Category Archives: How To

เทคนิคโน้มน้าวใจคน ด้วยการพูดเพียงครั้งเดียว

การพูด โน้มน้าวใจคน ดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับนักพูดมือใหม่ทั้งตื่นเต้น พูดผิดพูดถูก เรียงลำดับไม่ถูกบ้างทั้งที่จริงแล้วใครๆ ก็สามารถพูดโน้มน้าวใจคนได้เพียงแค่เตรียมตัวให้ดี ฝึกซ้อมให้มาก และนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ ลองมาดูกันว่า การพูด โน้มน้าวใจคน ต้องทำยังไงบ้าง   อย่าเสียเวลาไปกับการอารัมภบท อย่าไปเสียเวลากับการอารัมภบทหรือเล่าเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่จะพูด โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว เรื่องดินฟ้าอากาศ สภาพการจราจร ซึ่งทำให้เสียเวลาในการเข้าสู่ประเด็นหลักโดยไม่จำเป็น และทำให้ผู้ฟังเบื่อหน่ายตั้งแต่แรกเริ่ม สิ่งที่ควรพูดคือเปิดเข้าสู่ประเด็นหลักเลย เช่น “วันนี้ผมจะขอมอบกุญแจสำคัญ 5 อย่างที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันเพื่อสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจทางด้านจิตใจให้ยั่งยืนมากกว่าทางด้านวัตถุ”   เรียงลำดับก่อนหลัง เรียงลำดับการพูดก่อน-หลังให้ดี ว่าอะไรควรพูดก่อน ไม่ควรทำให้คนฟังสับสนเช่น “เราจะสร้างคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยธีมที่ยิ่งใหญ่ ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องปฏิบัติตามเพื่อความสอดคล้อง” ฟังแล้วรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าผู้พูดต้องการจะสื่ออะไรกันแน่   สิ่งที่ควรทำคือสร้างความประหลาดใจเพื่อรอลุ้นกับอะไรบางอย่างด้วย เช่น “เนื่องจากคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นนี้ มีผู้เกี่ยวข้องกว่าหนึ่งพันคน แต่ละคนมีความสามารถต่างกัน เราจึงหาจุดเชื่อมเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ จึงนำหลัก Do Your Job มาเป็นไอเดียให้ทุกคนสามารถแสดงออกร่วมกันตามหน้าที่ของตน” นำเรื่องรอบโลกมาใช้เมื่อเหมาะสม เรื่องเล่าที่จะใช้แทรกไปในเรื่องราวต้องมีความเป็นสากล ทุกคนเคยเห็นและเข้าใจ ไม่จำเพาะจนเกินไป และเป็นประเด็นเด็ดที่ผู้ฟังจะเอาไปพูดต่อได้ เช่น “ผู้หญิงที่เป็นตัวแทนของสินค้าเรามีความกล้าหาญที่จะไปเผชิญโลกและใฝ่หาความรักเหมือนซิลเดอเรลลา ที่พยายามทำทุกทางเพื่อจะไปงานเต้นรำของเจ้าชาย ไม่เหมือนกับสโนว์ไวท์ที่บริสุทธิ์ […]

5 หนังสือแนะนำ ที่นักขายมืออาชีพห้ามพลาด!

