10 ชุดนิทาน Bestseller ปี 2021 ที่เด็ก ๆ ทุกคนห้ามพลาด จะมีชุดไหนบ้าง เราจัดอันดับมาให้คุณพ่อ คุณแม่ และเด็ก ๆ ดูกันแบบเต็ม ๆ ชอบและอยากอ่านชุดไหน เลือกไว้เลยนะ
อันดับ 10 นิทานชุดตามติดภารกิจหนู 14 ตัว ครอบครัวสุดน่ารัก
ตามติดภารกิจหนู 14 ตัว ครอบครัวสุดน่ารัก เรียนรู้การทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยการช่วยเหลือและห่วงใยกันของสมาชิกในครอบครัวหนู 14 ตัว ที่ช่วยกันเฝ้าระวังด้วยความห่วงใย ในขณะที่สมาชิกกำลังเล่นและทำงาน นิทานชุดนี้เขียนและวาดภาพโดย คุณคะซุโอะ อิวะมุระ ที่เคยได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ เช่น ผลงานได้รับรางวัลหนังสือภาพแห่งญี่ปุ่น จากผลงานนิทานอาหารเช้าของหนู 14 ตัว, ได้รับรางวัลหนังสือเด็กซังเก และได้รับรางวัลวัฒนธรรม โดยสำนักพิมพ์โคดันฉะ สาขาหนังสือภาพ
นิทานชุดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของครอบครัวหนู 14 ตัว ได้แก่ การทำอาหาร, การซักผ้า และการย้ายบ้าน ด้วยตัวละครหนูมีหลายตัวและรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ผู้เขียนจึงได้ใส่ตัวเลขกำกับหนูแต่ละตัวไว้ เพื่อให้เด็กๆ จำได้ว่าหนูตัวนี้เป็นใคร ทำให้ช่วยจำเรื่องราวต่างๆ ของหนูแต่ละตัวได้ เป็นรายละเอียกเล็กๆ น้อยๆ ที่น่ารักจริง ๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งคำถามสนุกๆ จากตัวเลขที่กำกับหนูแต่ละตัวได้ เช่น มีหนูหมายเลขอะไรบ้างกำลังอยู่ที่ลำธาร หรือหนูตัวเล็กสุดคือหมายเลขอะไร ก็จะทำให้การอ่านนิทานชุดนี้สนุกชวนมากขึ้นไปอีก
นอกจากเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การเล่นและการทำงานจาก 3 ภารกิจของครอบครัวหนู 14 ตัวแล้ว นิทานชุดนี้ยังส่งเสริมความรักในครอบครัว ซึ่งเด็กๆ จะได้เห็นความรัก ความอ่อนโยน และความมีเมตตา จากสมาชิกครอบครัวหนู 14 ตัว ที่ช่วยกันในทุกเหตุการณ์ เด็กๆ ยังจะได้ฝึกทักษะการมุ่งเป้าหมายและการสังเกตจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ระหว่างทางในการย้ายบ้าน หาอาหาร หรือไปซักผ้า และสิ่งสำคัญที่นิทานชุดนี้ต้องการให้เด็กๆ ซึมซับ นั่นคือ “การช่วยเหลือกันและกัน” ผ่านบทบาทหน้าที่ของสมาชิกหนูแต่ละตัวที่ทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความรับผิดชอบ และไม่ลืมที่จะช่วยเหลืองผู้อื่นด้วย แถมยังได้ฝึกทักษะอื่นๆ อย่างการใช้กล้ามเนื้อที่มือ การวางแผน การแก้ไขปัญหาด้วยนะ
“นิทานชุดตามติดภารกิจหนู 14 ตัว ครอบครัวสุดน่ารัก” จึงเป็นนิทานเกี่ยวกับครอบครัวที่เด็กๆ จะได้เห็นการเล่นและการทำงานร่วมกับสมาชิกในครอบครัวอย่างสนุกและมีความสุข
อันดับ 9 นิทานชุดสามพี่น้องเพนกวิน
