[ทดลองอ่าน] รักเธอตั้งแต่วันวาน ตอนที่ 40

曾是年少时
รักเธอตั้งแต่วันวาน

ชิงเหม่ย 青浼 เขียน
หนูน้อยฉี แปล

 

— โปรย —

“…อืม” อ้ายเจียออกแรงทาบทับตัวเธอ หลังได้ยินเสียงเธอร้องด้วยความตกใจ
เขาก็พึมพำว่า “ตอนนี้เธอต่างหากที่พยายามฆ่าฉัน”
จินหยางหัวเราะ

เธอพยายามผ่อนคลายท่ามกลางเสียงหัวเราะ
ก่อนยกลำตัวท่อนบนขึ้นแนบกับกายของเด็กหนุ่มโดยสมบูรณ์…

            เธอลูบไล้กล้ามเนื้อแน่นตึงที่แผ่นหลังเขา
วินาทีที่สองหนุ่มสาวแนบเนื้อชิดใกล้กันแทบกลายเป็นเนื้อเดียว
เธอก็ได้ยินอ้ายเจียคำรามในลำคอคล้ายผ่อนคลายคล้ายครวญครางด้วยความเจ็บปวด

            จากนั้นเด็กหนุ่มก็ปรนเปรอความหฤหรรษ์ให้เธออย่างใจเย็น
ด้วยความอ่อนโยนที่สุดท่ามกลางความยินยอมพร้อมใจของเธอเอง

“ได้ไหม”

“…อืม”

 

_______________________________

 

ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ

สำนักพิมพ์อรุณ

 

(ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)

 

40

 

จินหยางจ้องหน้าอ้ายเจีย

                เขาหลุบตาลง ที่เขาเอ่ยนั้นไม่เหมือนล้อเล่นสักกระผีก…ออกจะป่าเถื่อนอยู่เล็กน้อยด้วยซ้ำ

จินหยางใจเต้นรัวเร็วหนึ่งวินาที เธอกะพริบตาปริบๆ เนิ่นนานกว่าจะเค้นคำหนึ่งออกมาจากลำคอ “…อ้อ”

เธอตรองสักพักก่อนกระแอมและพูดเสริมว่า “ฉันเป็นแค่เพื่อนบ้านของนาย นายเล่นไม่ดี คนจะด่าก็ด่าแค่นายที่เป็นนักกีฬา แล้วนี่นายจะให้เพื่อนบ้านเป็นคนรับผิดชอบงั้นเรอะ”

“…”

“…”

“ถ้าเธอไม่รับผิดชอบ งั้นเธอก็อย่าหน้าแดงสิ” สีหน้าเคร่งเครียดของอ้ายเจียคลายลงบ้าง เขาหันมองสำรวจจินหยางขึ้นลง จากนั้นยื่นนิ้วออกไปชี้ใบหูของเธอ “ดูสิดู แดงขนาดนี้แล้ว”

จินหยางร้อง “ชิ้ว” ก่อนดึงนิ้วของเขาลง อ้ายเจียหรี่ตาเล็กน้อยขณะมองนิ้วตัวเองที่เธอดึงลง แม้เขาไม่ได้ออกแรงขืนไว้สักเท่าไหร่ แต่จินหยางก็ยังดึงไม่ลง เขาโค้งมุมปากในองศาที่เห็นได้ชัด ทว่าจินหยางปล่อยมือจากเขาเสียก่อน…

ตามมาด้วยการถลึงตาใส่เขาหนหนึ่ง

เสี่ยวเซียนที่ดูอยู่ด้านข้างได้แต่โคลงศีรษะ เบือนหน้าไปพบว่าเหลียงเซิง เสียวหน่วน หรงหรง และรุ่ยถ่าต่างมองมาทางนี้ สีหน้าใคร่รู้…ทำให้เขาอดกลอกตาไม่ได้ “เลิกมองได้แล้ว รู้แล้วว่าที่พวกนายโสดเพราะตัวพวกนายเอง”

 

ไม่นานก็ขึ้นเครื่องแล้ว ตอนนั่งอยู่บนเครื่องบิน จินหยางฟังเสี่ยวเซียนอธิบายเกี่ยวกับทีมคู่ต่อสู้ของพวกเขาครั้งนี้

ทีม ZE จากเกาหลีใต้เป็นแชมป์ประจำฤดูร้อนของภูมิภาค SCK ปีนี้ ตอนการแข่งขันฤดูร้อนจบลง เดิมพวกเขามีความสามารถพอจะได้สิทธิ์เป็นตัวแทน SCK เข้าแข่ง S3 แต่เพราะยามชิงตั๋วใบสุดท้าย ทีมเล่นได้ไม่ดีมากนัก พ่ายด้วยคะแนน 2:3 ให้ทีมจาก SCK อีกทีมหนึ่ง จึงไม่ได้ร่วมแข่งชิงแชมป์โลก S3 ที่เกาหลีใต้จัดขึ้น

