แวดวงหนังสือและวรรณกรรมคงรู้จัก มกุฏ อรฤดี กันอยู่แล้ว ทั้งในฐานะศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ผีเสื้อ และได้รับรางวัลในแวดวงหนังสือมากมาย
ในปีนี้ คณะกรรมการตัดสินเป็นเอกฉันท์ให้มกุฏ อรฤดี เป็นผู้ได้รับรางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ และจะมีงานประกาศผลและมอบรางวัลในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561
รางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2547 โดยมีคณะกรรมการสรรหา และพิจารณาตัดสินมอบรางวัลให้บุคคล หรือหน่วยงาน ในฐานะแบบอย่างของการทำงานสร้างสรรค์ อุทิศตนเพื่อความก้าวหน้าในวงงานของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาทที่ส่งผลต่อวัฒนธรรมการเรียนรู้ในสังคม
มกุฏ อรฤดี เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2493 ที่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนบ้านเทพา อำเภอเทพา ประถมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนแสงทองวิทยา อำเภอหาดใหญ่ มัธยมศึกษาจากโรงเรียนมัธยมเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง วิทยาลัยครูสงขลา จังหวัดสงขลา เมื่อปี พ.ศ. 2513
มกุฏ อรฤดีมีผลงานเขียนมาแล้วนับไม่ถ้วน เคยทำงานนิตยสารหลายฉบับเป็นเวลานานกว่า 18 ปีและมีผลงานเขียนหนังสือโดยใช้นามปากกา “นิพพานฯ” “วาวแพร” และอื่นๆ เขาเริ่มทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยบรรณาธิการที่นิตยสารบางกอกรีดเดอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2519 และเป็นบรรณาธิการ พ.ศ. 2521 และในขณะที่เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ เขาก็ได้เริ่มก็ก่อตั้งสำนักพิมพ์ดอกไม้ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักพิมพ์กะรัต และผีเสื้อในที่สุด
ในปัจจุบัน
■ เป็นบรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการต้นฉบับ บรรณาธิการต้นฉบับแปล ในครอบครัวสำนักพิมพ์ผีเสื้อ
■ เป็นอาจารย์พิเศษ วิชาบรรณาธิการศึกษา ในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
■ เป็นอาจารย์พิเศษ หลักสูตรการแปล ปริญญาโท คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
■ เป็นประธานคณะทำงานจัดทำข้อเสนอนโยบายระบบบริหารจัดการหนังสือและส่งเสริมการอ่าน กระทรวงศึกษาธิการ
รางวัลที่ได้รับ
-รางวัลหนังสือ จากการประกวดหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ หลายรางวัลช่วง พ.ศ. 2521 – 2532
-รางวัลตุ๊กตาทอง (พระสุรัสวดี) บทประพันธ์ยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่อง ผีเสื้อและดอกไม้ จากสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528
-ได้รับยกย่องให้เป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำ พ.ศ. 2551 จาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
-รางวัลช่อการะเกดเกียรติยศประจำปี พ.ศ. 2553 จากสำนักช่างวรรณกรรม
-รางวัลคุณนิลวรรณ ปิ่นทอง บรรณาธิการดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2555
-ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2555
-อิสริยาภรณ์ศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์ชั้นอัศวิน (Chevalier de l’Ordre des Arts et des Lettres) พ.ศ. 2556 ของรัฐบาลฝรั่งเศส
– เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ พ.ศ. 2556 ของ ประเทศไทย
– ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ภาษาไทย) พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยรามคำแหง
และในปัจจุบันเขาก็ยังคงทำงานที่ตัวเองรัก อยู่ในแวดวงหนังสือและวรรณกรรม เขายังทิ้งท้ายเอาไว้ว่า
“หนังสือที่ผมทำทุกเล่มคือชีวิตของผม มีวิญญาณของผมอยู่ในนั้นทุกเล่ม วันข้างหน้าถ้าผมตายไป ผมไม่จำเป็นต้องทำหนังสือบอกเล่าชีวิตตัวเองแล้ว”