[ทดลองอ่าน] คุณชายซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิง ตอนที่ 1

爱你怎么说
คุณชายซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิง

 

风流书呆 เฟิงหลิวซูไต เขียน
ศีตกาล แปล
MOON วาด

 

— โปรย —

เซียวจยาซู่ เกิดมาในตระกูลใหญ่ผู้กุมบังเหียนด้านกลุ่มธุรกิจเภสัชกรรม
ทว่าด้วยพื้นเพทางมารดา ทำให้เขาเป็นที่ขวางหูขวางตาและเดียดฉันท์ของคนในตระกูล
เขาที่เสมือนคนไร้ประโยชน์ ได้แต่ใช้ชีวิตเหมือนซากศพไปวัน ๆ
ถูกแม่ตัวเองที่ทนดูสภาพของลูกชายไม่ไหว ลากเข้าไปทำงานในวงการบันเทิง
จนได้รู้จักกับราชาจอเงินอย่าง จี้เหมี่ยน ที่ขึ้นชื่อว่าอ่อนโยนและใจดี
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าตัวกลับบ้าอำนาจและเผด็จการต่อคนรอบข้างอย่างที่สุด
ซ้ำยังดูไม่ชอบคุณชายอย่างเซียวจยาซู่เอามาก ๆ
ทว่าโชคชะตายากคาดเดา หลังจากจี้เหมี่ยนประสบอุบัติเหตุเจ้าตัวก็เปลี่ยนไป
ดูจะเข้าอกเข้าใจในสิ่งที่คนอื่นคิด และดีกับคุณชายเซียวมากขึ้น…
โดยที่ทุกคนหารู้ไม่ว่า ดาราใหญ่แห่งวงการบันเทิงอย่างเขาได้ความสามารถในการอ่านใจผู้อื่นมา

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

บทที่ 1

กลับประเทศ

 

เซียวจยาซู่เพิ่งกลับประเทศ ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านตัวเอง คนรับใช้สองสามคนแอบอยู่ตามบันไดกำลังซุบซิบนินทาเขา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากำลังพูดอะไรกัน คงไม่พ้น ‘ทำไมคุณชายรองต้องกลับมาด้วย อยู่ต่างประเทศไม่ดีหรือไง กลับมาก็มีแต่จะทะเลาะกับคุณชายใหญ่แล้วเป็นเรื่องขึ้นมาอีก’ อะไรทำนองนั้น

นั่นสิ ทำไมต้องกลับมาด้วย เซียวจยาซู่ถามตัวเองอยู่เหมือนกัน จากนั้นเขาก็ได้แต่ยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างเหงา ๆ คนพเนจร อย่างไรเสียก็ต้องกลับบ้าน และที่นี่ก็เป็นบ้านของเขา แล้วทำไมเขาจะกลับมาไม่ได้

การถกเถียงที่ชั้นบนยังคงดำเนินต่อไป คนที่กำลังเถียงกันอยู่คือพ่อและแม่ของเขา ไม่เจอกันหลายปีพ่อของเขาแก่ลงมาก ผมที่ข้างขมับสองข้างมีสีขาวแซมแล้ว เสียงก็ฟังดูแหบพร่าลงไม่น้อย ทว่าแม่กลับยังคงดูเหมือนก่อนหน้านี้ มีผิวเรียบเนียน คิ้วตาดูประณีตงดงาม นิสัยอ่อนโยน กาลเวลาไม่เคยทิ้งร่องรอยใดเอาไว้บนตัวของเธอเลย ตอนนี้เธอกำลังถามอย่างโกรธเคือง “ทำไมถึงหาตำแหน่งสักตำแหน่งให้เสี่ยวซู่ไม่ได้ล่ะคะ เจ้าคนเล็กของบ้านรองกับบ้านสามยังไม่ทันเรียนจบก็เข้ามารับตำแหน่งสำคัญในเซียวกรุ๊ปได้แล้ว แล้วทำไมเสี่ยวซู่จะทำไม่ได้ เขาเป็นนักศึกษาที่มีความสามารถสูงของวิทยาลัยการค้าวอร์ตันเลยนะคะ จะสู้พวกลูกพี่ลูกน้องที่จบมาจากมหาวิทยาลัยธรรมดา ๆ แถมยังดร็อปเรียนไม่ได้เชียวหรือ”

