The Witcher II ช่วงเวลาแห่งการปรามาส Time of Contempt Andrzej Sapkowski เขียน ต้องตา สุธรรมรังษี และธนพร ภู่ทอง แปล ติดตามการวางจำหน่ายได้ที่เพจ แพรวสำนักพิมพ์ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 1 เวลาคุยกับผู้สมัครวัยหนุ่มสาว เอเพลแกตต์มักจะบอกว่าผู้ขี่ม้าส่งสาร จำเป็นต้องมีคุณสมบัติสองประการ ได้แก่สมองทองคำกับบั้นท้ายเหล็กสมองทองคำนั้นสำคัญมาก เอเพลแกตต์สอนว่ากระเป๋าหนังคาดหน้าอกที่ซ่อนอยู่ใต้อาภรณ์จะมีเพียงสารไม่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไปปรากฏบนเอกสารหรือจดหมายอันตรายที่ไหน สิ่งสำคัญจริง ๆ คือสารลับ สารที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย ผู้ส่งสารต้องท่องจำให้ขึ้นใจและถ่ายทอดแก่ผู้รับด้วยคำพูดเท่านั้น คำต่อคำ และบางครั้งสารเหล่านั้นก็จำยาก อย่าว่าแต่จะจำให้ได้เลย แค่ออกเสียงยังลำบาก หากผู้ส่งสารต้องการท่องจำและถ่ายทอดโดยไม่มีข้อผิดพลาด เขาก็ต้องมีสมองทองคำ ส่วนประโยชน์ของบั้นท้ายเหล็กนั้น โอ เดี๋ยวผู้ส่งสารก็จะได้เรียนรู้เอง เมื่อเขาต้องนั่งบนหลังม้าสามวันสามคืน ควบตะบึงไปตามถนนไกลเป็นร้อยหรือสองร้อยไมล์ บางช่วงอาจไม่มีถนนด้วยซ้ำ เมื่อนั้นแหละบั้นท้ายเหล็กคือสิ่งจำเป็น ไม่อยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครตะบี้ตะบันนั่งบนหลังม้าได้โดยไม่หยุดพัก […]
Category Archives: Book
“โชคดีว่าฉันเจอแก เป็นเรื่องดีที่สุดแล้วในชีวิตเส็งเคร็งของฉัน” ประโยคนี้เป็นคำพูดของหญิงสาวคนหนึ่ง หลังจากได้พบ ทะมง สุนัขพันธุ์ผสมระหว่างเยอรมันเชพเพิร์ดและพันธุ์พื้นเมืองญี่ปุ่น ที่พลัดหลงกับเจ้าของหลังเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นเรื่องบังเอิญที่เธอได้พบกับทะมงในช่วงเวลาที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร และไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรบนโลกที่แสนโหดร้ายนี้ ทะมงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นในวันที่แย่ที่สุด นอกจากจะได้พบหญิงสาวผู้นี้แล้ว ทะมงก็พบเจอกับผู้คนมากหน้าหลายคา ตลอดช่วงเวลาที่ทะมงอาศัยอยู่กับใคร ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน หรือแม้กระทั่งยาวนานนับเดือน ทะมงก็ทำให้เจ้าของหน้าใหม่ทั้ง 6 ได้เรียนรู้บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่มนุษย์คนไหนก็ไม่อาจมอบให้พวกเขาได้ นี่คือเรื่องราวชีวิตของผู้คนทั้ง 6 ที่เจ้าทะมงได้แวะไปเยี่ยมเยียนรับรองว่าทั้งหลากหลายและครบรสอย่างไม่ซ้ำใครแน่นอน พบกับ 6 เรื่องราวที่บอกเล่าผ่านเจ้าของทั้ง 6 คน และสุนัขจรจัด 1 ตัวที่ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด ชายหนุ่มกับสุนัข เรื่องราวของ คาซุมาสะ ชายหนุ่มพนักงานขับรถส่งของผู้บังเอิญเจอกับ ทะมง ที่หน้าร้านสะดวกซื้อระหว่างเวลางาน หลังจากที่เขาได้ให้เนื้อไก่อบแห้งกับทะมง เจ้าสุนัขก็ตัวติดกับเขาไม่ห่างจนสุดท้ายต้องจำใจพาขึ้นรถกลับบ้านไปด้วย คาซุมาสะ มีหน้าที่เป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวที่มีพี่สาววัย 30 ต้นๆ คอยดูแลพยาบาลแม่ผู้ป่วยเป็นโรคร้ายซึ่งมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เขาได้แต่หวังว่าสมาชิกครอบครัวตัวใหม่อย่างทะมง จะสามารถบรรเทาอาการของแม่ได้ในฐานะสุนัขบำบัดจำเป็น ด้วยทักษะการขับรถที่น่าจับตามองของเขาประกอบกับสถานะทางการเงินที่ไม่ค่อยสู้ดี นุมะกุจิ ผู้เป็นรุ่นพี่สมัยมัธยมปลายจึงได้ยื่นข้อเสนอที่จะเปลี่ยนชีวิตคาซุมาสะ ไปตลอดกาล เจ้าทะมง จะมีบทบาทอะไรในเส้นทางใหม่ที่คาซุมาสะ เลือกเดิน ต้องติดตามนะคะ หัวขโมยกับสุนัข ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัข ทะมง […]
“ขอบคุณที่มีชีวิตอยู่” แม้คุณอาจจะไม่รู้ตัว แต่การมีชีวิตอยู่ของคุณย่อมมีความหมายกับใครสักคนแน่นอน… ขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับผู้คนที่ยังเปล่งแสงของชีวิตในหนังสือ แด่เธอผู้เปล่งประกายใต้แสงจันทร์ การันตีความโด่งดังด้วยยอดขาย 600,000 เล่มในประเทศญี่ปุ่น และถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์กำกับโดยโช สึคิคาวะ เจ้าของผลงานภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ และ ย้อนรัก 100 ครั้งยังเป็นเธอ เรื่องราวของเด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคเปล่งแสง ร่างกายของเธอจะเปล่งแสงสว่างเมื่ออยู่ใต้แสงจันทร์ กับเหล่าผู้คนที่แวะเวียนกันมาสร้างบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต และทำให้เธอมีความสุขที่สุดในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตจะมีใครบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ วาตาราเซะ มามิสุ มามิสุ เป็นเด็กสาวผู้ป่วยเป็นโรคเปล่งแสงมาตั้งแต่ชั้นม.ต้น เธอจึงต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงแค่ในโรงพยาบาลอย่างลำพังเป็นระยะเวลาหลายปีจนถึงปัจจุบันที่เธออยู่ในวัยมัธยมปลายปีหนึ่ง ความงดงามของเธอเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักเรียนแม้จะไม่ได้ปรากฏตัวที่โรงเรียนเป็นเวลานาน เธอคือเจ้าของสีหน้าไร้เดียงสาปราศจากวี่แววเจ้าเล่ห์ที่ดูซื่อตรงและจริงใจ รวมไปถึงผิวขาวผ่องที่ดูเหมือนเกิดและเติบโตในต่างแดน โอคาดะ ทาคุยะ ทาคุยะ เป็นนักเรียนชายที่จับพลัดจับผลูได้เป็นตัวแทนห้องเรียนให้ไปเยี่ยมมามิสุที่โรงพยาบาล โดยทาคุยะไม่รู้เลยว่าเด็กสาวแปลกหน้าผู้นี้จะเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเขา มามิสุเป็นดั่งแสงสว่างที่ดึงทาคุยะให้พ้นจากความมืดมิด