บางเหตุการณ์เราก็จำเป็นต้อง คุยกับคนแปลกหน้า เช่น การขายงานกับลูกค้าที่ไม่เคยพบกันมาก่อน การถามทาง การเข้าร่วมสัมมนา แม้กระทั่งไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อน ก็ต้องมีบ้างที่เราต้องคุยกับเพื่อนของเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน บางคนอาจเกิดอาการเคอะเขิน ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรดี อาการไม่กล้า คุยกับคนแปลกหน้า เป็นกันเกือบทุกคน และสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ เริ่มสนทนา ถ้าไม่เริ่มชวนคุย เรื่องอื่นๆ ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและยากที่สุดด้วย ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่า ผลลัพธ์ที่คุณต้องการหลังจากชวนคนแปลกหน้าคุยแล้วคืออะไร เช่น • ทำให้สถานการณ์ที่น่าอึดอัดผ่อนคลายลง • ได้ข้อมูลที่ต้องการ • สานสัมพันธ์และแบ่งปันประสบการณ์ • ขายของได้ • เจอคนที่อาจจะให้ความช่วยเหลือได้ • แค่แสดงความอัธยาศัยดีและทำให้คนอื่นมีความสุข การกำหนดผลลัพธ์ก่อนเริ่มชวนคุยจะทำให้คุณสามารถเลือกใช้คำพูด น้ำเสียง และวิธีการที่เหมาะสมดังตัวอย่างต่อไปนี้ สมมติว่าคุณอยู่ในร้านหนังสือและอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับตำราอาหาร และเห็นว่ามีคนยืนดูหนังสือในหมวดตำราอาหารอยู่เช่นกัน คุณอาจจะถามพวกเขาว่า “มีตำราอาหารดีๆ แนะนำไหม” และได้รับคำตอบมา แต่การใช้วิธีพูดแบบทื่อๆ ก็ตอบคำถาม “ทำไมถึงมาถามฉัน ต้องการอะไรหรือ” ได้ไม่ครบถ้วน แต่ถ้าพูดว่า “ขอโทษนะคะ ดูเหมือนคุณจะสนใจเรื่องการทำอาหาร ช่วยแนะนำตำราอาหารดีๆ […]
Category Archives: How To
โคโนะ เก็นโตะ เป็นหนุ่มญี่ปุ่นนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยโตเกียว ที่สอบเนติบัณฑิตผ่านในครั้งเดียว และใช้เวลาอ่านหนังสือเพียง 8 เดือนเท่านั้น เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทยจากรายการTheKing of Brains จากประเทศญี่ปุ่น ที่นำนักศึกษาหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่นมาแข่งขันเล่นเกมตอบคำถามที่ครอบคลุมทุกด้านตั้งแต่วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และความรู้ทั่วไป แต่ละคำถามก็โหดหินซะเหลือเกิน ต้องใช้ทักษะการสังเกต ความจำ และการวิเคราะห์ที่แม่นยำด้วย แต่โคโนะ ก็ผ่านมาได้ง่ายๆ บางข้อใช้เวลาคิดเพียง 1 วินาทีเท่านั้น! คลิปจากเพจญี่ปุ่นเบาเบา ที่แปลซับไทยให้คนชมจนเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดียเรื่องความอัจฉริยะของเขาที่มาออกรายการนี้ครั้งแรกก็เอาชนะแชมป์เก่าที่เป็นนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว และคว้าเงินรางวัลหนึ่งล้านเยนไปครองในปี 2018 และสามารถรักษาแชมป์เป็นสมัยที่สองได้ในปี 2019 เรียกได้ว่าเป็น “ราชาสมองเพชร” อย่างแท้จริง! โคโนะ เกิดที่จังหวัดคานางาวะในปี 1996 จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนเอกชนเซโค ปัจจุบันกำลังศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว เรียกได้ว่าเป็นว่าที่คุณหมอได้เลย ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ เขารู้สึกอยากสอบเนติบัณฑิตเมื่อเรียนแพทย์ชั้นปีที่ 2 เพราะอยากเป็นทนายการแพทย์ที่มีใบรับรองคุณวุฒิทั้งการเป็นแพทย์และทนายความ เพื่อว่าความให้คนไข้กรณีเกิดความผิดพลาดระหว่างการรักษา เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะสอบเนติบัณฑิตให้ได้ จึงลงมืออ่านหนังสือเตรียมสอบในระยะเวลา 8 เดือน […]
Factfulness เป็นหนังสือที่แนะนำโดยบิล เกตส์ และถูกพูดถึงในรายการ TED TALK จนทำให้เกิดกระแสไปทั่วโลก แปลไปกว่า 36 ภาษา และมียอดขายทะลุ 1 ล้านเล่มไปเรียบร้อยแล้ว ความดีงามของหนังสือเล่มนี้คือมันสามารถเปลี่ยนมุมมองเรา เปลี่ยนสายตาที่เราใช้มองโลกมาแทบจะตลอดชีวิตโดยใช้ข้อมูลทางสถิติและผลวิจัยมายืนยันว่า “จริงๆ โลกไม่ได้แย่นะ แกนั่นแหละชอบคิดไปเอง” จนทำให้เราฉุกคิดได้ว่า จริงๆ แล้วโลกนี้เป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือแย่ลงแค่ไหน รวมไปถึงการละทิ้งค่านิยมต่างๆ ที่ถูกฝังหัวมาตลอดเวลา ทำให้เราซึมซับความรู้สึกแย่ๆ ที่มีต่อโลกโดยไม่รู้ตัว Factfulness จะทำให้คุณมองโลกต่างไปจากเดิมอย่างไร มาดูกัน โลกแบ่งเป็นสองส่วน ความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงว่า “โลกแบ่งเป็นสองส่วน” ทำให้คนรับรู้โลกผิดไปอย่างมาก ผลกระทบแรกนั้นเลวร้ายที่สุด การแบ่งโลกออกเป็นสองกลุ่มด้วยคำว่าจนและรวยนั้นบิดเบือนสัดส่วนของโลกในใจของผู้คนโดยสิ้นเชิง “ผู้คนประเทศนั้นไม่มีทางใช้ชีวิตได้แบบเรา” นี่ก็เป็นอีกประโยคหนึ่งที่มักได้ยินเวลามีคนพูดถึงประเทศที่มักจะมีคนคิดว่าเป็นประเทศยากจน ซึ่งนั่นคือการมองโลกแบบแบ่งแยก ประเทศเรา = ประเทศรวย / ประเทศนั้น = ประเทศจน มันจะเกิดภาพในหัวและสื่อความหมายที่ผิดเพี้ยน แต่ความเป็นจริงแล้วมันมีช่องว่างระหว่างกลางอยู่ และผู้คนส่วนมากอยู่ตรงกลาง ไม่ได้อยู่ส่วนซ้ายหรือขวาของโลก ประชากรโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ แล้วประชากรโลกกำลังเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วมาก ประชากรจะเพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งพันล้านคนในอีก […]
การระดมสมอง หรือ Brainstorm ได้รับความนิยมอย่างยิ่งเวลาต้องใช้ความคิดเห็นของหลายๆ คนเพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ๆ ขึ้นมา และบางครั้งอาจกินเวลานานหลายชั่วโมงเลยทีเดียวหากไม่เข้าประเด็นที่ถูกต้อง และอาจไม่ได้อะไรเลยถ้าทุกคนไม่สามารถดึงสิ่งเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างครบถ้วน มาดูกันว่า การระดมสมอง หรือ Brainstorm ที่มีประสิทธิภาพต้องทำอย่างไร ใครสร้าง Brainstorming และสร้างมาทำไม อเล็กซ์ ออสบอร์น รองประธาน BBDO บริษัทโฆษณาของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1941 เขาต้องกลุ้มใจอย่างหนักเพราะต้องทำโฆษณาใหม่ แต่คิดไอเดียไม่ออก เขาจึงเรียกทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนคิดคำโฆษณา นักออกแบบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย มารวมตัวกันในห้องแล้วเริ่มประชุม วงการโฆษณาสมัยนั้นยังใช้ระบบแบ่งแยกงานกันทำ จึงไม่มีใครเรียกคนที่ทำงานในแผนกต่างๆ มารวมตัวกันเช่นนี้ ออสบอร์นสั่งให้คนจากทุกแผนกในบริษัทเข้าร่วมประชุม แล้วใช้วิธีประชุมที่พัฒนาขึ้นเพื่อหาไอเดียสำหรับสร้างโฆษณาใหม่ๆ และยังให้อิสระในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งผลตอบรับดีเกินความคาดหมาย เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่ไม่ค่อยได้ทำงานร่วมกับฝ่ายพัฒนากลับแสดงไอเดียดีๆ ออกมาในมุมมองใหม่ๆ เมื่อต่อยอดไปเรื่อยๆ ไอเดียดีๆ ก็พุ่งกระฉูด เมื่อออสบอร์นเห็นว่าวิธีประชุมแบบนี้ได้ผลดี ก็เลยนำไปใช้กับทั้งบริษัท และเรียกวิธีนี้ว่า “Brainstorming” หลักการ 4 ข้อของ Brainstorming 1.ปล่อยให้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ พยายามสร้างบรรยากาศในการคิดไอเดียแบบไม่กดดัน รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายด้วย ต้องมีคนกลางที่ดำเนินการประชุมได้ดี โดยไม่ยึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งจนมองข้ามไอเดียจากคนอื่น […]
Factfulness หนังสือที่บิล เกตส์ ซื้อแจกนักศึกษาจบใหม่ทุกคนในอเมริกา มีแปลไทยแล้วโดยสำนักพิมพ์ Amarin How-to บิล เกตส์ยกย่องหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมเล่มหนึ่งที่เคยอ่านมา ซึ่งเขาเคยพูดถึงหนังสือเล่มนี้ใน TED Talks : How not to be ignorant about the world ? ไว้ด้วย Factfulness เขียนโดยฮันส์ โรสลิง แพทย์และศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขโลก ร่วมกับโอล โรสลิง และอันนา เรินน์ลุนด์ ลูกชายและลูกสะใภ้ จุดประสงค์คืออยากให้ทุกคนที่ได้อ่านมีมุมมองความเข้าใจต่อโลกในทางที่ดีขึ้น จากสถิติและผลสำรวจที่ทั้งสามคนรวบรวมเอาไว้ และในปีค.ศ. 2017 ฮันส์ก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง โดยทิ้งบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไว้ในหนังสือเล่มนี้ คุณมีมุมมองต่อโลกนี้อย่างไร ในส่วนแรกก่อนที่คุณจะได้เข้าไปอ่านเนื้อในที่จะเปลี่ยนความคิดคุณไปทั้งชีวิต ต้องเริ่มทำแบบทดสอบก่อน แบบทดสอบที่ให้จะมีทั้งหมด 13 ข้อ ซึ่งหากตอบตามความคิดแรกของคุณ แบบไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนหนังสือหลอก ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่ฉลาด ไม่ต้องขวนขวายหาข้อมูลจะได้ผลดีที่สุด ความคิดแรก นั่นคือความรู้สึกที่มาจากจิตใจของคุณ เมื่อตอบครบแล้ว คุณจะรู้ทันทีว่าคุณมองโลกอย่างไร แล้วหนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณได้โดยวิธีไหน […]
หมดไฟในการทำงาน ไม่อยากตื่นไปทำงานในแต่ละวัน เบื่องานประจำที่ทำอยู่ อยากเติบโตมากขึ้นกว่านี้ ฯลฯ และอีกหลายเหตุผลที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราดำเนินไปด้วยความเฉื่อยชา จริงๆ แล้วภาวะหมดไฟในการทำงานเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุอาจมาจากตัวงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เรารู้สึกไม่อยากไปทำงานในแต่ละวัน หนทางแก้ไขภาวะนี้ คือการเปลี่ยนทิศทางอาชีพ ที่ไม่ได้หมายความว่าให้ลาออกทันทีโดยไม่วางแผนใดๆ แต่เป็นการค้นหาความชอบ ความถนัด และเริ่มสร้างโอกาสจากสิ่งเหล่านั้น มาดูกันว่าเราจะสามารถจุดไฟให้ลุกโชนอีกครั้งได้หรือไม่ เมื่อเกิดภาวะ หมดไฟในการทำงาน ตั้งหลักก่อน หลังจากที่เป๋ไปจากการหมดไฟแล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการตั้งหลัก นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการเปลี่ยนทิศทางชีวิตของคุณ เป้าหมายของการตั้งหลัก คือการหาความรู้เบื้องต้นจากสิ่งที่เราสนใจและถนัดจริงๆ ต้องรู้จักจุดแข็งและความสนใจของตัวเอง รวมถึงเป้าหมายในอนาคตด้วย หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ คุณจะเหมือนกับรถติดหล่มที่ล้อหมุนติ้วอยู่กับที่ การมองข้ามสิ่งที่ตัวเองมีอยู่และมองไกลเกินความจำเป็นจะทำให้คุณต้องทำงานอย่างหนักหน่วง แต่กลับอยู่ที่เดิม ด้วยความที่การทำมาหากินนั้นผูกติดอยู่กับความต้องการขั้นพื้นฐานของเรา เช่น อาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย ดังนั้นข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนทิศทางคงหนีไม่พ้นเรื่องเงิน ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างต้องคำนึงถึงเรื่องเงินไว้ด้วย ค้นหาจุดแข็ง ค้นหาจุดแข็งของคุณเพื่อดูว่าจุดแข็งข้อไหนที่มอบพลังให้กับคุณในการทำงานแต่ละวันมากที่สุด และควรสนใจจุดแข็งข้อไหนมากขึ้น งานที่น่าสนใจที่สุดคืองานที่เปิดโอกาสให้คุณได้ใช้ทักษะที่ดีที่สุด ความสนใจ และจุดแข็งเฉพาะตัว ลองย้อนกลับไปดูวัยเด็กว่า คุณชอบทำกิจกรรมอะไร จุดแข็งทางอาชีพของคุณย่อมแสดงออกมาในทางใดทางหนึ่งเมื่อนานมาแล้วก่อนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ บางคนอาจจะชอบทำอาหารตั้งแต่เด็ก แต่เรียนด้านบริหารธุรกิจมา หลังจากทำงานด้านการเงินมาแปดปีก็รู้สึกหมดไฟ จึงลาออกมาสมัครเรียนทำอาหาร และเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง […]
วิธีการเรียนรู้ ที่เราใช้แบบเดิมๆ บางครั้งก็ทำให้รู้สึกเครียดและกดดันขึ้นมาได้ จริงๆ แล้วโลกนี้มีวิธีการเรียนรู้ที่ไม่เครียดด้วย เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองเท่านั้น เรื่องที่ดูเครียดก็จะกลายเป็นเรื่องสนุก วิธีการเรียนรู้ จากมุมมองใหม่ๆ แบบไม่กดดัน ไม่เครียด จะเป็นอย่างไรมาดูกัน ทำตามความฝัน สิ่งสำคัญในการทำความฝันให้ลุล่วงคงหนีไม่พ้นความทะเยอะทะยานและความอดทน หากไม่มีสองสิ่งนี้คงทำให้ความฝันเป็นจริงไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้พันแซนเดอร์สก่อตั้ง KFC แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลกหลังจากถูกปฏิเสธถึง 1,009 ครั้งก่อนจะเซ็นสัญญากับพีท ฮาร์แมน ลองนึกดูว่าเขาถูกปฏิเสธนับพันครั้ง ไม่ใช่หลักร้อย คนเราคงไม่อดทนไปพบคนอื่นได้ถึงพันครั้ง หากไม่จริงจังกับเป้าหมายของตน และสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือในปีที่เขาได้เซ็นสัญญาครั้งแรกนั้น ผู้พันแซนเดอร์สมีอายุ 62 ปี เขาใช้เวลากว่าค่อนชีวิตในการทำตามความฝันให้เป็นจริง ต้องเข้าใจก่อนว่าความอดทนของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ซึ่งหากคุณจะยอมแพ้ก่อนจะครบสิบครั้งก็ไม่แปลก