เซียวฉี่เจี๋ยเอ่ยอย่างเหลืออด “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การศึกษา ถ้าคุณพ่อไม่เห็นด้วย ใครก็เข้าเซียวกรุ๊ปตามใจชอบไม่ได้หรอก คุณพ่อก็รับปากจะให้เสี่ยวซู่ถือหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์แล้วไง ยังไม่พออีกเหรอ เขาไม่ต้องทำอะไรเลย แค่รอรับปันผลทุกปีก็สบายไปชั่วชีวิตแล้ว”

ฟังถึงตรงนี้ริมฝีปากที่เม้มจนเป็นเส้นตรงของเซียวจยาซู่ก็สั่นน้อย ๆ เขาไม่ได้ต้องการหุ้นนั่นเลย แล้วก็ไม่อยากอยู่ไปวัน ๆ โดยไม่ทำอะไรเลยไปชั่วชีวิตด้วย เขามองว่าแบบนั้นไม่ได้เรียกว่าสบาย แต่เรียกว่าเกียจคร้านไม่กระตือรือร้นมากกว่า ทั้งที่เขาเป็นลูกหลานของตระกูลเซียวแท้ ๆ แล้วทำไมถึงจะลงแรงเพื่อวงศ์ตระกูลไม่ได้ล่ะ

เซวียเหมี่ยวใกล้จะบ้าตายอยู่แล้ว เธอรู้สึกว่าไม่ว่าอย่างไรตนก็ไม่มีทางคุยกับสามีรู้เรื่อง เธอจึงกรีดเสียงตะคอกขึ้นมา “หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวซู่ควรจะได้หรือคะ หลายวันก่อนพ่อของคุณก็เพิ่งให้หุ้นบ้านรองบ้านสามคนละห้าเปอร์เซ็นต์ไปนี่ มันคือส่วนแบ่งที่ลูกหลานตระกูลเซียวควรได้ก็ต้องให้อยู่แล้ว แล้วทำไมกับเสี่ยวซู่ถึงกลายเป็นการช่วยเหลือคนนอกไปได้ เขาไม่ใช่ลูกชายคุณ ไม่ใช่หลานของพ่อคุณหรือคะ เขาเป็นลูกของฉันกับผู้ชายคนอื่นหรือไง เซียวฉี่เจี๋ย คุณจะลำเอียงแบบนี้ไม่ได้นะคะ ในสายตาของคุณมองเห็นแต่ติ้งปัง ไม่เห็นเสี่ยวซู่สำคัญเลยสักนิด! เขาอุตส่าห์พยายามร่ำเรียนขนาดนั้นก็เพื่อที่ว่าเรียนจบแล้วจะได้มาช่วยคุณ ช่วยพี่ชายของเขา! เขาเป็นเด็กดี พวกคุณจะทำแบบนี้กับเขาไม่ได้!”

“พอได้แล้ว คุณพูดเหลวไหลอะไรของคุณ เขาเป็นลูกชายผม ผมก็ต้องดูแลเขาอยู่แล้ว แค่ไม่ให้เข้าเซียวกรุ๊ปก็เท่ากับผมลำเอียงแล้วเหรอ เขาไม่ได้ทำอะไรเลยก็ได้หุ้นไปห้าเปอร์เซ็นต์แล้ว ถ้าพูดไปใครบ้างจะไม่อิจฉา อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณอยากจะใช้เขามาแย่งทรัพย์สินของครอบครัวใช่ไหมล่ะ คุณทำเพื่อตัวเองล้วน ๆ! ก่อนแต่งงานพวกเราเซ็นสัญญาตกลงเรื่องทรัพย์สินกันแล้ว คุณบอกว่าไม่ได้อยากได้เงินของตระกูลเซียวแม้แต่นิดเดียว หรือว่าลืมไปหมดแล้ว ถ้าคุณไม่พอใจก็ไปพูดกับคุณพ่อเอง ไม่ต้องมาเถียงอะไรไม่มีเหตุผลอยู่ตรงนี้หรอก!”

เซวียเหมี่ยวโกรธจนถึงขีดสุด เธอกรีดเสียง “เซียวฉี่เจี๋ย ไอ้คนเลว! ตอนนั้นฉันเซ็นสัญญาตกลงเรื่องทรัพย์สินก่อนแต่งงานจริง ๆ นั่นแหละ ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณเพราะเงินของคุณเลยจริง ๆ นะ แต่ฉันก็คือฉัน เสี่ยวซู่ก็คือเสี่ยวซู่ ฉันไม่เอาเงินตระกูลเซียวของคุณแม้แต่สตางค์แดงเดียวก็ได้ แต่เสี่ยวซู่เป็นลูกชายของคุณ เขาก็ควรจะได้รับสิ่งที่เป็นของเขา! พวกคุณจะจับเขาส่งไปอยู่ต่างประเทศแล้วไม่สนใจอะไรอีกเลยไม่ได้ เขาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้!” เสียงร้องไห้ฮือ ๆ ดังมา แสดงถึงความโศกเศร้าและเหลือทนสุดแสน