เมื่อฟังถึงตรงนี้ จินหยางก็ยกนิตยสารบนเครื่องบินขึ้นมาบังหน้า หาวครั้งที่หนึ่งอย่างระมัดระวัง

“ทีมนี้เป็นทีมเกาหลีใต้ที่มีรูปแบบการเล่นแบบดั้งเดิมที่สุด รู้ไหมว่าหมายความว่ายังไง ก็คือบริหารทีมเก่ง ฆ่าศัตรูได้โดยที่ศัตรูไม่ทันรู้ตัว…เล่นไปสักพักก็พบว่าตัวเองสู้ไม่ได้แล้ว…หัวใจหลักของทีมพวกเขาคือฮูฮิจังเกิล ฉันว่าถ้าเรียกผู้เล่นคนนี้ว่าเป็นจังเกิลอันดับหนึ่งของ SCK ก็ไม่มากเกินไป เขารู้จักหาจังหวะ ดักซุ่มตลบหลังได้เก่งมากจริงๆ…พูดตามตรงนะ สองปีมานี้ฉันรู้สึกว่ารูปแบบการเล่นของ SCK กับ SPL เราเริ่มต่างกันขึ้นเรื่อยๆ แล้ว อันที่จริงวิธีเล่นแบบถอยเพื่อรุกของพวกเขาเล่นงานพวกเราได้ดีมาก ขณะที่พวกเราชอบเล่นเกมแบบนักเลงตีกัน” เสี่ยวเซียนขมวดคิ้ว “โดยเฉพาะทีมของพวกเรา”

“นี่เรียกว่ารูปแบบการเล่นของแต่ละภูมิภาค” เหลียงเซิงเสริม “การเล่นแบบนักเลงนี่เป็นรูปแบบการเล่นของทีมใน SPL แต่ถ้าเมื่อไหร่ไม่ใช่รูปแบบการเล่นแบบนักเลงแล้วยังจะเรียกว่า SPL ได้อีกเหรอ”

เสี่ยวเซียนลุกขึ้นมาดึงหูรุ่ยถ่า “รุ่ยถ่า ครั้งนี้นายแข่งกับทีม ZE ตอนแก๊งต้องระวังให้ดีนะ ปักวอร์ดบนเลนให้เรียบร้อยก่อน หรือไม่ก็รอให้จังเกิลฝ่ายตรงข้ามเผยตำแหน่งแล้วนายค่อยบุก…”

จินหยางรีบอาศัยจังหวะนั้นยกนิตยสารขึ้น หาวครั้งที่สองเงียบๆ

จากนั้นก็ไถลตัวลงล่าง พิงศีรษะกับไหล่ของอ้ายเจียที่นั่งอยู่ด้านข้าง ถ่ายน้ำหนักที่ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป…หากคนอื่นรู้ว่าการหนีออกจากบ้านครั้งแรกของเธอเป็นอย่างตอนนี้…

ช่างเถอะ เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าเธอจะฝังกลบพร้อมกับโลงศพของเธอ จินหยางขบคิดสีหน้าเรียบเฉย ต่อให้ตายก็ไม่มีทางยอมรับว่าขณะนี้เธอเริ่มเสียใจที่ลุกจากเตียงตั้งแต่เช้ามืดมานั่งเครื่องบิน ฟังคำอธิบายที่ไม่เข้าใจ และกระวีกระวาดไปชมการแข่งขันที่คงดูแล้วไม่เข้าใจแน่ๆ

จินหยางสะลึมสะลือ เจียนจะผล็อยหลับ

อ้ายเจียหันมองเธอผาดหนึ่ง ก่อนดึงนิตยสารออกจากมือเธอสีหน้าไร้อารมณ์ จินหยางยื่นมือออกไปคิดจะแย่งกลับมาแต่ไม่สำเร็จ เธอร้อง “จิ๊” อย่างไม่พอใจ

กระทั่งหรงหรงที่นั่งอยู่ด้านหลังเธอเปรยว่า “พูดถึงทางฝั่ง SCK กันบ้าง แข่งฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ลู่ซือเฉิงก็จะกลับมาแล้ว มีข่าวไหมว่าเขาจะเข้าทีมไหน”

จินหยางลืมตา รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงขึ้นบ้าง

อ้ายเจียเห็นการกระทำของเธออยู่ในสายตา คิ้วเขาผูกเป็นปม

“ไม่รู้สิ ฉันได้ยินว่าทีมข้างบ้านสนใจเขามาก นายก็รู้ว่าลู่ซือเฉิงมีน้องชายแท้ๆ คนหนึ่งเล่นเป็นมิดตัวสำรองให้พวกเขาในการแข่งขันฤดูกาลนี้” เสี่ยวเซียนลูบคาง “นักกีฬาเลื่องชื่อแบบนี้ หน้าตาหล่อ ฝีมือดี ยังเรียกความสนใจจากแฟนคลับได้อีก คิดว่าค่าตัวคงแพงมากแน่ เงินที่ทีมบ้านข้างๆ ประหยัดแทบตายมีที่ให้ใช้แล้ว ขณะที่พวกเราไม่คิดจะเสนอค่าจ้างให้สินค้าแพงของอีสปอร์ตอย่างลู่ซือเฉิงด้วยซ้ำ…”