ความฝันไม่จำเป็นต้องมีแค่สิ่งเดียว เราสามารถฝันหลายๆ อย่างได้ หากคิดว่าการประสบความสำเร็จระดับโลกมันยากและกดดันเกินไป ลองเริ่มทำความฝันเล็กๆ ให้สำเร็จดูสิ เช่น ฝันว่าอยากไปดูแสงเหนือกับตาตัวเอง หรือฝันว่าอยากจะมีหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่ม แล้วก็ลองทำตามความฝันนั้นให้ได้ แม้ความฝันนั้นมันจะเล็กน้อยแค่ไหน อย่างน้อยเราก็ทำตามฝันของเราได้อย่างหนึ่งแล้ว เป็นก้าวเล็กๆ ที่เติมเต็มความสุขในชีวิตได้ดีเลยละ การเล่นคือการเรียนรู้ ใครจะคิดว่าเรื่องเล่นๆ ที่เราทำอาจสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ตัวอย่างเช่น เจมส์ […]
บางครั้งความคิดที่เคยโลดแล่นก็เกิดตันเสียอย่างนั้น คิดงานไม่ออก รู้สึกว่างานยังไม่เจ๋งพอ จริงๆ แล้ว วิธีหา ไอเดียใหม่ๆ ไม่ต้องไปทำอะไรที่มันไกลตัวเลย ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรานี่ละ อยากมี ไอเดียใหม่ๆ ต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกัน ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ เรามักถูกเรียกว่าเป็นผู้บริโภค เวลาต้องการอะไร ก็ไปที่ร้านที่คาดว่าจะมีสิ่งๆ นั้นวางขาย แล้วเลือกดูสินค้าหลายชิ้นก่อนตัดสินใจซื้อ แม้เราจะคิดว่าเรามีเสรีภาพในการเลือกซื้อได้ตามใจปรารถนา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เราเลือกได้แค่สินค้าบางส่วนที่ร้านจัดหาไว้ให้เท่านั้น ดังนั้นผู้บริโภคทุกคนจึงเป็นผู้เลือกที่ถูกจับใส่ไว้ในไหที่เรียกว่าระบบ การที่เราถูกจับใส่ระบบการเลือกเช่นนี้ ไม่ได้มีแค่ในเรื่องของการซื้อเท่านั้น การหัวเราะเองก็เป็นกลไกการเลือกจากระบบเช่นกัน ชีวิตเต็มไปด้วยการเลือกจากโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานศึกษา เลือกอาชีพ เลือกคู่ครอง หรือช่วงท้ายของชีวิตก็เลือกวิธีรักษาสุขภาพให้ยืนยาว สรุปคือ เราเลือกในสิ่งที่มีไว้ให้อยู่เสมอ แต่เราไม่ได้ตระหนักถึงข้อนี้ กลับมองว่าการเลอืกเป็นการใช้ชีวิตที่เหมาะสมแล้ว คงเพราะมีทางเลือกมาก เราจึงเข้าใจผิดว่าตนมีเสรีภาพ ถึงจะดูเหมือนมีทางเลือกมากมาย มันก็เป็นเพียงทางที่ถูกจำกัดไว้ด้วยรั้วทั้งสองฝั่ง หากเราข้ามรั้วออกไปข้างนอก ก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่ถูกต้อง ผิดปกติ นี่เป็นการเปรียบเทียบถึงการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ แทนที่จะเลือกสิ่งที่มีอยู่บนชั้นวางสินค้า แทนที่จะสนุกกับความบันเทิงที่ได้รับ ก็ให้สร้างสิ่งที่แต่เดิมไม่มีอยู่ภายในรั้วด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ วิธีคิด วิธีใช้ชีวิต ถ้าทำได้ดี มันจะเป็นการขยายพื้นที่รั้วสองข้างให้กว้างขึ้น อาจกลายเป็นทางสายใหม่ที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ก็เป็นได้ คนที่ยืนอยู่บนพื้นที่เดิมๆ ไม่เข้าใจความน่าสนใจของความคิดสร้างสรรค์หรอก […]
