[ทดลองอ่าน] นายหยุดแกล้งฉันได้ไหม ตอนที่ 66

你能不能不撩我
นายหยุดแกล้งฉันได้ไหม

 

焦糖冬瓜 เจียวถังตงกวา เขียน
สีน้ำ แปล
JYUN (Kang Jiyun) วาด

 

— โปรย —

การแข่งขันฟอร์มูลาวันประจำฤดูกาลเดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย
ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับวินสตันเข้าจนได้
สิ่งที่อีกฝ่ายฝากฝังฮันท์เอาไว้คือให้พุ่งเข้าเส้นชัยแทนเขา
ท้ายที่สุดฮันท์ก็คว้าแชมป์แรกมาได้
แต่ข่าวร้ายกลับกลายเป็นว่าวินสตันไม่สามารถลงแข่งในสนามถัดไปได้

และใครจะรู้ว่าหลังจากเขาคว้าแชมป์สนามย่อยมาได้
วินสตันกลับจัดรางวัลชุดใหญ่ไฟกะพริบเป็นปาร์ตี้บันนี่บอยสุดสยิวให้เขา!
พระเจ้า ราชากระต่ายอย่างเขาต้องล้อมรอบไปด้วยบันนี่เกิร์ลสิโว้ย!

แถมเขายังได้รับของขวัญเยอะแยะมากมาย
แต่ของขวัญชิ้นที่เขาดีใจที่สุดกลับเป็นการที่เขาสามารถซื้อบ้านในวัยเด็กกลับคืนมาได้
บ้านหลังใหญ่ที่ไร้ผู้คนมานาน ในที่สุดก็มีสองชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
นี่มันรางวัลที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าการได้แชมป์เสียอีก

ไม่ว่าจะอีกกี่ปีข้างหน้า ความปรารถนาสูงสุดของเขาก็คือการไล่ล่าความเร็วไปพร้อมกับวินสตัน
ปกครองอาณาจักรแห่งความเร็วนี้ไปด้วยกันชั่วนิรันดร์

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

บทที่ 66 ไสหัวไป

 

ฮันต์ระแวงขึ้นมาชั่วขณะ

“นายคิดว่ายังไงล่ะ” วินสตันก้มศีรษะลงมา ปลายจมูกปัดผ่านแก้มของฮันต์ ก่อนจะจูบลงตรงซอกคอของเขา

เลือดในกายสูบฉีดไปทุกจุดที่ปลายลิ้นของเขาสัมผัส

ฮันต์ใช้มือข้างหนึ่งจับตัววินสตัน แล้วออกแรงยกกลางลำตัวขึ้นเพื่อผลักชายที่ทาบอยู่บนร่างออก แต่เข่าของวินสตันกลับยกขึ้นมาทาบทับบนขาข้างหนึ่งของเขาเสียดื้อ ๆ ทำให้ฮันต์สูญเสียจุดส่งแรงโดยสมบูรณ์

“คนชั่ว! สารเลว! ไอ้ชั่ว!” ฮันต์ร้องออกมาอย่างโมโห ในใจของเขาเปี่ยมด้วยความไม่ยอมแพ้

ข้อมือโดนมือของวินสตันกุมและกดไว้ข้างหมอนแน่น แรงของตนก็มีไม่น้อยแท้ ๆ แต่พออยู่ต่อหน้าวินสตันกลับเหมือนเด็กน้อยอ่อนแอ

วินสตันยิ้มบางมองเขา แต่ฮันต์กลับมองเห็นความปรารถนาที่ถูกกักเก็บจนแทบระเบิดโพลงอยู่ในดวงตาคู่นั้น

เขาก้มหน้าลงมาไล้เลียตรงช่องระหว่างกลีบปากที่เม้มแน่นของฮันต์

ปอยผมของเขาปัดผ่านแก้มฮันต์ให้รู้สึกคันยุบยิบ

“ยังจะเล่นอีกไหม” วินสตันถาม

“ไม่เล่นแล้ว…” ฮันต์เอ่ยอย่างยอมแพ้

รอฉันซ้อมจนเก่งก่อนเถอะ จะจับนายกดจนลุกไม่ขึ้น!

“นายยังอยากสนุกอยู่หรือว่าไม่อยากสนุกแล้ว” คางของวินสตันไล้ปลายจมูกฮันต์

“ไม่อยากสนุกแล้ว! กลางค่ำกลางคืนไม่ต้องเต็มที่กับชีวิตขนาดนั้นก็ได้! อีกไม่กี่วันก็จะถึงรอบซ้อมอิสระแล้ว!” ฮันต์ตะโกนเสียงสูง

“จริงอะ รอบซ้อมอิสระอีกตั้งสามวันนะ ถ้าคืนนี้ฉันพานายทำเรื่องสนุก ๆ พอถึงรอบซ้อมอิสระนายก็ต้องหายดีแล้วแน่ ๆ เลยใช่ไหม”

เสียงของวินสตันแหบพร่า ฮันต์สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของอีกฝ่าย ขาอีกข้างของเขาจึงออกแรงเตะ

“ฉันง่วงแล้ว! นายลงไปเลย…ฉันจะนอน!”