ขายของยังไงให้รวย นี่เป็นคำถามที่นักธุรกิจ แม่ค้า หรือการซลล์ สงสัยมากที่สุด ถ้าอยากขายของให้รวย สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเทคนิคการขาย การนำเสนอ และการพูด โดยหนังสือที่จะมาแนะนำนี้เป็นหนังสือที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญทางการขาย หรือเป็นยอดนักขายเลยก็ว่าได้   มาดูกันว่ามีหนังสืออะไรที่ควรสอยมาอัพสกิลการขายกันบ้าง     ศาสตร์แห่งการขายที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ เล่มนี้เขียนโดย มัตสึโมโตะ โนบุฮิซะ ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักขายอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ผู้พลิกฟื้นบริษัทที่เกือบล้มลายได้ภายในเวลาเพียง 9 เดือน จนปัจจุบันมีรายได้มากถึง 300 ล้านเยน เทคนิคที่เขาเล่าในหนังสือคือเทคนิคการ “ปิดช่องว่างให้ปฏิเสธ” เพราะสาเหตุหลักๆ ของการโดนลูกค้าปฏิเสธจนไม่ได้ยอดกลับมาก็เพราะว่าเหล่าพนักงานขายเผลอเปิดช่องว่างให้ลูกค้านั่นเอง หรือแม้กระทั่งตอนที่โดนปฏิเสธมาแล้ว เขาก็มีวิธีพูดที่ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจซื้อของจนทำยอดขายได้อย่างทะลุเป้า จุดเด่นอีกด้านของหนังสือเล่มนี้คือ ไม่ได้บอกแค่เทคนิคการพูดเพียงอย่างเดียว การฟังก็ช่วยให้ปิดยอดขายได้เช่นกัน ส่วนจะฟังด้วยวิธีไหนต้องไปติดตามในเล่ม   สั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่   พรีเซ้นต์ให้ได้ใจ ขายอะไรก็มีคนซื้อ สอนเทคนิคพรีเซ้นต์งาน สินค้า หรือขึ้นพูดในวาระต่างๆ ให้จับใจคนฟัง โดยคุณดลชัย บุณยะรัตเวช นักสร้างแบรนด์และประธานบริษัทเดนท์สุ วัน บางกอก ที่จะมานำเสนอศาสตร์การพูดให้กระชับ ทรงพลัง และสะกดใจ ช่วยทั้งเรื่องปิดยอดขายและผูกมิตรกับคนรอบข้าง […]

7 เทคนิคพรีเซ้นต์งานให้ปัง ที่พนักงานมืออาชีพทุกคนต้องรู้!

การเตรียมความพร้อมก่อน พรีเซ้นต์งาน เป็นสิ่งที่พนักงานมืออาชีพทุกคนควรทำ เมื่อพูดถึงพนักงานออฟฟิศทุกบริษัทย่อมมีการพรีเซ้นต์งานเกิดขึ้นทั้งนั้น การพูดบางครั้งอาจตัดสินชีวิตเราได้เลยทีเดียว เช่น การขายงานลูกค้า การเสนอโปรเจกต์ใหม่ให้บอส ต้องมานั่งลุ้นว่าลูกค้าจะชอบมั้ย บอสจะอนุมัติให้ทำหรือเปล่านะ แต่จะดีกว่าถ้าเรารู้หลักการพรีเซ้นต์งานที่ทำให้คนฟังประทับใจได้ตั้งแต่แรกเริ่ม มาดู 7 เทคนิค พรีเซ้นต์งาน ที่พนักงานมืออาชีพทุกคนต้องรู้! จัดโครงสร้างในการเล่า การวางโครงเรื่องให้น่าสนใจ จะต้องกระชับและมีความเกี่ยวข้องกับผู้ฟัง ดังนั้นอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่จำเป็นก็ให้ตัดออกไป ดีกว่านำมาพูด เพื่อสร้างพลังการโน้มน้าวผู้ฟังได้ต่อเนื่องและโดนใจ เข้าประเด็นเด็ดให้ไว ต้องคิดอยู่เสมอว่าทุกนาทีมีคุณค่า อย่าให้ผู้ฟังต้องเสียเวลาฟังสิ่งที่ไม่จำเป็น ดังนั้นทุกคำพูดต้องมีประโยชน์ การเลือกใช้คำ หรือประโยคในการเล่าต้องมีสติในการไตร่ตรอง รอบคอบ ทำให้เข้าใจประเด็นหลักที่ต้องการจะสื่อได้อย่างรวดเร็วและน่าสนใจ   *ควรระวังการเล่าเรื่องออกนอกประเด็น เพราะนากจากจะทำให้ผู้ฟังเสียเวลาโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายระหว่างการรับฟังด้วย   พูดแต่ประโยชน์ของผู้ฟัง ลองนึกภาพดูว่าหากคุณกำลังฟังใครคนหนึ่งพูดเริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า ผมมีความรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสมายืนตรงนี้ ผมเองเคยทำงานในบริษัทแห่งนั้นมาก่อน บริษัทที่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งที่มียอดขายสูงสุดในประเทศ บลาๆ ยาวกว่าสิบนาที คุณก็คงรู้สึกเบื่อตั้งแต่นาทีแรกที่มีใครมาพูดถึงอัตชีวประวัติของตัวเองให้เราฟัง การพูดที่มีศักยภาพและตรงใจผู้ฟัง สามารถโน้มน้าวให้เกิดผลเกินความคาดหมายมานักต่อนัก ขอเพียงใส่ใจแก่นเล็กๆ ที่ว่า อย่าเอาเราเข้าว่า อย่ามุ่งหน้าใส่สาระ เพราะการเอาเราเข้าว่านี้ จัดเป็นการสื่อสารด้านเดียวที่ไม่ได้ก่อประโยชน์ใดๆ นอกจากจะน่าเบื่อแล้วยังถือเป็นอุปสรรคชิ้นโตที่ขวางทางในการพูดโน้มน้าวเพื่อบรรลุเป้าหมาย   เตรียมทุกอย่างให้ผู้ฟัง องค์ประกอบของการทุกอย่างที่เตรียมไปจะเป็นตัวช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดในสิ่งที่ผู้ฟังต้องการ […]

