เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่ารักๆ และน่ารู้เกี่ยวกับ วรรณกรรมเยาวชน มีมากมาย และนี่คือ 4 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วรรณกรรมเยาวชน ที่แพรวเยาวชน อยากจะขอเล่าให้ฟัง เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วรรณกรรมเยาวชน 1 ฮอบบิทได้ตีพิมพ์เพราะเด็กชายวัย 10 ขวบ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วรรณกรรมเยาวชน เรื่องแรกเป็นเรื่องของ ฮอบบิท Stanley Unwin เจ้าของสำนักพิมพ์ George Allen & Unwin นำต้นฉบับ “ฮอบบิท” ของเจ.อาร์.อาร์.โทลคีนกลับบ้านให้ Rayner ลูกชายอ่านและเขียนรีวิวแลกเงิน 1 ชิลลิ่ง…ซึ่งรีวิวครั้งนั้นทำให้ Stanley ตัดสินใจพิมพ์เรื่องฮอบบิท! และนี่คือรีวิวของเด็กชายวัย 10 ขวบ… “บิลโล แบ๊กกิ้นส์ เป็นฮอบบิท อาศัยอยู่แต่ในโพรงฮอบบิทและไม่เคยออกไปผจญภัยที่ไหนเลย จนกระทั่งพ่อมดชื่อแกนดัล์ฟและคนแคระยุให้บิลโบออกเดินทางนั่นแหละ บิลโบจึงได้เจอช่วงเวลาอันแสนตื่นเต้น ทั้งการสู้กับก็อบลินและวอร์กป่า จนในที่สุดบิลโบก็เดินทางไปถึงภูเขาโลนลี่ และได้เจอสม็อก มังกรเฝ้าภูเขา ซึ่งมันโดนฆ่าทิ้งหลังการต่อสู้ครั้งใหญ่ บิลโบก็ได้เดินทางกลับบ้าน—เยี่ยมเลย! หนังสือเล่มนี้มีแผนที่หลายภาพ ไม่จำเป็นต้องมีภาพประกอบก็ได้ เนื้อเรื่องดีและควรให้เด็กอายุ […]
Category Archives: Young Adults
แฟนคลับของ มูมิน มีอยู่ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ เราอาจจะรักมูมินตรงที่มันตัวอวบอ้วนน่ากอด หรือว่าเพลิดเพลินใจไปกับมนตร์มหัศจรรย์และการผจญภัยในโลกของพวกมูมิน หรือจะรักมุมมองการใช้ชีวิตของพวก มูมิน ที่เรียบง่าย จริงใจ ตลอดจนมิตรภาพ ครอบครัวและความรักที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในเรื่อง และทั้งหมดนี้ถ่ายทอดออกมาจากความคิดของศิลปินหญิงชาวฟินแลนด์อย่าง ตูเว ยานซอน เพียงคนเดียว และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่เราจะได้พบกับ โลกในหุบเขามูมิน ของ ตูเว ยานซอน (The World of Moominvalley as created by Tove Jansson) เรามารู้จักประวัติศาสตร์มูมินฉบับย่อกันก่อนดีกว่า ค.ศ.1943 ตูเว ยานซอน วาดภาพตัวละคร มูมิน ตัวแรก ตูเว ยานซอน เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปีค.ศ. 1914 ที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เป็นลูกสาวของวิกเตอร์ และซิเน่ ฮามมาร์สเตน ยานซอน ชีวิตของตูเว ยานซอนแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศของศิลปะ เพราะพ่อแม่ของเธอก็เป็นศิลปิน […]