ฮันต์ออกแรงดิ้น เสื้อยืดของเขาที่เดิมทีถูกรั้งขึ้นไปอยู่แล้ว ตอนนี้แทบจะหลุดติดมือวินสตันไป

“ยังไม่หยุดขยับอีก นายอยากตายใช่ไหม” วินสตันพลันก้มศีรษะลงมาทาบทับฮันต์อย่างแนบแน่น

ฮันต์ตัวเกร็ง ไม่กล้าขยับแล้ว หัวใจเต้นระรัวไม่หยุด

“ช่วยฉันปลดปล่อยมันออกมาหน่อย” เสียงของวินสตันฟังดูข่มกลั้นมาก ทว่าฮันต์กลับยิ่งไม่กล้าขยับ

ผ่านไปอีกสองวินาทีฮันต์ถึงได้เกร็งคอหันหน้าไปด้านข้าง เขาพบว่าเส้นเลือดบนขมับของวินสตันปูดขึ้นมา และนิ้วที่กุมฮันต์ไว้ก็แทบจะบดขยี้ข้อมือของเขา

“ฮันต์…”

การเรียกชื่อของเขาคราวนี้แตกต่างกับเมื่อก่อน มันเจือความเว้าวอนที่ยากจะอดกลั้น

“นาย…นายปล่อยฉัน…ฉันจะช่วยนาย…”

วินสตันคลายนิ้วออกทันควัน เมื่อฮันต์เริ่มแตะริมฝีปากเขา วินสตันก็งับริมฝีปากของฮันต์ไว้ทันที จูบคราวนี้ไม่อ่อนโยนเท่าไรนัก ฮันต์จึงได้แต่เงยหน้าขึ้นรับ

ความปรารถนาของวินสตันมากเกินจินตนาการของฮันต์ เขาสามารถกุมพวงมาลัยอย่างมั่นคงหลายชั่วโมงโดยไม่ผ่อนมือได้ แต่ความปรารถนาของวินสตันมากมายยิ่งกว่านั้น ภายใต้ความร้อนอันบ้าคลั่ง ฮันต์ได้แต่รับมือกับความต้องการที่เดือดพล่านและเส้นเลือดที่แทบจะระเบิดอย่างตั้งอกตั้งใจ

เขาลูบส่วนนั้นขึ้นลงอย่างโง่ ๆ หัวใจเต้นแรงจวนเจียนจะหลุดออกจากอก และถึงกับไม่กล้าก้มลงไปมองตรงนั้นของวินสตันว่าเป็นอย่างไรด้วยซ้ำ

ข้างหูได้ยินเสียงลมหายใจที่แหบทุ้มจนเกือบจะลุกไหม้ของวินสตัน ท่าทางหลับตาขนตาสั่นระริกของอีกฝ่าย…เซ็กซี่จนทำให้คนไม่รู้จะทำอย่างไร

สันจมูกที่สวยงามของเขา สองแก้มที่ตึงแน่น แปดเปื้อนด้วยสีสันจากราคะของเขา ทำเอาฮันต์เลือดสูบฉีดตามเขาไปด้วย

“…เร็วหน่อย” วินสตันเค้นเสียงออกจากลำคอ

มือของเขาลูบคลำแผ่นหลังของฮันต์อย่างแรงราวกับกำลังสัมผัสถึงกล้ามเนื้อยามที่ฮันต์ออกแรง แล้วไล่ลงด้านล่างอย่างละโมบ เคล้นคลึงสะโพกของฮันต์ผ่านกางเกง เมื่อนิ้วของเขาออกแรง ปลายนิ้วก็กดลงมา ฝ่ามือบีบส่วนโค้งที่อวบอิ่มของฮันต์ด้วยความรู้สึกหื่นกระหายอย่างที่สุด จนฮันต์อดกลืนน้ำลายไม่ได้

“ฉันเร็วมากแล้ว! ไม่งั้นนายก็ทำเองสิ…”

จูบของวินสตันประกบลงมาอีกครั้ง ฮันต์พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว ได้แต่หูแดงอยากให้เรื่องนี้รีบ ๆ ผ่านไป

ฮันต์งอเข่าขึ้น สองคนนอนตะแคงหากัน มือข้างหนึ่งของวินสตันช้อนขาข้างหนึ่งของฮันต์ให้พาดบนเอวของตน แล้วยื่นหน้ามาจูบและดูดดุนฮันต์อย่างตะกละตะกลามอย่างที่สุด

เสียงดังจุ๊บจั๊บทำให้หัวใจที่เต้นอยู่ในทรวงอกของฮันต์สั่นไหว

และเหมือนจะกล่าวหาว่าฝีมือของฮันต์ไม่ดี มือที่โอบฮันต์อยู่เลยไล้ลงมากุมมือของฮันต์ไว้ ก่อนจะพารูดขึ้นลงเร็ว ๆ ทั้งยังบังคับให้เขาเล้าโลมส่วนปลายที่สั่นระริก สองลูกบอล และส่วนที่ตั้งชันจนทำให้ฮันต์เกร็งไปทั้งตัว

แก่นกายของวินสตันเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของบุรุษเพศ ฮันต์กำลังคิดว่าถ้าหมอนี่ฝังตัวเข้ามาในกายเขาจริง ๆ เขาจะตาย…หรือจะเต็มอิ่มสุดขีด

กลีบปากของฮันต์ถูกลิ้นของวินสตันบังคับให้เปิดออก ปลายลิ้นถูกปลายลิ้นของวินสตันเกี่ยวรัด แล้วทั้งลิ้นก็ถูกวินสตันดูดดึงอย่างแรง เพดานปากและแนวฟันถูกหยอกล้อ ร้อนแรงจนทำให้ฮันต์ไม่มีช่องว่างให้หายใจ

มือของฮันต์ถูกวินสตันบังคับจนชา เขาถึงขั้นไม่รู้ว่าข้อมือกับแขนของตนขยับได้ยังไง ฮันต์รู้สึกว่าตนเกือบจะถูกจูบของวินสตันบีบอัดจนตาย ปลายลิ้นพลิ้วไปตามแรงดูดดึงของวินสตัน และในวินาทีนั้นวินสตันพลันขยับเอวแรง ๆ สองที แก่นกายขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่ฝ่ามือฮันต์และปลดปล่อยออกมาทันที

วินสตันยังคงหลับตาและจูบฮันต์ต่อ พยายามสอดลิ้นของเขาลึกเข้าไปจนเกือบถึงลำคอฮันต์ ทว่าฮันต์รีบกดบ่าอีกฝ่ายไว้แล้วดันลิ้นออกไปอย่างไม่ยินยอมให้อีกฝ่ายล่วงล้ำเข้าไปต่อ จากนั้นวินสตันก็สงบลง โอบฮันต์ไว้เบา ๆ

ฮันต์เข้าใจในที่สุด ถ้าเมื่อครู่ตนไม่สกัดลิ้นของวินสตันไว้ ไม่แน่ว่าหมอนี่อาจจะยังแข็งชันอยู่…

ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮันต์หันหลังให้วินสตัน หน้าตาไม่พอใจ

“ฉันรู้สึกว่าฉันนอนคนเดียวดีกว่า ถ้านายกังวล ฉันจะไปนอนกับดอกเตอร์เสิ่น” ฮันต์พูดเสียงอู้อี้

“ขอโทษที่ปล่อยบนตัวนาย” วินสตันยื่นกระดาษทิชชูให้ฮันต์

มันไม่ใช่เรื่องปล่อยบนตัวฉันโว้ย!

ฮันต์มองมือตัวเองใต้ผ้าห่ม ขนาดกุมพวงมาลัยฟอร์มูลาวันสองชั่วโมงกว่ายังไม่เคยมีความรู้สึกว่ามันพองไหม้และจับอะไรไม่อยู่แบบนี้สักครั้ง

อีกทั้งฮันต์ก็ตระหนักได้แล้วว่าไม่สามารถให้วินสตันกระแทกตนได้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้ตายบนสนาม แต่ต้องตายด้วยการกระทำน่าอายนี่แน่

ฮันต์รับทิชชูมาอย่างเคือง ๆ เช็ดหน้าท้องของตนอย่างแรง แล้วปาใส่วินสตันโดยไม่หันมองแม้แต่แวบเดียว

วินสตันเก็บทิชชูที่ถูกขยำเป็นก้อนขึ้นมาทิ้งไปข้าง ๆ จากนั้นหันกลับมากอดฮันต์แล้วพูดอยู่ด้านหลังเขา “นายโกรธเหรอ”

“เปล่า”

“ถ้างั้นนายกลัว?”

“ไม่!”

ไม่กลัวกะผีสิ! แต่ฉันจะยอมรับว่ากลัวได้ยังไงล่ะ

“ถ้างั้นฉันช่วยนาย”

“ไม่เอา! อ๊า! ปล่อยมือนะ!”

“อย่าดิ้น เกิดมันหักขึ้นมาจะทำยังไง”

“ปล่อยนะ…อื้อ…”

“นายชอบให้ทำแบบนี้สินะ”

“หุบปาก…”

“นายชอบให้ฉันพูดข้าง ๆ หูนายสินะ”

“…อือ…”

ฮันต์งอตัว ถูกอีกฝ่ายกอดไว้ในอ้อมอกแน่น

มือของวินสตันล้วงเข้าไปในกางเกงของฮันต์ ฮันต์รีบหุบขาอย่างไว

แต่ฮันต์คาดไม่ถึงเลยว่าวินสตันจะใช้มือข้างเดียวค้ำอยู่ข้างเอวฮันต์ จูบลำคอของเขาแล้วค่อย ๆ ไล้ลงไปด้านล่าง จูบระเรื่อยไปจนถึงท้องน้อย ลมหายใจของเขาทำให้ฮันต์อดจะขยับเอวหลบไม่ได้ แต่กลับถูกสองมือของวินสตันจับไว้

“ให้ฉันจูบนาย…”

“ถ้างั้นนายก็ขึ้นมาจูบ…”

วินาทีต่อมาฮันต์ถึงเข้าใจว่า ‘จูบนาย’ ที่วินสตันพูดถึงคืออะไร เขาอมความปรารถนาที่ชูชันของฮันต์ไว้แล้วผละออกใช้ปลายลิ้นทักทายปลายยอด ก่อนไล้เลียจากล่างขึ้นบน ปัดผ่านรูเล็ก ๆ บริเวณส่วนปลายนั้น ฮันต์ทนไม่ไหวจึงยกเอวส่งมันเข้าไปในส่วนลึกของลำคอวินสตัน