เทคนิคปิดการขาย ที่นักขายมืออาชีพต้องรู้

การเสนอขายสินค้าว่ายากแล้วการ ปิดการขาย ให้ได้ยอดนั้นยากยิ่งกว่า บางครั้งลูกค้าจะปฏิเสธด้วยการยกเหตุผลนานามาอ้างเพื่อบอกปัดการซื้อสินค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นคำว่า “ขอคิดดูก่อนนะ” “ขอไปปรึกษาแฟน” “ที่บ้านมีแล้ว” ฯลฯ และประโยคยอดฮิตอย่าง “แพงไป ไม่มีเงิน”  ลองมาดูเทคนิค ปิดการขาย ที่เหล่านักขายมืออาชีพต้องรู้ จากสุดยอดนักขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น!   ถามถึงความต้องการซื้อ อย่างตรงไปตรงมา หลังจากนำเสนอสินค้าไปแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอน ปิดการขาย ได้เลย แต่นักขายบางคนมักใช้คำพูดเหล่านี้ในการปิดการขาย เช่น  “ต่อไปเป็นข้อเสนอจากบริษัทเรา รบกวนพิจารณาด้วยนะครับ นัดครั้งต่อไปเมื่อไหร่ดีครับ” ถ้าคุณยังใช้วิธีพูดแบบนี้อยู่ ก็ไม่มีทางคว้ายอดซื้อได้เลย เพราะลูกค้าจะพูดว่า “จะรับไปพิจารณาดู และติดต่อกับไปนะครับ” สรุปแล้วการเจรจาครั้งนั้นก็ไม่ได้อะไรกลับไปเลย นี่เป็นการเปิดช่องว่างให้ลูกค้าปฏิเสธกันเห็นๆ   คำพูดที่ต้องใช้หลังจากนำเสนอสินค้าเสร็จคือ “เป็นอย่างไรบ้างครับ ถ้าไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าที่นำเสนอ ลูกค้าอยากจะซื้อสินค้าของเราไหมครับ” หลังจากนำเสนอเสร็จ ต้องถามถึงความตั้งใจซื้อขายของลูกค้าที่อยู่ตรงหน้าทันที เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง   ปล่อยมือจากผลประโยชน์ของตัวเอง ต่อให้อยากได้ยอดสั่งซื้อมากแค่ไหน ถ้าพิจารณาแล้วว่าบริการของบริษัทอื่นมีประโยชน์ต่อลูกค้ามากกว่าก็ไม่ควรแนะนำบริการของบริษัทตัวเอง นี่คือจิตวิญญาณของความซื่อสัตย์สุจริต ตัวอย่างเช่น มีลูกค้าท่านหนึ่งถามหาเสื้อเชิ้ตที่ตนอยากได้กับพนักงานขาย พนักงานตรวจเช็กสินค้าของตัวเองแล้วพบว่าไม่มี หลังจากนั้นก็หายไป แล้วก็กลับมาบอกว่า “ขอโทษนะคะ […]