เขามีบาดแผลในใจจากการสูญเสียคนสำคัญ ประกอบกับการเฝ้าหาเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ที่ไร้ซึ่งคำตอบอันแน่ชัด ฮิราบายาชิ ริโกะ ริโกะ เป็นพนักงานสาวผมสั้นสีสว่างสดใสประจำเมดคาเฟ่ที่ทาคุยะทำงานพิเศษเป็นผู้ช่วยในครัว ด้วยความที่ส่วนใหญ่ในร้านมักจะมีแต่พนักงานอายุเยอะกว่า เธอที่โตกว่าทาคุยะเพียงปีเดียวจึงดีใจมากที่มีคนรุ่นราวคราวเดียวกันเข้ามาทำงานด้วย ริโกะเป็นที่พึ่งสำคัญของทาคุยะเพราะเธอคือผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือและใส่ใจถามไถ่สารทุกข์สุกดิบพนักงานมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับงานพิเศษอย่างทาคุยะอยู่เสมอ คายามะ อากิระ คายามะ เป็นหนุ่มคาสโนวาตัวพ่อที่มีงานอดิเรกคือการหักอกผู้หญิงเป็นว่าเล่น ในขณะที่สาวๆ ชอบเขาเพราะหน้าตาที่ได้รูป พวกเพื่อนผู้ชายส่วนใหญ่กลับพากันตีตัวออกห่างเนื่องจากท่าทางการตอบคำถามอย่างกวนๆ ของเขาที่มักทําให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนโดนเย้ยหยัน . […]
(* ในบทความนี้เรียงลำดับเหตุการณ์โดยยึดตามเวอร์ชันนิยาย ซึ่งมีความแตกต่างกับเวอร์ชันซีรีส์*) หลายคนที่อ่าน “คําอธิษฐานสุดท้าย” (THE LAST WISH) กับ “ดาบแห่งโชคชะตา” (SWORD OF DESTINY) จบแล้วสับสนกับลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนิยายเล่าเรื่องไม่เหมือนกับซีรีส์ แพรวสำนักพิมพ์จึงทำบทความนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้กระจ่างว่าเรื่องสั้นเรื่องไหนเกิดก่อน เรื่องสั้นเรื่องไหนเกิดหลัง และตรงกับซีรีส์ของ NETFLIX ตอนไหนบ้าง ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในซีรีส์จะเล่าไทม์ไลน์ทั้ง 3 คนไปพร้อมๆ กัน คือ เกรอลท์ เยนเนเฟอร์ และซิริ แต่ในนิยายจะเล่าแค่ไทม์ไลน์ของเกรอลท์เท่านั้น ในโพสต์นี้จึงขอกล่าวถึงแค่ไทม์ไลน์ของเกรอลท์เพียงคนเดียวตามต้นฉบับในนิยาย มาไล่ดูไปทีละภาพไปพร้อม ๆ กันเถอะ : 1 ตอน : เศษเสี้ยวแห่งความจริง จากเล่ม : คำอธิษฐานสุดท้าย ซีรีส์ : ออกฉายในซีซั่น 2 เรื่องสั้นลำดับที่ 2 ต่อจากตอน “วิทเชอร์” แต่จริงๆ […]
สรจักร ศิริบริรักษ์ นักเขียนเรื่องสั้นเขย่าขวัญชื่อดัง ผู้สร้างสรรค์ผลงาน หักมุมระดับตำนาน นับร้อยเรื่อง ด้วยความสามารถในการเขียนที่สาดความสยองปนขนลุกผ่านตัวอักษรได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ นักอ่านหลายคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือ คือ ‘สตีเวน คิง’ เมืองไทย งานเขียนของเขายังคงความสมจริงโดยใช้ประสบการณ์ตรงจากอาชีพเภสัชกรของตัวเองในการร้อยเรียงเรื่องราวให้สอดคล้องกันอย่างละเอียดแม่นยำ ผลงานหนังสือชุด ‘สามศพ สามผี สองวิญญาณ’ ของ สรจักร ศิริบริรักษ์ ครองตำแหน่งหนังสือขายดีอยู่นานหลายปีด้วยลีลาการเขียนที่เลื่องชื่อในหมู่นักอ่าน นอกจากนี้การที่หนังสือทุกเล่มของเขาได้รับการตีพิมพ์ซ้ำยังเป็นหลักฐานยืนยันในกระแสตอบรับอันล้นหลามจากแฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นศพใต้เตียงที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 27 หรือศพท้ายรถที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 26 <และบัดนี้ การรวบรวม 30 สุดยอดผลงานเรื่องสั้นหักมุมในชุดศพ ก็วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้ชื่อ คนดีตายหมดแล้ว ที่นำชื่อเรื่องมาจากชื่อตอนของเรื่องสั้น ที่ครอบคลุมบรรยากาศการอ่านและสิ่งที่เขาฝากไว้ในงานเขียนทุกเรื่องเป็นอย่างดี สำหรับนักอ่านที่ยังไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร ขอเชิญพบกับเรื่องราวชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ของ สรจักร ศิริบริรักษ์ นักเขียนมากฝีมือเจ้าของฉายา ‘สตีเวน คิง’ เมืองไทย ที่รับรองได้ว่าน่าสนใจไม่แพ้หนังสือที่เขาเขียน ณ บัดนี้ ก้าวแรกของเส้นทางการเป็นนักเขียน สรจักรเป็นคนรักการอ่านที่อ่านแม้กระทั่งข้อความตามถุงกล้วยแขก เขาเป็นคนอ่านหนังสือเร็วและสามารถจับใจความได้ในทันที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะห้องทำงานของคุณพ่อนั้นเต็มไปด้วยหนังสือภาษาอังกฤษและหนังสือแปล อีกทั้งคุณแม่ยังเป็นครูภาษาไทยที่คอยจัดหาวรรณคดีดีๆ ทรงคุณค่ามาให้อ่านมาตั้งแต่เด็ก นิตยสารชื่อดังในยุคนั้น เช่น บางกอก […]
คนดีตายหมดแล้ว สรจักร ศิริบริรักษ์ เขียน ติดตามการวางจำหน่ายได้ทางเพจ “เเพรวนิยายเเปล” “ด้วยพื้นฐานการศึกษาด้านเภสัชศาสตร์ จึงทำให้เขามีวิธีสร้างพล็อตที่แปลกใหม่ สร้างความสมจริงให้กับงานของเขาจนได้รบการยกย่องว่าเป็น ‘สตีเวน คิง’ เมืองไทย งานของเขามีลักษณะที่กระชับ ใช้ภาษาเรียบๆ เล่าเฉพาะความที่จำเป็นต่อการดำเนินไปของพล็อต จึงอ่านสนุก ชวนติดตาม และระทึกใจไปกับตอนจบอันคาดเดาไม่ได้ โดยเฉพาะกับรวมเรื่องสั้นชุดนี้ – ชุดที่จะพาเราขุดลึกเข้าไปถึงความล้ำลึกในใจคน ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ตามที” -โตมร สุขปรีชา นักเขียน นักคิด นักแปล และคอลัมนิสต์ “งานของคุณสรจักรเหมือนมีมนตร์ อ่านจบบรรทัดหนึ่งแล้วยังอยากอ่านต่อไป จบย่อหน้าแล้วยังหยุดไม่ได้ แม้จบเล่มแล้วก็ยังต้องตะกายไปหาเล่มอื่นต่อ… ระบบความคิดของเขาเป็นอย่างไรกันแน่นะ ทำไมถึงพลิกแพลงหลีกตัวเองและหลอกคนอ่านได้มากมายยาวนานขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลแน่นปึ้กที่ทำให้ทุกอย่างดูสมจริงอย่างยิ่ง” -ปราปต์ ผู้เขียน กาหลมหรทึก “วันนั้นผมจำได้ดี คุณครูวิชาแนะแนวเริ่มเปิดหนังสือเล่มหนึ่งแล้วอ่านให้พวกเราฟัง เรื่องจบลงด้วยการแก้แค้น แต่แล้วผลลัพธ์ของเรื่องกลับหักมุมไปอีกทาง… ให้ความรู้สึเหมือนโดนตบหัวเหม่งเข้าอย่างแรง หลายคนต้องมนตร์กับเรื่องสั้นหักมุมของคุณสรจักรเข้าอย่างจัง… อ่านแล้วรับรองว่าเดาตอนจบไม่ออกแน่นอน” -เต๋อ รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ พิธีกรและนักแสดง “หลังจากที่อ่านเล่มนี้ ทำให้ฉุกคิดได้ทุกครั้งที่อ่านแต่ละเรื่องจบ […]
