แอบส่องนิทานบ้านหลังใหญ่ของหนูตัวเล็ก เป็นหนังสือนิทานที่เต็มไปด้วยสิ่งดี ๆ จากเรื่องราวภายในบ้านหลังนี้ นิทานเล่มนี้สื่อสารให้เห็นถึงการมีน้ำใจต่อผู้อื่น และไม่มองคนจากภายนอกได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย อ่านแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นของบรรยากาศที่อยู่ภายในหนังสือเล่มนี้ เด็ก ๆ จะได้พบกับความมหัศจรรย์ ของบ้านหลังเล็กๆ ที่วินเซ็นต์ได้เปิดต้อนรับช่วยเหลือเหล่าสัตว์ผู้ทุกข์ยาก เราไปแอบส่องเรื่องราวของวินเซนต์หนูตัวเล็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจกันเลยดีกว่า วินเซนต์แบกบ้านเล็กๆ ใหญ่ไว้บนหลัง วันหนึ่งวินเซนต์ได้ปักหลักลงบนเนินเขาแห่งหนึ่ง และได้พบกับกบผู้อ่อนล้าตัวหนึ่ง วินเซนต์จึงได้เชิญชวนให้เข้ามาพักในบ้าน กบก็แปลกใจว่า บ้านหลังเล็กขนาดนี้ จะเข้าไปได้หรือไม่นะ? ต่อมาวินเซนต์ก็ได้พบกับแมวผู้หิวโหยและได้เชิญมาทานอาหารร่วมกันในบ้าน แมวผู้หิวโหยก็คิดว่าฉันจะสามารถเข้าไปยังบ้านหลังเล็ก ๆ นี้ได้อย่างไรกัน แต่เมื่อเข้าไปแล้ว กลับต้องพบกับความประหลาดใจ ที่ภายในบ้านนั้นกว้างขวางอย่างยิ่ง ใครจะมาเป็นแขกใน “บ้านหลังใหญ่ของหนูตัวเล็ก” บ้างนะ? ก่อนจะไปอ่านนิทานเรื่องบ้านหลังใหญ่ของหนูตัวเล็ก เราขอแนะนำแขกที่เด็กๆจะได้เห็นในบ้านหลังเล็กๆของวินเซนต์กันก่อนดีกว่า จะบอกว่ามีแขกปริศนาด้วยนะ แขกทั้ง 9 ชนิดของวินเซนต์มีดังนี้ 1.คุณกบ 2.เจ้าแมว 3.ครอบครัวเม่น 4.ฝูงกวาง 5.เจ้ากระต่าย 6.แบดเจอร์ 7.สุนัขจิ้งจอก 8.เจ้านกน้อย 9.แขกปริศนา ที่ชวนให้เด็ก ๆ ไปลุ้นกันต่อว่าเป็นใครกันนะ แล้ววินเซนต์จะต้อนรับเขาหรือไม่ วินเซนต์ได้ช่วยเหลือสัตว์ผู้ทุกข์ยากเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสัตว์ทั้งหลายกำลังมีความสุขกับการที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านพักของวินเซนต์ที่บ้านทั้งหลังสว่างไสว และอบอวลไปด้วยความอบอุ่น แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับสัตว์ตัวหนึ่งที่มาพร้อมกับ […]
Category Archives: Kids
แอบส่องนิทาน บ้าน 100 ชั้น ชุดนิทานบ้าน 100 ชั้น นิทานยอดฮิต ที่ติดใจเด็กๆ ทั่วโลก สร้างความชื่นชอบ และเป็น Best Seller ทุกเล่ม สร้างความประทับให้กับเด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ที่ได้อ่านแต่ละเล่ม ซึ่งตอนนี้ ชุดนิทานบ้าน 100 ชั้นมีทั้งหมด 5 เล่ม บ้านลอยฟ้า 100 ชั้น บ้านใต้ทะเล 100 ชั้น บ้าน 100 ชั้น บ้านใต้ดิน 100 ชั้น ตอนนี้มีเล่มใหม่ สีสวยสดใส ที่ชวนสนุกยิ่งกว่าเดิม คือ บ้าน 100 ชั้นบนต้นไม้ นำทีมโดย