บางครั้งความคิดที่เคยโลดแล่นก็เกิดตันเสียอย่างนั้น คิดงานไม่ออก รู้สึกว่างานยังไม่เจ๋งพอ จริงๆ แล้ว วิธีหา ไอเดียใหม่ๆ ไม่ต้องไปทำอะไรที่มันไกลตัวเลย ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรานี่ละ
อยากมี ไอเดียใหม่ๆ ต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกัน
ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์
เรามักถูกเรียกว่าเป็นผู้บริโภค เวลาต้องการอะไร ก็ไปที่ร้านที่คาดว่าจะมีสิ่งๆ นั้นวางขาย แล้วเลือกดูสินค้าหลายชิ้นก่อนตัดสินใจซื้อ แม้เราจะคิดว่าเรามีเสรีภาพในการเลือกซื้อได้ตามใจปรารถนา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เราเลือกได้แค่สินค้าบางส่วนที่ร้านจัดหาไว้ให้เท่านั้น ดังนั้นผู้บริโภคทุกคนจึงเป็นผู้เลือกที่ถูกจับใส่ไว้ในไหที่เรียกว่าระบบ
การที่เราถูกจับใส่ระบบการเลือกเช่นนี้ ไม่ได้มีแค่ในเรื่องของการซื้อเท่านั้น การหัวเราะเองก็เป็นกลไกการเลือกจากระบบเช่นกัน ชีวิตเต็มไปด้วยการเลือกจากโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่มีอยู่
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานศึกษา เลือกอาชีพ เลือกคู่ครอง หรือช่วงท้ายของชีวิตก็เลือกวิธีรักษาสุขภาพให้ยืนยาว สรุปคือ เราเลือกในสิ่งที่มีไว้ให้อยู่เสมอ แต่เราไม่ได้ตระหนักถึงข้อนี้ กลับมองว่าการเลอืกเป็นการใช้ชีวิตที่เหมาะสมแล้ว คงเพราะมีทางเลือกมาก เราจึงเข้าใจผิดว่าตนมีเสรีภาพ ถึงจะดูเหมือนมีทางเลือกมากมาย มันก็เป็นเพียงทางที่ถูกจำกัดไว้ด้วยรั้วทั้งสองฝั่ง
หากเราข้ามรั้วออกไปข้างนอก ก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่ถูกต้อง ผิดปกติ นี่เป็นการเปรียบเทียบถึงการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ แทนที่จะเลือกสิ่งที่มีอยู่บนชั้นวางสินค้า แทนที่จะสนุกกับความบันเทิงที่ได้รับ ก็ให้สร้างสิ่งที่แต่เดิมไม่มีอยู่ภายในรั้วด้วยตนเอง
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ วิธีคิด วิธีใช้ชีวิต ถ้าทำได้ดี มันจะเป็นการขยายพื้นที่รั้วสองข้างให้กว้างขึ้น อาจกลายเป็นทางสายใหม่ที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ก็เป็นได้ คนที่ยืนอยู่บนพื้นที่เดิมๆ ไม่เข้าใจความน่าสนใจของความคิดสร้างสรรค์หรอก นี่แหละคือการนำศักยภาพของตนเองมาใช้ในการดำรงชีวิตอย่างสร้างสรรค์
กำจัดสิ่งที่รบกวนจิตใจ
ความฉุนเฉียว ปฏิกิริยารุนแรง กระวนกระวาย หงุดหงิด ความไม่สงบใจเหล่านี้ไม่ได้มาจากนิสัย การได้เห็นได้รับรู้สิ่งหนึ่งๆ แล้วเกิดความไม่สงบนั้นอย่างเช่น “ติดหนี้บุญคุณกับสิ่งนั้น”
รู้แก่ใจว่ามีภาระหน้าที่ต้องเริ่มทำสิ่งนั้น แต่ก็ปล่อยปละละเลย ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งหนึ่งนั้น แต่ไม่ชอบเผชิญหน้าและหาทางเลี่ยง หากอยากใช้ชีวิตอย่าภาคภูมิโดยไม่ต้องกังวลกับสิ่งใด หากต้องการดำรงชีวิตให้ดีโดยการดึงศักยภาพของตนมาใช้ให้เต็มที่ ก็ได้แต่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่รบกวนจิตใจตรงๆ จับมันด้วยมือเปล่า สู้ด้วยตัวเอง และทำให้มันเล็กลงเหมือนกับที่เคยก้าวข้าวเรื่องต่างๆ ในอดีตมาแล้ว
