[ทดลองอ่าน] ตัวร้ายไม่ได้เรื่องทุกราย ตอนที่ 3.2

모든 악당은 멍청이다
Every Villainis Lemon
ตัวร้ายไม่ได้เรื่องทุกราย

 

จังนยัง เขียน
ตรองสิริ แปล

โปรย
ปีเตอร์ เจ้าหน้าที่ซีไอเอได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมภารกิจ ‘พ่อมด’
ไม่รู้ว่าโลกกลมหรือเป็นคราวซวย
เมื่อเป้าหมายการจับกุมในภารกิจครั้งนี้กลับเป็นคนรักเก่าของเขา

ไลนัส ทายาทธุกิจไอทียักษ์ใหญ่ คนรักเก่าของปีเตอร์
ตกเป้นผู้ต้องสงสัยว่าผลิตอาวุธสงคราม แถมยังเป็นผู้ป่วยจิตเวชขึ้นรุนแรง
นับเป็นบุคคลอันตรายระดับที่ก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สามได้

ทว่าในความทรงจำของปีเตรอ์ ไลนัสดูไม่เหมือนคนบ้าคลั่งแบบนั้นแม้แต่น้อย
ตลอดแปดปีที่ไม่ได้พบกัน เกิดอะไรขึ้นกับไลนัสกันนะ
แล้วทำไมพบกันคราวนี้อีกฝ่ายดันทำเหมือนยังรักปีเตอร์มาตลอดล่ะ
“ฉันยินดีโกหกคนทั้งโลก ขอเพียงให้ได้นายมา”
“ทุกคำที่ฉันเคยพูดกับนายคือใจจริงของฉัน ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม”

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

3.2

 

ปีเตอร์ตื่นเพราะเสียงหนูร้องจี๊ด ๆ เขากุมศีรษะแล้วลืมตา ลำแสงสีขาวส่องลอดหน้าต่างตรงหน้าตกกระทบเหนือผ้าปูที่นอน เห็นเรือนผมสีทองอร่ามบนผ้าปูนั้น มีใครอีกคนอยู่ใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน

…?”

ปีเตอร์หยีตาและหยัดตัวลุก ทำให้ผ้านวมบนร่างเลื่อนหลุด จึงเห็นเรียวแขนอีกฝ่ายกอดเอวเขาไว้ ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีทองสว่างหนุนบนแผ่นอกปีเตอร์ นวลแก้มขาวละเอียดแนบติดหน้าอก ซึ่งก็หมายความว่าอกเขาเปลือยเปล่า ไร้เส้นใยเสื้อผ้าปกปิด

ไลนัสผู้นอนหนุนอกปีเตอร์ขยับคล้ายไม่สบายตัวแล้วยิ่งรัดเอวปีเตอร์เข้าหาตัวเองแน่น ปีเตอร์ตัวแข็งทื่อ ไม่กล้ากระทั่งกะพริบตา

ช่างเป็นเช้าที่ไม่โสภาเสียเลย

 

***************

 

ปีเตอร์หลุดจากห้วงความคิด ความทรงจำในอดีตฉุดข้อเท้าเขาให้จมจ่อมขณะนั่งพัก ทว่าตอนนี้ไม่มีเวลาให้ตะเกียกตะกายหนีอดีต เขาตั้งสติแล้วเริ่มตรวจตราห้องพักผู้ป่วยของแซม

ปีเตอร์รื้อสำรวจกระทั่งผนังห้อง เขาไม่เจอเครื่องดักฟังหรือกล้องแอบถ่าย ความหนาของผนังก็เพียงพอ ใช้กันเสียงได้ดีเทียบเท่าห้องอัดเสียง แม้อาจไม่ถึงกับคลายใจได้ แต่ก็พอใช้ลอบคุยกันเบา ๆ ไหว ปีเตอร์วางกระเป๋าไว้ด้านหนึ่งแล้วถามแซม

“รู้สึกว่าถูกจับตามองเป็นพิเศษบ้างไหมครับ”

แซมยักไหล่

“คำว่าถูกจับตามอง สำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลก็คือคอยถูกสอดส่องดูแลน่ะนะ ในหนึ่งวันคุณหมอประจำตัวคนเมื่อกี้จะมาตรวจอาการผมสี่ครั้ง แล้วก็มีนีนาซึ่งเป็นนางพยาบาลที่เข้าออกห้องพักผมบ่อย ๆ”

“บ่อย ๆ งั้นเหรอครับ”