หนังสืออ่านนอกเวลา เป็นหนังสือที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในหลักสูตรวิชาภาษาไทย ให้นักเรียนตั้งแต่ ป.1 – ม.6 อ่านเพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและพัฒนาการอ่านของตัวเอง หนังสืออ่านนอกเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเรื่องสั้น นวนิยาย ที่อ่านสนุก ให้แง่คิดและเนื้อหาดี หลายเล่มกลายเป็นหนังสือเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้เราอยากอ่านตลอดเวลา ส้มสีม่วง หนังสืออ่านนอกเวลา สำหรับเด็กป.4-ป.6 หนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลามาหลายปีติดกัน เป็นหนังสือที่เชียร์ให้เด็กทุกคนคิดฝันการใหญ่ต่อไป…เมื่อจินตนาการถึงอะไรขึ้นมาแล้วมันต้องไปให้สุด! ตัวละครในเรื่องแบ่งพรรคแบ่งพวกชัดเจน ฝ่ายหนึ่งคือกองทัพทรงพลัง นำทีมโดยนายขี้เกียจ ตัวเป็นขน (ต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็นนายพลขี้เกียจคิด ขี้เกียจฝัน) นักรบผัดวันประกันพรุ่ง นักรบโกหกพกลม และอื่นๆ อีกมากมาย (รวมเรียกว่ากองทัพปราบฝัน) ส่วนอีกฝ่ายเป็นมนุษย์เด็ก จ้อยและแก้ม ผนึกกำลังกับลุงเทิด นักเขียนผู้รู้ความลับของกองทัพปราบฝันเป็นอย่างดี จึงพยายามจะเขียนเรื่องเปิดโปงอาณาจักรปราบฝันให้เด็กๆ อ่านและระวังตัว เพราะหากชีวิตขาดฝันไป มนุษย์ก็คงต้องอยู่อย่างไร้อารมณ์ ไร้สีสัน ไร้จุดหมาย ซึ่งเราไม่ควรปล่อยให้ชีวิตตัวเองต้องแห้งเหี่ยวขนาดนั้น โดยเฉพาะเด็กๆ ส้มสีม่วง ได้รับรางวัลวรรณกรรมเยาวชนยอดเยี่ยม จากการประกวดนายอินทร์อะวอร์ด เมื่อปีพ.ศ.2544 ซึ่งดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ตัวแทนคณะกรรมการเคยบอกไว้ว่า “เชื่อกันว่าวรรณกรรมเยาวชนที่ดีต้องไม่เขียนเพื่อสอนกันตรงๆ แต่กระนั้นเราก็ไม่อาจปฏิเสธคุณค่าของส้มสีม่วงที่ให้ข้อคิดดีๆ แก่เด็กและผู้ใหญ่ บางเรื่องอาจใกล้ตัวเสียจนเราไม่เคยตระหนัก บางเรื่องเรามองข้ามไปอย่างน่าแปลกใจ…” […]
ความสุขของกะทิ เป็นวรรณกรรมที่เขียนโดย งามพรรณ เวชชาชีวะ ซึ่งได้รางวัลซีไรต์เมื่อปีพ.ศ. 2549 และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งนอกเหนือจากตัวละครเด่นอย่าง “กะทิ” แล้ว ตัวละครในเรื่องก็มีบทบาทที่สำคัญ และสร้างสีสันให้กับนิยายเรื่องนี้อย่างมาก มาดูกันว่าตัวละครไหน ที่เพื่อนๆ หลงรักมากที่สุดในเรื่อง กะทิ ความสุขของกะทิ จะขาดกะทิไปได้อย่างไร “กะทิ” หรือ ณกมล พจนวิทย์ เด็กหญิงอารมณ์ดี ช่างซักถาม ช่างสังเกต ขณะเดียวกันก็เป็นเด็กที่เก็บงำความทุกข์ไว้กับตัวด้วย กะทิชอบฟังเพลงมากจนถึงขั้นสนใจไปเรียนร้องเพลง แถมยังชอบวาดรูป ดูงานศิลปะ อ่านหนังสือ และถ่ายรูป เรียกว่ามีพลังงานความเป็นศิลปินอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม เธอมีสัตว์เลี้ยงตัวโปรดเป็นหมาปั๊กที่ได้รับเป็นของขวัญวันเกิด เธอตั้งชื่อให้มันว่าฟาโรห์ ตามหนังสืออารยธรรมไอยคุปต์ ที่กะทิกำลังอ่าน ตา “ตา” หรือ “พิทักษ์ พจนวิทย์” คุณตาของกะทิ ผู้สร้างสีสันในเรื่องไม่น้อย คุณตาเป็นคนใจดี ขี้เล่น ช่างคุย และช่างแซว (ถึงขั้นเปิดสงครามน้ำลายกับยายได้!) แต่ขี้เล่นขนาดนี้ ดีกรีเรื่องงานไม่ธรรมดา เพราะตาเป็นถึงทนายความมือหนึ่งที่ช่วยคนมาแล้วมากมาย ต่อให้ปลดเกษียณ ย้ายมาอยู่ที่บ้านริมคลองแล้ว ก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้ชาวบ้านได้เสมอ ส่วนงานอดิเรกของตาก็คือ…เลี้ยงไก่! ที่ตอนแรกเหมือนจะจำใจเลี้ยง […]
ครูมีบทบาทและอิทธิพลสำคัญมากต่อเด็กและเยาวชน จึงทำให้วรรณกรรมเยาวชนหลายต่อหลายเรื่องเขียนถึง ครูต้นแบบ ที่ดี หรือมีครูเป็นปัจจัยสำคัญของเรื่อง เราขอยกตัวอย่าง ครูต้นแบบ แสนดีในวรรณกรรมเยาวชนที่เราประทับใจมาให้ทุกคนได้รู้จัก เพื่อย้อนรำลึกถึงครูในความทรงจำที่ทำให้เรามีวันนี้ มิสเตอร์ทุชแมน ครูต้นแบบ จาก ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์ (Wonder) “เรามาตั้งกฎการใช้ชีวิตขึ้นใหม่กันดีไหม…พยายามมีใจเมตตามากกว่าที่จำเป็นอีกนิดเสมอ” ใจดี มีอารมณ์ขันคือคุณสมบัติเด่นในตัวมิสเตอร์ทุชแมน ครูใหญ่แห่ง “ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์” ที่ทำให้เราหลงรักครูคนนี้ตั้งแต่แรกอ่าน ก็มิสเตอร์ทุชแมนน่ะ ทำให้เราขำกันตั้งแต่ได้ยินชื่อแล้ว (Tush แปลว่า ก้น บั้นท้าย) และเขาก็เป็นครูคนที่ทำให้ออกัสต์ตัดสินใจเข้าเรียนด้วย ความเมตตาของมิสเตอร์ทุชแมนกลายเป็นแบบให้เราอยากเอาอย่าง อยากเมตตาขึ้นอีกนิด อยากทำดีให้ผู้อื่นในทุกวัน ในโลกที่เราได้เจอกับคนใจร้ายมากมาย ถ้าได้เจอครูแบบมิสเตอร์ทุชแมนสักคน เราคงอยากไปโรงเรียนกันทุกวันจริงไหม มิสเตอร์แดเนียลส์ จาก ปลาบนต้นไม้ (Fish in a Tree) “แต่ละคนมีความฉลาดกันคนละแบบ แต่ถ้าเราตัดสินปลาตัวหนึ่งจากความสามารถในการปีนต้นไม้ ปลาตัวนั้นก็จะต้องแบกรับความเชื่อว่ามันเป็นปลาที่โง่งมไปทั้งชีวิต” ใน “ปลาบนต้นไม้” แอลลี่ นิกเคอร์สัน เด็กหญิงที่เปลี่ยนโรงเรียนมาแล้วเจ็ดแห่ง พร้อมกับป้ายห้อยคอว่า “อ่านหนังสือไม่ออก” ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ แอลลี่คงจะกลายเป็นเด็กโง่เง่าและเหลือขอไปอีกนาน […]