การบริหารสมองให้สดชื่น ฉับไว ด้วย 4 ท่าทางง่ายๆ ช่วยแก้สมองล้า

หลังเลิกงาน พอกลับถึงบ้านก็รู้สึกสมองตึงๆ ปวดขมับ อยากนอนตลอดเวลา บางทีงานอาจจะไม่ได้หนักขนาดนั้น แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากสมองล้านั่นเอง อาการสมองล้าสามารถหายไปได้เพียงบริหารด้วยท่าทางเหล่านี้อาจจะสักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ช่วยให้สมองตื่นตัวได้แล้วมาเริ่ม บริหารสมองให้สดชื่น ไปพร้อมๆ กันเลย!   บริหารสมองให้สดชื่น ด้วยการ หมุนแขนซ้ายขวาไปคนละทิศทาง   การบริหารสมองให้สดชื่น ด้วยการหมุนแขนซ้ายขวาไปคนละทิศทางจะช่วยให้การทํางานของคอร์ปัสคัลโลซัมมีความกระตือรือร้นขึ้น จริงอยู่ว่าการขยับเคลื่อนไหวในรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากเกิน อาจเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏบัติได้ตามที่ตั้งใจ แต่ถ้าแค่ขยับแขนซ้ายและขวาไปคนละทิศทางละก็ เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ก็จะทําได้คล่องขึ้นเอง อนึ่ง การประสานมือซ้ายกับมือขวาเข้าด้วยกันอย่างเช่นปรบมือ หรือพนมมือไหว้พระ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้แก่คอร์ปัสคัลโลซัม เพราะคอร์ปัสคัลโลซัมจะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของมือทั้งสองข้างซึ่งขยับคนละทิศทางเสมอ   เดินกลับไปกลับมา บนพรมม้วน อันดับแรก ให้เตรียมพรมขนาดไม่ต้องใหญ่มากไว้หนึ่งผืน จากนั้นม้วนพรม แบบเดียวกับเวลาทําข้าวห่อสาหร่าย ลําดับต่อไปคือ ขึ้นยืนบนพรมที่ม้วนพร้อมกับกางแขนทั้งสองข้างออก เดินกลับไปมา หรือนอนหงายบนพรม แล้วงอขาสลับเหยียดตรงโดยระหว่างเคลื่อนไหว จะต้องรักษาสมดุลร่างกายให้มั่นคง เมื่อยืนอยู่บนพรมม้วนซึ่งไม่รู้ว่าจะกลิ้งไปมาเมื่อไร ประสาทท้ังหมดในร่างกายย่อมเพ่งสมาธิอยู่ที่ปลายเท้า พร้อมพยายามรักษาสมดุลอย่างสุดความสามารถ ทําให้คอร์ปัสคัลโลซัมได้รับการบริหารจากการส่งผ่านข้อมูลท้ังหลายไปมา ระหว่างสมองซีกซ้ายกับซีกขวา   เดินสลับ ขวา – ซ้าย   โอกาสที่เราทุกคนจะได้คํานึงถึงหรือใส่ใจเกี่ยวกับการทรงตัวในชีวิตประจําวันนั้นมีอยู่น้อยมาก สาเหตุเป็นเพราะสมองทําหน้าที่ควบคุมสมดุลร่างกายซ้าย-ขวาให้เบ็ดเสร็จ ด้วยเหตุนี้การลองเปลี่ยนมาขยับเคลื่อนไหวร่างกายซึ่งต้องใช้ความพยายามในการรักษาสมดุลร่างกาย […]