“นิทานชุดสามพี่น้องเพนกวิน” นิทานที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การเข้าถึงอารมณ์ พร้อมสื่อสารเรื่องการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสอนให้เด็ก ๆ รู้จักวิธีการเดินทาง การเตรียมตัว การระมัดระวังตัวขณะเดินทาง หรือการออกนอกบ้าน นิทานชุดนี้เป็นผลงานของ คุณโนริโกะ คุโด นักเขียนหนังสือภาพสำหรับเด็กที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง และมีผลงานทั้งวาดภาพประกอบให้กับนิตยสาร Moe หนังสือนิทาน และนิทานรายเดือนสำหรับเด็กของญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังมีผลงานนิทานที่โด่งดังเกือบทุกชุดกว่า 20 เล่มที่ติด Top 10 นิทานขายดีต่อเนื่องของญี่ปุ่น เช่น ชุดแมวป่วน ชุดแม่และลูกเจี๊ยบ ชุดโตเป็นพี่แล้วนะ และชุดสามพี่น้องเพนกวินสุดป่วน สำหรับนิทานชุดสามพี่น้องเพนกวิน เป็นเรื่องราวของสามพี่น้อง ได้แก่ พี่สาว เพนจัง และกวิ้นจัง ทีั้งหมดต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยรถไฟ เรือ เครื่องบิน และรถบัส
โดยธีมเรื่องของแต่ละเล่มได้จำลองเหตุการณ์จริงที่เด็กๆ ต้องเคยพบเมื่อโดยสารพาหนะทั้ง 4 ประเภท บวกกับความซุกซนของพี่น้องเพนกวินจนทำให้เกิดเหตุการณ์ป่วนๆมากมาย เช่น ทำสร้อยคอตกทะเล เกือบตกเครื่องบิน กดกริ่งลงรถนอกป้าย
จุดเด่นของนิทานชุดนี้คือ เด็ก ๆ จะได้เจอสิ่งใหม่ ๆ มากกว่าเรื่องเล่าในนิทาน เพราะบริบทของภาพวาดมีเรื่องราวอื่นๆ สอดแทรกอยู่ในนิทานหน้านั้น ๆ ด้วย ทำให้ยิ่งอ่าน ยิ่งสนุก มุมไหนของหน้ากระดาษก็มีเรื่องเล่าเพิ่มเติมได้ นอกจากนั้นยังช่วยปลูกฝังความรัก ความอบอุ่น จากการดูแลกันระหว่างพี่น้อง โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกหลายคน การสอนพี่ให้ดูแลน้อง และสอนน้องให้เชื่อฟังพี่ ถือเป็นสิ่งต้องปลูกฝังให้กับลูก ๆ ตั้งแต่ยังเล็ก
อันดับ 8 นิทานชุดไปรษณีย์หนู
“นิทานชุดไปรษณีย์หนู” สุดยอดนิทานภาพจากฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยรายละเอียดให้สังเกตและค้นหาทั่วหน้ากระดาษ และเป็นไอดอลให้เด็กๆ เป็นคนเก่ง พึ่งพาได้ เรื่องราวของคุณไปรษณีย์หนูที่ส่งจดหมายและพัสดุอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะใต้น้ำ บนต้นไม้ หรือที่ไหนก็ไม่หวั่น แต่ยังทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความมุ่งมั่น รับผิดชอบ
นิทานชุดนี้ เนื้อเรื่องไม่ได้เป็นภาคต่อกัน อ่านแยกเล่มได้ และมาด้วยขนาดหนังสือที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนการสังเกตรายละเอียดได้ง่ายและชัดเจน ไม่รู้เบื่อ เด็ก ๆ จะได้เห็นการทำงานอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจของคุณหนูไปรษณีย์ ที่ใช้ EF ในการวางแผนและการมุ่งสู่เป้าหมายให้เห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเรื่อง พร้อมด้วยมิตรภาพระหว่างทางที่ไปส่งจดหมายอีกด้วยนะ
.