เสียวหน่วน “นี่ ขอเตือนหน่อยนะ AD ของทีมนี้ซึ่งก็คือฉันยังไม่ตาย”

เสี่ยวเซียนตบไหล่ของเขา “ไม่เหมือนเสียวหน่วนของพวกเรา สินค้าดีราคาถูก”

เสียวหน่วน “…”

หรงหรง “ถ้าลู่ซือเฉิงกลับมา แบบนี้ก็พักอยู่บ้านติดกันกับพวกเราไม่ใช่เหรอ โอ้โห เสริมเกียรติอธิวาส[1] ลู่ซือเฉิงพักอยู่ข้างบ้านพวกเราละ!”

จินหยางขยับตัวขึ้นนั่งให้ดี

อ้ายเจียยกนิตยสารในมือขึ้นปิดหน้าเธอใหม่ จากนั้นก็ยกมือกดศีรษะเธอให้กลับมาซบเขาอีกครั้ง จินหยางแงะมือเขาออกอย่างไม่สบอารมณ์ “ทำไม ในเมื่อฉันเป็นแฟนคลับลู่ซือเฉิง แล้วจะสนใจความเป็นไปของโอปป้าหลังกลับประเทศ ผิดด้วยเหรอ! นี่เป็นหัวข้อสนทนาที่น่าสนใจที่สุดนับแต่ฉันขึ้นเครื่องเลย! ให้ฉันร่วมวงด้วยสิ!”

อ้ายเจียไม่ปริปาก สีหน้าเรียบเฉย มือใหญ่ล็อกศีรษะเล็กๆ ให้อยู่ที่เดิม สีหน้าเธอตื่นเต้นผิดปกติ เขาพูดเสียงเย็นเสริมว่า “ร่วมวงบ้าอะไร”

“ทำไมล่ะ!”

“เธอกินในชามมองในหม้อ[2]ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ”

“ฉันกินอะไรในชาม”

“ฉันไง”

“…” จินหยางถลึงตาใส่อ้ายเจีย อ้ายเจียสบตาตอบ สีหน้าสงบนิ่ง ผ่านไปไม่นานจินหยางก็ยังไม่ได้โต้แย้งเรื่อง “ชามหรือหม้อ” เธอเงียบไปประเดี๋ยวเดียวค่อยถามอย่างจริงจังว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันคายนายกลับใส่ชาม แล้วเดินไปหิ้วหม้อมายังทันไหม”

อ้ายเจียแค่นหัวเราะเป็นคำตอบ หากไม่ใช่เพราะเปิดหน้าต่างเครื่องบินไม่ได้ เห็นชัดว่ายามนี้เขาคงเปิดหน้าต่างแล้วผลักจินหยางออกไปข้างนอก แถมร่มชูชีพให้เธอเดินทางจากไปโดยสวัสดิภาพแล้ว

มิน่าล่ะพวกเด็กติดอ่างถึงมองอ้ายประหนึ่งจอมมาร ตอนเขาแค่นหัวเราะแบบมีเลศนัยนี่ดูน่ากลัวจริงๆ

เวลาเดียวกันนั้นกลิ่นเปรี้ยว[3]ที่คละคลุ้งผืนฟ้านี้ไม่ได้แค่มาจากผู้เล่นเลนกลางในอนาคตของทีม YQCB แต่เหลียงเซิงที่อยู่ด้านข้างหยุดคิดสักพักก่อนเอ่ยอย่างอิจฉาว่า “สบายเจ้าอ้วนข้างบ้านแล้ว พอถึงเวลานั้นเขาน่าจะร่ำร้องขอกอดขาอีกฝ่ายไต่แรงก์แบบสบายๆ ผิดกับฉันที่ได้แต่กอดคอผู้เล่นสินค้าดีราคาถูกตัวสั่นเทิ้มระหว่างแรงก์ไดมอนต์หนึ่งกับแรงก์มาสเตอร์”

เสียวหน่วนเหวี่ยงกลับ “ฉันก็ไม่อยากเล่นกับนายเหมือนกัน นายไปร่วมตายร่วมตกแรงก์กับคนแปลกหน้าไปเลยไป”

เหลียงเซิง “นายดูตัวเองสิ ว่านายแล้วยังโมโหอีก ถ้าไม่ใช่เพราะนายไม่ละอายใจแล้วจะโมโหทำบ้าอะไร”

เสี่ยวเซียน “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว ค่าตัวพวกนายสองคนรวมกันยังไม่เท่าครึ่งหนึ่งของลู่ซือเฉิงเลย”

เหลียงเซิง “ไม่รู้จักพูดเลยนะพี่น่ะ พี่ทำร้ายจิตใจพวกผมแล้ว คาดว่าในมหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลก ทีม ZE คงเอาชนะพวกเรา 3:0 แน่เลย”