ปีเตอร์ชำเลืองมองประตูห้องผู้ป่วยอย่างระแวดระวัง แซมหัวเราะร่า

“ไม่ต้องเครียด ๆ นีนาเป็นคนที่ผมพามาเอง เธอคอยดูแลผมตั้งแต่ก่อนเข้าโรงพยาบาลแล้ว”

“เธอรู้เรื่องผมด้วยไหมครับ”

“รู้สิ” แซมพยักหน้า อันที่จริงถ้าบอกว่าทำงานดูแลแซมตั้งแต่ก่อนเข้าโรงพยาบาลนี้ หล่อนคงรู้จักเจเดน วูดส์ ตัวจริงอยู่แล้ว

“ถึงยังไงผมก็คิดว่าพวกที่ผมเจอตรงล็อบบี้ไม่ธรรมดา”

ปีเตอร์กล่าวพลางมุ่นคิ้ว ยิ่งใคร่ครวญก็ยิ่งเห็นว่าพฤติกรรมของลูดกับชายชราเมื่อครู่มีนัยลึกซึ้งเกินกว่าแค่เป็นการหยอกล้อของผู้ป่วยจิตเภท สองคนนั้นรู้รายละเอียดส่วนตัวเช่นการผ่าตัดรักษามะเร็งของแซม รู้กระทั่งสิ่งที่ปีเตอร์กรอกในเอกสารขอเยี่ยม ถึงจะพ่นคำโป้ปดมากมาย หากแต่ก็มีความจริงผสม โดยเฉพาะการยิงคำถามกับญาติผู้มาเยี่ยมเศรษฐีชราที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมว่ามาจากซีไอเอหรือเปล่า

“ไม่รู้สิ เรื่องหลานชายผมจะมาเยี่ยมก็ไม่ใช่ความลับสุดยอด…พวกเขาอาจรู้ตอนไปแกล้งมาร์กก็ได้”

แซมถูคาง เขาออกความเห็นว่าสองคนนั้นอาจแอบขโมยชาร์ตคนไข้จากมาร์กซึ่งเป็นหมอประจำตัวเขา แน่ละว่าหมอผู้น่าสงสารถูกขโมยทั้งเสื้อกาวน์และวิกผม จะถูกขโมยชาร์ตคนไข้กับตารางงานอีกก็ไม่แปลก แต่…

“แต่ยังไงก็ดูเหมือนสายลับจากองค์กรที่ปลอมตัวแทรกซึมมาเป็นผู้ป่วยอยู่ดีครับ”

คนที่จับตามองไลนัสไม่ได้มีแค่ซีไอเอ แต่ยังหมายรวมถึงหน่วยข่าวกรองจากทั่วโลก องค์กรค้าอาวุธอันตราย ยันพวกอันธพาลปลายแถว ในเมื่อที่นี่เป็นโรงพยาบาลจิตเวช พฤติกรรมเมื่อครู่อาจเป็นแค่การกลั่นแกล้งของผู้ป่วยทางจิตจริง ๆ ก็ได้ ทว่าก็ไม่ควรตัดสมมติฐานว่าอาจเป็นการจัดฉากเพื่อล่อกำจัดคู่แข่งออกไป เพราะถ้าแฉปีเตอร์สำเร็จ จะเท่ากับลดจำนวนคู่แข่งลง หากสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งใหญ่ถึงขนาดส่งผลต่อสงครามโลกครั้งที่สามจริง ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายย่อมต้องการขัดขวางคู่แข่งด้วย

“เอาเถอะ ตาแก่อย่างผมก็ไม่ค่อยรู้ลึก แต่คงมีคลื่นใต้น้ำอยู่แน่ ๆ เพราะจู่ ๆ มักมีใครบางคนหายตัวไปเสมอ”

เสียงแซมลดต่ำ

“…จู่ ๆ ก็หายตัวไปเหรอครับ”

“ใช่ แล้วทุกคนก็ไม่พูดถึงเลยด้วย เป็นต้นว่าพวกเขาเปลี่ยนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ่อย ๆ ไม่ก็มีคนแผนกทำความสะอาดหายหน้าไป…ตอนแรกผมนึกว่าอุปาทาน แต่เดือนก่อนบุรุษพยาบาลคนหนึ่งก็เพิ่งหายไป เขาเพิ่งนัดจะมาเล่นโป๊กเกอร์กับผมวันรุ่งขึ้น แล้วจู่ ๆ ก็หายไปโดยไม่บอกกล่าว”