ความสนุกของนิทานชุดนี้อยู่ที่การเล่าเรื่องการเดินทางไปเที่ยวของคุณไปรษณีย์หนูกับครอบครัว โดยไม่ลืมที่จะพกจดหมายและพัสดุไปส่งด้วย ซึ่งเด็กๆ จะได้เห็นครอบครัวหนู ประกอบด้วยแม่หนูและลูกหนูทั้ง 3 ได้แก่ ปีเตอร์ ทอมมี่ และลูลู่ ช่วยกันทำงานคนละเล็กละน้อยด้วยความสามัคคี อีกสิ่งที่ทำให้การอ่านนิทานชุดนี้ประทับใจคือ ตอนจบได้ย้ำให้เห็นความอบอุ่นและอ่อนโยนของคำว่า “ครอบครัว” เพราะสถานที่สุดท้ายที่ตัวละครเดินทางกลับไปคือ “บ้าน” แห่งความรักของพวกเขา
อันดับ 7 นิทานชุด 5 ภารกิจผู้ช่วยตัวจิ๋ว
5 ภารกิจผู้ช่วยตัวจิ๋ว ชุดนิทานที่จะทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้การวางแผน การมุ่งสู่เป้าหมาย และยืดหยุ่นความคิดเพื่อช่วยพัฒนา EF ทักษะสำคัญของการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ผู้ช่วยตัวจิ๋วกับความสนุกที่ไม่จิ๋ว นิทานสำหรับเด็ก ๆ ที่ชอบเรื่องตื่นเต้น ชอบสังเกต ชอบเครื่องมือและยานพาหนะประเภทต่าง ๆ เรื่องราวของเหล่าผู้ช่วยตัวจิ๋วที่พากันมาปฏิบัติภารกิจที่แตกต่างกัน ได้แก่
- การทำขนมเค้ก
- ตามหากระดุมสีแดงที่หายไป
- ทำข้าวกล่องและช่วยคุณเต่า
- พาลูกแมวหลงทางกลับบ้าน
- สร้างล้อวิ่งให้หนูแฮมสเตอร์
ทั้ง 5 ภารกิจ ผู้ช่วยตัวจิ๋วต้องใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อช่วยให้ทำงานง่ายและเสร็จเร็วขึ้น ซึ่งเด็กๆ ที่อ่านนิทานชุดนี้ จะได้เห็นวิธีการใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ โดยเฉพาะรถเครนที่พบได้บ่อย นิทานชุดนี้เต็มไปด้วยเหล่าผู้ช่วยตัวจิ๋วมากมาย แต่งตัวสีสันสดใส มาพร้อมกับรถทำงานไม่ว่าจะเป็น รถยก รถตัก รถเครน โดยจุดเด่นของนิทานชุดนี้คือ เป็นภาพที่มองจากมุมมองของผู้ช่วยตัวจิ๋ว ทุกอย่างรอบตัวดูใหญ่กว่าปกติ เหมือนเด็กเล็กๆ ที่สิ่งต่างๆ รอบตัวดูใหญ่โตไปหมด
เนื้อเรื่องไม่ยาวมาก คำน้อย เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่เริ่มอ่านหนังสือเอง มีจุดเล็กๆ ให้สังเกตมากมาย เช่น ผู้ช่วยตัวจิ๋วแต่ละคนกำลังทำอะไรนะ สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้จะทำให้เด็ก ๆ สนุกมากขึ้น เพราะผู้ช่วยตัวจิ๋วแต่ละคนทำท่าทางไม่เหมือนกันเลย นอกจากความสนุกในการทำภารกิจ และตื่นตาไปกับยานพาหนะต่างๆ แล้ว นิทานชุดนี้ยังสอดแทรกความน่ารักที่เป็นจุดเด่นของเหล่าผู้ช่วยตัวจิ๋ว นั่นคือความมีน้ำใจและการช่วยเหลือผู้อื่น
แม้ว่าพวกเค้าจะมีร่างกายเล็กจิ๋ว แต่ไม่เกินความสามารถที่จะร่วมมือกันทำงานด้วยความสามัคคี จนทำให้ภารกิจทั้ง 5 สำเร็จได้ด้วยดี นอกจากนั้นยังทำให้เห็นทักษะ EF ด้านวางแผนและมุ่งเป้าหมายอีกด้วย
อันดับ 6 นิทานชุดต่อแถวอะไรกันนะ ?