จำได้ไหมคะ ว่าความสัมพันธ์แบบไหนบ้าง ที่ผ่านเข้ามาชีวิตของคุณตั้งแต่เด็กยันโต! ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน (ที่สนิทบ้างไม่สนิทบ้าง) ความสัมพันธ์แบบรักแรกพบ ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์แบบแอบชอบ หรือความสัมพันธ์ระยะยาว… ใน โกโก้อุ่นๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ วรรณกรรมแปลญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์อุ่นๆ อันแสนเรียบง่ายจากเรื่องสั้นทั้ง 12 ตอนที่จะทำให้คุณหวนนึกถึงบรรยากาศอบอุ่นที่คุณเคยสัมผัส หรือนึกถึงใครบางคน ตลอดจนความสัมพันธ์ในชีวิต ความสัมพันธ์อุ่นๆ ในเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในรูปไหนบ้าง จะตรงกับที่เพื่อนๆ เคยประสบมาหรือเปล่าไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ ความสัมพันธ์แบบแอบชอบ และไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเขา ในชีวิตของคนเรา ต้องมีสักครั้งหรือหลายครั้งที่ดันไปแอบชอบคนคนหนึ่งตั้งแต่แรกเห็น และไม่รู้จักชื่อของเขาด้วยซ้ำ ไม่ว่าการแอบชอบรุ่นพี่ในโรงเรียน ที่ต้องแอบไปสืบชื่อแซ่ของเขาภายหลัง หรือแอบชอบคนที่บังเอิญเจอกันในร้านคาเฟ่ เหมือนเรื่องราวของบาริสต้าหนุ่มคนนี้ คุณบาริสต้าที่อยู่ในเรื่องนี้ เพิ่งมาทำงานที่มาร์เบิ้ลคาเฟ่ได้ไม่นาน แล้วเขาก็ตกหลุมรักลูกค้าคนหนึ่งเขาอย่างจัง เธอจะมาที่คาเฟ่ทุกวันพฤหัสฯ สั่งโกโก้ร้อนเมนูเดิม นั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม และลงมือเขียนจดหมาย เธอทำแบบนี้เป็นประจำจนเขาจดจำเธอได้อย่างแม่นยำ และใจจดใจจ่อที่จะได้ทำงานในวันพฤหัสฯ มากเป็นพิเศษ ความสัมพันธ์แบบแอบชอบสร้างกำลังใจให้ใครมากมาย รุ่นพี่ที่โรงเรียนทำให้เราอยากไปโรงเรียนทุกวันเพื่อจะได้เจอหน้า หรือรอที่จะเรียนวิชาเรียนรวมเพื่อจะได้เจอเขา เป็นความบังเอิญแบบจงใจที่เราสร้างขึ้นมาและหวังเล็กๆ ให้เธอหรือเขารู้สึกเช่นเดียวกัน เป็นความสัมพันธ์ที่รู้สึกอบอุ่นใจ แม้จะยังไม่ได้สานสัมพันธ์เลยก็ตาม ความสัมพันธ์แบบครอบครัว ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน สมมุติว่าวันหนึ่งคุณมีครอบครัว […]