แซมเล่าต่อพลางส่ายหน้า “แต่ก็ไม่เห็นมีใครตามหาเขา” น้ำเสียงติดขมขื่น ฟังคล้ายคนที่เอ่ยถึงเสียชีวิตแล้ว

“เขาอาจจะแค่ลาออกก็ได้นี่ครับ”

การนัดเล่นโป๊กเกอร์กันวันพรุ่งนี้แล้วดันลาออกเลยนั้นดูแปลกก็จริง แต่ใคร ๆ ก็เบี้ยวนัดผู้ป่วยชราโรคสมองเสื่อมได้ พอได้ยินปีเตอร์จึงแย้งอย่างกังขา แซมเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

“ก็เป็นไปได้ แต่…เขาเป็นฝ่ายชวนเล่นโป๊กเกอร์เองนะ”

“เรื่องนั้น…”

คนที่ชวนเล่นโป๊กเกอร์วันพรุ่งนี้แล้วลาออกเลยเนี่ยนะ แบบนี้ประหลาดแน่

“บุคลิกเขาก็คล้าย ๆ พวกคุณ ขนาดตอนชวนเล่นโป๊กเกอร์ยังรู้สึกว่าเขาคล้ายพยายามหาทางชักจูงผม แต่ผมอาจคิดไปเองก็ได้”

แซมกล่าวเสียงติดจะขมขื่น

“ทว่ากรณีที่จับคนปลอมตัวมาสอดแนมได้และไล่ออกไปก็มีให้เห็นเป็นประจำทุกสองสามอาทิตย์ ฉะนั้นเรื่องที่ว่าโรงพยาบาลนี้มีแมลงวันตอมให้หึ่งก็เป็นเรื่องจริงแหละนะ”

หลายคนบุกเข้าห้องพักผู้ป่วยของไลนัสเพื่อชิงตัวเขา แทรกซึมเข้ามาล้วงข้อมูล หรือลอบติดต่อกับองค์กรภายนอก แล้วต่างก็ถูกจับได้ พวกทีมปฏิบัติภารกิจของซีไอเอก่อนหน้านี้ก็เช่นกัน

ปีเตอร์เคยข้องใจว่าทำไมทีมมากฝีมืออย่างซีดีดีหรือแบล็กฮอว์กถึงล้มเหลว ที่แท้ก็มีสายลับคนอื่น ๆ จากทั่วสารทิศคอยซุ่มขัดแข้งขัดขาอยู่ทั่วโรงพยาบาลนี่เอง

“เด็กนั่นเก่งขนาดนั้นเชียว เท่าที่ผมเห็นก็คนบ้าดี ๆ นี่แหละ”

แซมว่า เขาคงหมายถึงไลนัส “ไม่รู้สิครับ” ปีเตอร์ตอบยิ้ม ๆ

“ผมแค่ทำตามคำสั่ง”

ปีเตอร์เองก็อยากรู้ เขาไม่ได้ดูแคลนฝีมือเก็บข้อมูลของซีไอเอ แต่การบอกว่าไลนัสคนนั้นสร้างอาวุธ แถมอาวุธนั้นยังทำให้หน่วยข่าวกรองทั่วโลกอยู่ไม่สุข ไหนจะการพำนักในโรงพยาบาลจิตเวช ตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งที่ผิดนิสัยเจ้าตัว สิ่งเหล่านี้ล้วนฟังเหลือเชื่อสำหรับปีเตอร์

“เขาคงมีอะไรบางอย่าง ทุกคนถึงลงมือแบบนี้”

ไม่ว่าปีเตอร์จะเชื่อหรือไม่ ทุกคนก็พูดเรื่องไลนัสตรงกัน “นั่นสินะ” แซมว่าพลางพยักหน้า

“อลหม่านกันเหลือเกิน ผมก็คงได้แค่เฝ้าดูต่อไป”

แซมโน้มตัวใกล้ปีเตอร์แล้วกระซิบ

“ตามความคิดผม เจ้าหนุ่มคนนั้นน่ะ อันที่จริงแล้ว…”

ปีเตอร์แตะข้อมืออีกฝ่ายปรามให้เงียบ เนื่องจากตรงช่องกระจกบนประตูห้องพักผู้ป่วยที่ปีเตอร์คอยมองเป็นระยะนั้นปรากฏใบหน้าสีเหลืองอ๋อย

เจ้าสพันจ์บ็อบอีกแล้ว

ฝ่ายนั้นจ้องปีเตอร์เขม็ง

“…”

ปีเตอร์ชั่งใจว่าควรออกไปคุยด้วยหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่แล้วสพันจ์บ็อบก็ชูบางสิ่งให้เห็นจากหลังกรอบกระจก

เป็นกระเป๋าสีเทาหน้าตาคุ้น ๆ

ปีเตอร์กะพริบตาก่อนจะรีบค้นกระเป๋าที่วางไว้ข้างตัว โน้ตบุ๊กของเขา กระเป๋าสีเทาใส่โน้ตบุ๊กของปีเตอร์หายไปแล้ว

“เจ้าบ้านั่น!”