โอโตะจัง ที่จะมาสร้างความสนุกให้กับเด็กๆ ทุกคน โอโตะจัง เป็นผู้รักเสียงดนตรี อาศัยอยู่ใกล้ๆ ป่า วันหนึ่งขณะที่เด็กหญิงกำลังซ้อมดนตรีอยู่ ก็ได้ยินเสียงบางอย่าง เมื่อออกมาดูที่สวนหน้าบ้านก็พบดอกไม้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบานอยู่ในสวน ดอกไม้นั้นเรียงรายกันเป็นทางยาวเข้าไปในป่าลึก การเดินทางสู่บ้าน 100 […]
5 ชุดนิทานไทย Bestseller ปี 2021 ที่เด็ก ๆ ทุกคนห้ามพลาด จะมีชุดไหนโดนใจบ้าง เราจัดอันดับมาให้คุณพ่อ คุณแม่ และเด็ก ๆ ดูกันแบบเต็ม ๆ ชอบและอยากอ่านชุดไหน เลือกไว้เลยนะ อันดับ 5 นิทานชุดเพื่อนรักในป่าใหญ่ ขอชวนเด็ก ๆ มาเสริมความรู้เรื่องเวลา การวางแผน ทักษะ EF และความคิดยืดหยุ่น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้มุ่งสู่จุดหมายกับนิทานชุด “เพื่อนรักในป่าใหญ่” ที่มีน้องนากและก๊วนเพื่อนสุดน่ารัก นิทานชุด “เพื่อนรักในป่าใหญ่” มี 2 ตอน ได้แก่ ตอน ไปงานวันเกิดให้ตรงเวลากันเถอะ เรื่องราวของน้องนากที่ส่งจดหมายเชิญเพื่อน ๆ มางานวันเกิดที่บ้านกลางป่า บ้านแต่ละคนอยู่ใกล้ไกลไม่เหมือนกัน อุปสรรคที่พบเจอก็ต่างกัน ให้เด็กๆ มาเรียนรู้การวางแผนเดินทางและการบริหารเวลา เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายด้วยกัน ตอน เดินทางไกลไปหาเพื่อน เพนกวินส่งจดหมายเชิญไปงานวันเกิดมาถึงเพื่อนรักในป่าใหญ่ การเดินทางแสนไกลพบเจออุปสรรคมากมาย เพื่อนๆ ต้องช่วยกันสังเกต แก้ปัญหา และฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน ทั้งหมดจะเดินทางไปหาเพนกวินเพื่อนรักสำเร็จไหมนะ นิทานชุดนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อไปงานวันเกิดของน้องนากและเพื่อน ในการเดินทางแต่ละครั้งก็จะมีปัญหาและอุปสรรคต่างกันออกไป […]
10 ชุดนิทาน Bestseller ปี 2021 ที่เด็ก ๆ ทุกคนห้ามพลาด จะมีชุดไหนบ้าง เราจัดอันดับมาให้คุณพ่อ คุณแม่ และเด็ก ๆ ดูกันแบบเต็ม ๆ ชอบและอยากอ่านชุดไหน เลือกไว้เลยนะ อันดับ 10 นิทานชุดตามติดภารกิจหนู 14 ตัว ครอบครัวสุดน่ารัก ตามติดภารกิจหนู 14 ตัว ครอบครัวสุดน่ารัก เรียนรู้การทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยการช่วยเหลือและห่วงใยกันของสมาชิกในครอบครัวหนู 14 ตัว ที่ช่วยกันเฝ้าระวังด้วยความห่วงใย ในขณะที่สมาชิกกำลังเล่นและทำงาน นิทานชุดนี้เขียนและวาดภาพโดย คุณคะซุโอะ อิวะมุระ ที่เคยได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ เช่น ผลงานได้รับรางวัลหนังสือภาพแห่งญี่ปุ่น จากผลงานนิทานอาหารเช้าของหนู 14 ตัว, ได้รับรางวัลหนังสือเด็กซังเก และได้รับรางวัลวัฒนธรรม โดยสำนักพิมพ์โคดันฉะ สาขาหนังสือภาพ นิทานชุดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของครอบครัวหนู 14 ตัว ได้แก่ การทำอาหาร, การซักผ้า และการย้ายบ้าน […]