แนะนำตัวละครสำคัญ ผู้คนที่รายล้อม ฮาโรลด์ ฟราย ชายผู้ออกเดินเท้าระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตร เพื่อไปส่งจดหมายฉบับเดียว เรื่องราวการเดินทางของชายวัยเกษียณที่เดินไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตร เพื่อไปส่งจดหมายให้กับเพื่อนคนสำคัญ โดยหวังว่าเธอเองก็ยังรอคอยเขาอยู่เช่นกัน การเดินที่มาพร้อมศรัทธาอันแรงกล้านี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ฮาโรลด์จะนำจดหมายไปส่งถึงมือเธอได้หรือไม่ และระหว่างทางเขาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ก่อนจะออกเดินทางไปพร้อมๆ กับฮาโรลด์ เราขอแนะนำตัวละครสำคัญในเรื่องกันก่อน ตัวละครสำคัญใน ความตายครั้งที่มีความหมายมากที่สุด มีใครบ้าง ตามมาได้เลยค่ะ ฮาโรลด์ ชายผู้กำลังเดินไปส่งจดหมาย เขาเป็นผู้ชายวัยเกษียณรูปร่างสูงโย่ง วันที่ได้รับจดหมายสำคัญจากอดีตเพื่อนร่วมงาน เขาสวมเสื้อเชิ้ตสะอาดกับเน็คไท และรองเท้าแล่นเรือ เขาเป็นผู้ชายธรรมดาที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธา และออกเดินอย่างมีความหวัง ควีนนี เพื่อนคนสำคัญของฮาโรลด์ ควีนนีในความคิดของฮาโรลด์ เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา รูปร่างอ้วนล่ำ เอวหนา เธอเป็นคนเงียบๆ และถ่อมเนื้อถ่อมตัว และเป็นคนที่ส่งจดหมายถึงฮาโรลด์ จุดประกายให้เขาอยากทำอะไรสักอย่าง และเริ่มออกเดิน มอรีน ภรรยาของฮาโรลด์ เธอเป็นผู้หญิงรูปร่างบอบบาง ผมหงอกขาวไว้ทรงหมวกครอบ ตอนเป็นสาวเธอเป็นผู้หญิงที่บ้าระห่ำคนหนึ่ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ร้ายแรงขึ้น เธอกลายเป็นคนฉุนเฉียว เอาแต่โมโหสามี และโทษว่าเป็นความผิดของเขาทุกอย่าง เดวิด […]
หากคุณตกหลุมรักทกโกซม วรรณกรรมเกาหลีเรื่องเยี่ยม การันตีด้วยรางวัลวรรณกรรมเยาวชนดีเด่นของมุนฮักดงเนประจำปี 2020 ที่จะทำให้คุณฉุกคิดได้ว่า สิ่งที่ใครๆ บอกว่าเขาหรือเธอเหล่านั้นเป็นแท้จริงแล้ว ใช่เรื่องจริงหรือเปล่า เรื่องราวของ ทกโกซม เด็กสาวบุคลิกลึกลับที่ย้ายโรงเรียนกลางคัน และถูกปล่อยข่าวลือว่าเธอเป็น “แม่มด” ตั้งแต่วันแรกที่มาเรียน เธอมีผิวขาวซีด ผมยาวสีดำสนิท ด้วยความที่เธอเป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย และไม่ยอมเปิดรับใครเป็นเพื่อน คนในโรงเรียนจึงมองว่าเธอเป็นคนประหลาด ข่าวลือที่แพร่สะบัดออกไปไม่ใช่เรื่องราวที่ดีเท่าไรนัก บ้างก็ว่าเธอมีเวทมนตร์คาถา สามารถสาปคนได้ ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งกับเธอ เว้นแต่ ซอยูลมู เด็กสาวที่ตั้งตนเป็นนักสืบ สืบคดีเล็กๆ ในโรงเรียน อย่างใครเป็นคนนำจิ้งหรีดมาไว้บนโต๊ะของคนในห้อง ใครนะที่เอาของมีคมมาแทงหนังสือเรียนของเด็กใหม่ ฯลฯ เธอรู้สึกสนใจในตัวทกโกซม และพยายามหาต้นตอความเกลียดชังจากบรรดาเพื่อนในห้อง เหตุใดเด็กสาวผมยาวสีดำสนิทและแสนมีเสน่ห์ในสายตาเธอ กลับไม่เป็นที่พอใจของคนทั้งโรงเรียน