความชั่วในหลากหลายสถานการณ์ และยังสอนให้ใช้ชีวิตอย่างมีแนวทางเป็นของตัวเอง

ซึ่งเมื่อลูกมีนิสัยรักการอ่านแล้ว การค้นหาพรสวรรค์ในตัวเขาก็ไม่ยากอีกต่อไป

 

ปล่อยให้ลูกได้ลองสิ่งที่ลูกสนใจ

เด็กที่มีโอกาสได้ลองทำสิ่งที่ตัวเองสนใจอย่างเต็มที่เท่านั้นจึงจะสามารถก้าวออกจากขอบข่ายความสนใจนั้นไปเจอและเรียนรู้สิ่งอื่นอีกมากมายได้

ตัวอย่างเช่น ลูกชายวัยมัธยมนำสัตว์เลี้ยงตัวเล็กตัวน้อยมาเลี้ยงในบ้านหลายชนิด เช่น ปลาทอง แมว เต่า ฯลฯ เมื่อลูกชายได้เลี้ยงดูสัตว์พวกนี้ เขาจะเติบเป็นคนใจดีที่คอยนึกถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกจากนี้ยังได้สอนสิ่งต่างๆ อีกมากมาย เช่น ความเป็นตัวเองและความรับผิดชอบ ตั้งแต่การซื้ออาหารสัตว์ การทำความสะอาดที่อยู่ ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง ซึ่งถ้าเขาละเลยไม่รับผิดชอบ สัตว์เลี้ยงก็จะไม่มีชีวิตรอด

ถึงกิจกรรมเหล่านี้อาจไม่นำไปสู่อาชีพที่ใช่เมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่ แต่มันได้กลายเป็นงานอดิเรกยามว่างที่เป็นเพื่อนเขาไปได้ตลอดชีวิต หรือไม่แน่ โตขึ้นไปเขาอาจจะตั้งใจสอบเข้าคณะสัตวแพทย์ หรือเปิดฟาร์มขายสัตว์เลี้ยงก็ได้ ใครจะรู้ล่ะ จริงไหม

 

พัฒนาความถนัดของลูกด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัว

สิ่งสำคัญในการเจียระไนเด็กสักคนคือ การให้เขาได้ตามหาสิ่งที่เป็นเป้าหมายความสนใจอย่างเต็มที่ แรงสนับสนุนของพ่อแม่คือแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังของลูก ก่อให้เกิดพลังที่จะทำทุกสิ่งได้ต่อเนื่องยาวนาน

ลูกจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่มองเห็นพรสวรรค์ที่อยู่ในตัวลูก เพียงแค่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ เขาจะรู้สึกถึงความเชื่อมั่นในตัวเขาจากพ่อแม่ และจะฝึกฝน อดทนเพื่อพัฒนาเรื่องที่ตัวเองสนใจ

อะไรจะมีความสุขมากไปกว่าการมีชีวิตที่ได้ไล่ตามสิ่งที่ตัวเองชอบเรื่อยไป อีกทั้งบางครั้งการไล่ตามนั้นก็พาเราไปพบอาชีพที่ใช่ได้เหมือนกัน ขอให้พ่อแม่สนับสนุนเรื่องที่ลูกสนใจ แล้วจึงพัฒนาพรสวรรค์ของลูกอย่างเต็มความสามารถ

 

 

 

คู่มือเลี้ยงลูกให้มีความสุขและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง

จากหนังสือ สอนลูกให้ได้ดีและมีความสุข

วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

สั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่