สาเหตุของการเกิดมะเร็ง มีหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งร่างกายที่มีเซลล์และฮอร์โมนที่ผิดปกติ และเชื้อมะเร็งที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ฯลฯ
สาเหตุของการเกิดมะเร็ง มีอะไรบ้าง ตรงกับพฤติกรรมของคุณหรือไม่
เซลล์มะเร็งไม่ชอบออกซิเจนแต่ชอบน้ำตาล
นักเคมีชาวเยอรมันพบว่า สาเหตุของมะเร็งเกิดจากเซลล์ได้รับออกซิเจนน้อยกว่า 60% ของความต้องการออกซิเจนปกติ หากระดับออกซิเจนในเซลล์ต่ำกว่า 60% ของระดับปกติ เซลล์มะเร็งก็อาจจะเกิดขึ้นในร่างกายของคุณ ด้วยความที่เซลล์มะเร็งไม่ชอบออกซิเจนแต่ชอบน้ำตาล ดังนั้นถ้าใช้วิธี “เพิ่มออกซิเจนและตัดน้ำตาล เซลล์มะเร็งก็จะตาย” เป็นหลักสั้นๆ แค่นี้เองจริงๆ เพียงแต่ต้องทำด้วยความมุ่งมั่นและมีวินัย
การที่เราอยู่แต่ในห้องแอร์ ในรถ ในที่ทำงาน ไม่มีอากาศธรรมชาติเติมเข้ามาเลย อากาศภายในก็จะมีออกซิเจนต่ำ ล้วนทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน นอกจากนี้อาหารที่มีรสหวาน ทั้งน้ำตาลแท้และเทียม ก็ยิ่งเป็นสารกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้
การป้องกันมะเร็งเป็นเรื่องง่าย ถ้าเราไม่ทำให้ร่างกายตกอยู่ในสภาพที่จะเป็นมะเร็ง มันก็จะไม่มีวันเป็น แค่กลับไปดูแลเซลล์ในร่างกายตามธรรมชาติดั้งเดิม ทำให้ร่างกายของเราเป็นโลกที่น่าอยู่ของเซลล์ตามธรรมชาติ เซลล์ของเราก็จะทำหน้าที่ได้อย่างปกติ และร่างกายก็จะไม่มีวันเป็นมะเร็ง
เบาหวานตัวอันตราย
เบาหวานเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งได้ง่ายขึ้น เพราะผู้ป่วยเป็นเบาหวานมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงกว่าคนปกติ ส่วนมะเร็งก็ชอบน้ำตาลและมีความสามารถในการแย่งน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าเซลล์ธรรมดาประมาณ 20 เท่า ดังนั้นหากเกิดมะเร็งในร่างกายผู้เป็นเบาหวานมะเร็งก็จะมีอาหารให้กินเหลือเฟือ และเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
แพทย์แผนไทยผู้ชำนาญในการบำบัดมะเร็งยืนยันว่า คนที่เป็นมะเร็งส่วนมากเป็นเบาหวานมาก่อนการเกิดมะเร็ง การเกิดเบาหวานส่วนมากสาเหตุมาจากการกินเนื้อสัตว์ น้ำตาล แป้ง อาหารขยะ ฯลฯ มายาวนาน
ท่อน้ำเหลืองอุดตัน
ประสบการณ์ของแพทย์แผนไทยพบว่า ส่วนใหญ่มะเร็งเกิดจากระบบน้ำเหลืองไม่ดี มีการอุดตัน ไม่หมุนเวียนเพราะขาดการเคลื่อนไหว ขาดการออกกำลังกาย หรือมีสารพิษตกค้างในระบบน้ำเหลือง หากไม่แก้ไขต่อมน้ำเหลืองและท่อน้ำเหลืองจะเกิดการอักเสบตามมา รวมทั้งสปอร์ของเชื้อราที่ฝังตัวอยู่จะก่อตัวเป็นมะเร็ง