บรรณาธิการของ Amazon Books ร้านหนังสือออนไลน์ระดับโลกได้รวบรวมรายชื่อหนังสือ 100 เล่มที่ควรอ่านสักครั้งในชีวิต (100 Books to Read in a Lifetime) ซึ่งในนั้นมี วรรณกรรมเยาวชน ที่แพรวเยาวชนเคยแปลมาแล้วถึง 7 เล่ม วรรณกรรมเยาวชน บางเล่มก็เคยพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว จนหลายคนอาจลืม หรืออาจจะไม่รู้ว่าเราเคยแปลก็ได้ เราเองก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองอ่าน วรรณกรรมเยาวชน ทั้ง 7 เล่มนะ ชาร์ล็อตต์ แมงมุมเพื่อนรัก (Charlotte’s Web) หมูในโลกนี้ส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมชะตากรรมเดียวกันนั่นคือ ไม่พ้นต้องกลายเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์ นั่นทำให้หมูที่ไม่ยอมก้มรับชะตากรรมของตนจำเป็นต้องแสดงความสามารถเกินหมูธรรมดาเพื่อเอาชีวิตรอด หมูเหล่านี้เองที่กลายเป็นหมูพิเศษ ติดอยู่ในความทรงจำและเป็นที่รักของคนทั่วโลก วิลเบอร์เป็นหมูประเภทนี้ หมูที่รักชีวิต รักความงดงามของโลก รักมิตรภาพในหมู่เพื่อนสัตว์ด้วยกัน เขาไม่อยากตาย เพราะโลกแสนน่าอยู่เหลือเกิน โชคดีที่วิลเบอร์มีเพื่อน ในชีวิตจริงของคนก็เช่นกัน หลายครั้งที่คนเราต้องทบทวนความจริงข้อนี้ บางครั้งชีวิตก็ไม่สมหวัง บางครั้งชีวิตก็ไม่สมบูรณ์ แต่ทุกอย่างลุล่วงไปได้เพราะมีเพื่อน และที่สำคัญ—เราเป็นเพื่อน—ด้วย วิลเบอร์เคยถามชาร์ล็อตต์ว่าทำไมจึงช่วยเหลือเขาขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยทำอะไรให้ชาร์ล็อตต์เลย แมงมุมตอบว่า […]
มูมิน และชาวหุบเขามูมิน มีเรื่องราวน่าสนใจเยอะแยะเหลือเกิน ซึ่งไม่อาจจะเล่าจบได้ภายในเล่มหรือสองเล่ม ตูเว ยานซอนเลยเขียนเล่าเรื่องมูมินออกมาให้อ่านกัน 9 เล่มซะเลย และแน่นอนว่า ในเมื่อเรื่องราวยาวถึง 9 เล่ม สิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นก็คือความเปลี่ยนแปลงของ มูมิน ที่เติบโตขึ้นทุกเล่ม ถ้าเป็นคน…มูมินก็คงโตมาเป็นชายหนุ่มที่น่าหลงรักจนหัวปักหัวปำคนหนึ่งเลยละ! ส่วนเรื่องราวแต่ละเล่ม จะพูดถึงอะไรบ้าง เชิญทัศนาพร้อมกัน ณ บัดนี้… มูมิน กับน้ำท่วมใหญ่ หนังสือเล่มแรกในชุดมูมิน แต่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเป็นเล่มสุดท้าย เพื่อฉลองที่มูมินเล่มแรก (ซึ่งที่จริงเป็นเล่ม 2) มีอายุครบ 60 ปี เมื่อปีค.ศ.2005 นี่เอง ฉบับภาษาอื่นๆ รวมถึงฉบับภาษาไทยของเราจึงแปลเล่มนี้ เป็นเล่มสุดท้ายเช่นเดียวกัน หนังสือเล่มนี้จะเฉลยเรื่องที่นักอ่านหลายคนสงสัยมาตลอด เช่น สนิฟฟ์คือใคร ทำไมมาอยู่ในบ้านมูมินในฐานะลูกชายคนหนึ่งได้ แฮตตี้แฟตเทนเนอร์คือตัวอะไร ทำไมคุณพ่อมูมินจึงหายออกไปผจญภัยอยู่บ่อยๆ แล้วบรรพบุรุษมูมินล่ะ ทำไมต้องอยู่ในเตาไฟ มูมินมีครอบครัวอื่นๆ อีกหรือเปล่า ฯลฯ สั่งซื้อ คลิกที่นี่ ดาวหางในเมืองมูมิน หลายคนคิดว่าเล่มนี้คือเล่มแรก แต่…ผิด! นี่คือเล่มที่ […]