แอบส่องความอบอุ่นและการไม่ทอดทิ้งกันจากนิทานชุดกบ 10 ตัว ทั้ง 2 เล่ม ได้แก่ “กบ 10 ตัวไปเดินเล่น” และ “กบ 10 ตัวจำศีล” เรื่องราวสุดอบอุ่นเริ่มต้นที่ “กบ 10 ตัว ไปเดินเล่น” ซึ่งได้ทำภารกิจแรกช่วยส่งลูกหนูหลงทางกลับบ้าน แต่ระหว่างทางต้องพบเจ้างูที่จะเข้ามาทำร้าย เรื่องราวสุดมันจึงเกิดขึ้น เพื่อปกป้องชีวิตตัวเองและลูกหนูให้ปลอดภัยโดยไม่ทอดทิ้งกัน ภารกิจที่ 2 เมื่อ “กบ 10 ตัว จำศีล” ทำให้ทุกตัวต้องช่วยกันสร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นที่จำศีลตลอดฤดูหนาว แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อลมหนาวพัดเข้ามาในบ้าน กบตัวหนึ่งตัวแข็งไปเพราะลมหนาว เรื่องราวความอบอุ่นละการไม่ทอดทิ้งกันจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อกบทุกตัวต้องหาทางช่วยชีวิตเจ้ากบตัวแข็งให้หายโดยเร็ว ความน่ารักของนิทานชุดนี้จึงเป็นเรื่องของความรักความอบอุ่นที่กบทั้ง 10 ตัวมีให้แก่กัน และยังเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นอีกด้วย เราไปติดตามเรื่องราวของความอบอุ่นและการไม่ทอดทิ้งกันของกบทั้ง 10 ตัวกันเลยดีกว่า “กบ 10 ตัวไปเดินเล่น” ความน่ารักและความอบอุ่นของการไปปิกนิก กบ 10 ตัว ได้วางแผนชวนกันออกไปเดินเล่นและกินอาหารนอกบ้าน แต่ระหว่างทาง พวกเขาได้ยินเสียงเหมือนใครสักคนร้องไห้! เสียงเล็กๆ […]
แอบส่องนิทานชุดบ้านต้นไม้ นิทานที่ใครๆ ก็หลงรัก ทำไมนิทานชุดนี้จึงเป็นนิทานที่คุณพ่อคุณแม่เลือกอ่านให้เด็กๆ ฟัง และทำไมนิทานชุดนี้ถึงกลายเป็นขวัญใจคุณพ่อ คุณแม่ และเด็กๆ นั่นเป็นเพราะนิทานชุดนี้สื่อสารให้เห็นคำว่า “ครอบครัวที่อบอุ่น” ได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งบ้านต้นไม้ 10 ชั้นทั้ง 5 เล่ม ได้แก่ บ้านต้นไม้ 10 ชั้น สมาชิกใหม่บ้านต้นไม้ 10 ชั้น บ้านต้นไม้ในวันหิมะตก บ้านต้นไม้กับคุณนกนักดนตรี และบ้านต้นไม้กับเก้าอี้หลับสบาย ทุกเล่มล้วนมีความอ่อนโยน ความอบอุ่นของสมาชิกแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น แต่อบอุ่นหัวใจเหมือนกันทุกชั้นจนใครๆ ก็ต้องใจละลายเมื่อได้อ่านนิทานชุดนี้ เราแอบส่องนิทานชุดบ้านต้นไม้ นิทานที่ใครๆ ก็หลงรัก กันเลยดีกว่า บ้านต้นไม้ 10 ชั้น กับความรักและความอบอุ่น บ้านต้นไม้ 10 ชั้น เป็นบ้านที่ต้องต้อนรับสมาชิกเข้ามาอยู่ใหม่เสมอ ซึ่งคุณลุงตุ่นได้ให้การต้อนรับสมาชิกที่มาใหม่อย่างเต็มใจ เหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณนกปีกลายสกอต หรือคุณนักดนตรี ตัวอย่างความอบอุ่นในนิทานชุดบ้านต้นไม้ 10 ชั้น ได้แสดงให้เห็นว่า การที่เรามีจิตใจดี มีเมตตา ใครๆ […]