ตัวละครในเรื่องนี้ค่อนข้างมีมิติน่าค้นหาทุกตัว และเมื่ออ่านจบแล้ว คุณอาจจะไม่เกลียดใครเลย แม้กระทั่งตัวละครที่ดูร้ายที่สุดก็ตาม ก่อนที่จะหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เรามาทำความรู้จักตัวละครก่อนคร่าวๆ กันก่อนได้เลยค่ะ ทกโกซม บุคลิก: ลึกลับ ฉายา: แม่มด เด็กสาวผิวขาวซีด มีผมยาวสีดำสนิท ใบหน้าจิ้มลิ้ม โครงหน้ามีเสน่ห์คมชัดชวนมอง เป็นคนเรียบร้อยและพูดน้อย มักมีท่าทีเหมือนไม่ยอมเปิดรับใครเป็นเพื่อน เธอเป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาเรียนกลางคัน […]
แนะนำตัวละครสำคัญในเรื่อง โตเกียวทาวเวอร์ แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว นิยายญี่ปุ่นที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีส์ ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย หลายคนเคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว เมื่อครั้งที่ตีพิมพ์กับแพรวสำนักพิมพ์ในปี 2551 หรือราวๆ 13 ปีที่แล้ว เรื่องราวที่เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของผู้เขียน ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง เรียบง่าย และตรงไปตรงมา จนใครก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงวิธีที่ตนปฏิบัติกับแม่ของตัวเอง สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน เราขอแนะนำตัวละครในเรื่องให้เพื่อนๆ นักอ่านรู้จักกัน ก่อนลิ้มลองรสชาติของหนังสือเล่มนี้ มาคุง เด็กชายขี้โรค เขาปวดท้องจนต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ เขากลัวพ่อตั้งแต่เด็กเพราะถูกพ่อจับเหวี่ยงจนตัวลอย ภาพจำของพ่อคือพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน และชอบใช้กำลัง เขาไม่ค่อยชอบพ่อของตัวเองเท่าไรนัก แต่หากถามว่าเขารักใครมากที่สุด มาคุงก็จะตอบว่า ‘รักแม่’ เป็นที่หนึ่งทุกครั้งไป . เมื่อมาคุงโตขึ้น เขาเริ่มมีอิสระในชีวิต ได้ไปเรียนและใช้ชีวิตในโตเกียวและหลงอยู่ในแสงสีแห่งเมืองหลวง บางครั้งเงินก็ไม่พอใช้จนต้องรบกวนแม่บ่อยๆ กระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เขาได้กลับมาฉุกคิด การกระทำของเขาที่มีกับแม่ของตัวเอง แม่ แม่เป็นคนช่างพูดช่างคุย ยิ้มแย้มอยู่เสมอและชอบทำเรื่องสนุกๆ เอาใจใส่คนรอบข้าง ชอบทำงานบ้านและทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ แม่มักจะทำกับข้าวมากมายอยู่เสมอ เธอเกิดที่ชิคุโฮ เมืองแห่งเหมืองถ่านหิน เป็นลูกคนที่สี่ ในบรรดาพี่น้องทั้งหมดเก้าคน หลังจากที่รู้จักกับพ่อได้เพียงไม่กี่วัน ก็ตกลงแต่งงานด้วย เพราะพ่อขนของหมั้นมาถึงหน้าบ้านโดยไม่ปรึกษาใครทั้งสิ้น ท่ามกลางความตกใจ แม่ก็ตกลงแต่งงานกับพ่อทันทีและได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พ่อ […]