เสี่ยวเซียน “…”

 

เวลาหนึ่งทุ่มกว่า

หลังเปลี่ยนเที่ยวบินอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็มาถึงคุนซาน พอจินหยางลงจากเครื่อง ขณะรอรับกระเป๋าเดินทาง เธอรับสายเรียกเข้าจากพ่อของเธอ…พ่อของจินหยางมักโทร.มาหาเธอเวลานี้ทุกวัน ต่อให้ตัวเธอไปเที่ยวต่างประเทศ ความเคยชินนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน

จินหยางละล้าละลังครู่หนึ่งก่อนกดรับ

ปลายสายด้านนั้นถามว่าทำไมเธอถึงปิดเครื่อง

“เมื่อกี้อยู่บนเครื่องบินก็ต้องปิดเครื่องสิคะ…ทำไมถึงอยู่บนเครื่องบินน่ะเหรอคะ หนูไม่ได้บอกพ่อแล้วเหรอคะว่าจะหนีออกจากบ้าน ตอนนี้หนูอยู่คุนซาน”

ถ้อยคำของจินหยางดึงดูดสายตาสมาชิกทุกคนของทีม YQCB ที่รอรับกระเป๋าสัมภาระ เธอหันหลังให้ทุกคนเลยไม่รู้เรื่องนี้…

“หนูไม่ได้รูดบัตรค่ะ สองวันมานี้หนูไม่ได้รูดบัตรเลย หนูหนีออกจากบ้านแล้วทำไมยังต้องใช้บัตรพ่ออีกล่ะคะ พ่อเคยเห็นใครหนีออกจากบ้านแล้วยังไปพักที่โรงแรมฮิลตันบ้าง…ยังไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนที่ไหนเลยค่ะ คงหาพื้นที่ใต้สะพานสักที่นอนไปก่อนสักคืน เบียดๆ กับพวกขอทานเอา”

ทุกคน “…”

เหลียงเซิงขยับตัวไปกระแซะอ้ายเจีย “…นี่เธอกำลังเล่นละครเรื่องไหนอยู่เนี่ย”

หนีออกจากบ้านเหมือนกัน ทางนี้พ่อแม่ร้อนใจโทร.มาถามว่ามีเงินพอใช้ไหม ทำไมถึงไม่รูดบัตร ในขณะที่ทางบ้านเขา ไม่ใช่แค่ไม่โทร.มาหา ด้านนอกหิมะตก แม่เขายังไม่ให้เสื้อขนเป็ดเขาแม้แต่ตัวเดียว…อ้ายเจียจ้องแผ่นหลังของจินหยางสามวินาทีก่อนฉีกริมฝีปากบางออกเป็นเส้นตรง “ไดอารีเจ้าหญิงตกอับล่ะมั้ง”

เหลียงเซิง “…นายเป็นผู้ชาย นายคงรู้นะว่าในเมื่อขอทานอย่างนายหลอกเจ้าหญิงออกจากคฤหาสน์มาแล้ว ต่อให้ต้องเดินทางไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียว นายก็ต้องทำให้เธอรู้สึกคล้ายเป็นเจ้าหญิงเหมือนเดิม”

อ้ายเจีย “รู้”

เหลียงเซิงพยักหน้าอย่างพึงใจ “ดีมาก ฉันไม่อยากได้ชายชั่วมาเป็นเพื่อนร่วมทีมฉัน จริยธรรมสำคัญมากๆ”

อ้ายเจีย “…”

เวลานี้จินหยางกดตัดสายอย่างหงุดหงิด เธอหมุนตัวมามองอ้ายเจีย เห็นเขาจ้องเธออยู่ จินหยางก็เลิกคิ้วถาม “มองอะไร”

“คืนนี้ไม่มีฮิลตัน มีแต่โฮสเทล[4]” อ้ายเจียแถลง “ใครบอกเธอว่าเธอต้องไปนอนใต้สะพานเบียดกับขอทาน”

“…ฉันแค่ขู่พ่อไปอย่างนั้นเอง” จินหยางเสยผมขึ้นอย่างรำคาญ “ช่วงนี้พ่อคงไม่บ้าจี้พยายามจับคู่ให้ฉันอีกแล้ว แต่พ่อยังไม่ยอมตัดใจเรื่องที่จะให้ฉันไปเรียนต่อต่างประเทศ ฉันเลยชิงตัดสายไปก่อน”

“อ้อ” อ้ายเจียพยักหน้า “ฉันบอกแม่ฉันว่าฉันเรียนจบปีหนึ่งแล้วถึงค่อยไปเป็นนักกีฬา แม่ฉันน่าจะเห็นแก่เรื่องนี้ ตอนหิมะตกอย่างน้อยแม่น่าจะให้เสื้อขนเป็ดฉันใส่สักหน่อยก็ยังดี แต่แม่แค่แค่นหัวเราะใส่ฉันสั้นๆ แล้วกดวางสายอย่างไวปานพายุเฮอร์ริเคน ว่าแต่ความเร็วในการกดวางสายของผู้หญิงอย่างพวกเธอนี่ผ่านคอร์สฝึกฝนมาใช่ไหม”