พอคิดถึงว่านั่นคือลิ้นของวินสตัน โพรงปากของวินสตัน สมองของฮันต์ก็พลันขาวโพลน

วินสตันจูบจากส่วนหัวไล้ไปถึงถุงหนังสองข้างของเขา ฮันต์อ้าขาของตนออกกว้างอย่างเผลอไผล แต่เมื่อวินสตันจูบไล้ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งจูบ ทั้งละเลียดเลีย ไหนจะอมและดูดดุนส่วนหัวนั้น ความเปียกชื้นจากการหยอกเย้านั่นมีพละกำลังมหาศาลในการกระตุ้นความปรารถนาของฮันต์ เขาจับศีรษะของวินสตันแล้วกำเส้นผมของอีกฝ่ายไว้แน่น เมื่อแนวฟันของวินสตันคลึงเบา ๆ ตรงส่วนยอดและใช้ปลายลิ้นตวัดไล้เลียอีกทีหนึ่ง ถึงตอนนั้นฮันต์ก็ปลดปล่อยมันออกมาแล้ว

วินสตันไม่ได้หลบ

“…ทำไมนายไม่หลบวะ! คนเลวนี่!”

“ทำไมนายเสร็จไวขนาดนี้” เสียงของวินสตันเจือแววขบขัน มันช่างทุ้มและเซ็กซี่เอามาก ๆ

“เพราะฉันคือคนปกติน่ะสิ!” ฮันต์ใช้ขาเตะอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด

“ถ้านายยังดิ้นอีก พวกเราได้ผลัดกันทำจนฟ้าสางแน่”

ฮันต์ตัวแข็งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อน

เช้าวันที่สองฮันต์ลุกจากเตียงเตรียมจะหนี แต่วินสตันรวบตัวเขากลับมา

“นายจะไปไหน”

“ไปกินอาหารเช้ากับดอกเตอร์เสิ่น!”

“แล้วจากนั้นล่ะ”

“ประชุมทางเทคนิค! นายวางใจเถอะน่า ฉันไม่อยู่คนเดียวหรอก!” เมื่อพูดจบเขาก็ไปล้างหน้าแปรงฟันอย่างร้อนใจ ก่อนวิ่งออกจากห้องไป

วินสตันนั่งอยู่ตรงหัวเตียง นวดขมับอย่างแรงพลางถอนหายใจออกมา

“…เมื่อไรฉันถึงจะแตะต้องนายได้จริง ๆ สักที”

พอฮันต์กินอาหารเช้ากับเสิ่นชวนเสร็จก็ไม่ได้ไปประชุมทางเทคนิค แล้วเขาก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องของวินสตัน แต่ไปหาคนอีกคน

เมื่อโอเว่นเปิดประตูห้องแล้วเห็นฮันต์ก็พูดอย่างประหลาดใจ “เอ๊ะ? ทำไมมีแค่นาย วินสตันล่ะ”

ฮันต์แทรกตัวเข้าไปดื้อ ๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ท่าทางใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง “ฉันทบทวนผลลัพธ์แบบจริง ๆ จังๆ แล้ว”

“อะไร”

“นายสอนฉันหน่อยว่าต้องทำยังไงถึงจะกดวินสตันได้!”

โอเว่นที่หยิบน้ำแร่ออกมาดื่มพลันสำลัก จากนั้นก็ก้มหน้าไอสุดชีวิต

“เฮ้…”

โอเว่นโบกมือ ขมวดคิ้วมองเขา “ผลลัพธ์ที่นายบอกว่าทบทวนแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็คือเรื่องนี้อะนะ”

“แหงสิ…” ฮันต์เอียงศีรษะ “หรือว่านายทำไม่ไหว”

“ไม่ใช่ฉันไม่ไหว แต่นายนั่นแหละที่จะไม่ไหว” โอเว่นยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ฉันไม่ไหว?” ฮันต์เบือนหน้าไปหัวเราะ

โอเว่นนั่งลงตรงขอบเตียง “นายมีเสน่ห์มากนะฮันต์ แต่…ขาดไอ้บารมีที่จะกดอีกฝ่ายลงนั่นแค่นิดเดียว”

วินาทีต่อมาโอเว่นก็รู้สึกว่าข้างหน้ามีเงาทาบมาใกล้ ปกติแล้วการตอบสนองของเขาเฉียบคมถึงขั้นต่อให้อยู่ในทางโค้งความเร็วสูงจนเกือบจะพุ่งเข้าเขตกันชนก็สามารถหักกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ตอนนี้ข้อมือสองข้างของเขากลับถูกกดลงบนเตียงอย่างแรง ท้ายทอยโดนกระแทกจนเกือบสลบ พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าไม่รู้ฮันต์มานั่งอยู่บนเอวตนตั้งแต่เมื่อไร สองมือยังถูกอีกฝ่ายกดไว้ข้างหูด้วย

หัวใจเขาร่วงวูบ ร่างกายก็เกร็งตาม เพราะเวลานี้เขาเกิดภาพหลอนว่ากำลังกลายเป็นเหยื่อของอีกฝ่าย

“ตอนนี้ล่ะ” ฮันต์หันหน้ามาถามเสียงเย็นชา

โอเว่นกลืนน้ำลายแล้วมองฮันต์ เขาเกิดภาพหลอนว่าถูกอีกฝ่ายสังหารบนทางโค้ง

“เก่งมาก”

โอเว่นยกมุมปาก แล้วทำท่าจะยกเข่าขึ้นกระแทกท้องน้อยของฮันต์ แต่ฮันต์กลับวาดมือข้างหนึ่งลงมากดเข่าของโอเว่นกลับลงไปอย่างแม่นยำ ในวินาทีนั้นเอง โอเว่นก็ใช้มือที่ได้เปรียบของเขาจับตัวฮันต์โยนพลิกคว่ำ