ปีเตอร์ดีดตัวลุกขึ้น พอมองช่องกระจกอีกทีเจ้าสพันจ์บ็อบก็หายจ้อย โน้ตบุ๊กเครื่องนั้นติดตั้งอุปกรณ์สำหรับแฮ็กห้องเซิร์ฟเวอร์ครบครัน เขาต้องใช้มันทำงาน

“เดี๋ยวผมมาครับ”

“แต่เราต้องเข้าเรียนวาดรูปนะ” แซมพูดไล่หลังปีเตอร์ผู้ลุกขึ้นยืน

“คุณไปพร้อมนีนาแล้วกันครับ ผมจะรอในห้องนี้” พูดจบเขาก็รีบออกจากห้อง

หยิบไปตอนไหนกันนะ ปีเตอร์ถือกระเป๋าติดตัวตลอดเวลา ตอนเข้าห้องพักของแซม เขาวางกระเป๋าไว้ใต้เท้า ในห้องก็ไม่มีใครเข้ามาด้วย ช่วงก่อนเข้าห้องเกิดเรื่องวุ่นวายก็จริง แต่เขากับเจ้าสพันจ์บ็อบแค่สบตากันอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เฉียดใกล้กระทั่งปลายนิ้ว เจ้านั่นไม่ใช่ผี ทำยังไงถึงล้วงโน้ตบุ๊กหนักเกือบสามกิโลกรัมออกจากกระเป๋าไปได้โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยเนี่ย

ปีเตอร์กวาดตามองทางเดินนอกห้องพักผู้ป่วย ก็เห็นขาสีเหลืองอ๋อยวิ่งตรงไปสุดหัวมุม เสียงชุดตุ๊กตาเสียดสีดัง ฟุ่บ ๆ ๆ ทั้งที่ควรวิ่งลำบาก แต่เจ้าสพันจ์บ็อบกลับวิ่งเร็วใช้ได้ ปีเตอร์กล้ำกลืนคำสบถแล้ววิ่งตามไป สพันจ์บ็อบชำเลืองมองปีเตอร์แวบหนึ่งแล้วเร่งฝีเท้า

ปีเตอร์เลี้ยวหัวมุม ทันเห็นอีกฝ่ายวิ่งหายไปทางมุมซ้าย ผนังสีขาวขับให้ร่างสีเหลืองเห็นชัดจนน่าหงุดหงิด

“…ฮึ่ย!”

ปีเตอร์อยากตะโกนว่าหยุดนะ แต่ไม่อาจทำเสียงดังในโรงพยาบาล ชายหนุ่มวิ่งเต็มฝีเท้า กระทั่งห่างกันแค่คืบ เสี้ยววินาทีที่เกือบจะคว้าตัวทัน เจ้าสพันจ์บ็อบก็เลี้ยวเข้าหัวมุมอีกครั้ง

“จับได้ละ…!”

ปีเตอร์ยึดราวจับกันลื่นบนผนังไว้มั่นขณะวิ่งเลี้ยวแล้วเอื้อมมือคว้า

ทว่าวินาทีต่อมามือปีเตอร์กลับคว้าได้เพียงอากาศ สพันจ์บ็อบหายวับ ทั่วทางเดินสีขาวสะอาดไม่เห็นร่างสีเหลืองโดดเด่นนั้นเลยทั้ง ๆ ที่ไม่มีที่ให้ซ่อนตัวด้วยซ้ำ

“แฮก ๆ…”

หรือเจ้านั่นจะเป็นผีจริง ๆ ปีเตอร์หอบหายใจพลางมองรอบตัว เขาเห็นกระเป๋าสีเทาวางพิงผนังมุมหนึ่ง โน้ตบุ๊กของเขานี่ ปีเตอร์รีบก้มหยิบ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแหบห้าวของใครบางคน

“จัดการเรียบร้อยไหม”

ปีเตอร์ย่อตัวลงแล้วเลื่อนสายตามองฝั่งตรงข้าม

“แน่นอนครับ มันจะหายวับชนิดหมดจดสุด ๆ”