สีหน้าเซียวจยาซู่ไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง เขานั่งอยู่บนโซฟาเหมือนรูปสลัก พ่อของเขาแต่งงานเป็นครั้งที่สองแล้ว ก่อนจะมีแม่ของเขาพ่อมีภรรยาอยู่อีกคนหนึ่ง เธอคนนั้นเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร พ่อกับแม่ของเขารู้จักกันครึ่งปีหลังจากภรรยาคนก่อนของพ่อจากโลกนี้ไป ไม่ใช่การคบชู้ทั้งที่ยังแต่งงาน และไม่มีตำแหน่งภรรยาน้อย แต่ด้วยหน้าที่การงานของแม่ ไม่ว่าอย่างไรคนอื่นก็ยังไม่ยอมเชื่อเสียทีว่าแม่ของเขาบริสุทธิ์ใจ คนอื่น ๆ มักจะคิดว่าแม่ของเขาจงใจยั่วยวนพ่อ จากนั้นก็อาศัยอำนาจของตระกูลเซียวไต่เต้าขึ้นไป ยิ่งผู้มีอำนาจที่แท้จริงอย่างเซียวเหล่าเหยียจื่อ[1]ยิ่งเข้าใจแม่ของเขาผิดไปกันใหญ่ แล้วเอาอกเอาใจหลานคนโตซึ่งเป็นลูกจากภรรยาคนแรกของพ่อเขาอย่างหนัก จึงกลายเป็นการกดดันสองแม่ลูกอย่างเขากับแม่มาก

เดิมเซียวจยาซู่เคยคิดว่า ถ้าสอบติดวิทยาลัยการค้าวอร์ตันแล้วสำเร็จการศึกษาด้วยผลการเรียนอันยอดเยี่ยม ปู่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้ ตอนนี้ดูท่าจะเป็นการหวังลม ๆ แล้ง ๆ สิ้นดี เซียวเหล่าเหยียจื่อเป็นคนหัวแข็ง ถ้าชอบใครก็แทบจะทุ่มเทให้หมดทั้งหัวจิตหัวใจ แต่ถ้าเกลียดใคร คนคนนั้นก็จะกลายเป็นส่วนเกินที่น่ารังเกียจเกินกว่าจะชายตามอง พี่ชายต่างแม่ของเขา เซียวติ้งปัง ก็คือคนที่ได้รับความรักอย่างลำเอียงคนนั้น ส่วนตัวเขาเองก็คือส่วนเกิน

เสียงทะเลาะเบาะแว้งที่ชั้นบนขาดตอนไป เหลือเพียงเสียงร้องไห้ของแม่ดังแว่วมา โทสะของพ่อคลายลงไปแล้ว น้ำเสียงจึงอ่อนโยนลงมาก ดูเหมือนพ่อจะกำลังขอโทษ พ่อเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเซียว ก็ควรจะรับหน้าที่เป็นผู้นำในการสร้างเนื้อสร้างตัวให้ครอบครัว แต่จนปัญญาที่ความสามารถมีจำกัด ทั้งยังเป็นคนใจอ่อนไม่เด็ดขาด ไม่มีความกล้า เซียวเหล่าเหยียจื่อจึงมองข้ามไปเลือกหลานคนโตอย่างเซียวติ้งปังให้มาสืบทอดกิจการของครอบครัว ตอนนี้ตระกูลเซียวมีเพียงแค่สองคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ คนอื่น ๆ ไม่มีสิทธิ์พูด ที่เซียวเหล่าเหยียจื่อไม่ให้เซียวจยาซู่เข้าเซียวกรุ๊ปนั้น หนึ่งคือดูแคลนชาติกำเนิดของเขา สองคือกลัวว่าพี่น้องจะแก่งแย่งชิงดีกัน

ท่าทีที่เซียวติ้งปังมีต่อสองแม่ลูกก็ไม่ได้เป็นมิตรนัก ถ้าเห็นก็เพียงพยักหน้าให้ และยิ่งไม่มีทางช่วยเซียวจยาซู่พูดเด็ดขาด ดังนั้นคำถามก่อนหน้านี้จึงเกิดขึ้น แล้วตัวเขากลับประเทศมาทำไมกันเล่า ทำไมต้องเปลี่ยนจากสาขาวิชาที่ชอบมาเรียนบริหารธุรกิจด้วย การลงทุนลงแรงของเขาจะต้องเสียไปเปล่า ๆ ทั้งอย่างนี้น่ะหรือ เซียวจยาซู่พิงศีรษะกับพนักเก้าอี้ช้า ๆ สีหน้าของเขามีแต่ความอึ้งงันบอกไม่ถูก