วิธี “อ่านใจคน” ด้วยเทคนิคทางจิตวิทยา

มนุษย์เรามีความซับซ้อนทางจิตใจ สมอง และการแสดงออกมาก ทำให้การ อ่านใจคน เป็นเรื่องที่ยาก การกระทำกับคำพูดอาจจะสวนทางกัน โดยที่เราไม่ทันได้เอะใจเลยสักนิด หรือไม่ก็กำลังมีใครบางคนโกหกหรือปกปิดบางสิ่งอยู่ ลองใช้วิธีเหล่านี้ที่จะทำให้คุณ อ่านใจคน ได้ง่ายขึ้น คนโกหกจะไม่โกรธ แต่จะหาข้ออ้าง การจับโกหกของคนที่กำลังคุยด้วยง่ายนิดเดียว จากตัวอย่างต่อไปนี้ ลูกค้าคนหนึ่งมาแจ้งปัญหาสินค้าโดยบอกว่าพริ้นเตอร์ที่ซื้อไปเมื่อสองวันก่อนไม่ทำงาน ลูกค้ามีใบเสร็จ ตัวพริ้นเตอร์ก็ยังอยู่ในสภาพดี แต่เมื่อตรวจสอบดูพบว่ามีชิ้นส่วนตัวหนึ่งหายไป และดูเหมือนว่าลูกค้าจะเป็นคนขโมยชิ้นส่วนนั้นไปเอง เดวิด ลีเบอร์แบน นักจิตวิทยาบอกว่าเมื่อเราแจ้งว่าชิ้นส่วนหายไป ลูกค้า “แสดงอาการโกรธหรือไม่” เมื่อเราถามว่า “คุณลูกค้าครับ สินค้าอยู่ในสภาพปกติก็จริง แต่เราพบว่ามีชิ้นส่วนหนึ่งหายไป” คำตอบจะออกมาสองแบบคือ 1.ลูกค้าตอบโดยเริ่มต้นว่า “ผมไม่ได้เอาไปนะ มันไม่ได้ใส่มาตั้งแต่ต้นแล้วหรือเปล่า” 2.ลูกค้าโกรธและโวยวายว่า “นี่คุณเอาของที่ไม่สมประกอบมาขายหรือ นี่ผมเสียเวลาเปล่าๆ ไปสองชั่วโมงเพื่อจะทำให้มันใช้งานได้” เดวิดกล่าวว่า ถ้าไม่ได้ขโมยจริงๆ คำตอบจะได้เป็นข้อ 2 เพราะทำให้เขารู้สึกโกรธ ส่วนคนที่แก้ตัวทั้งที่ยังไม่ได้ถามต่อก็สามารถเดาได้ว่าเขาพยายามหาข้ออ้างอยู่นั่นเอง จับโกหกด้วยการเปรยข้อมูลหลอกๆ คุณรู้สึกว่าลูกน้องแอบดื่มเหล้าทั้งที่เป็นเวลางานทั้งๆ ที่บริษัทมีกฎห้ามดื่มเหล้าอยู่ และถ้าลูกน้องคนนี้เคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาการเป็นประจำ ให้ลองแกล้งเปรยว่า“ วันก่อนฉันอ่านเจอว่า 42% ของคนติดสุรามักจะเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหาร” หากเขาดื่มเหล้าในเวลางานจริงเขาจะเลิกเคี้ยวหมากฝรั่งทันที แต่ถ้าแกล้งพูดไปแบบนั้นแล้วเขายังเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหารเหมือนเดิม นั่นแปลว่าเขาไม่ได้ดื่มเหล้า เลยไม่จำเป็นต้องเลิกเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อกลบเกลื่อน […]

