แก้วเก้า เป็นนามปากกาของรองศาสตราจารย์ คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ (สกุลเดิม วินิจฉัยกุล) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2547 ที่ใช้สำหรับหนังสือนวนิยายเหนือธรรมชาติ โดย แก้วเก้า ถือว่าเป็นนามปากกาอันดับที่ 2 ต่อจากนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล
ชีวิตวัยเด็กของคุณหญิงวินิตา คือการอ่านหนังสือที่อยู่ในบ้าน เนื่องจากพ่อแม่ของคุณหญิงนั้นเป็นคนที่รักหนังสือ แม้ว่าในช่วงแรกของการเป็นนักเขียนจะโดนผู้เป็นแม่มองว่าเป็นอาชีพไส้แห้ง จนต้องใช้เวลาจนคุณแม่อายุ 88 ปี ถึงถูกยอมรับก็ตาม อย่างไรก็ตามผลงานของ ว.วินิจฉัยกุล และ แก้วเก้า ก็โด่งดังและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนถูกนำไปสร้างเป็นละครทีวีหลายเรื่อง โดยนวนิยายเรื่องเยี่ยมจาก แก้วเก้า ที่จัดพิมพ์โดย บ้านอรุณ มีดังนี้
เมืองมธุรส
เรื่องราวของบรรณารักษ์สาวที่ทำงานพิเศษอยู่ในเมืองย้อนยุคจำลอง แต่จู่ ๆ กลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้เธอหลุดเข้าไปในนวนิยายที่มีชื่อว่า “ดอกไม้สด” นวนิยายเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เมื่อชีวิตสมรสของ วไล ที่เหมือนจะเป็นไปด้วยดี จนวไลคลอดบุตรเธอก็กลายเป็น “ของเก่า” ของสามีตรงตามที่อมราทำนายไว้ จากนั้นหลวงปราโมทย์ได้ สำรวย พี่เลี้ยงสาวสวยของบุตรชายเป็นเมียน้อย แม้วไลพอจะรู้เท่าทันว่าสามีเริ่มจืดจาง ก็พยายามอดทนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไล่สำรวยออกจากย้านทำตัวเป็นศรีภริยาที่ดีงาม ปรนนิบัติดูแลสามีไม่ให้บกพร่อง แต่ก็ไม่อาจเอาชนะใจที่ต้องการของใหม่ได้อยู่ดี เมื่อหลวงปราโมทย์พาสำรวยและจำลองเมียเก่าไปเที่ยวอย่างเปิดเผยให้ผู้คนเห็นกันทั่ว จนวไลยื่นคำขาดให้สามีเลือก ผลคือสามีเลือกฝ่ายเมียน้อย เธอก็พาลูกกลับมาอยู่บ้านบิดา ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวพระยาธรรมสาส์นและพระยาศรีศุภเวทก็ขาดสะบั้น เป็นเหตุให้ความรักระหว่างอมราและอำนวยน้องชายของหลวงปราโมทย์พลอยเจออุปสรรคใหญ่เกือบจะต้องเลิกกันทั้งๆ รัก และแล้วก็มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยคือ หลวงนฤบาลบันเทิง ชายหนุ่มผู้หมายปองวไลมาก่อน ..
ช่อมะลิลา
เรื่องราวของดวงวิญญาณของปิ่นเมือง คุณหญิงแห่งเจ้าคุณเสมาเมือง หรือ “พี่เมือง” ถูกผูกติดอยู่กับเรือนที่เธอเคยมีชิวิตอยู่ ไว้ด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อสามี ต่อมาในยุคปัจจุบัน ภูมิไทย ผู้มาอยู่ใหม่ในบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่ พบรูปถ่ายของเธอ และต้องการจะสืบค้นตัวตน และเรื่องราวในอดีตของเธอ เธอจึงปรากฏตัวขึ้น เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตทั้งหมดให้เขาฟังพร้อมทั้งพยายามขอร้องให้เขาหยุดสืบค้นเรื่องราวทั้งหมดนี้ ด้วยกลัวว่าเรื่องอื้อฉาวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอดีตจะทำลายเกียรติของสามีเธอ
ดวงวิญญาณของเธอยังคงรอคอยอะไรบางอย่างที่จะมาช่วยปลดปล่อยความรู้สึกผิดที่กัดกินใจเธอจากในอดีต มาจนถึงปัจจุบัน ที่ทำให้เธอไม่สามารถไปไหนได้จนต้องถูกจองจำผูกมัดตัวเองอยู่กับเรือนหลังนี้ ภูมิไทยจะสามารถสืบหาความจริงจากในอดีต และปลดปล่อยดวงวิญญาณของปิ่นเมืองได้หรือไม่
ปลายเทียน