เวลานี้เองเซียวติ้งปังก็เดินถือกระเป๋าเอกสารเข้ามา คนรับใช้ที่ก่อนหน้านี้มีท่าทีไม่ไยดีคุณชายรองรีบไปต้อนรับทันที คนหนึ่งรีบไปรับกระเป๋า อีกคนรีบมาช่วยถอดเสื้อคลุม แล้วยังมีอีกคนเอารองเท้าแตะออกมาจากตู้รองเท้าวางไว้ข้างเท้าคุณชายใหญ่อย่างเคารพนบนอบอีกด้วย ไม่มีใครเข้าใจไปมากกว่าพวกเขาแล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าบ้านตระกูลเซียวที่แท้จริง

“พี่ใหญ่ กลับมาแล้วหรือ” เซียวจยาซู่รีบยืนขึ้น มุมปากยกขึ้นโดยอัตโนมัติ สำหรับพี่ใหญ่คนนี้เขากลับรู้สึกเคารพมาก ทั้งมีความสามารถ มีความกล้า เพิ่งรับตำแหน่งไม่กี่ปีก็ทำให้ธุรกิจเซียวกรุ๊ปขยายใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ไม่มีใครเหมาะจะเป็นหัวเรือใหญ่กลุ่มการเภสัชกรรมเซียวกรุ๊ปไปมากกว่าเขาอีกแล้ว เขาคือผู้นำโดยกำเนิด แต่ไหนแต่ไรเซียวจยาซู่เองก็ไม่เคยคิดเป็นใหญ่เหนือพี่ใหญ่เพื่อแย่งชิงอะไร เขาแค่อยากให้ปู่กับพ่อภูมิใจในตัวเขาก็เท่านั้น และอยากช่วยแบ่งเบาภาระพี่ใหญ่ด้วย มีคำพูดโบราณอยู่ประโยคหนึ่งว่าอะไรนะ…อ้อ ใช่ พูดว่า พี่น้องรวมใจ ให้ค่ากว่าทอง[2]

แต่ดูท่าเซียวติ้งปังจะไม่คิดอย่างนี้เลย อีกฝ่ายนิ่งงันไป จากนั้นพยักหน้าให้อย่างเย็นชา เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้มาจากชั้นบนคิ้วก็ขมวดแน่น ทว่าเขากลับไม่พูดอะไร ทั้งไม่ได้แสดงท่าทียินดีต้อนรับน้องชายกลับประเทศและยังไม่สนใจการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพ่อกับแม่ด้วย แค่หันกายเดินขึ้นชั้นสองไป

ขณะมองเงาด้านหลังสูงใหญ่ตรงแหน็วนั้นหายลับไปที่มุมบันได แววยินดีที่ฉายในดวงตาของเซียวจยาซู่ก็จางลง คนรับใช้ที่ยืนอยู่มุมห้องพากันก้มหน้า แต่กลับแอบแลกเปลี่ยนสายตาดูแคลนกันในหมู่พวกตน เมียน้อยก็คือเมียน้อย ลูกนอกสมรสก็คือลูกนอกสมรส ต่อให้เก่งกาจสักเพียงใดก็ไม่อาจเป็นที่โปรดปราน ตระกูลเซียวยังรู้จักมองคนอยู่ ถ้าเซียวเหล่าเหยียจื่อกับคุณชายใหญ่ไม่เอ่ยปาก คุณชายรองก็ไม่มีวันเชิดหน้าชูตาได้

เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศกดดันบีบคั้นรอบตัวเช่นนี้เซียวจยาซู่ก็รู้สึกแย่มาก ถึงกับมีเสี้ยววินาทีหนึ่งที่เขาอยากจะซื้อตั๋วกลับอเมริกาเสียเดี๋ยวนั้นแล้วไม่กลับมาอีกเลย แต่เมื่อนึกถึงแม่ที่อยู่ชั้นบน เขาก็พยายามอดทนต่อไป ถ้าเขาไปแล้วแม่จะทำอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับพ่อดูจะยิ่งแย่ลงทุกที ความจงเกลียดจงชังอันไร้เหตุผลของพ่อเหมือนกับคมมีดกรีดตัวแม่จนเป็นแผลเลือดอาบ ทั้งที่แม่ควรจะได้ใช้ชีวิตดีกว่านี้แท้ ๆ…