แล้วในที่สุดก็ไม่ต้องแบกภาระไว้บนบ่า ทุกวันมีแต่ความผ่อนคลาย เสียงต่างๆ ในธรรมชาติก็จะเข้าถึงหู วันคืนแห่งความสงบที่ไม่เคยได้สัมผัสก็จะมาเยือน
หยุดเพื่อสร้างพลัง
โน้ตเพลงมีตัวโน้ตกำกับอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีแค่ตัวโน้ต ยังมีเครื่องหมายหยุดด้วย ในส่วนที่มีเครื่องหมายหยุดนี้ จะไม่บรรเลงเสียงดนตรี แต่การไม่มีเสียงนี้ก็ยังนับว่าเป็นดนตรีอยู่
ถ้าเรามองแต่ละวันของเราเป็นดนตรีสดที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องมีตัวหยุดในโน้ตเพลงนั้นด้วย ซึ่งก็คือการหยุดพักชั่วคราว การหยุดพักนี้ไม่ได้หมายถึงการหยุดพักกินข้าว หรือพักระหว่างงาน แต่เป็นเวลาที่เรากำจัดเสียงรบกวน ความกังวล สิ่งที่ครุ่นคิด ความไม่สบายใจออกไปจากใจเราด้วยจริงๆ
แม้เราจะมีเวลาพักชั่วคราว แต่ถ้าใจยังพะวงถึงมัน เราก็หยุดพักไม่ได้อยู่ดี ถ้าเราไม่ได้พักก็จะเหนื่อยล้า พลังอันแข็งแกร่งก็จะไม่เกิดขึ้นมาใหม่ บรรดาคนที่เหนื่อยล้าเหล่านี้จะมีใบหน้าที่เจือไปด้วยความอิดโรย และหม่นหมอง คนที่มีบรรยากาศอึมครึมเช่นนี้ไม่เป็นที่ดึงดูดสำหรับคนอื่น การไม่ได้รับความสนใจจากคนอื่นก็ทำให้พลาดที่จะได้รับสิ่งดีๆ ด้วย
ดังนั้นการมีเครื่องหมายหยุด 2-3 ตัวในวันหนึ่งๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต หยุดพัก เพื่อให้สร้างพลังให้สิ่งใหม่ๆ
อย่าจำกัดความสามารถของตัวเอง
ถ้าเอาแต่คิดว่าตัวเองไม่ถนัดในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นจะกลายมาเป็นจุดอ่อนของเราได้ง่าย และเราจะเสียความคิดที่จะลองทำด้วย เพราะตัวเองผูกมัดความคิดและการกระทำไปเรียบร้อยแล้ว หรือบางทีเรายังเผลอไปจำกัดความคิดและการกระทำในรูปแบบอื่นๆ ทำให้ความเป็นไปได้เหลือน้อยลง เช่น จำกัดว่าตัวเองมีนิสัยอย่างไร
แม้จะมุ่งไปที่เป้าหมายสุดกำลังแต่ดันจำกัดไปแล้วว่าตนเองเป็นคนหัวแข็ง ไม่ยืดหยุ่นอะไรง่ายๆ ก็จะกลายเป็นว่าตัวเองจัดการกับอย่างอื่นไม่เป็นเลย หรือถ้าไปใส่ใจว่าตนเองเป็นคนขี้อาย ก็จะทำให้ตัวเองมีลักษณะนั้นขึ้นมาจริงๆ
ความเชื่อที่ว่าคนเราแต่ละคนมีนิสัยหรือบุคลิกเฉพาะที่ติดตัวมา ไม่ต่างอะไรกับการเชื่อภาพลวงตาหรือเรื่องที่จินตนาการขึ้น มองดูความจริงให้ออกดีกว่า แล้วจะรู้ว่าเราเปลี่ยนไปเป็นอะไรก็ได้เสมอ คนเราไม่ได้มีตัวตนในแบบที่ถูกจำกัดไว้ตายตัว เราจึงไม่ควรไปคิดมากกับนิสัยของตนเองหรือคนอื่น
คนเราสามารถเป็นอะไรก็ได้ สามารถทำอะไรได้อย่างอิสระ ความเป็นไปได้ที่เปี่ยมด้วยความหวังจะปรากฎให้เห็นทันที หากไม่ถูกผูกมัดไว้ คนเราจะเป็นเหมือนดินชั้นยอดที่มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนรูปร่างได้ตามใจปรารถนา
ข้อมูลจากหนังสือ คนแปลกเท่านั้นที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ
วิธีสร้างธุรกิจให้แตกต่าง ในวันที่วิถีทางแบบเดิมๆ กำลังจะตาย
เทคนิคการเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลสูงสุด
8 หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ จากคนดังและองค์กรชั้นนำทั่วโลก
Pingback: วิธีจุดไฟให้ลุกโชนอีกครั้ง เมื่อเกิดภาวะ หมดไฟในการทำงาน
Pingback: เคล็ดลับการทำงาน ที่ทำให้คุณไม่เหนื่อยฟรีไปตลอดชีวิต
Pingback: วิธี สร้างสมาธิในการทำงาน งานเยอะแค่ไหนก็ทำเสร็จได้แน่นอน