นอกจาก เบเรนกับลูธิเอน ฉบับภาษาไทยจะวางจำหน่ายแล้ว ช่วงนี้แฟนๆ ของเจ.อาร์.อาร์ โทลคีนคงมีเรื่องให้กรี๊ดไม่น้อย เพราะทาง Amazon ประกาศว่าจะสร้างซีรีส์ ลอร์ดออฟเดอะริงส์ และก็มีข่าวว่า The Fall of Gondolin ฉบับภาษาอังกฤษจะวางแผงในช่วงปลายเดือนสิงหาคมอีก แต่ก่อนจะไปเรื่องนั้น เรามาทำความรู้จักเบเรนกับลูธิเอนกันก่อนดีกว่า รวมตำนาน เบเรนกับลูธิเอน เล่มเดี่ยวครั้งแรก หลังจากตำนานแห่งซิลมาริลได้รับการตีพิมพ์เมื่อปีค.ศ.1977 คริสโตเฟอร์ โทลคีน ลูกชายคนที่สามของเจ.อาร์.อาร์. โทลคีนก็เริ่มรวบรวมต้นร่างงานเขียนของพ่อ ซึ่งค่อนข้างกระจัดกระจาย รวมแล้วมีถึง 17,835 หน้า นำมาชำระและเรียบเรียงใหม่ จากจุดเริ่มต้นในวันนั้น ตำนานบุตรแห่งฮูริน หนึ่งในมหาตำนานที่ปรากฏในตำนานแห่งซิลมาริลก็ได้ตีพิมพ์ออกมาในปี 2007 สิบปีต่อจากฮูริน เบเรนกับลูธิเอน ฉบับภาษาอังกฤษเพิ่งวางจำหน่ายครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ปี 2017 นับว่าไม่เสียยี่ห้องานของโทลคีนเลยที่ใช้เวลาในการทำงานยาวนานทุกเล่ม เบเรนกับลูธิเอน เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคแรกของมิดเดิ้ลเอิร์ธ ก่อนเหตุการณ์ใน ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ จะเกิดขึ้นถึง 6,500 ปี […]
หลายคนถามกันเข้ามาว่า ถ้าจะเริ่มอ่านงานของ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน ควรเริ่มอ่านจากเล่มไหนก่อน อยากลองอ่านจากเรื่องเบาๆ ไปจนถึงเรื่องโหดๆ จะกระโดดไปอ่านโหดเลยก็กลัวจะอ่านไม่จบจนถอดใจยอมแพ้ไปเสียก่อน จริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย ว่าจะซึมซับงานของโทลคีนและเข้าสู่โลกของมิดเดิลเอิร์ธได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้คนที่ยังไม่คุ้นเคยกับงานของโทลคีนเข้าสู่โลกของมิดเดิ้ลเอิร์ธได้ง่ายขึ้น เราเลยทำลิสต์แนะนำมาให้ และไม่ได้ซีเรียสว่าต้องอ่านตามนี้เป๊ะๆ อาจเลือกอ่านตามความชอบและความสนใจของตัวเองก็ได้เหมือนกัน มาดูกันว่าควรจะหยิบเล่มไหนมาอ่านก่อนเป็นเล่มแรก! ฮอบบิท เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน : เขียน สุดจิต ภิญโญยิ่ง : แปล ถ้าจะเริ่มอ่านงานของโทลคีน ฮอบบิทเป็นเล่มที่น่าจะดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้น เพราะเดิมทีโทลคีนแต่งเรื่องนี้ขึ้นเพื่อเล่าให้ลูกๆ ฟังก่อนนอน แต่พอลูกชายของเขาทักเรื่องความผิดพลาดต่างๆ ในเรื่อง เขาก็เลยเขียนมันออกมาอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น จนกลายเป็นฮอบบิทที่ทุกคนเห็นอย่างในปัจจุบัน และเป็นเล่มที่ไม่ได้แทรกปูมหลังทางประวัติศาสตร์หรือตำนานมิดเดิลเอิร์ธให้ปวดหัวเท่าไหร่ ด้วยเรื่องราวการผจญภัยที่สนุกสนานและไม่ได้อ่านยากจนเกินไป ฮอบบิทจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยงานของโทลคีนเป็นอย่างดี ฮอบบิทเรื่องราวการผจญภัยพิลึกพิลั่น ต้นกำเนิดตำนานมหัศจรรย์ “ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์” เล่าถึงการเดินทาง ครั้งยิ่งใหญ่ของพ่อมดแกนดัล์ฟ คนแคระ 13 คน และฮอบบิทอีกหนึ่งนาย (บิลโบ แบ๊กกินส์) ซึ่งทำให้ฮอบบิทได้ครอบครองแหวนวงหนึ่งโดยบังเอิญ แหวนที่อาจทำให้เขาได้เป็นผู้ครองพิภพ หรืออาจพันธนาเขาไว้ในความ […]