จินหยาง “…”

จินหยางเดินขึ้นหน้า แล้วเขย่งเท้ามอบอ้อมกอดแห่งรักและเห็นใจให้อ้ายเจีย อ้อมกอดนี้สื่อถึงคำพูดทุกคำแล้ว

 

มหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลกเริ่มขึ้นหลังจากทีม YQCB กลับมาจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกเดือนพฤศจิกายน มหกรรมแข่งขันครั้งนี้เรียกอีกอย่างว่าโอลิมปิกอีสปอร์ต แต่ความจริงแล้วไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนในประเทศสักเท่าไหร่…ทีมดั้งเดิมของภูมิภาค SPL อย่าง CK ZGDX ไม่ได้ลงสมัครเพราะกำลังเผชิญกับปัญหาการปรับเปลี่ยนสมาชิกทีม สถานการณ์ตอนนี้เทียบกันแล้วรูปแบบของทีม YQCB ถือว่ามั่นคง จึงสามารถเติมเต็มช่องว่างนี้ได้พอดี

เดือนธันวาคม พวกเขาก็ตะลุยฝ่าเข้ามาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ

มหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลกนี้ ที่น่าอัศจรรย์ก็คือต่อให้ได้อันดับสองก็ไม่ได้รับเงินรางวัลแม้แต่เหมา[5]เดียว…สโมสร YQCB แผนกเกมออร์เดอร์ออฟสตรอมที่พลาดเงินรางวัลแชมป์ S3 เดิมก้าวมาถึงมหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลกก็หวังว่าจะได้รับเงินบ้างเล็กน้อย…

ทว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่าเงินเล็กน้อยนี้เหมือนจะได้มาไม่ง่ายสักเท่าไหร่

จากที่เสี่ยวเซียนพูด ความจริงสภาพจิตใจโดยรวมของสมาชิกทีม YQCB ถือว่าย่ำแย่มากเหมือนกัน แม้เข้ารอบชิงชนะเลิศมหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลกแล้ว แต่นับแต่การแข่งขันรอบคัดเลือกจนถึงตอนนี้ พวกเขาก็เผยปัญหาออกมาให้เห็นไม่น้อย เหมือนว่าจู่ๆ ก็แข่งไม่เป็นเสียแล้ว ทั้งทีมเล่นกันคนละทิศละทางกระจัดกระจายดุจเม็ดทราย สู้รบกับทีมที่ปกติไม่เห็นอยู่ในสายตาอย่างยากลำบาก ระหว่างทางที่ผ่านมาถือว่าไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่…

อย่างน้อยนับแต่แสดงฝีมือในสนามแข่งจนถึงบัดนี้ พวกเขาไม่เหมือนทีมที่เพิ่งพลาดแชมป์โลก S3 ไปอย่างน่าเสียดายเลย

กว่าจะแข่งถึงรอบชิงชนะเลิศ ล้วนอาศัยความสามารถในการยืนเลนของสมาชิกแต่ละคนช่วยกันต่อลมหายใจ…ดูจากภาพรวมแล้ว อย่าเรียกว่าทีมชั้นนำของโลกเลย อย่างมากก็เป็นได้แค่ทีมระดับปานกลางของ SPL

ถ้อยคำพรรค์นี้มาจากการที่เสี่ยวเซียนเดินมาคุยเล่นกับอ้ายเจียหลังเข้าพักในโรงแรมคืนวันนั้น ทั้งคู่ยืนพิงราวระเบียงโรงแรมสูบบุหรี่ด้วยกัน พวกเขาไม่รู้เลยว่าตอนพวกเขาคุยกันอยู่นั้น จินหยางที่อยู่ห้องข้างๆ กำลังฟังคลิปเสียงภาษาอังกฤษ…

ด้วยความบังเอิญเธอจึงได้ยินบทสนทนานี้ลอดผ่านผนัง

สำหรับสาเหตุที่ว่าอะไรทำให้ทีมตกอยู่ในสภาวะตกต่ำนั้น เสี่ยวเซียนไม่ได้พูดถึง…

จินหยางรู้แค่ว่าคนสองคนในห้องข้างๆ เงียบไปนานมาก สุดท้ายเสี่ยวเซียนก็ทอดถอนใจ อาหารที่กินแล้วไม่อร่อย แต่จะทิ้งก็น่าเสียดาย

ไม่รู้ว่าเขาพูดถึงใครกันแน่…

จินหยางคาดเดาอยู่นาน คิดไม่ถึงว่าพอวันต่อมา เธอจะเห็นคำตอบของประโยคปริศนานี้กับตาตัวเอง

 

เย็นวันต่อมาเป็นการแข่งรอบชิงชนะเลิศประเภทเกมออร์เดอร์ออฟสตรอมในมหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลก

เหมือนที่เซี่ยเหมียวพูดไว้ สองปีมานี้มีคนสนใจอีสปอร์ตเกมออร์เดอร์ออฟสตรอมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ…แต่เพราะสายอาชีพอีสปอร์ตภายในประเทศพัฒนาไม่ทันความฮ็อตฮิตจริงๆ ของเกม ดังนั้นสนามแข่งมหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลกเลยสร้างได้ไม่ดีนัก ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น ในสภาพแวดล้อมแบบเปิด เหตุเพราะเวทีประกอบขึ้นชั่วคราว ทำให้ผู้ชมทั้งนั่งและยืนเบียดเสียดกันจนเห็นเพียงแค่เงาดำๆ ของศีรษะคนเท่านั้น…

เดิมจินหยางคิดจะยืนอยู่ด้านล่างเวทีชมการแข่งขันจนจบ แต่พอเห็นกลุ่มคนพวกนั้นแล้ว อาการกลัวฝูงชนของเธอก็กำเริบ

เธอยอมหน้าด้านหน้าทนติดตามอ้ายเจียไปนั่งด้านหลังเวที หาเก้าอี้พลาสติกพังๆ ตัวหนึ่งไปนั่งชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านจอที่ฝ่ายจัดงานเตรียมไว้ร่วมกับกลุ่มโค้ช

…จากนั้นเธอก็เห็นทีม YQCB ถูกทีม ZE ถล่มจนวอดวายตลอดสี่สิบนาทีของเกม เหตุการณ์เกิดขึ้นติดต่อกันถึงสองเกม ทีม ZE จ้องจะโจมตีนักแข่งเลนกลางของทีม YQCB พวกเขาเอะอะก็รวมกลุ่มกันสามคนสี่คนไดรฟ์ป้อมเปิดศึก

เวลาสามทุ่มครึ่ง ผลคะแนนของสงครามระหว่างทีม YQCB กับทีม ZE อยู่ที่ 0:2

…จะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง เหล่านักรบทีม YQCB ที่เปิดศึกกับทีม TAT ทีมอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ แต่พ่ายไปอย่างน่าเสียดายด้วยคะแนน 2:3 ทำให้คว้าตำแหน่งรองแชมป์ของ S3 ไปครองนั้น เวลาผ่านมาแค่สองเดือนกลับราวกับโดนผีเข้าสิง ถูกทีมจากเกาหลีใต้ที่ไม่จัดว่าเป็นทีมแนวหน้าเชือดเละเทะในมหกรรมแข่งอีสปอร์ตระดับโลก

ไม่มีใครยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ได้

ใต้เวยปั๋วทางการของสโมสร YQCB ไม่ว่าแฟนคลับหรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมนี้ต่างกรูกันระเบิดคอมเมนต์…

[ไม่ใช่ว่าฉันอยากว่านะ แต่ซาเชียนตอนนี้ห่วยจริงๆ] [พวกนายดูสิว่าพวกนายเล่นบ้าอะไรกัน] [ทีม YQCB เป็นอะไรไป] [สติแตกไปแล้วมั้ง ฉันเป็นแฟนคลับซาเชียน พูดตามตรงนะว่าหากเขาไม่อยากเล่นก็แขวนเมาส์ไปเถอะ สตรีมเล่นๆ ก็ได้เหมือนกัน…ฝืนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ดีหรอก เฮ้อ!] [เปิดทีมไฟต์แบบไร้สมอง ในความไร้สมอง…ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทั้งที่นายรู้อยู่แล้วว่าคู่แข่งจะรุมยำนายแน่ ยังจะเข้าไปใกล้อีกฝ่าย นี่มันอะไรกัน เลือกฮีโร่อย่างสเนกเกิร์ลแต่นายดันไม่รู้จักหดหัว กากจนฉันอยากควักลูกตาตัวเองออกมา…] [เขียนจดหมายเลือดร้องขอให้มิดทีมนี้เกษียณ ได้โปรดเถอะ!] [ฉันดูออกแล้ว มิดไม่อยากชนะ…เดิมเจอเรื่องแบบนั้นตอนแข่ง S3 ฉันก็ไม่อยากว่าสมาชิกทีม YQCB ไม่ว่าจะใครทั้งนั้น พูดแล้วก็สงสาร…] [ทีมไฟต์ครั้งสุดท้ายในการแข่งขันครั้งนั้น ซาเชียนเดินตำแหน่งพลาดแล้วก็พลาดไปเถอะ พวกเรารู้ว่าเพราะเหนื่อยเกินไปเลยเป็นแบบนั้น…] [แต่ตอนนี้ล่ะ เหมือนว่าความเข้าใจและการให้อภัยที่แฟนคลับมอบให้เสียเปล่าซะแล้ว การแข่งขัน S3 ผ่านมาสองเดือนแล้ว แต่ทีม YQCB กลับเล่นแย่ลงเรื่อยๆ ซาเชียนเลนกลางเทพซาของพวกเราอย่างกับสิ้นใจตายในทีมไฟต์หนสุดท้ายของ S3 แล้ว] [นี่ไม่ใช่ทีม YQCB ที่ฉันรู้จัก พวกนายเป็นอะไรไปกันแน่] [อะไรคือพูดว่าปีหน้าเอาใหม่ นี่ ถ้าพวกนายเล่นแบบนี้แล้วยังเข้า S4 ได้ ฉันยอมตัดหัวตัวเองถวายเลย โอเคไหม] [เหมือนเล่นให้จบๆ ไป ฉันขอพูดไว้ประโยคหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วทีม YQCB ต้องไปแข่งป้องกันการตกชั้นแน่]