พ่อแม่นอกจากจะต้องเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีแล้ว อีกหน้าที่หนึ่งคือ การเลี้ยงลูกให้ไกลโรค เพราะปัจจุบันโรคต่างๆ มีการพัฒนาความรุนแรงมากขึ้นกว่าในอดีต โดยเฉพาะอาการเจ็บป่วยพื้นฐานที่พ่อแม่หลายคนมองข้าม ซึ่งบางครั้งกลับทำให้อาการมีความรุนแรงมากขึ้นเพราะปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ทำการรักษาด้วยแพทย์ให้ถูกต้อง “รู้ทัน 6 เรื่อง เลี้ยงลูกให้ไกลโรค” แค่รู้จัก เข้าใจ เพียงเท่านี้ ลูกน้อยก็มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลได้ทุกโรค มีไข้สูงขนาดไหนถึงต้องไปโรงพยาบาล อาการไข้สูงในเด็ก 3 ลักษณะที่พ่อแม่ควรให้ความระมัดระวังและควรไปโรงพยาบาลพบแพทย์ทันที 1.ไข้ในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 3 เดือน ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ยำว่าทันที! ไม่ต้องรอ ยกเว้นไข้หลังฉีดวัคซีนเท่านั้นที่กินยาลดไข้พาราเซตามอลและเช็ดตัวได้ นอกจากนั้นไปพบแพทย์ทุกกรณี เพราะเด็กเล็กยังมีภูมิคุ้มกันจากแม่ที่ได้มาตั้งแต่ะอยู่ในครรภ์และนมแม่ จึงไม่ควรเกิดไข้ 2.ไข้สูงลอยโดยไม่มีอาการอื่น เป็นอาการที่พบบ่อยในเด็ก ส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนต้น โดยในช่วงแรกอาจมีแค่ไข้เพียงอย่างเดียวและอาการต่างๆ อาจจะเริ่มตามมาภายหลัง แต่มีไม่น้อยที่อาจจะเป็นอาการของการติดเชื้อในกระแสเลือด และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอันตรายมากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก กลุ่มอายุต่ำกว่า 3 เดือน 3.เด็กที่มีอาการต่อไปนี้ -ไข้สูงติดต่อกันนานเกิน 3 วัน และไม่มีสัญญาณว่าดีขึ้น -ดื่มน้ำหรือนมไม่ได้ ปัสสาวะสีเข้ม มีสัญญาณของภาวะขาดน้ำ -หายใจเร็ว ไอเป็นชุด […]
ปกติช้างตัวเป็นสีเทา แต่ถ้าวันหนึ่งมีช้างที่ไม่ใช่สีเทา แถมยังเป็นลายตารางหลากสีอีกละ จะเป็นอย่างไรนะ นิทาน เล่มนี้เป็นเรื่องราวของ เอลเมอร์ ช้าง ลายตารางหลากสีแสนซนซึ่งเป็นที่รักของช้างทุกตัว แต่แล้ววันหนึ่งเอลเมอร์กลับไม่อยากดูโดดเด่นและแตกต่างอีกต่อไป เขาจึงทำตัวเองให้เหมือนช้างตัวอื่นๆ ช้างสีไม่เหมือนช้าง ช้างที่ไม่เหมือนเพื่อนช้างตัวอื่นๆ ในฝูง โดดเด่นและแสนเป็นเอกลักษณ์ เพื่อนช้างในฝูงไม่มีใครมองว่าเอลเมอร์แปลก แต่เป็นเอลเมอร์เองที่คิดขึ้นว่า