[ทดลองอ่าน] รักเธอตั้งแต่วันวาน ตอนที่ 2

曾是年少时
รักเธอตั้งแต่วันวาน

ชิงเหม่ย 青浼 เขียน
หนูน้อยฉี แปล

 

— โปรย —

เฉินจินหยาง คุณหนูบ้านรวย สวย สูง เรียนเก่ง
นักศึกษาจากคณะภาษาต่างประเทศ ต้องมาสอนพิเศษให้อ้ายเจีย
เด็กเกรียนรุ่นน้อง จนบ่มเพาะความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

ทว่าเฉินจินหยางต้องไปเรียนเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ
ขณะที่อ้ายเจียเองก็หมายจะเข้าสู่ลีกเกมออร์เดอร์ออฟสตรอม

ท่ามกลางเรื่องราวความรักของคุณหนูไฮโซสาว
กับเกมเมอร์หนุ่มมีอุปสรรคมากมาย
ทั้งคู่ต้องจูงมือกันฝ่าฟันขวากหนามอย่างไม่ย่อท้อ
เพื่อที่จะก้าวสู่เส้นทางเกียรติยศในอนาคต!

 

_______________________________

 

ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ

สำนักพิมพ์อรุณ

 

(ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)

 

ถ้าสามต่อสามถือว่าเป็นทีมไฟต์[1]ขนาดย่อมแล้วละก็ นี่นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่จินหยางเกิดมาจนอายุขนาดนี้ที่เห็นนักเลงวัยรุ่นยกพวกตีกันในระยะประชิด

เธอค้นพบเรื่องที่น่าตกใจสองเรื่อง…

หนึ่ง ของข้างถนนไม่ว่าอะไรก็ตามนับตั้งแต่ก้อนอิฐไปจนถึงฝาถังขยะล้วนกลายมาเป็นอาวุธของพวกเขาได้ สะบัดแกว่งไปมาเสียงดังวิ้งๆ อย่างกับกระบี่ชั้นยอด

สอง เธอพบว่าตัวเองดูจนเกิดอารมณ์ร่วม ไม่อยากเดินจากไป

ตามหลักแล้ว เวลานี้เมื่อมีคนโผล่ออกมาทะเลาะวิวาทกันกะทันหัน เธอควรวิ่งหนีโดยไม่หันมองถึงจะถูก…

ทว่าเธอเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่ชื่ออ้ายเจียคนนั้นกระโดดขึ้นไปบนกำแพงเพื่อยืมแรงใช้ขาเกี่ยวคอของอีกฝ่าย ก่อนเหยียบฝ่ายนั้นจนแบนติดพื้นเหมือนหมากินขี้ เธอถึงกับอึ้งค้าง ราวกับหนังกำลังภายในแน่ะ สุดยอด!

                เด็กน้อยสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาแค่ยืนข่มขวัญเป็นกองหนุนอยู่ด้านหลังก็พอแล้ว เพราะดูคล้ายแค่อ้ายเจียคนเดียวก็สามารถเอาชนะคนพวกนั้นที่มีกันถึงสามคนได้แล้ว…ต่อยหมัดออกไปไม่ยั้ง เด็กที่เป็นหัวหน้าแก๊งกรรโชกทรัพย์เธอถูกอัดเละ ในมือของเขายังกำปึกธนบัตรที่จินหยางยื่นให้เขาก่อนหน้านี้ เธอสงสัยว่านี่อาจส่งผลต่อการแสดงฝีมือของเขา…

คนตายเพราะความโลภ

นกตายเพราะความตะกละโดยแท้

“อ้ายเจีย! เวรเอ๊ย เรียนจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ! ไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ!”

“ไปเหรอ ไปไหน! ฉันเท้าสะเอวยืนอยู่ในหอพักเด็กปีหนึ่งยังเห็นโต๊ะเรียนที่ฉันเคยนั่งตอนอยู่มัธยมปลายปีสามเลย! ระยะห่างแค่ไม่กี่ร้อยเมตรถือว่าไปแล้วงั้นเหรอ”

“…บัดซบ!”

“บัดซบก็ไร้ประโยชน์ ถนนเส้นนี้ฉันเป็นใหญ่โว้ย!”