ความคิดเห็นแนวนี้อุบัติขึ้นนับไม่ถ้วน

จินหยางเลื่อนดู ความจริงเมื่ออ่านพวกคอมเมนต์หยาบคายที่เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ดผ่านๆ ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่…

ผิดกับพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นแฟนคลับ ดูคล้ายเป็นแฟนคลับพวกนั้นจริงๆ บอกว่าตัวเองเป็นแฟนคลับที่มีสติ แต่กลับพยายามโน้มน้าวให้ซาเชียนอำลาวงการ

…คนพวกนี้อย่างกับคนปัญญาอ่อน

จินหยางอ่านแล้วขมวดคิ้ว มีใครบ้างที่โน้มน้าวให้ผู้เล่นที่ตัวเองชอบวางเมาส์แล้วไปสตรีมเกมหาเงินไปวันๆ ยังพูดว่า “เพราะหวังดี” อีกแน่ะ

ขณะจินหยางมุ่นคิ้วพลางเลื่อนอ่านเวยปั๋ว จังหวะนี้เองนอกห้องพักพลันเกิดความวุ่นวายขึ้น สมาชิกทีม YQCB ที่แข่งเกมที่สองจบแล้วกลับเข้ามาในห้อง…

สีหน้าพวกเขายามนี้ต่างจากตอนเดินทางมาที่มีเสียงหัวเราะหยอกล้อกัน แต่ละคนสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะกัปตันทีมเหลียงเซิง เขาเดินเข้ามากระดกขวดน้ำดื่มไปกว่าครึ่งขวด ต่อมาเขาอยากพูดบางอย่าง ชำเลืองมองเสี่ยวเซียนก่อนแวบหนึ่ง ลังเลสักพักแล้วจึงเลือกที่จะปิดปากในที่สุด

สมาชิกทีมนั่งอยู่บนเก้าอี้ ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยและไม่มีใครหารือกันว่าเกมหน้าจะเล่นกันอย่างไร ทั่วทั้งห้องพักนักกีฬาเงียบงันชวนให้คนอึดอัดอักโข

จินหยางยื่นมือไปกระตุกแขนเสื้อของอ้ายเจีย ตอนอ้ายเจียผินหน้ามาสีหน้าเขาไร้อารมณ์ จินหยางบุ้ยปากไปทางซาเชียน…

อ้ายเจียเหลียวมองตามทิศทางที่เธอบุ้ยปากชี้ เวลานี้ถึงพบว่าในห้องพัก ท็อปหรงหรง จังเกิลรุ่ยถ่า ซัพพอร์ตเหลียงเซิงและ AD เสียวหน่วนต่างนั่งนิ่งและเหม่อลอยประจำอยู่มุมหนึ่ง

ในขณะที่เลนกลางซาเชียนนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับถือมือถือ…แสงจากหน้าจอมือถือส่องต้องหน้าของเขา สะท้อนดวงตาของเขา…แววตาเขาลึกล้ำมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด ไม่มีอารมณ์ใดๆ นิ่งสงบปานหนองน้ำเน่า

จินหยางนั่งอยู่ฝั่งขวาด้านหลังซาเชียน เธอเหลือบมองหน้าจอมือถือของเขาด้วยความว่องไว พบว่าเขากำลังอ่านความคิดเห็นใต้เวยปั๋วทางการของสโมสร YQCB โดยไล่อ่านทีละข้อความ ไม่แย้มปากแม้แต่คำเดียว

“…”

จินหยางขมวดคิ้วนิดๆ พลางใช้เท้าสะกิดอ้ายเจีย

อ้ายเจียทำหน้าจนใจ ใช้เท้าสะกิดเหลียงเซิงต่อ

เหลียงเซิงได้สติกลับมาแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปหยุดตรงหน้าซาเชียน แล้วดึงมือถือออกจากมือของเขาขณะพึมพำว่า “ไม่ต้องอ่านแล้ว”…ยามซาเชียนเงยหน้ามองเหลียงเซิง เหลียงเซิงฝืนยิ้มหนหนึ่ง จากนั้นพูดเสียงสูงขึ้น พยายามให้คนฟังแล้วผ่อนคลาย “ไม่เป็นไรนี่ เหล่าซา! สองเกมที่แล้วนายถูกรุมขนาดนั้น ต่อให้เป็นเซียนก็หนีไม่พ้น! พวกเขาชอบรุมนายก็ให้พวกเขารุมไป เกมหน้านายทำเป็นกลัวสักหน่อย อย่ารุดขึ้นหน้าเร็วเกินไป ฉันจะปักวอร์ดที่เลนกลางให้มากหน่อย ให้รุ่ยถ่าคอยดูแลเลนกลางให้ดี พอถึงเวลานั้นนายก็จะไม่…”