ปรากฏการณ์ ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์ เกิดขึ้นมาตั้งแต่หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2012 แล้วติดอันดับ 1 New York Times Bestseller อยู่บนชั้นหนังสือนานข้ามปี และยังกวาดรางวัลวรรณกรรมอีกนับไม่ถ้วน กระแสฟีลกู้ดจากวรรณกรรมเยาวชนเล่มเล็กๆ ส่งผลให้เกิดโปรเจ็กต์ Wonder ขึ้นทั่วไป มีการระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยที่เป็นโรคเดียวกับออกัสต์ ตัวเอกในเรื่อง นี่คือ 5 คำสอน แสน wonder ที่ปรากฏในสุดยอดวรรณกรรมเรื่องนี้ เมื่อต้องเลือกระหว่างความถูกต้องกับความเมตตา จงเลือกความเมตตา ในชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์ นี่คือคติพจน์ประจำเดือนในชั่วโมงโฮมรูมที่มิสเตอร์บราวน์กำหนดขึ้นให้เด็กๆ พูดคุยและเขียนเรียงความเมื่อจบเดือน ไอเดียเรื่องการให้เด็กพูดคุยหรือครุ่นคิดเกี่ยวกับอุดมคติ หรือคติพจน์ประจำใจนี้เป็นวิธีที่ดีมากในการสอนให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องคุณธรรมความดีงาม แบบเป็นธรรมชาติ และคติพจน์นี้ของมิสเตอร์บราวน์ก็ช่างเป็นคำสอนที่แสนวิเศษที่ใช้ได้เสมอกับทุกสถานการณ์จริงๆ จงรู้จักตัวเอง คติพจน์อีกข้อที่สำคัญมากๆสำหรับเด็กๆ มิสเตอร์บราวน์ (อีกเช่นเคย) บอกเด็กๆในชั่วโมงโฮมรูมว่า การเรียนรู้ว่าเราเป็นคนอย่างไรคือสิ่งที่เราจะทำกันในโรงเรียน นี่คือแก่นแท้ของการศึกษาเลยนะว่ามั้ย โรงเรียนไม่ใช่เพียงสถานที่บรรจุวิชาการความรู้ให้เด็ก แต่ควรเป็นที่ที่เด็กจะได้ค้นหาคำตอบสำคัญๆในชีวิตจริงๆ สิ่งที่คุณทำคืออนุสาวรีย์ของตัวคุณเอง ออกัสต์เขียนเรียงความเกี่ยวกับคติพจน์ข้อนี้ไว้ว่า “คตินี้หมายความว่า เราควรได้รับการจดจำจากสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราทำสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สำคัญกว่าสิ่งที่เราพูดหรือรูปร่างหน้าตาของเราเสียอีก สิ่งที่เราทำยังคงอยู่หลังเราตายไป สิ่งที่เราทำนั้นเป็นเหมือนอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูวีรบุรุษหลังจากเขาเสียชีวิต เหมือนพีระมิดที่ชาวอียิปต์สร้างเพื่อยกย่องฟาโรห์ แต่แทนที่จะสร้างขึ้นจากหิน อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากความทรงจำที่ผู้คนมีต่อคุณ” […]