Dec
Mindfulness คือวิธีพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Apple, Nike ฯลฯ ใช้พัฒนาบุคคลกรมานับ 10 ปี จนประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด
Mindfulnessหรือ การเจริญสติเป็นวิธีการที่จดจ่อไปที่อารมณ์ ความคิด และความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างตั้งใจ เช่นการ กำหนดลมหายใจ ยอมรับตัวเอง หรือนอกจากนี้การนั่งทำสมาธิเดินทำสมาธิก็เป็นหนึ่งในวิธีเจริญสติด้วย
มาดูกันว่า Mindfulness ดีอย่างไร ทำไมองค์กรใหญ่ระดับโลกถึงนำไปใช้
Mindfulness ได้รับความนิยมในโลกตะวันตกมาก
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Apple, Google, IBM, Nike ฯลฯ จึงประสบความสำเร็จในการประกอบกิจการ ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการที่ดีขึ้น กำไรเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานเติบโตขึ้น ขณะที่พนักงานก็มีความสุขในการทำงาน ตลอดจนมีการพัฒนาทักษะต่างๆ และมีความเป็นผู้นำมากขึ้น
คำตอบคือการองค์กรเหล่านั้นใช้การพัฒนาบุคลากรโดยใช้การฝึกเจริญสติอย่างจริงจังนั่นเอง
Google นำ MindFulness ไปใช้ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน มีชื่อว่า “Search Inside Yourself” โดยเชื่อว่าการทำเจริญสตินั้นจะช่วยสอนในด้านความฉลาดทางด้านอารมณ์ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจในแรงจูงใจของเพื่อนร่วมงานมากขึ้น มีรายงานว่าหลังการทำเจริญสติทำให้อดทนมากขึ้น รับฟังได้ดีขึ้น และช่วยลดความเครียดได้ ทางบริษัทใหญ่ยักษ์อย่าง Apple นั้นก็มีนโยบายอนุญาตให้พนักงานสามารถใช้เวลา 30 นาทีเพื่อนั่งสมาธิและเล่นโยคะในที่ทำงาน หรือบริษัท Nike ได้มีการจัดห้องไว้ให้สำหรับพนักงานได้พักผ่อน และให้พนักงานได้นั่งสมาธิหรือเล่นโยคะ
Attention Deficit Trait หรือ ADT
สถิติจากงานวิจัยของ แมทธิว เอ. คิลลิงสเวิร์ธ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ววันหนึ่งคนเราจะใจลอยบ่อยถึง 47% และมากกว่า 70% ของคนที่เข้าร่วมประชุมจะไม่สามารถจดจ่อกับเรื่องที่ประชุมได้
Harvard Business Review เมื่อปีพ.ศ. 2548 ระบุว่า เริ่มมีผู้ใหญ่ที่มีอาการคล้ายกับโรคสมาธิสั้นมาเข้ารับการรักษามากขึ้น แต่เมื่อวินิจฉัยดูก็ไม่ได้เป็นโรคสมาธิสั้น แต่เป็นโรคอีกชนิดหนึ่งที่มีอาการคล้ายกับโรคสมาธิสั้น สาเหตุหลักมาจากปัจจัยแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ดี แทนที่จะเกิดจากพันธุกรรมเหมือนกันสมาธิสั้นทั่วๆ ไป คุณหมอจึงตั้งชื่อโรคใหม่นี้ว่า Attention Deficit Trait หรือ ADT
ผู้ที่เป็นโรค ADT มักจะมีปัญหาเรื่องการลำดับความสำคัญ การจัดระบบ และการบริหารเวลา เพราะเขาไม่สามารถจดจ่ออยู่กับงานใดงานหนึ่งได้นาน จะถูกดึงดูดด้วยงานอย่างอื่น แม้คนภายนอกจะเห็นว่าเขาดูนิ่งๆ ไม่ร้อนรน แต่ภายในใจนั้นสับสน วุ่นวาย ขาดสมาธิ โดยเฉพาะเวลารู้สึกกดดัน เช่น ต้องรีบ ต้องทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กัน ทำให้ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเวลาได้สงบ จึงทำให้สมองตอบสนองต่อการทำงานที่รีบเร่ง และเริ่มละเลยประสิทธิภาพของงาน