“อึก…” ฮันต์ที่คว่ำอยู่บนเตียงร้องออกมาเสียงหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นมา

โอเว่นบิดเปิดฝาขวดน้ำแร่ช้า ๆ แล้วดื่มอึกหนึ่ง

“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าวิธีที่นายใช้กดฉันเมื่อกี้ เกินครึ่งน่าจะเป็นวิธีที่วินสตันใช้กับนายล่ะ”

ฮันต์หงุดหงิดไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น

“อันที่จริง นายกดเขาได้แล้วมันยังไงล่ะ กดเขาแล้วไม่ได้แปลว่านายจะควบคุมเขาได้สักหน่อย มันก็เหมือนที่ทำกับฉันเมื่อกี้ นายกดฉันได้สำเร็จ แต่ไม่นานนายก็โดนฉันโยนทิ้งแล้ว!”

“ถ้างั้นก็สอนเทคนิคพลิกกลับให้ฉันสิ! ยังไงฉันก็ไม่อยากโดนกดอะ!” ฮันต์คิดแล้วก็พูดเสริม “ฉันไม่อยากโดนเขาควบคุม!”

“อันนี้ลำบากกว่าการสอนให้ไอ้โง่อย่างนายไปอ่อยวินสตันให้เลือดสูบฉีดซะอีก…” โอเว่นแหงนหน้าถอนหายใจยาวเหยียด หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่หลายวินาทีก็เอ่ยต่อ “เฮ้อ…มาคิดดูดี ๆ แล้วมันก็น่าสนุกมากอยู่นะ! ถึงผลลัพธ์อาจจะไม่เปลี่ยน แต่อย่างน้อยก็ลดพลังกายของวอห์น วินสตัน ได้”

“หา?”

“มา ๆ ๆ! พวกเรามาทดลองกันสักหน่อย ทุกครั้งหมอนั่นกดนายยังไงให้พลิกตัวไม่ได้” โอเว่นกวักมือเรียกฮันต์

“นายสิไอ้คนโดนกดจนพลิกตัวไม่ได้!”

“นี่…ฮันต์เอ๊ยฮันต์ พวกเราต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวของตัวเองก่อนถึงจะเดินหน้าสู่ความสำเร็จได้นะ”

โอเว่นโยนขวดน้ำแร่ทิ้งไปแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง

“นายทำอะไรน่ะ”

“เลียนแบบดู ตอนนี้ฉันคือนาย นายคือวินสตัน”

ฮันต์ฮึดขึ้นมา เลียนแบบท่าทางของวินสตันเมื่อคืน สองมือยึดข้อมือโอเว่นไว้ เข่าซ้ายดันขาขวาของอีกฝ่ายขึ้น

“เฮ้! นายล้มเหลวสองรอบแล้วนะ! ครั้งแรกก็คือนายให้โอกาสเขายกขานายได้ยังไง พอนายรู้สึกว่าขาของเขาจะขยับ นายก็ควรขยับเอวหนีทันที หนีบสองขาไว้ชิดกัน นายให้โอกาสเขาทับจุดที่มีแรงโจมตีมากที่สุดของนายได้ยังไงกัน”

“ถ้างั้นครั้งที่สองฉันพลาดตรงไหน” ฮันต์ถามอย่างอยากรู้

“เขากดนายไว้แบบนี้แล้วจะทำอะไรต่อ ใช้หัวแม่เท้าคิดยังรู้เลย”

“หัวแม่เท้านายคิดว่าเขาจะทำอะไรล่ะ”

“ก็ต้องก้มหน้าลงมาบังคับจูบนายน่ะสิ!” โอเว่นถอนหายใจอย่างจนใจ “ตอนนี้ไอ้โง่อย่างนาย กว่าครึ่งก็รู้จักแต่เม้มปากเอียงหน้าหนี!”

“แล้วฉันควรทำยังไง”

“เวลานี้สิ่งที่โจมตีได้แรงที่สุดก็คือหัวของนาย!”

ในชั่วพริบตา โอเว่นพลันยกศีรษะกระแทกสันจมูกฮันต์ ฮันต์รีบแหงนหน้าหลบ

“นายเข้ามาไม่ใกล้พอ ถ้าใกล้พอ ฉันรับรองว่านายได้เลือดแน่!”

ฮันต์อ้าปากค้างมองโอเว่น

“อย่าเทิดทูนฉันนักเลยน่า” โอเว่นเชิดคาง “ยังไม่ลุกอีก? อยากจะให้ฉันกระแทกสันจมูกนายหักจริง ๆ ใช่ไหม”

ฮันต์รีบคลานหนีทันที

เวลานี้เขารู้สึกนับถือโอเว่นจากใจจริงจริง ๆ

“แล้วครั้งแรกตอนที่นายโดนทำให้ตกใจจนวิ่งหนีล่ะ วินสตันควบคุมนายไว้ยังไง” โอเว่นเอ่ยปากถามเสียงเย็น

“ฉันจำไม่ได้แล้ว…ฉันนอนคว่ำอยู่บนเตียง หมอนั่นจับเอวฉันไว้…แม่ง แรงเขาเยอะฉิบ ฉันคลานขึ้นหน้าก็ไม่ได้ผล!”