เสียงตะโกนด่าทอดังขึ้นช่วงหนึ่ง ตอนที่อ้ายเจียพลิกตัวกลับไปเล่นงานอันธพาลเด็กอีกคนหนึ่งนั้น ลูกกระจ๊อกที่มีสภาพปางตายยกมือเช็ดปาก พ่นฟันที่เปื้อนเลือดออกมาซี่หนึ่ง เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน สายตาเลื่อนไปหยุดที่ท่อนไม้ท่อนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปนัก…น่าจะเป็นเศษวัสดุที่สักบ้านหนึ่งแถวนี้ทิ้งไว้ตอนซ่อมบ้าน ท่อนไม้ยังมีตะปูติดอยู่หลายดอก…

แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นดุดัน เดินโซเซ ก่อนเอื้อมมือไปคว้าไม้ท่อนนั้น…

จินหยางมองเด็กหนุ่มที่หันหลังอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวให้ลูกกระจ๊อกนั่น ก่อนกรีดร้องเสียงเบา ตอนที่อ้ายเจียได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ วินาทีที่สะดุ้งตกใจและหันมองนั้น เขาเห็นเด็กสาวยกเท้าที่สวมรองเท้าราคาอย่างต่ำสองพันหยวนเตะหว่างขาไอ้หนุ่มลูกกระจ๊อกแรงๆ เขาคนนั้นร้องเสียงหลงก่อนล้มลง พาถังขยะแถวยาวล้มตามไปด้วย ส่งเสียง “โครม” ดังสนั่น!

ไม่ไกลนัก พอคนทั้งหมดที่สู้กันนัวเนียได้ยินเสียง พลันชะงักพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เวลานี้อ้ายเจียคร่อมอยู่บนตัวคนคนหนึ่ง มือข้างหนึ่งดึงคอเสื้อของคนคนนั้น อีกข้างค้างหมัดกลางอากาศขณะเหลียวมองจินหยาง…

เห็นแค่เด็กสาวที่ทำร้ายอวัยวะสืบพันธุ์ของอีกฝ่ายยังคงยืนอย่างมั่นคงอยู่หน้าถังขยะ ขณะที่ถังขยะพลิกคว่ำ ขยะด้านในแทบจะเทลงมากลบตัวเธอจนมิด…

เธอยื่นมือไปหยิบถุงขยะที่ปลิวมาติดศีรษะตัวเองออก สีหน้าราบเรียบ

จากนั้นก็ใช้เท้าเขี่ยๆ เศษขยะพวกนั้น ก่อนโน้มตัวลงไปดึงธนบัตรปึกหนาจากมือของเด็กหนุ่มนักเลงที่นอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น

อ้ายเจีย “…”

อ้ายเจียเหวี่ยงเด็กหนุ่มที่ยังไม่ทันโดนหมัดของเขาออกไปราวกับเขวี้ยงขยะ แล้วลุกขึ้นยืน เวลาเดียวกันนั้นเขาเห็นสาวน้อยคนนั้นที่อยู่ไม่ไกลออกไปก้มหน้า ล้วงกระดาษเช็ดหน้าห่อหนึ่งออกจากเป้ ก่อนยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นคล้ายท่านกกระเรียนมงกุฎแดง กระโดดๆ อยู่ที่เดิมขณะใช้กระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งเช็ดรองเท้าคัตชูหนังของตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ…

กระโปรงสั้นพลิ้วไหวไปมาระหว่างที่เธอกระโดดเหย็งๆ กลายเป็นคลื่นที่ดูสวยงาม

เสื้อเชิ้ตแขนสั้นโปร่งแสง ทำให้เห็นเอวบางใต้ผ้าผืนบางได้รางๆ ขณะที่เธอกระโดด หน้าอก…

เอ่อ

สร้อยคอรูปแบบเรียบง่ายหลุดออกมานอกคอเสื้อที่เปิดอ้า เป็นสร้อยคอทองคำขาวเส้นเล็กที่ทาบกับไหปลาร้าของเธอ ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง วัตถุธาตุทองทอประกายระยิบระยับแสบตา

อ้ายเจียหรี่ตาเล็กน้อย

พอรู้ตัวว่าไม่ควรจะจ้องต่อ เขาก็เบือนหน้าหนี มุ่นคิ้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเจือรำคาญ “ทำไมเธอยังอยู่อีก”

พอได้ยินเด็กหนุ่มที่สูงเลยศีรษะเธอถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร จินหยางก็นิ่งอึ้งเล็กน้อย ก่อนเงยหน้ามองเขาผาดหนึ่ง