เบื่อแล้วกับการโดดเด่นและแตกต่างเช่นนี้ คิดได้ดังนั้น เอลเมอร์จึงออกเดินทาง และทำตัวเองให้ “เหมือน” เพื่อนคนอื่น แต่เมื่อมีสีเหมือนเพื่อนแล้ว ทำไม่ถึงไม่สนุกเหมือนเดิมนะ … เรื่องราวของเอลเมอร์ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ความแตกต่าวระหว่างเอลเมอร์กับเพื่อน ความแตกต่างระหว่างเพื่อนกับเอลเมอร์ ความแตกต่างที่เอลเมอร์และเพื่อนไม่เคยมองว่าเรา “ต่าง” กัน จึงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และเอลเมอร์เองก็ไม่เคยรู้ว่าการเป็นตัวเองเป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน จนกระทั่งได้ลองทำตัวเหมือนคนอื่นแล้วรู้สึกอึดอัดใจแบบแปลกๆ เมื่อนั้นเอลเมอร์จึงได้รู้ว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเป็นตัวเอง แล้วความภูมิใจในตนเองจึงเกิดขึ้น เอลเมอร์กลับมาเป็นช้างลายตารางหลากสีที่สดใสร่าเริง และเล่นสนุกกับเพื่อนเหมือนเดิม เอลเมอร์ได้สอนเราว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเป็นตัวของตัวเอง และจงภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ในขณะเดียวกันเพื่อนของเอลเมอร์ก็สอนให้เราได้รู้ว่า การไม่ตัดสินคนอื่นจากความไม่เหมือน เป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน เราทุกควรล้วนมีเอกลักษณ์และมีความแตกต่างระหว่างกัน ไม่มีใครเหมือนกันเลยสักคน การอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างอย่างเข้าใจ เคารพผู้อื่นและเคารพตัวเองต่างหาก ที่เป็นเรื่องสำคัญและทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันก็อาจพูดได้ว่า เอลเมอร์และเพื่อนของเอลเมอร์ ก็เหมือนเด็กๆ […]
โลกในหุบเขามูมินของ ตูเว ยานซอน เป็นหนังสือที่แฟนๆ มูมินทุกคนควรมี หรือควรที่จะได้อ่านสักครั้ง เพราะมันอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวทุกอย่างในหนังสือชุด มูมิน หนังสือเด็กที่แต่งโดยตูเว ยานซอน (9 สิงหาคม ค.ศ. 1914 – 27 มิถุนายน ค.ศ. 2001) ศิลปินหญิงและนักเขียนคนสำคัญของประเทศฟินแลนด์ แม้มูมินจะมีอายุกว่า 70 ปีแล้วนับตั้งแต่ มูมินกับน้ำท่วมใหญ่ ได้รับการตีพิมพ์ แต่มูมินก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงวันนี้ และยังเป็นที่รักเสมอ สำหรับคนที่เคยอ่านหนังสือคงจะรู้จักมูมินอยู่แล้ว แต่เราเชื่อว่ายังมีแฟนๆ มูมินอีกมากที่ยังไม่เคยอ่านและรู้จักเรื่องราวแท้จริงของมูมิน เรามีเรื่องน่ารู้จากหนังสือ โลกในหุบเขามูมินของตูเว ยานซอน หนังสือที่จะทำให้ทุกคนรู้จักจักรวาลของมูมิน มาฝาก จะสังเกตมูมินได้อย่างไร แม้ว่าพวกมูมินจะดูเหมือนฮิปโปสีขาว แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกโทรล (ในจินตนาการของตูเว ยานซอน) สิ่งแรกที่เราจะสังเกตเห็นกันก็คือจมูกใหญ่ๆ ของพวกมัน ลำตัวอวบอ้วนสีขาวและปกคลุมไปด้วยขนสั้นๆ ที่นุ่มเหมือนกำมะหยี่ ใบหูเล็ก มีขนฟูนุ่มอยู่ที่หลังใบหูทั้งสองข้างและปลายหาง ส่วนที่สังเกตยากที่สุดคงเป็นปาก แต่มันก็คงจะอยู่ตรงไหนสักแห่งใต้จมูกใหญ่โตของมันนั่นแหละ หากยึดถือตามครอบครัวมูมินในเรื่องแล้ว มูมินผู้ชายจะสวมหมวกแบบคุณพ่อมูมิน ส่วนมูมินผู้หญิงจะสวมผ้ากันเปื้อนและถือกระเป๋าติดตัวอยู่เสมอ มีเรื่องเล่าตลกๆ […]
“เด็กไม่ใช่ผ้าขาว” คุณหมอเดว พูดถึงประโยคนี้บ่อยๆ ที่งานเสวนาต่างๆ คุณหมอเล่าว่า เด็กแต่ละคนมีพื้นฐานอารมณ์ที่เกิดมาก็แตกต่างกันอยู่แล้ว บางคนอดทนมาก บางคนอดทนน้อยเป็นทุนเดิม เว้นแต่ว่าการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมจะทำให้ความอดทนเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เด็กไม่ใช่ผ้าขาว อย่าเข้าใจผิด ไม่ได้ปฏิเสธว่าเด็กทุกคนเกิดมาใสบริสุทธิ์ และก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าลวดลายสีสันบนผ้าที่เกิดขึ้น เกิดมาจากการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อม แต่ต้องการส่งสัญญาณเพิ่มว่า ลวดลายและสีสันนั้นเกิดบนผ้าสีพื้นที่มีสีแตกต่างกันไปในแต่ละคน เมื่อเข้าใจในลักษณะนี้ คุณพ่อคุณแม่จะเปลี่ยนทัศนคติ เลิกเลี้ยงลูกแบบเปรียบเทียบ และมีทัศนคติเป็นบวกว่าเด็กทุกคนเกิดมามีความสำคัญตามแบบฉบับของตัวเอง การเลี้ยงดูจึงเป็นศิลปะที่สร้างสรรค์ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเหมือนกันทุกบ้าน มาดูกันว่าเหตุผลที่บอกว่า เด็กไม่ใช่ผ้าขาว เพราะอะไร และมีวิธีเลี้ยงเด็กตามแต่ละสีอย่างไรบ้าง บางคนเป็นสีโทนร้อน และบางคนเป็นสีโทนเย็น เด็กบางคนเป็นสีโทนร้อน เช่น สีแดง สีเหลือง บางคนก็เป็นสีโทนเย็น เช่น สีเขียว สีฟ้า เปรียบได้กับพื้นฐานอารมณ์และรสนิยมที่ติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด เช่น เด็กที่มีสีโทนเย็น เวลาพาไปฉีดวัคซีน ระหว่างตรวจก็หัวเราะร่าสบายใจ ไม่ได้สนว่าเดี๋ยวจะต้องเจ็บตัวเพราะโดนฉีดยานะ พอโดนฉีดยาก็ร้องไห้นิดหน่อย ปลอบแป๊บเดียวก็หาย กลับไปบ้านก็ใช้ชีวิตปกติ แต่ในขณะที่เด็กสีโทนร้อน แค่เห็นคุณพ่อคุณแม่หยิบสมุดวัคซีนก็รู้ทันทีว่า แม่กำลังพาไปหาหมอ ฉันจะต้องเจ็บตัวแน่ๆ ก็จะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้าน มาถึงโรงพยาบาลก็ต้องช่วยกันจับตัวกับชุลมุนกว่าจะฉีดยาได้ ทั้งๆ ที่เจ็บเท่ากัน แต่อาการตีโพยตีพายเยอะกว่าเด็กสีโทนเย็น […]