นิทานชุดต่อแถวอะไรกันนะ ? สุดยอดนิทานขายดีของญี่ปุ่น ทั้งสนุกน่าติดตาม แถมช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักการรอคอย และการทำการกติกาของส่วนรวม นิทานชุดนี้ยังเสริมการเรียนรู้เรื่องจำนวนอย่างง่าย ผ่านการต่อแถวของสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลา แมลง หรือแม้แต่รถยนต์ที่ติดเป็นแถวยาว โดยเฉลยของทุกเรื่องจะอยู่ที่ตอนจบของเรื่องว่า สุดท้ายแล้วที่ปลายแถวเด็ก ๆ จะได้พบอะไร ทำให้เด็ก ๆ สนุก ตื่นเต้น และลุ้นไปตลอดทุกหน้ากระดาษ
นิทานชุดนี้เขียนและวาดภาพโดยคุณโทะโมะโกะ โอมุระ นักวาดภาพประกอบหนังสือภาพ Bestseller หลายเล่ม เช่น ต่อแถวอะไรกันนะ รถติดอะไรกันนะ นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากการประกวดหนังสือนิทานพินพอยต์ครั้งที่ 3 อีกด้วย สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเสริมให้เด็ก ๆ รู้จักจำนวนนับอย่างง่าย รู้จักการรอคอย การทำตามกติกา การต่อแถว และการยืดหยุ่นความคิด
นิทานชุดต่อแถวอะไรกันนะ ? จะเป็นผู้ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ทั้งความรู้ด้านคณิตศาสตร์และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ผ่านภารกิจสนุก ๆ ของสิ่งต่าง ๆ ที่มาเข้าแถว เพื่อรอบางสิ่งบางอย่างที่ปลายแถว ถ้าเด็ก ๆ พร้อมแล้ว เรามาเข้าแถวกันนะ รับรองว่าที่ปลายแถวมีเรื่องเซอไพรส์แน่นอน
อันดับ 5 นิทานชุดบ้านต้นไม้ 10 ชั้น
มาแอบส่องนิทานชุดบ้านต้นไม้ 10 ชั้น ที่สุดของนิทานแห่งความอบอุ่น อ่อนโยน และการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน นิทานชุดบ้านต้นไม้ 10 ชั้น ตอนนี้มีถึง 9 เล่ม แล้วนะคะ นิทานชุดนี้เป็นงานเขียนของ คุณบุชิกะ เอ็ตสึโกะ ซึ่งมีผลงานที่ได้รับความนิยมมากมาย การันตีด้วยรางวัลเกี่ยวกับหนังสือสำหรับเด็กที่ตีพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศสและได้รับ “รางวัลผู้อ่านปฐมวัยประจำปี 2013”
.
คุณบุชิกะ เอ็ตสึโกะ ได้เขียนนิทานชุดบ้านต้นไม้ 10 ชั้น ออกมาโดนใจเด็กๆ ทั้งที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย จนนิทานชุดนี้กลายเป็นขวัญใจเด็ก ๆ ทั้งสองประเทศ และยังขายลิขสิทธิ์ไปอีกหลายประเทศทั่วโลก คุณพ่อคุณแม่หรือเด็กๆ คนไหนที่ยังไม่เคยอ่านนิทานชุดนี้ และสนใจอยากอ่าน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอ่านเล่มไหนก่อน ต้องขอบอกว่านิทานชุดนี้ สามารถเริ่มอ่านเล่มไหนก่อนก็ได้ แต่ถ้าอยากรู้จักความเป็นมาของบ้านต้นไม้แบบเริ่มต้นก็ต้องอ่านเล่ม “บ้านต้นไม้ 10 ชั้น” ก่อน เพื่อให้รู้จักภาพรวมและตัวละครหลักของนิทานชุดนี้
.