ฉับพลัน ฝ่ามือของโอเว่นก็วางลงบนศีรษะฮันต์

“นายมันโง่เง่า! นายมันเต่าตุ่น! นายหันหลังให้วอห์น วินสตัน เหรอ นายไม่รู้ว่าเขาจะเข้าไปจากตรงไหนงั้นเหรอ” โอเว่นทำหน้าแบบ ‘คนอย่างนายนี่มันเกินเยียวยาแล้ว’

“เมื่อก่อนฉันรู้ที่ไหนเล่าว่ามันต้องเข้ามาจากตรงนั้นน่ะ!” ฮันต์งึมงำอย่างน้อยใจ

โอเว่นกุมหน้า “ไม่รู้หรือว่าคิดไม่ถึง”

“ถ้าพูดให้ถูกคือ…คิดไม่ถึง…”

“ต่อไปนายก็จำไว้ อย่าหันหลังของนายให้เขา ถ้านายทำแบบนั้นก็แทบไม่เหลือทางรอดแล้ว เรียกรถพยาบาลให้นายซะก็จบเรื่อง!”

“แต่วันนั้นฉันวิ่งหนี!” ฮันต์พูด

“นายคิดว่านายยังจะวิ่งหนีเป็นครั้งที่สองได้อีกเหรอ” โอเว่นหัวเราะเสียงเย็น

ภายในใจของฮันต์พลันหนาววูบเหมือนร่วงจากฮาวายไปขั้วโลกใต้

“ถ้านายไม่ระวังจนเกิดรอบที่สอง…” โอเว่นหันไป กระดิกนิ้วให้ฮันต์ ฮันต์กระจ่าง ก่อนจะจับเอวโอเว่นไว้

“จำไว้ อย่าแบ็กคิกตรง ๆ เด็ดขาด ถ้าทำแบบนั้น ด้วยปฏิกิริยาของวินสตัน เขาสามารถจับข้อเท้านายแล้วดึงไปนอนแผ่บนเตียงได้ง่ายมาก”

ฮันต์พยักหน้าแรง ๆ

โอเว่นเทพมากจริง ๆ!

กระทั่งเรื่องนี้ก็ยังคาดการณ์ไว้!

“นายต้องแสร้งทำเป็นล้มตะแคง จากนั้นก็เตะเอวเขาแรง ๆ จากด้านข้าง!”

โอเว่นพลันล้มลง ฮันต์คว้าเอวเขาไว้ แต่โอเว่นยืมแรงด้านข้างลำตัวเตะไปที่ข้างเอวฮันต์ทันที ฮันต์ตกใจจนปล่อยมือจากเอวไปกันขาเขาไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าโอเว่นแค่แกล้งทำ ฉวยโอกาสตอนฮันต์ปล่อยมือรีบคลานหนีไป

“เข้าใจหรือยัง” โอเว่นเท้าเอวเชิดหน้า

“เข้าใจแล้ว!”

“ขอให้นายมีโอกาสใช้เถอะ” โอเว่นเผยสีหน้าไม่ค่อยมั่นใจใส่ฮันต์

ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาซ้อมไปอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง กระทั่งโทรศัพท์มือถือของฮันต์ดังขึ้น เป็นชื่อของวินสตันสว่างวาบ

“อา เขาไม่เห็นนายสักวินาทีไม่ได้เลยจริง ๆ”

ฮันต์ทำท่าให้เงียบแล้วรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล วินสตันเหรอ”

“นายอยู่ที่ไหน” เสียงทุ้มดังขึ้น

นี่ทำให้ฮันต์อดสงสัยไม่ได้ว่า สรุปการซ้อมพวกนั้นของตนเมื่อครู่มีประโยชน์หรือไม่

“ฉันมาซื้อสนิกเกอร์สสองแท่งน่ะ เดี๋ยวก็กลับไปแล้ว!” ฮันต์รู้ดีว่าวินสตันจะโทร.มา คงต้องสังเกตเห็นแล้วว่าตนไม่อยู่กับเสิ่นชวนแน่ ๆ

“อืม”

เมื่อพูดเรื่อยเปื่อยสองประโยคเสร็จ ฮันต์ก็ตัดสายทิ้ง เดินเต๊ะท่าไปเปิดตู้เย็นมินิของโอเว่น หยิบสนิกเกอร์สสองแท่งออกมาโบก ๆ

โอเว่นหัวเราะอย่างจนปัญญา “ไสหัวไป!”

ฮันต์เปิดประตูเดินกลับไปที่ห้องของวินสตัน

“เอ๊ะ ประชุมเทคนิคของนายจบแล้วเหรอ” ฮันต์ถาม

“อืม” คิ้วของวินสตันมุ่นน้อย ๆ “บอกนายแล้วไม่ใช่เหรอว่าช่วงนี้อย่าอยู่คนเดียว”

“ฉันอยู่ในที่ที่มีคนตลอดนะ อีกอย่าง หมอนั่นก็ไม่แน่ว่าจะมาสิงคโปร์!”