ซึ่งเป็นผลมาจากการขาด Mindfulness นั่นเอง เมื่อขาดไป จะทำให้เราคิดไม่เป็น ไม่เรียนรู้ ไม่ปรับตัว นานครั้งเข้าก็อาจป่วยทางใจ ชอบใช้อารมณ์ทำงาน ส่งเสียงตะคอกโวยวาย สร้างปัญหาเพราะขาดสติ สุดท้ายก็เสียงานเสียการไปหมด
ประโยชน์ของ Mindfulness
โปรแกรม Search Inside Yourself ของ Google เกิดจากการทดลอง โดยแบ่งพนักงานวิศวกรที่ล้วนเป็นคนเก่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือพวกวิศวกรที่ให้ทำงานอย่างเดียว 100% และกลุ่มสองคือทำงานแค่ 80% อีก 20% ที่เหลือให้เข้าคอร์ส Search Inside Yourself ผลปรากฏว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนและ 6 เดือนผ่านไป กลุ่มสองที่เข้าคอร์ส Search Inside Yourself มี Productivity สูงกว่ากลุ่มแรกถึง 2 เท่า
การฝึก Mindfulness จะทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ดังนี้
หนึ่ง Creativity เกิดความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น
สอง Confident เกิดความมั่นใจ
สาม Communication เกิดการสื่อสารที่ดี และทำให้ความเป็นทีมเกิดขึ้นตามมา
นั่นเป็นเพราะช่วงเวลา 20% ที่พนักงานเข้าคอร์สนั้น ทำให้การสื่อสารเกิดขึ้น ทีมเวิร์คเกิดขึ้น คนทำงานไม่ด่ากัน ไม่ว่ากัน ดังนั้นการทำงานที่เหลือ 80% จึงกลายเป็นงานที่มีคุณภาพมากขึ้น 2 เท่า
ส่วนอีกกลุ่มที่ทำแต่งาน 100% เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ การไม่สื่อสาร นั่งจมอยู่หน้าจอแต่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร นั่งเครียด และสุดท้ายทีมพัง หลังจาก Google ได้ทำวิจัยตรงนี้เสร็จ เขาจึงขยายผลเป็นโปรแกรม Search Inside Yourself ที่ทำกันทั่วทั้งบริษัททันทีตั้งแต่ปี 2007 จนประสบความสำเร็จและขยายไปทั่วโลก
ปัญหาส่วนใหญ่ขององค์กรมาจากคน
หากสังเกตจะพบว่าปัญหาส่วนใหญ่ในองค์กร หรือกระทั่งในชุมชนและในครอบครัวมีสาเหตุมาจากคน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการฉ้อโกง ไม่กล้าสื่อสาร ไม่พูดความจริง ขาดความกระตือรือร้น ฯลฯ ล้วนมาจากคนทั้งสิ้น และต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดก็มาจาก “จิตใจ” เป็นส่วนใหญ่ เป็นจิตใจที่ยังไม่ได้รับการฝึกฝนและควบคุม ซึ่งหนึ่งในวิธีการฝึกใจก็คือการฝึกสติ หรือการรับรู้กาย รู้ใจ รู้ความคิดของตัวเรานั่นเอง
ลองนำ Mindfulness ไปปรับใช้ในองค์กร เริ่มจากสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดอย่างการนั่งสมาธิ แล้วค่อยขยับไปทำเรื่องอื่นๆ ใช้เวลาเพียง 20% ในช่วงเวลาทำงาน แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ข้อมูลจากหนังสือ Mindfulness in Action ฝึกใจง่ายๆ เก่งได้อีก
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ
Nak-อ่าน EP.7 Mindfulness มา ปัญญาเกิด โดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ
อิคิไก IKIGAI ความหมายของการทำงาน ความหมายของการมีชีวิตอยู่ โดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ
4 คำถามเช็กว่าคุณอยากทำงานนี้จริงหรือเปล่า ก่อนที่จะคิดเปลี่ยนงาน