บริเวณมุมมืดทำให้ปีเตอร์ไม่เห็นหน้าคนที่ยืนเยื้องอยู่ข้างหลัง

“เป็นคำเตือนที่ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ ยังไงจากนี้ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”

‘หมายความว่าไง’ ปีเตอร์คิด เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจบทสนทนาของผู้ป่วยทางจิตก็จริง ทว่าเสียงฝ่ายนั้นกลับคุ้นหูชอบกล ปีเตอร์ขยับแว่นที่เลื่อนลงมาถึงปลายจมูกพลางจับตามองชายทั้งสองคนที่คุยกันหน้าประตูฉุกเฉิน คนหนึ่งนั่งรถเข็นผู้ป่วย อีกคนอยู่ในชุดบุรุษพยาบาล

“คงไม่มีใครถอดใจด้วยเรื่องแค่นี้ แต่อย่างน้อยก็ขวางไม่ให้ไอ้พวกอเมริกันหน้าโง่แย่งไปได้”

เสียงห้าวใหญ่ทำให้เขาหรี่ตาลงเงียบ ๆ พวกอเมริกันหน้าโง่ที่ว่าหมายถึงซีไอเอใช่ไหมนะ

ปีเตอร์ชะเง้อมองคนบนรถเข็น เห็นชายอายุประมาณสี่สิบปี รูปร่างท่าทางบึกบึน เริ่มมีเส้นผมหงอกขาวประปราย เป็นใบหน้าที่ปีเตอร์เคยเห็นที่ไหนสักแห่ง ขณะทบทวนความจำจากเสียงที่คุ้นหูกับใบหน้าที่คุ้นตา อีกฝ่ายพลันหันมองมาทางปีเตอร์

ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง ท่าทางดูตกตะลึงเกินกว่าแค่เพราะถูกคนอื่นเห็น ขณะอีกฝ่ายอ้าปากคล้ายจะเอื้อนเอ่ย ฉับพลันนั้น

ตูม!

เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมแสงสว่างวาบ เป็นระเบิดนั่นเอง ชายคนที่สบตาปีเตอร์ทำสีหน้าผิดหวัง ปีเตอร์จ้องพวกเขาในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืนแล้วหันมองข้างหลัง

“…หรือว่า”

ลางสังหรณ์ผุดวาบพร้อมความมั่นใจจาง ๆ อกปีเตอร์เย็นเยียบ เขารีบวิ่งห้อย้อนไปตามทางเดินที่ไล่ตามสพันจ์บ็อบมา

ซ่าาาา… สายน้ำจากหัวฉีดพ่นละอองน้ำทั่วทางเดิน ฝูงชนมุงส่งเสียงเซ็งแซ่ หลายคนถือเครื่องดับเพลิงฉีดใส่เชื้อไฟที่ยังลุกโชน

“…”

“บ้าฉิบ” ปีเตอร์สบถก่อนกัดริมฝีปาก

ลางสังหรณ์เขาถูกต้อง เป็นห้องพักผู้ป่วยของแซมจริง ๆ ปีเตอร์เดินแหวกผู้คนเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นประตูห้องพักหลุดกระเด็น ผนังห้องทุกด้านไหม้เกรียม มีร่างอาบเลือดนอนสลบหน้าประตู รายล้อมด้วยหมอกับพวกพยาบาล คนคนนั้นคงเป็นแซม

“เดี๋ยวครับ ห้ามเข้ามา”

คนสวมหน้ากากขวางปีเตอร์ไว้

“นี่เป็นห้องพักคุณตาของผมครับ คุณตาล่ะครับ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม”

ปีเตอร์รีบถามทีมแพทย์ มาร์กซึ่งเป็นหมอประจำตัวของแซมเดินมาหาด้วยหน้าตาชุ่มเหงื่อ

“เรากำลังทำซีพีอาร์[1]ให้ครับ เดี๋ยวจะย้ายเขาเข้าห้องผ่าตัด”

ใบหน้าอาบเลือดของแซมสวมทับด้วยเครื่องช่วยหายใจ เขากำลังจะถูกย้ายขึ้นเตียงเข็น ทุกคนเร่งมือทำงาน แซมปรือตาอย่างเจ็บปวด เกิดอาการกระตุก แล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง

“กะ…เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ”

“เกิดระเบิดน่ะครับ ยังไม่รู้ว่าเกิดจาก…เดี๋ยวคุณวูดส์! ห้ามเข้าไปครับ!”