“ช่างเถอะ เล่นๆ ให้จบก็พอ อย่างไรก็สู้ไม่ได้”

เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายเอ่ยขัดจังหวะคำพูดของเหลียงเซิง

ทั่วทั้งห้องพักเงียบลงเป็นเวลาสั้นๆ

เดิมเสี่ยวเซียนกำลังขีดๆ เขียนๆ รายละเอียดของเกมสองนัดที่แล้ว เวลานี้เขาวางปากกาลง เหยียดหลังตรง

หรงหรงเดิมหารือกับเสียวหน่วนเสียงแผ่วว่าควรเปิดทีมไฟต์หนสุดท้ายเมื่อกี้อย่างไรดี เวลานี้พวกเขาปิดปากเงียบแล้ว

ทีมงานที่ยืนอยู่ข้างตู้กดน้ำค้างอยู่ที่ท่าค้อมตัวชั่วครู่ ก่อนยืดหลังตรงเหมือนได้ยินเรื่องที่ชวนตกใจ

ในขณะที่รอยยิ้มฝืนๆ ที่เคยประดับมุมปากของเหลียงเซิงปลาสนาการสิ้น

มือถือที่เหลียงเซิงถือไว้ในมือถูกดึงออกไป ซาเชียนดึงมือถือกลับไปเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ เขาลุกขึ้นยืน กวาดสายตาเรียบเฉยมองทุกคนในห้องพักที่กำลังมองเขา…

เขานิ่งเงียบชั่วขณะก่อนเอ่ยเสียงเรียบระคนเย็นชาแตกต่างจากน้ำเสียงสดใสเฮฮาที่พูดตอนสตรีมอย่างสิ้นเชิง “ฉันรู้สึกว่าพวกแฟนคลับที่คอมเมนต์ใต้เวยปั๋วทางการพูดถูก…ฉันเหนื่อยแล้ว พวกนายเองก็เหนื่อยแล้วใช่ไหม รีบเล่นให้จบๆ สามนัดเถอะ ยังไงก็ไม่ชนะ ทีม ZE เก่งจริงๆ นับว่าเป็นทีมพิฆาตพวกเรา”

ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน

จินหยางได้กลิ่นอายความหมองหม่นกำจายไปทั่วห้องพัก

สีหน้าสมาชิกทีมที่เหลือเริ่มเปลี่ยนไป คล้ายคลึงกับซาเชียนอย่างรวดเร็ว…

ราวกับว่ามีใครสักคนเปิดกล่องแพนโดรา[6] ปล่อยโรคระบาดที่น่าสะพรึงกลัวออกมา และโรคระบาดนั้นแพร่กระจายไปติดทุกคนในทีมเร็วรี่

วินาทีนี้จู่ๆ จินหยางก็เข้าใจแล้วว่า “อาหารที่กินแล้วไม่อร่อย แต่จะทิ้งก็น่าเสียดาย” ที่เสี่ยวเซียนพูดเมื่อคืนหมายถึงอะไร…ยากที่จะจินตนาการได้ว่าในชีวิตนี้ของเธอจะได้รับเกียรติเห็นคนที่สูญเสียเจตจำนงในการมีชีวิตอยู่ของตัวเองไปอย่างสิ้นเชิงกับตาของเธอเอง

ในรูปแบบที่สัมผัสได้แจ่มแจ้งแบบนี้…

สูญเสียใจที่มุ่งมั่นจะเอาชนะ

สูญเสียยางอาย

สูญเสียความรู้สึก

สูญเสียตัวเอง

สุดท้ายสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง

 

[1] หมายถึง การมาเยือนของอีกฝ่ายเสริมราศีให้ที่อยู่อาศัย

[2] หมายถึง คนโลภมาก มีของอยู่ตรงหน้าแล้วยังคิดจะเอาเพิ่มอีก

[3] หมายถึง อิจฉา หรือหึงหวง

[4] เป็นที่พักราคาประหยัดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานทั่วไปให้ผู้เข้าพัก มีทั้งห้องรวมและห้องเดี่ยว

[5] เงินสกุลของจีน เรียงลำดับจากใหญ่ไปเล็ก คือ หยวน(ไคว่) เจี่ยว(เหมา) และเฟิน

[6] ในตำนานเทพกรีกเชื่อว่าความชั่วร้ายต่างๆ นานาถูกบรรจุอยู่ในกล่องแพนโดรา เมื่อเปิดออก สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นก็จะพวยพุ่งออกมาจากกล่องตรงเข้าไปกัดกินหัวใจมนุษย์ให้ฆ่าฟันกันเองจนกลายเป็นยุคมืด

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า