6 เทคนิคการนำเสนอสินค้า ให้ลูกค้าประทับใจ

การ นำเสนอสินค้า  ถือเป็นหัวใจหลักในการขายเลยก็ว่าได้ ยอดขายจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเตรียมตัวให้พร้อมและพูดให้จูงใจ ลองมาดู 6 เทคนิคการนำเสนอสินค้าที่รับรองว่าลูกค้าต้องประทับใจและปิดการขายได้ทันที! เทคนิค นำเสนอสินค้า ให้ปิดการขายได้ทันที จบการนำเสนอใน 15 นาที คุณต้อง นำเสนอสินค้า ให้ลูกค้าสนใจให้ได้ใน 15 นาที ไม่ว่าเนื้อหาของคุณจะมีกี่สิบสไลด์ก็ตาม เพราะส่วนใหญ่ ผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจซื้อสินค้ามักมีงานยุ่งและเป็นคนใจร้อน ถ้านำเสนอยาวเกินไปพวกเขาอาจจะเบื่อเอาได้ ถ้าไม่สามารถพูดในเวลา 15 นาที ลูกค้าจะแสดงท่าทางเบื่อหน่ายอย่างนั่งไขว่ห้างให้เห็น ขณะพูดก็ต้องสังเกตท่าทางของลูกค้าด้วยเช่นกัน และใช้คำพูดปิดท้ายการนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ เช่น “ถ้าตกลงซื้อสินค้าของเราแล้ว ปัญหาของคุณลูกค้าจะแก้ไขได้ทันทีเลยครับ รบกวนช่วยพิจารณาด้วยนะครับ” เป็นต้น   ไม่ถามคำถามระหว่างนำเสนอสินค้า ในกรณีที่เพิ่งทำเอกสารสำหรับนำเสนอก่อนถึงเวลาจริงไม่นาน มีหัวข้อที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ แถมแผนนำเสนอก็ไม่ลงตัวดี เรียกได้ว่าเป็นเอกสารด่วนจี๋ที่ไม่มีความพร้อม แม้จะรู้สึกตัวว่าลืมพูดเนื้อหาบางอย่างหรือเกิดคำถามระหว่างนำเสนองาน ก็ห้ามถามลูกค้าเด็ดขาด  ถ้าเจอปัญหาเช่นนี้ การจะตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุดจะกลายเป็นเรื่องยาก ได้แต่นำเสนองานที่ไม่ค่อยสร้างความประทับใจเท่าไหร่   การนำเสนองานทั้งๆ ที่คุณเองก็ยังไม่มั่นใจถือเป็นการ “แพ้ตั้งแต่แรกเริ่ม” ควรเตรียมเอกสารและข้อมูลให้พร้อมทุกครั้ง อย่ามองสไลด์ตลอดเวลา กฎเหล็กที่สำคัญในการนำเสนอสินค้าคือ ต้องสามารถพูดได้โดยไม่มองสไลด์หรือเอกสาร หากคุณสามารถท่องจำเนื้อหาได้ทั้งหมดและนำเสนอด้วยความมั่นใจโดยไม่กังวลเรื่องเวลา คุณก็สามารถมองไปที่ลูกค้า […]

อิคิไก IKIGAI ความหมายของการทำงาน ความหมายของการมีชีวิตอยู่ โดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

อิคิไก IKIGAI ความหมายของการทำงาน ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ที่จะทำให้มนุษย์เงินเดือนค้นพบความสุขภายใน มาค้นหา IKIGAI ในการทำงาน จากคำแนะนำของดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ กัน    อิคิไก IKIGAI ความหมายของการทำงาน ความหมายของการมีชีวิตอยู่ เป็นปรัชญาญี่ปุ่นของชาวโอกินาวา คนโอกินาวาอายุยืนและมีความสุขในการใช้ชีวิต พวกเขาอยากตื่นมาทำงานทุกวันและใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย อิคิไก IKIGAI แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “A Reason for Being” คือ เหตุผลของการมีชีวิตอยู่หรือสิ่งที่ทำให้เราอยากตื่นขึ้นมาในทุกๆ เช้า คนญี่ปุ่นยึดแนวคิดการทำงานที่มาจากภายในด้วยแนวคิดที่ว่า งานที่ทำอยู่นั้นต้องยังประโยชน์ให้กับตัวเองและผู้อื่น พวกเขาจะตั้งคำถามกับงานที่ตัวเองทำและค้นหาความหมายของการทำงานตามหลักทั้ง 4 ข้อ     ทำสิ่งที่รักและมีความสุข สิ่งที่ทำให้คนๆหนึ่งตื่นขึ้นมาทำงานได้ทุกวัน คือได้ทำสิ่งที่รักและมีความสุข มาตรวัดความสุขของแต่ละคนนั้นคืออะไร คงตอบยาก แต่ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ กล่าวว่า สิ่งที่บอกได้ว่าคุณรักงานที่ทำคือเราทำมันได้ทุกวัน โดยไม่คิดถึงวันหยุดอยากรู้ อยากพัฒนาความสามารถที่เกี่ยวกับงานเพิ่มเติมแม้บางครั้งงานจะทำร้ายความรู้สึก แต่ก็ให้อภัยได้ทุกครั้ง บางครั้งเกิดความรู้สึกแย่กับงาน แต่ไม่นานก็หายไปนี่คือคนที่รักงานจริง ทำสิ่งที่ทำได้ดี   บางครั้งสิ่งที่รักและสิ่งที่ทำอาจไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่ถ้าเรารัก […]

บริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ

3 สิ่งที่ไม่ควรทำ หากต้องการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ

เพราะเวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่า คนที่บริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ จึงได้เปรียบที่สุด มาดูกันว่าอะไรคือ 3 สิ่งที่ไม่ควรทำในการ บริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ   บริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ ต้องไม่ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยไม่อาศัยตัวช่วย   แผนการหรือวิธีบริหารที่่มีอยู่ในใจจะเป็นการ บริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพไม่ได้เลย หากแผนเหล่านั้นเราคิดเอง ทำเองโดยไม่คิดหาเครื่องมือ หรืออุปกรณ์เข้ามาเป็นตัวช่วย อย่างน้อยควรเขียนใส่กระดาษและแปะไว้ในที่ที่มองเห็นทุกวัน เพราะถ้าเพียงแค่ตัดสินใจและคิดว่าจะทำโดยไม่มีอะไรคอยเตือนตัวเอง ก็อาจจะทำให้ทำได้ไม่เกิน 3 วัน นอกจากนี้ การสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ โดยเริ่มเรียนรู้จากผู้อื่นและหนังสือ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้ประสบผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น   เพิ่มแผนการใหม่ โดยไม่ลดกิจกรรมเดิมๆ   การทดลองกิจวัตรประจำวันใหม่เป็นสิ่งที่ดี แต่การที่เราต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น แม้จะแค่ 5-10 นาทีต่อวันก็อาจจะทำให้เรารู้สึกว่ากิจวัตรที่เพิ่มมาเหล่านั้นเป็นภาระต่อตัวเราได้ ตัวอย่างเช่น มีแผนว่าจะสรุปสิ่งที่ทำในแต่ละวัน แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่ได้สรุปอะไร เพราะหาเวลาที่จะนำไปสรุปสิ่งที่จะทำไม่ได้ แทนที่จะทำอย่างนั้น ลองปรับเปลี่ยนมาเป็นเลิกอ่านหนังสือระหว่างเดินทางเพื่อนำเวลานั้นไปใช้สรุปสิ่งที่จะทำในช่วงเดินทาง   ไม่ตรวจสอบขั้นตอน “วางแผน – ลงมือทำ – ตรวจสอบ”   การ “วางแผน” ทำอะไรใหม่สักอย่างเป็นเรื่องสนุก เมื่อได้ “ลงมือทำ” […]

วัยเด็กของอีลอน มัสก์ โตมาแบบไหน…ถึงได้เป็นแบบนี้

ผู้ใหญ่ในวันนี้ คือเด็กน้อยในวันนั้น มาดูกันว่า วัยเด็กของอีลอน มัสก์ นั้นเขาโตมาแบบไหน เจออะไรมาบ้าง กว่าจะมาเป็นอีลอน มัสก์ในวันนี้   วัยเด็กของอีลอน มัสก์ โตมากับหนังสือ   บุคลิกที่โดดเด่นที่สุดส่วนหนึ่งใน วัยเด็กของอีลอน มัสก์ คือความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการอ่าน เขาอ่านวันละเป็นสิบชั่วโมง และถ้าเป็นวันสุดสัปดาห์ เขาอ่านจบได้วันละสองเล่ม!!   เมื่อโตขึ้น เขาจะเข้าไปในร้านหนังสือตั้งแต่โรงเรียนเลิกตอนบ่ายสองโมงและอยู่ในนั้นจนถึงหกโมงเย็น เมื่อพ่อแม่กลับจากทำงานถึงบ้าน เขาจะตะลุยอ่านตั้งแต่นวนิยาย การ์ตูน สารคดี  อีลอนยกให้ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ หนังสือชุดสถาบันสถาปนา (Foundation Series) ของไอแซค อาซิมอฟ และ จันทราปฏิวัติ (The Moon Is a Harsh Mistress) ของโรเบิร์ต ไฮน์ไลน์ เป็นหนึ่งในหนังสือโปรด เช่นเดียวกับคู่มือท่องกาแล็กซีฉบับนักโบก (The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy) และเมื่อถึงจุดที่ห้องสมุดโรงเรียนและห้องสมุดแถวบ้านไม่มีอะไรให้อ่านแล้ว อีลอน […]

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า