สำหรับเล่มฉบับภาษาไทยที่ออกใหม่ล่าสุดคือ “บ้านต้นไม้ในวันฝนตก” เด็ก ๆ คนไหนยังไม่ได้อ่าน ต้องห้ามพลาด เพราะครั้งนี้เราจะได้เห็นตัวละครที่อยู่กับบ้านต้นไม้มานาน และยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก แต่ในเล่มนี้เค้าคือพระเอกเลยนะ… นิทานชุดนี้ยังโดดเด่นด้วยการปลูกฝังให้เด็กๆ อยู่ร่วมกันกับผู้อื่นด้วยความอ่อนโยนและมีน้ำใจ นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ รวมถึงวัฒนธรรมอันหลากหลายผ่านตัวละครต่าง ๆ อีกด้วย
อันดับ 4 นิทานชุดลูกหนูผจญภัย
“ลูกหนูผจญภัย” ชุดนิทานเสริมความฉลาดให้ครบ 4 ด้าน เพื่อให้เด็ก ๆ รับมือได้ทุกสถานการณ์ แก้ปัญหาเป็น นิทานลายเส้นอบอุ่นละเมียดละไม บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าลูกหนูทั้ง 7 ตัว ที่ต้องพบเจอเรื่องตื่นเต้นมากมายในแต่ละวัน มีทั้งวันที่ต้องไปโรงเรียน วันที่ไปเที่ยว และวันที่ได้เล่นสนุกกัน แต่ละวันลูกหนูพบเจอปัญหาที่ต่างกันออกไป แต่ก็ช่วยกันแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง เด็ก ๆ จะได้สนุกไปกับเรื่องราวผจญภัยในวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเหล่าลูกหนู และได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เช่น
- รู้จักแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์
- เสริมจินตนาการ
- ได้เห็นการทำงานร่วมกันและความสามัคคี
- รู้จักช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่น
- ได้เห็นความรักความอบอุ่นภายในครอบครัว
สิ่งที่ลูกหนูทั้ง 7 ตัวต้องเผชิญจะช่วยเสริมทักษะในด้านต่างๆ ให้แก่เด็กถึง 4 ด้านด้วยกัน คือ IQ (ความฉลาดทางสติปัญญา) EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) CQ (ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์) และ MQ (ระดับความคิดด้านศีลธรรม) นิทานเล่มเล็ก ๆ บอกเล่าเรื่องราวง่าย ๆ แต่ให้ประโยชน์กับเด็กรอบด้าน หรือให้ประโยชน์กับเด็กโดยแทบไม่ต้องสอนตรงตัว แต่เด็กจะเรียนรู้และจดจำได้จากตัวละคร ลูกหนูทั้ง 7 ตัวจึงไม่ต่างอะไรกับตัวแทนของเด็กที่ยังคงมีเรื่องให้เรียนรู้และผจญภัยอีกมากในแต่ละวัน
อันดับ 3 นิทานชุดต่อทางรถไฟ
การปลูกฝังให้เด็ก ๆ รู้จักคิดแก้ไขปัญหา สามารถทำได้ไปพร้อมกับการให้เด็ก ๆ ได้จินตนาการเหมือนอย่างในนิทานเรื่อง “ต่อทางรถไฟ” และ “ต่อทางรถไฟยาวไกล” นิทานภาพสีสันสดใส เรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ช่วยกันต่อทางรถไฟ ทางรถไฟจะไปทางไหนบ้างนะ ระหว่างทางที่สร้างทางรางรถไฟ ได้พบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมาย ผ่านป่า ผ่านภูเขา เจอแม่น้ำ จะต่อทางรถไฟไปได้ไหมนะ
ถ้าอยากสร้างทางรถไฟจะทำอย่างไรดี เมื่อต่อทางรถไฟได้ในเล่มแรกแล้ว ต่อทางรถไฟยาวไกลก็ตามมา แม้ว่าจะเป็นการสร้างทางรถไฟเหมือนกัน แต่ระยะทางและสิ่งที่เด็ก ๆ ได้พบระหว่างทางมีความซับซ้อนมากกว่า สมกับเป็นการ ต่อทางรถไฟยาวไกล เจอสวนแตงโม เจอฝูงเป็ด เจอหน้าผาสูงชัน เจอเหวลึก จะต่อทางรถไฟอย่างไรดีนะ ระยะทางที่จะสร้างรถไฟต่อไปมีความซับซ้อน ยากขึ้นตามลำดับ แต่เมื่อช่วยกัน ทุกอย่างก็เป็นไปได้และทำให้สร้างรางไฟได้สำเร็จ การต่อทางรถไฟในสถานที่ต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ต่อทางรถไฟให้ยาวไกลไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับการต่อจินตนาการให้กว้างไกล
