อีเมลเป็นเครื่องมือแสนวิเศษในการติดต่อผู้คน แต่หากไม่ใส่ใจ คุมสติ ตอนที่ใช้ มันก็อาจทำลายงาน และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงานได้เช่นกัน
วิธี คุมสติ ข้อแรกถามตัวเองว่า
“ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะหรือไม่ที่จะตอบเมล”
คุมสติก่อนตอบอีเมลงานด้วยการสร้างนิสัยการหยุดก่อนตอบ ถามตัวเองว่า “ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะหรือไม่ที่จะตอบ”
การเขียนอีเมลขณะเดินทางมีประโยชน์ในเรื่องของการตอบที่รวดเร็วหรือการยืนยันเรื่องต่างๆ แต่การเขียนอีเมลที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนนั้นควรทำตอนที่จิตใจคุณสงบ ซึ่งคุณสามารถมีเวลาพิจารณาว่าหัวเรื่องกับผู้รับนั้นเหมาะกันหรือไม่ ประโยชน์ของการตอบแบบรวดเร็วอาจจะกลายเป็นการแอบซ่อนปัญหาไว้ก็ได้ หากเป็นหัวข้อที่ต้องอาศัยการไตร่ตรองทบทวนมาก
หมั่นฟังเสียงกายและใจ
ตอนกำลังตอบเมล
คุมสติด้วยการหมั่นฟังเสียงร่างกายและใจ ทำให้เราสามารถจับสัญญาณจากท่าทางและความรู้สึกทางกายและใจได้
วิธีนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าเราโต้ตอบคนบางคนหรือข้อมูลอย่างหนึ่งอย่างใดแบบไหน เช่น ร่างกายเกร็งหรือไม่ ไหล่เป็นอย่างไร น้ำเสียงของความคิดแบบไหนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดในขณะนั้น
ถ้ากำลังพิมพ์อยู่ คุณกดแป้นพิมพ์อย่างไร กดอย่างนุ่มนวลหรือกดแรง ๆ การตระหนักรู้ร่างกายของตัวเองแบบนี้ก็เปรียบเหมือนสัญญาณกระดิ่งที่เตือนให้เราตื่นและเตรียมพร้อม
หากคุณรู้สึกว่าร่างกายมีแต่ความขุ่นเคือง ความหงุดหงิด หรือความโกรธแล้วละก็ จงตั้งสติเดี๋ยวนี้! ถ้าคุณกำลังกระหน่ำพิมพ์อีเมลตอบกลับอยู่ ก็ให้ส่งมันให้ตัวเองหรือบันทึกไว้เป็นร่างก่อน เมื่อคุณกลับมาอ่านอีกทีโดยที่ไม่มีอารมณ์เข้ามาเจือปน คุณอาจจะดีใจที่คุณทำแบบนี้ก็ได้
คิดว่าจะรู้สึกอย่างไร
หากได้รับอีเมลแบบเดียวกับที่กำลังเขียน
คิดถึงวิธีที่คุณติดต่อสื่อสารกับคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา ลองคิดดูว่าตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไรหากได้รับอีเมลแบบเดียวกับที่คุณกำลังเขียนอยู่
คำที่คุณใช้ สามารถถ่ายทอดสิ่งที่คุณตั้งใจจะพูดได้จริงหรือไม่ หรือมันสามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้ด้วย นึกถึงใจของผู้ที่จะได้รับอีเมล หากคุณเข้าใจความหมายของอีเมลที่ส่งมาให้คุณ ก็ให้คิดถึงการสะท้อนสิ่งที่ได้รับกลับไป ถ้าเขาส่งอีเมลมาคุยและถามถึงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ คุณก็ควรตอบไปในทำนองเดียวกัน
หยุดนิ่งและรับรู้
เมื่อกำลังจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ
เพ่งความสนใจไปยังสิ่งที่คุณสังเกตเห็นจากความคิด อารมณ์ และร่างกาย แล้วเบนความสนใจของคุณไปที่ลมหายใจหรือเท้าที่แตะพื้น การลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินไปที่ครัว ห้องน้ำ หรือไปคุยกับเพื่อนร่วมงานก็อาจเป็นประโยชน์เหมือนกัน
ทิ้งระยะให้ร่างกายสงบลงไปเองตามธรรมชาติแล้วเมื่อคุณพร้อมคุณก็จะสามารถตอบกลับได้ในแบบที่แตกต่าง
ระวังสิ่งแวดล้อมภายนอก
จะส่งผลต่อการตอบเมล
ถ้าคุณรับโทรศัพท์หรือเช็กอีเมลเรื่องงานตอนอยู่นอกบ้าน พึงตระหนักว่าสิ่งแวดล้อมจะมีอิทธิพลต่อการตีความสิ่งที่คุณอ่านหรือได้ยิน เช่น หากคุณรู้สึกว่ากำลังโดนขัดจังหวะคุณก็อาจจะรู้สึกรำคาญหรือผิดหวัง ดังนั้นจึงเอาอารมณ์ไปลงกับงานซึ่งไม่ถูกเรื่อง
พบกับวิธีฝึกสติในที่ทำงาน เพื่องานไม่พัง ใจก็ไม่พัง เพิ่มเติมได้จากหนังสือ
ทุกวินาทีที่ทำงานเป็นการปฏิบัติธรรม
ราคา 175 บาท
สั่งซื้อ คลิก
บทความอื่นๆ
- 5 วิธี สู่การทำงานแบบมืออาชีพ (Professional)
- วิธีฝึกสติในที่ทำงาน : แค่รับโทรศัพท์ที่ออฟฟิศก็ฝึกสติได้
- 3 ข้อคิดในการทำงาน เพื่อการเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของงาน
- การจัดการความเครียดในที่ทำงาน : โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
- เรียนรู้หลักการดำเนินชีวิตที่นำไปสู่ความสำเร็จของ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์
Pingback: 4 พฤติกรรม ยิ่งทำยิ่ง สมองล้า : เมื่อสมองหายล้าชีวิตก็หายเหนื่อย
Pingback: เจริญสติ 10 วินาที เทคนิคฝึกสติง่ายๆ ทำได้ในชีวิตประจำวัน