ปีเตอร์ไม่สนใจที่มาร์กร้องห้าม เขาอุดจมูกเดินเข้าไปในห้องพักไหม้เกรียม น้ำจากหัวฉีดดับเพลิงโปรยปรายจนทั่ว ทว่าไอร้อนยังคงหลงเหลือ ดูจากกลิ่นควันกับรอยเผาไหม้ คาดว่าคงเป็นระเบิดซีโฟร์[2] จุดระเบิดคือนอกหน้าต่าง ตำแหน่งเดียวกับที่เขาเพิ่งนั่งเมื่อครู่

ปีเตอร์ถอดแว่นตาเก็บใส่กระเป๋า ใช้หลังมือปาดใบหน้าเปียกชื้น กลิ่นเนื้อไหม้ผสมในมวลอากาศชื้นแฉะ ห้องพักผู้ป่วยสุดหรูเหลือเพียงเถ้าถ่านในพริบตา

ไหล่ปีเตอร์สั่นสะท้านเพราะเหตุการณ์ปองร้ายที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มาร์กตามมาดึงตัวเขาออกจากห้อง

“…”

ปีเตอร์ไม่เห็นวี่แววเจ้าสพันจ์บ็อบผู้เผอิญช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อครู่ ทว่าด้านหลังพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยกันฝูงชนมุงอยู่ไกล ๆ นั้น ปีเตอร์เห็นชายบนรถเข็น น้อยคนนักจะรู้จักใบหน้าของชายคนนั้น แต่ปีเตอร์นึกออกแล้ว เขารู้จักอีกฝ่าย

ซาโมร์…เป้าหมายของภารกิจภาคสนามครั้งสุดท้ายของปีเตอร์เมื่อสามปีก่อน ข่าวกรองระบุว่า กลุ่มค้าอาวุธสุดอันตรายของบราซิลมีการค้าอาวุธในอัฟกานิสถาน ภารกิจครั้งนั้นล้มเหลว อย่าว่าแต่จับกุมไม่สำเร็จเลย แค่หาเบาะแสเพิ่มยังไม่เจอ ซ้ำร้ายรุ่นพี่ร่วมภารกิจยังถูกยิงเข้าอกสามนัดจนถึงแก่ความตาย เมื่อครู่ปีเตอร์เองก็หวิดจะสิ้นชื่อแล้วเช่นกัน

ซาโมร์เดาะลิ้นอย่างเสียดาย สีหน้าเจ้าตัวไม่คิดจะปิดบังสักนิดว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิด เจ้าตัวยักไหล่เมื่อสบตาปีเตอร์คล้ายจะบอกว่า เสียดายจังที่จัดการนายไม่ได้

“…”

ปีเตอร์เผลอกัดฟันกรอด หากในมือมีปืนคงได้ยิงเจ้านั่นทิ้งแล้ว

ภาพตรงหน้าปีเตอร์พร่ามัว คนดูแลชื่อนีนาเพิ่งวิ่งมาถึง พอรู้เรื่องก็ร้องไห้โฮ ปีเตอร์ประคองหล่อนพลางปลอบโยนขณะจ้องซาโมร์เขม็ง ใจอยากเปิดโปงอีกฝ่ายว่าเป็นคนร้ายวางระเบิดและเป็นพ่อค้าอาวุธที่ลักลอบเข้ามาหาทางชิงตัวไลนัส แต่ขืนทำแบบนั้น ภารกิจทุกอย่างจะเท่ากับล้มเหลว

ซีไอเอไม่ใช่อาชีพที่อบอุ่นและเป็นธรรมนักหรอก

“ย้ายแซมเข้าห้องผ่าตัดแล้วครับ คุณจะอยู่ตรงนี้ต่อเหรอ”

มาร์กถามอย่างระมัดระวัง  ปีเตอร์จึงเดินตามนายแพทย์ไปพลางจ้องซาโมร์ อีกฝ่ายโบกมือให้ก่อนหายลับไปจากทางเดิน

“…”

ไลนัส แล้วยังมีซาโมร์

ดูท่าโรงพยาบาลแห่งนี้คงมีวิญญาณพยาบาทจากอดีตสิงอยู่แหง ๆ

 

 

[1] Cardiopulmonary Resuscitation คือ การช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังจะหยุดหายใจหรือหัวใจจะหยุดเต้นด้วยการนวดหัวใจและผายปอด

[2] C-4 คือ ระเบิดพลาสติกชนิดหนึ่งที่ใช้ในการทหาร

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า