ในขณะเดียวกันการคิดแก้ปัญหาที่เจอ ก็ทำให้ได้ฝึกสมอง เพราะเมื่อเจอปัญหา มีการคิด สมองก็จะทำงาน และเกิดการประมวลผล ในนิทานเมื่อเจอปัญหา จะมีคำว่า “ทำอย่างไรดี” ซึ่งคำถามนี้เองที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้คิดตามว่า “หากเจอปัญหาจะทำอย่างไรดีนะ”
คุณพ่อคุณแม่ก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นความคิดให้เด็ก ๆ ได้ด้วย เช่น ระหว่างที่เล่า ลองเปิดหน้าต่อไปช้า ๆ เว้นจังหวะให้เด็ก ๆ ได้คิดว่า ถ้าเจอสวนแตงโมจะทำอย่างไรดีนะ แล้วในเรื่องนี้เขาแก้ปัญหากันอย่างไรนะ การทำให้ปัญหาที่เจอเป็นเรื่องน่าสนุก และแก้ไขได้ จะช่วยให้เด็ก ๆ กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาหรืออุปสรรคได้มากขึ้น การพูดคุยกันระหว่างที่เล่านิทานหรืออ่านหนังสือ ก็เป็นการลับสมองอีกทางหนึ่งด้วย
นิทานสองเรื่องนี้นอกจากจะให้เด็ก ๆ ได้จินตนาการและคิดแก้ปัญหาแล้ว รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรื่องก็ทำให้เห็นถึงความสามัคคี การแบ่งหน้าที่ ความร่วมมือร่วมใจของเหล่าเด็ก ๆ อีกด้วย
อันดับ 2 นิทานชุดกุริกับกุระ
“กุริกับกุระ” ชุดนิทานยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่น ที่ยังคงได้รับการพิมพ์ซ้ำอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยกย่องจากห้องสมุดทั่วประเทศญี่ปุ่นว่าเหมาะสำหรับเด็กวัยอนุบาลถึงประถมศึกษา อีกทั้งเป็นหนึ่งในนิทานที่ครองใจเด็ก ๆ มาอย่างยาวนาน
เรื่องราวของหนูนาสองตัวที่มีลักษณะคล้ายเด็ก ๆ คือ ชอบเล่น ชอบกิน และอยากรู้อยากเห็น เมื่อเด็ก ๆ ได้ฟัง ได้อ่านภาษาที่สนุกในเรื่องนี้ จะรู้สึกสนุกราวกับกำลังฟังเรื่องราวของตัวเอง ภาพวาดในเล่มเรียบง่าย เป็นเพียงลายเส้นง่าย ๆ กับการใช้แม่สีสามสีเท่านั้น แต่ในความเรียบง่ายนี้กลับเป็นเสน่ห์ดึงดูดเด็ก ๆ เพราะภาพทุกภาพในเล่มดูเหมือนเป็นฝีมือของเด็ก ๆ เอง
สองเราหนูนาชื่อว่า กุริ กับ กระ สองเราหนูนา ชอบทำอาหารนะ สองเราหนูนา ชอบกินด้วยกันจ้ะ กร๊อบแกร๊บ กรุ๊บกรั๊บ กุริ กุระแค่เริ่มต้นเด็ก ๆ ก็ร้องตามทำนองสนุกของสองหนูนา กุริ กับ กุระได้แล้ว เรื่องราวของสองหนูนาที่หิ้วตะกร้าใบใหญ่เข้าไปในป่า ทั้งสองเก็บลูกโอ๊ก จนไปเจอไข่ใบใหญ่เข้า จึงเกิดเรื่องราวขึ้น
ไข่ใบใหญ่แบกกลับบ้านอย่างไรดีนะ…
แล้วถ้าแบกกลับบ้านไม่ไหวละจะทำอย่างไร…
เอ๊ะ! เปลือกไข่หนาขนาดนี้ตอกไม่ไหวจะทำอย่างไร…
เปลือกไข่ที่เหลือใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเราใช้ทำอะไรดีล่ะ…
คำถามง่าย ๆ ที่ช่วยจุดประกายความคิดหยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ ให้เด็กๆ ได้ทบทวน คิดวิเคราะห์ไปพร้อมกับสองหนูนา ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าคำตอบของเด็กๆ จะตรงกับสิ่งที่กุริกับกุระทำหรือไม่ เพราะสิ่งสำคัญคือ เด็ก ๆ ได้สนุกกับการคิดตามนั่นเอง