เธอโยนกระดาษเช็ดหน้าลงถังขยะที่ตอนนี้ในถังว่างเปล่าเหลือแค่อากาศธาตุ เสร็จแล้วค่อยโต้กลับอย่างมีเหตุมีผลว่า “นายช่วยฉันไว้ ถ้าฉันหนีไปก็คงแล้งน้ำใจน่าดู”

เสียงของเธอใสและราบเรียบ

อ้ายเจียคิดว่าเขาเสียเวลานานถึงสิบแปดปีไปกับการเรียนภาษาจีน เพราะเขาคิดว่าเขาตีความคำพูดเมื่อกี้ของเธอผิดไป…

อะไรนะ น้ำใจเหรอ

                จินหยางเห็นเด็กหนุ่มยืนนิ่งไม่ขยับ เธอมองปึกเงินในมือตัวเองสีหน้าสงบนิ่งและจริงใจ “ขอบคุณนะ นายมาทันเวลาพอดีมาก เงินพวกนี้ให้นายเป็นค่าตอบแทนแล้วกัน”

อ้ายเจีย “อะไรนะ”

ชั่วขณะหนึ่งอ้ายเจียยังงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ยากนักที่ใบหน้าซึ่งวินาทีก่อนยังเหมือนเพชฌฆาตจะปรากฏความตื่นตะลึง อ้ายเจียมองเด็กสาวที่สะพายเป้ยืนอยู่ท่ามกลางกองขยะพลางยื่นเงินที่คะเนด้วยสายตาแล้วประมาณสองสามพันหยวนให้ตนทั้งสีหน้าเรียบเฉย…

เขายอมใจจริงๆ

…นี่มันผู้หญิงบ้าจากที่ไหนกันเนี่ย

ขณะที่อ้ายเจียเหม่อลอยอยู่นั้น เด็กสาวก็ยัดเงินใส่กระเป๋ากางเกงทหารของเขาพร้อมสีหน้าไร้อารมณ์ มือเล็กขาวเนียนตบกระเป๋าตุงๆ ของเขาคล้ายพึงพอใจมาก…เธอพูดทิ้งท้ายประโยคหนึ่งว่า “ไปละๆ” จากนั้นก็เดินลิ่วจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

เวลาที่เธอเดินเฉียดเขา เขาได้กลิ่นที่ไม่คุ้นเคย กลิ่นนั้นเจือกลิ่นหอมของส้มจีน

…ไม่ใช่กลิ่นถังขยะ ทั้งๆ ที่เธอจมอยู่ในกองขยะแท้ๆ

                อ้ายเจียสีหน้าแข็งค้างขณะหมุนตัวกลับ มองแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย

ผิดกับลูกน้องด้านหลังเขาที่เริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว…

“…ลูก…ลูกพี่ เงินเยอะจัง!”

“แม่สาวคนนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภจุติลงมาเกิดหรือไง”

“คนที่อยู่ที่นี่ล้วนได้ส่วนแบ่ง คืนนี้เหมาห้องอินเทอร์เน็ตคาเฟ่! เย้!”

“ลูกพี่ ครูประจำชั้นของพวกเราบอกว่าวันนี้พวกเราต้องจ่ายค่าเอกสารวิชาภาษาอังกฤษห้าร้อยหยวนนะ…”

“ถุยเถอะ! นายคิดว่าลูกพี่เป็นพ่อนายหรือไง! ยังจะมาทวงค่าเอกสารวิชาภาษาอังกฤษอีก!”

ท่ามกลางเสียงถกเถียงของลูกน้องด้านหลัง อ้ายเจียยกมือ ใช้นิ้วโป้งที่ค่อนข้างหยาบกร้านเช็ดมุมปากแตกของตัวเอง แววตาเขาเย็นชา

“หุบปากให้หมด”

เสียงโหวกเหวกเงียบลง

เหลือเพียงแผ่นหลังที่จากไปของเด็กสาว ด้านหลังที่เอวเหยียดตรง ดูเย่อหยิ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่อ้ายเจียพบเฉินจินหยาง ผู้หญิงบ้า เพิ่งปีนออกจากกองขยะแท้ๆ แต่ยังแสร้งทำเป็นหยิ่ง

 

[1] Team Fight การต่อสู้กันเป็นกลุ่มระหว่างสมาชิกสองทีม

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า