บทเรียนแห่งชีวิตจาก จอห์น โอเลียรี่ ชายหนุ่มที่ถูกไฟคลอกทั้งตัว ผันตัวเองกลายมาเป็น นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ระดับโลก โดยใช้เปลวไฟที่แผดเผาตัวเขาในวันนั้น มาจุดไฟแล้วสร้างชีวิตใหม่ ซึ่งกว่าที่จอห์น โอเลียรี่จะได้มาเป็น นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ได้อย่างทุกวันนี้ มันไม่ง่ายเลย ลูกอยากตายไหม เรื่องราวของจอห์นเริ่มต้นจากคำถามของแม่ แม่ถามเขาหลังจากฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล “ลูกอยากตายไหม ลูกต้องเลือกเองนะ แม่เลือกให้ไม่ได้” เมื่อจอห์นตอบแม่ว่า “ผมไม่อยากตาย” แม่ของจอห์นก็ตอบกลับมาว่า “ลูกต้องสู้ สู้อย่างที่ไม่เคยสู้มาก่อน” คำถามนั้นคือจุดเปลี่ยนในชีวิตของจอห์น คำถามนั้นเปรียบเสมือนไฟที่ทำให้จอห์นอยากมีชีวิต ไฟที่ทำให้จอห์นติดต่อสู้กับบาดแผลไฟไหม้ทั่วร่างกาย ไฟที่จุดประกายให้เขาและคนรอบตัว จอห์นวัยเก้าขวบตั้งอยู่ในโรงพยาบาลเกือบห้าเดือน ทนผ่าตัดมามากกว่ายี่สิบครั้ง และสูญเสียนิ้วไปกับการผ่าตัดเพื่อรักษา นอกจากจอห์นจะเจ็บหนัก ที่บ้านก็ลำบากไม่แพ้กัน บ้านของเขาถูกไฟเผาทั้งหลัง ครอบครัวและพี่น้องต้องแยกย้ายไปอยู่บ้านญาติจนกว่าบ้านจะสร้างเสร็จ ในวันที่จอห์นกลับมาบ้านวันแรก มันตรงกลับช่วงมื้อเย็นพอดี มือของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผลหลายชั้น ไม่สามารถหยิบจับอะไรเองได้ น้องสาวเห็นจอห์นเก้ๆ กังๆ จึงพยายามจะป้อนอาหารให้ แต่แม่พูดขึ้นมาว่า “วางส้อมลง ถ้าจอห์นหิว เขาก็ตักกินเองแหละจ้ะ” จอห์นร้องไห้บนโต๊ะอาหาร และโกรธแม่มาก เขาทรมานมามากมายแต่แม่กลับไม่ช่วยเหลือเขาเลย […]
เทคนิคการจำ ที่โคโนะ เก็นโตะ ใช้เวลาต้องจำข้อมูลยากๆ เพื่อไปสอบ มีด้วยกันหลากหลายวิธี ซึ่งสามารถเลือกใช้และทำตามได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องมีสมองเทพๆ แบบเก็นโตะก็ทำได้ เทคนิคการจำ โดยโคโนะ เก็นโตะ มีอะไรบ้างมาดูกัน ทบทวนซ้ำหลายๆ ครั้ง ทุกวิชาต้องอาศัยการท่องจำ สิ่งสำคัญที่สุดในการท่องจำเพื่อทำคะแนนสอบได้มากๆ คือการทบทวนซ้ำๆ เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ลืมได้ ความทรงจำระยะสั้นของมนุษย์จะถูกลืมไปด้วยความรวดเร็ว ดังนั้นเราต้องรู้จัก เปลี่ยนความทรงจำระยะสั้นให้กลายเป็นความทรงจำระยะยาว โดยการทำให้สมองคิดว่า “ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่สำคัญกับเรา” และการทบทวนซ้ำๆ เป็นวิธีที่ดีผลดีที่สุด เมื่อสมองถูกเชื่อมต่อกับข้อมูลซ้ำๆ ก็จะคิดว่า “สิ่งนี้สำคัญสินะ” ยิ่งเราทบทวนซ้ำมากเท่าไร ข้อมูลนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นความทรงจำระยะยาวได้นานขึ้นเท่านั้น เมื่อเราเริ่มจดจำได้ครั้งหนึ่งแล้ว ควรรีบทบทวนให้เร็วที่สุด แล้วเราจะใช้เวลาทบทวนสิ่งเหล่านั้นน้อยลง วิธีที่เชื่อกันว่าได้ผลดีที่สุดคือ “การทบทวนและท่องจำหลังจากได้รับข้อมูลนั้นเป็นเวลา 30 นาที 1 ชั่วโมง 1 สัปดาห์ และ 1 เดือน” Output ก็เป็นสิ่งจำเป็นในการท่องจำ การจะทำให้ความทรงจำระยะสั้นกลายเป็นความทรงจำระยะยาวจะต้องทำให้ฮิปโปแคมปัสคิดว่า “มีการดึงข้อมูลนี้ออกจากลิ้นชักในสมอง แสดงว่าต้องเป็นข้อมูลที่สำคัญแน่” ในทางกลับกัน การอ่านคำศัพท์แบบผ่านตา แต่ไม่มีการเรียบเรียบข้อมูลในหัว แล้วทำ Output […]