เรื่องราวของ กุริ กับ กุระ ยังไม่จบเพียงเท่านั้น พวกเขายังได้ออกเดินทางไปยังป่าและได้พบกับไหมพรม ซึ่งเป็นเส้นไหมที่หลุดออกมาจากเสื้อกั๊กของคุณหมี เด็กๆ จะได้ร่วมเดินทางตามหาจุดสิ้นสุดของเส้นไหมไปพร้อมๆ กับ กุริ และ กุระ อย่างสนุกสนาน เด็ก ๆ บ้านไหนที่ยังไม่มี กุริ กับ กุระ ไว้เป็นหนังสือประจำบ้าน รับรองว่าไม่ผิดหวัง เด็ก ๆ ต้องติดใจอ่านซ้ำไปมาจนคุณแม่ต้องร้องเพลงตามสองหนูนาได้อย่างแน่นอน
อันดับ 1 นิทานชุดบ้าน 100 ชั้น สุดเจ๋ง
“นิทานชุดบ้าน 100 ชั้น สุดเจ๋ง” นิทานที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้คอนเซ็ปต์ของพื้นที่และเวลา พร้อมเสริมสร้างความคิดเชิงรูปธรรม สอนให้รู้จักการแลกเปลี่ยน และช่วยเสริมสร้างจินตนาการ นิทานชุดนี้มีทั้งหมด 4 เล่ม ได้แก่ “บ้าน 100 ชั้น” “บ้านใต้ดิน 100 ชั้น” “บ้านใต้ทะเล 100 ชั้น” และ “บ้านลอยฟ้า 100 ชั้น” โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ การเดินทางของตัวละครที่ผจญภัยไปในบ้าน 100 ชั้น มีทั้งขึ้นไปบนฟ้า มีทั้งลงไปใต้ดิน ลงไปใต้ทะเลหรือแม้กระทั่งขึ้นไปสู่หมู่เมฆ ตัวละครในแต่ละชั้นก็เปลี่ยนไปทุกๆ 10ชั้น เด็ก ๆ ได้สนุกกับเนื้อเรื่องแล้ว ยังเพลิดเพลินไปกับรายละเอียดในแต่ละหน้าอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้จากนิทานชุดนี้ คือ เรื่องของ พื้นที่และเวลา ซึ่งสถานที่ที่ตัวละครเดินทางไป จะแสดงให้เห็นพื้นที่ที่แตกต่างจากบริเวณที่เด็กๆ อยู่อาศัย ส่วนเรื่องของเวลาเวลา เด็กๆ จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินผ่านไปในแต่ละชั้น รวมถึงได้เห็นช่วงเวลาการเปลี่ยนตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ และการเปลี่ยนฤดูด้วย สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังไม่รู้จัก “นิทานชุดบ้าน 100 ชั้น สุดเจ๋ง” ต้องขอบอกว่า นิทานชุดนี้เป็นหนังสือภาพเทคนิคพิเศษที่ต้องเปิดจากล่างขึ้นบน (เล่มบ้าน100 ชั้น และบ้านลอยฟ้า 100 ชั้น) และจากบนลงล่าง (เล่มบ้านใต้ทะเล 100 ชั้น และบ้านใต้ดิน 100 ชั้น) เพื่อให้เห็นความสูง และความลึกของเนื้อหาอย่างชัดเจน
นอกจากเด็ก ๆ จะได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับการเดินทางไปยังบ้านที่มีถึง 100 ชั้นพร้อมกับตัวละครแล้ว เด็กๆ จะได้ทำความรู้จักสัตว์ชนิดต่างๆ ที่มีลักษณะพิเศษไม่ซ้ำใคร รวมถึงเรียนรู้ที่จะเปิดรับมิตรภาพดีๆ จากผู้คนรอบข้างอีกด้วย
คุณอิวาอิ โทชิโอะ ผู้เขียนนิทานชุดบ้าน 100 ชั้นสุดเจ๋ง ยังได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการแต่งนิทานชุดนี้ว่า… “บ้านหนึ่งร้อยชั้น คงจะสนุกมาก และมีอะไรให้เด็กได้ตื่นเต้นแน่ๆ ถ้ามีรายละเอียดสนุกๆ ประหลาดตา ผมจึงเริ่มจากบ้านของครอบครัวหนู เพราะต้องการวาดบ้านทั้ง 100 ชั้น ให้มีความเป็นอยู่เหมือนกับมนุษย์ หนูมีบางสิ่งที่ใกล้ชิดกับเรามาก เช่น อาศัยอยู่ในบ้านของพวกเรา ผมจึงคิดว่าแทนที่จะเริ่มจากบ้านแบบหลุดโลก เป็นเริ่มต้นด้วยบ้านที่ใกล้ชิดกับเด็ก และค่อยๆ เพิ่มระดับ เปลี่ยนเป็นบ้านกระรอก กบ ไปตามลำดับ จากนั้นก็ทำให้สนุกสนานด้วยการเปลี่ยนภายในห้องธรรมดาๆ และรายละเอียดเครื่องแต่งบ้านให้เหมาะกับสัตว์แต่ละตัว”