ฉะนั้นการทำกัวซาแบบไทย (การขูดผิวหนังด้วยอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นสันเพื่อแก้ไขน้ำเหลืองและเลือดที่อุดตัน) เพื่อไล่น้ำเหลืองที่อุดตัน หรือนวดน้ำเหลือง และการอบสมุนไพรที่ถูกวิธีก็มีส่วนในการบำบัดมะเร็งได้ เนื่องจากสมุนไพรจะช่วยกระตุ้นให้หลอดน้ำเหลืองและหลอดเลือดขยายตัว หมุนเวียนเอาออกซิเจนเข้าเซลล์และขจัดพิษได้ดีขึ้น
ภาชนะพลาสติกใส่อาหาร
เป็นเรื่องธรรมดาของคนไทยไปแล้ว เช่น ซื้อน้ำเต้าหู้ร้อนๆ เทใส่ถุงร้อน จริงอยู่ที่ถุงไม่ละลายเมื่อถูกน้ำร้อน แต่กลับมีสารก่อมะเร็งละลายออกมามากกว่าการนำถุงพลาสติกไปใส่น้ำเย็นหลายสิบเท่า หากกินเข้าไปทุกวันๆ สารเหล่านี้จะสะสมในร่างกายเป็นแรมปี นอกจากนี้กล่องโฟม กล่องนม อาหารกระป๋อง มีแล็กเกอร์เคลือบภายในกระป๋อง ก็จะค่อยๆ ละลายปนเปื้อนอยู่ในอาหาร กล่องน้ำผลไม้ที่บุด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ เครื่องกระป๋องที่ใส่โซดา น้ำอัดลม ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดก็มีส่วนในการละลายสารพิษจากภาชนะที่บรรจุทั้งสิ้น
ดังนั้นควรใช้ภาชนะแก้วเซรามิกแบบโบราณจะปลอดภัยที่สุด สเตนเลสมีความปลอดภัยรองลงมา แต่มีหลายเกรด ต้องใช้ Food Grade จึงจะปลอดภัย
โลหะหนักปนเปื้อน
นอกจากการปนเปื้อนในแหล่งน้ำตามธรรมชาติแล้ว การอุดฟันแบบที่ไทยนิยมใช้ สารอมัลกัม เป็นหลัก สารนี้มีสีเงิน-ดำ เป็นอัลลอย ประกอบด้วยปรอทกว่า 50% และสารปรอทนี้สามารถระเหิดเข้าไปในกระแสเลือดได้ตลอดเวลา
องค์การอนามัยโลกอ้างถึงรายงานที่ระบุว่า การเคี้ยวอาหาร หมากฝรั่ง การดื่มเครื่องดื่มร้อน การกัดฟัน การทำฟัน จะกระตุ้นให้อมัลกัมปลดปล่อยสารปรอทออกมามากขึ้น 5.3 เท่า และระบุว่า อมัลกัมเป็นเหตุที่ทำให้ผู้ใหญ่ได้รับสารปรอทคิดเป็น 50% ของการได้รับสารปรอททั้งหมดในปัจจุบันนี้
ด้วยเหตุนี้หลายประเทศทั่วโลก เช่น เยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียจึงประกาศห้ามใช้อมัลกัมกันมานานแล้ว โดยใช้สารคอมโพสิทซึ่งมีสีสวยเหมือนฟันมาอุดฟันแทน ในประเทศไทยการอุดฟันสีเดียวกับเนื้อฟันมีกันอย่างแพร่หลาย บางคลินิกหรือโรงพยาบาลให้คนไข้เลือกได้เลยว่าจะให้อุดฟันแบบใด หากคำนึงถึงความปลอดภัยในอนาคต เลือกใช้สารคอมโพสิทจะปลอดภัยมากกว่า
ข้อมูลจากหนังสือ แค่รู้วิธีชาตินี้เราจะไม่เป็นมะเร็ง
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ
คุณมีความเสี่ยง มะเร็งเต้านม หรือไม่ มาสำรวจตัวเองกันเถอะ
อาหารต้านมะเร็ง อาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง คนเป็นมะเร็งต้องกินแบบไหน!
น้ำตาลอันตรายกว่าที่คิด! ผลเสียของการกินรสหวาน มากเกินไป
Pingback: วิธีเลือกใช้ น้ำมันประกอบอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อสุขภาพ