ฮันต์หัวเราะแล้วนั่งลงบนโซฟา

เขารู้สึกว่าใบหน้าของวินสตันเอนมาทางตน ไม่นานก็ประกบจูบลงมา

จูบนี้รุนแรงมาก ปลายลิ้นเปี่ยมไปด้วยพลัง ทำให้ฮันต์ที่ถูกจูบเผลอถอยไปด้านข้าง

เมื่อเขาเกือบร่วงจากโซฟา วินสตันก็คว้าหลังเอวเขาไว้แล้วจูบแรงขึ้น

เมื่อฮันต์เกือบจะหายใจไม่ออก วินสตันถึงปล่อยเขา

“นายทำให้ฉันเป็นห่วง”

เสียงถอนหายใจนั่นทำให้ฮันต์ใจอ่อนยวบ

“ขอโทษ ฉันจะระวัง”

“อืม” วินสตันหลับตาลง ใช้ปลายจมูกแตะหน้าผากฮันต์เบา ๆ “นายชอบพูดว่าอยู่กับฉันน่าเบื่อไม่ใช่เหรอ”

หัวใจของฮันต์มีเสียงดัง ‘ปัง’ เมื่อนึกถึงเรื่อง ‘สนุก’ เมื่อคืนแล้วก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้

ด้านหนึ่งเขารู้สึกว่าฝีมือของวินสตันสูงส่งกว่าตน แต่อีกด้านก็รู้สึกว่าตนควรทดสอบสักหน่อยว่าที่ซ้อมกับโอเว่นมานานขนาดนั้นได้เรื่องหรือไม่!

“คืนนี้นายอยากทำอะไร” ฮันต์ถาม

“เล่นเกมกับนาย ไม่งั้นนายอยากทำอะไร” วินสตันถามกลับ

ฮันต์ถอนหายใจจากส่วนลึกของหัวใจ

“เอาสิๆ! เล่นเกมกัน!”

อันนี้ปลอดภัย! อันนี้ไม่เจ็บ!

ทั้งคู่จึงกลับไปนั่งบนเตียง ถือโทรศัพท์เริ่มศึกใหญ่ ‘ระเบิดวันโลกาวินาศ’ แรกเริ่มวินสตันชนะตลอด ทำเอาฮันต์อดจะสงสัยไม่ได้ว่าหมอนี่แอบซ้อมเล่นเกมมือถืออย่างเอาเป็นเอาตายตอนเขาไม่รู้หรือเปล่า

ทว่าในไม่ช้า ฮันต์ยิ่งเล่นก็ยิ่งเข้ามือ ทั้งยังมีคู่มือที่เก่งกาจอย่างวินสตันอยู่ จึงบีบให้ฮันต์พัฒนาขึ้น สิบกว่ารอบต่อมา ฮันต์ก็ชนะวินสตันได้เป็นครั้งแรก

ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนไล่ตามอยู่หลังคู่แข่งห้าสิบกว่ารอบมาตลอด แต่รอบสุดท้ายก็ขึ้นแซงได้ในที่สุด ความอดทนเกือบจะหมดอยู่แล้ว ขืนชนะไม่ได้อีกฮันต์ก็จะเลิกเล่นเกมนี้แล้ว

“เย้! ฉันชนะแล้ว! ชนะนายได้สักที!” ฮันต์โยนโทรศัพท์จนเกือบจะเลยวินสตันไปแล้วร่วงลงจากเตียง ยังดีที่วินสตันคว้ากลับมาได้ทัน

วินสตันไม่ได้พูดอะไร แค่พิงหัวเตียง

ฮันต์กลับพลิกตัว มือซ้ายขาซ้ายก่ายอยู่บนตัวอีกฝ่าย

“ใช่ นายชนะแล้ว ขืนยังไม่ชนะอีกนายคงจะพูดว่ามือถือนายไม่ดีเท่ามือถือฉัน”

“ฉันเป็นคนขี้หาเรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ” ฮันต์พูดอย่างไม่พอใจ

“แล้วไม่ใช่หรือไง” วินสตันยิ้ม สวรรค์รู้ว่าฮันต์ชอบมองเขายิ้มบางๆ แบบนี้มากที่สุด

ภายใต้แสงโคมไฟหัวเตียงอันนุ่มนวล ฮันต์มองวินสตัน จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ารสนิยมด้านความงามสิบกว่าปีก่อนของตนทำไมถึงประหลาดขนาดนั้น ดวงตาของวินสตัน จมูกของเขา องศาริมฝีปากของเขา ทำไมถึงดูดีขนาดนี้

เลือดลมพุ่งลงไปรวมกันที่กลางร่าง ฮันต์ไม่รู้ควรทำอย่างไร คิดสะระตะสักพักก็ลุกขึ้นนั่งลงไปบนตัววินสตัน

ชายผู้นี้กลับตกใจ เมื่อเขากำลังจะยกมือไปโอบฮันต์ ฮันต์ก็พลันกดข้อมือที่ยกขึ้นของเขาลงบนหัวเตียง

“เฮ้ ฉันอุตส่าห์ชนะ นายก็ควรจะมีรางวัลหน่อยสิ”

ฮันต์ที่พูดประโยคนี้จบ หัวใจก็เต้นกระหน่ำราวกับรัวกลอง

ถ้าเกิดวินสตันพูดว่าเมื่อครู่เขาชนะตนนับครั้งไม่ถ้วนก็ควรจะได้รางวัลนับไม่ถ้วนจากฮันต์ด้วยไม่ใช่เหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นฮันต์ก็คงรับมือไม่ได้แล้ว