เรื่องราวของ สร้อยสุมาลีและเพชรกล้า พร้อมนางพี่เลี้ยงจากเรื่องขุนช้างขุนแผน เดินทางข้ามเวลามาสู่ยุคปัจจุบันผ่านสมุดข่อยโบราณ โดยมี วงศ์เมือง นักเขียนนิยายผู้หลงใหลของเก่าและเรื่องโบราณ เป็นผู้ประมูลได้จากการประมูลของเก่า และช่วยเหลือสร้อยสุมาลีและเพชรกล้า โดยให้หลบหนีมาพักพิงที่บ้านโบราณของเขา
แก้วเก้า ได้พูดถึงความยากของเรื่องนี้อยู่ที่การ ‘ถอด’ กลิ่นอายของขุนช้างขุนแผน ออกมาไว้ในนวนิยาย สิ่งที่ยากที่สุดคือการแต่งเสภา ให้เข้ากับบรรยากาศของนวนิยายในรูปของคําพูดตัวละคร จากวรรณคดี พร้อมกับรักษาแบบแผนการแต่งและศัพท์สํานวนที่ใช้ในขุนช้างขุนแผนเอาไว้ ให้ได้รสชาติคล้ายกันสุดความสามารถของผู้เขียน
ผ้าทอง
เรื่องราวชีวิตของ “อุมา” หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสง่า และความอ่อนหวาน แต่ถึงอย่างนั้นเธอยังมีความแข็งแกร่งดั่งหินผาดุจเทพธิดาที่บางคนคิดว่ามีปีศาจร้ายแฝงอยู่ในร่าง ไม่ต่างอะไรจาก ‘ผ้าทอง’ ของเธอซึ่งงดงามสูงค่า แต่เจือด้วยความโหดเหี้ยมต่ำช้าผ้าทองที่เธอสร้างมันขึ้นมาคือพรสวรรค์หรือคำสาป ที่ยากจากกันไม่ออกทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก้ำกึ่งกันอยู่ระหว่างอาถรรพณ์ ความเชื่อ และความบังเอิญที่แม้แต่อุมาเอง…ก็ไม่อาจแน่ใจ
แต่ปางก่อน
เรื่องราวเมื่อ พ.ศ.2490 ราชาวดี ปชาธร เรียนจบจากคอนแวนต์แล้วมาเป็นครูประจำโรงเรียนกุลนารีวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตวังเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 6 สถานที่แห่งนี้นำหล่อนมาพบดวงวิญญาณ หม่อมเจ้ารังสิธร (ท่านชายใหญ่) อดีตเจ้าของวังและตำหนักริมน้ำ-อาคารฝรั่งแบบบ้านในอังกฤษสมัยราชวงศ์ทิวดอร์ ราชาวดีรู้สึกผูกพันและสนใจตำหนักริมน้ำมาก กระทั่งความสนใจพาหล่อนเข้าไปพัวพันกับ หม่อมราชวงศ์จิรายุส เจ้าของวังและตำหนักริมน้ำคนปัจจุบัน คุณชายจิรายุสหลงรักราชาวดี ทั้งที่หมั้นอยู่กับหม่อมราชวงศ์สวรรยา แต่ราชาวดีผูกพันอยู่กับวิญญาณหม่อมเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ท่านชายใหญ่พาหล่อนเข้าไปล่วงรู้อดีตชาติ ว่าครั้งหนึ่งหล่อนคือ เจ้านางม่านแก้ว (เจ้านางน้อย) เจ้าหญิงจากต่างแดนที่เคยพำนักอยู่ในวังเก่าแห่งนี้ และเคยเป็นคนรักของท่านชายใหญ่ ถึงอย่างนั้นหนทางแห่งรักของท่านทั้งสองมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ…
นวนิยายเรื่องนี้ถูกสร้างเป็นละครแล้วถึง 3 ครั้งด้วยดันทั้งในปีพ.ศ.2530 , พ.ศ.2548 และครั้งล่าสุดเมื่อปีพ.ศ.2560 ที่ผ่านมา แสดงนำโดย ยุกต์ ส่งไพศาล และ วรรณรท สนธิไชย
นิรมิต
เรื่องราวของ “ภูวง” ชายผู้สร้าง ภังคี ให้มาเป็นคนที่ทำในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาไม่อาจทำได้ แต่ในการภังคีนั้น เขาได้ใส่ความโกรธแค้นและความริษยามากมายเสียจนภังคีเป็นบุคคลที่มีแต่ความชั่วร้าย คิดแต่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะแบบนั้นภูวงจึงตัดสินใจสร้าง ไทวัน ขึ้นมาเพื่อปราบภังคีลงให้ได้
นิรมิตเป็นอีกนวนิยายที่ถูกนำไปสร้างเป็นละคร ในปี 2539 โดยมี ธงไชย แมคอินไตย์ นักร้องมากความสามารถรับบทถึง 3 บทคู่กับ อารียา สิริโสภา นางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2537
หนังสือมีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
หรือสั่งซื้ออนไลน์ได้ ที่นี่