“นายอยากได้รางวัลอะไร” วินสตันเงยหน้าขึ้นมองฮันต์

สายตาของเขาดำดิ่งลง แต่อุณหภูมิสูงขึ้น

ฮันต์รู้ว่าเรื่องที่ตนทำคือการหาเรื่องใส่ตัว แต่เขาก็ยังอยากทำ แถมอีกไม่นานก็จะถึงรอบซ้อมอิสระแล้ว วินสตันไม่มีทางทำร้ายเขาแน่

“ไม่ว่าฉันทำอะไร นายห้ามขยับ” ฮันต์พูด

“นั่นเป็นไปไม่ได้” วินสตันตอบเร็วมาก

ฮันต์ไม่ทันผิดหวัง วินสตันก็พูดต่อ “สิบนาที ฉันให้เวลานายโชว์ฝีมือสิบนาที ไม่อย่างนั้นนายอย่ามาโทษฉัน”

“โอเค!” ถึงฮันต์จะรู้สึกว่าใช้วิธีนี้เอาชนะนั้นไม่เป็นธรรม แต่…ช่างมันสิ!

เขาตั้งนาฬิกาปลุกสิบนาทีในโทรศัพท์มือถือของตน แล้ววินสตันก็เอ่ยขึ้น “นายอยากทำอะไร…”

ฮันต์โยนโทรศัพท์ทิ้ง จู่ ๆ ก็กดมือหนึ่งบนคางของวินสตันแล้วจูบลงไป

แทบจะไม่อยากรอการตอบสนอง วินสตันยังไม่ทันเปิดปาก ฮันต์ก็ทนรอไม่ไหว แทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดอย่างบ้าคลั่ง

วินสตันกำลังจะกระหวัดรัดลิ้นเขาตอบ แต่ฮันต์พลันถอนออกแล้วมองตาของอีกฝ่าย “เฮ้ ตกลงแล้วว่าห้ามขยับ รวมถึงลิ้นของนายด้วย”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ ฮันต์ก็รู้สึกฮึกเหิม

“แล้วนายจะเสียใจ ฮันต์” วินสตันมองเขา ในดวงตาที่ราบเรียบคู่นั้นมีพลังที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งได้อยู่

ฮันต์เกลียดท่าทางเหมือนทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขานัก

“เสียใจบ้านนายสิ!”

ทันทีที่พูดจบฮันต์ก็ทาบทับลงไปอีกครั้ง หยอกเย้าพัวพันในโพรงปากของวินสตันเหมือนจะแก้แค้น

เขาดูดดุนอย่างเจือความจนปัญญาและไม่ยอมแพ้ของตน

กล้ามเนื้อทั่วตัววินสตันเกร็งขึ้นมา ฮันต์รู้ว่าหมอนี่อยากขยับ หากได้แต่กลั้นไว้ แต่ถ้าขยับได้ เขาจะทำอะไรกันนะ

ก่อนอื่นก็จูบกลับแรง ๆ แล้วพลิกตัวกดเขาไว้?

ไม่ว่าอะไรฮันต์ก็รู้หมด วินสตันจะทำแบบนั้น มันเป็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณของเขา และไม่ใช่การชิงอำนาจที่เหนือกว่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จูบที่เอาแต่ใจของฮันต์ก็ผ่อนช้าลง ปลายลิ้นไล้ผ่านสองข้างลิ้นของอีกฝ่าย เคล้าคลึงไปมาเบา ๆ ทุกความรู้สึกของเขาเฉียบคมขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจของวินสตัน อุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่าย การเคลื่อนไหวของลูกกระเดือกอีกฝ่าย…ความตื่นเต้นในตอนเริ่มต้นของฮันต์สงบลง แต่ความคิดชั่วร้ายในใจตอนแรกเอ่อท้นขึ้นมา

เขาเม้มริมฝีปากบนของอีกฝ่าย ปลายลิ้นกวาดไล้ในโพรงปากของวินสตัน เทียบกับจูบที่ร้อนแรงเหมือนจะช่วงชิงลมหายใจนั่นแล้ว ฮันต์กลับเพลิดเพลินกับความรู้สึกในเวลานี้มากกว่า เขาปล่อยข้อมือของวินสตันแล้วสอดนิ้วเข้าไปในเส้นผมของอีกฝ่าย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาลูบผมของวินสตัน มันนุ่มกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก

ฮันต์ก้มหน้าลงจูบหน้าผากของเขา จูบผมของเขา ระไล้จากโคนจรดปลาย

มือที่ได้รับอิสระของวินสตันยกขึ้น ฮันต์รีบกดมันกลับลงไป “ตกลงกันแล้วว่าห้ามขยับ เวลายังไม่หมดนะ!”

วินสตันหลับตาลง เชิดคางขึ้นเล็กน้อย “อย่าทำเกินเหตุ…ฮันต์”

“เทียบกับนายวันนั้น…ฉันไม่ได้ทำเรื่องเกินเหตุเลยด้วยซ้ำ!” ฮันต์พูดอย่างไม่พอใจ

เขาก้มศีรษะลงไปจูบคางของวินสตัน ใช้ปลายลิ้นเลียลำคอที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศของอีกฝ่ายแล้วงับเบา ๆ ต่อให้เคยพูดไว้ว่าจะกัดเขาให้ขาดหมดแบบนั้น แต่ฮันต์ก็รู้ว่าตนทำไม่ลง

เขาจุมพิตอีกฝ่ายผ่านเสื้อผ้า ฮันต์พลันพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างของผู้ชายคนนี้เขาล้วนชอบจนใจจะขาด

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า