เป็นอีกครั้งหนึ่ง…ที่เซียวจยาซู่รู้สึกแย่เพราะความอ่อนแอไร้กำลังของตัวเอง เขาทำอะไรไม่ได้เลย แล้วก็ช่วยแม่ไม่ได้ด้วย ขณะกำลังโศกเศร้าอยู่นั้นเซวียเหมี่ยวที่ตาแดงก่ำก็เดินลงมา ใบหน้าของเธอกลับประดับรอยยิ้มสง่างามและอ่อนโยนราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน “เสี่ยวซู่ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วลูก เดี๋ยวเราต้องไปกินข้าวกับคุณปู่ที่บ้านใหญ่กัน”

ต่อให้รู้ว่าการที่ตนไม่อาจเข้าเซียวกรุ๊ปได้นั้นเป็นการตัดสินใจของคุณปู่ แต่เซียวจยาซู่ก็ไม่ได้มีความคิดจะต่อต้านใด ๆ ถ้าเขาเผยความไม่พอใจออกไปแม้แต่นิดเดียว คุณปู่ก็จะยิ่งเกรี้ยวกราดรุนแรง แล้วจะพาลโกรธไปถึงแม่ของเขาด้วย ปู่จะใช้ถ้อยคำที่เชือดเฉือนที่สุดด่าทอแม่ของเขาต่อหน้าลุงป้าน้าอา เขาดูแคลนนักแสดง[3] คิดว่าคนพวกนั้นเป็นเพียงของเล่นระดับล่างเท่านั้น

ในใจเซียวจยาซู่รู้สึกค้านต็มกำลัง แต่เขากลับยืนขึ้นอย่างว่าง่าย “ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

เซวียเหมี่ยวลูบศีรษะลูกชาย เธอยิ้มอ่อนโยน แต่ในดวงตายังมีประกายน้ำตาอยู่ เธอไม่รู้ว่าการส่งลูกชายไปต่างประเทศนั้นถูกหรือผิด การเชียร์ให้เขาเปลี่ยนมาเรียนบริหารธุรกิจนั้นถูกหรือผิด และการที่เธอแต่งงานกับเซียวฉี่เจี๋ยในปีนั้นถูกหรือผิด แต่เธอรู้ว่าตนทำถูกอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือการนำลูกชายของเธอมาสู่โลกใบนี้ เขาคือของขวัญที่ดีที่สุดของเธอ เป็นการปลอบโยนที่อบอุ่นที่สุด

สมาชิกครอบครัวสี่คนเตรียมตัวไปบ้านใหญ่กันอย่างรวดเร็ว เซียวเหล่าเหยียจื่อนั่งตำแหน่งประธานโดยมีลูกหลานห้อมล้อมอยู่ เดิมกำลังหัวเราะเสียงดัง แต่เมื่อเห็นเซียวจยาซู่เข้ามาสีหน้าก็เย็นชาลงทันที “นั่นแกใส่อะไรของแกน่ะ ขาด ๆ วิ่น ๆ ดูไม่ได้” เขายกไม้เท้าขึ้นชี้กางเกงของหลานชาย

เซียวจยาซู่ก้มลงมองกางเกงยีนขาดเป็นรูของตน ใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม กางเกงนี้เป็นคอลเล็กชั่นที่เพิ่งออกใหม่ปีนี้ของแบรนด์แอคเน่สตูดิโอส์[4] สวมแล้วทั้งเท่ทั้งทันสมัย ทำให้ดูขายาวขึ้นด้วย ยิ่งสวมคู่กับเสื้อยืดสีขาวก็ยิ่งเท่สุด ๆ ทำไมกลายเป็นกางเกงขาดวิ่นไปได้เล่า เขากำลังจะอธิบายให้ปู่ฟังสักสองสามประโยค แต่ได้ยินเสียงเรียบนิ่งของเซียวติ้งปังเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลังเสียก่อน “คุณปู่ครับ เรื่องซื้อหยางกวงเภสัช ผมมีปัญหาอยากจะปรึกษาคุณปู่สักหน่อยครับ”

สีหน้าของเซียวเหล่าเหยียจื่ออ่อนโยนลงทันที เขาโบกมือพลางว่า “ไป ไปคุยกันที่ห้องหนังสือ จ้าวอิ๋ง ให้พ่อครัวเริ่มทำอาหารเถอะ”

“อ้อ เดี๋ยวฉันให้พวกเขาไปทำเดี๋ยวนี้ละค่ะ” จ้าวอิ๋งยิ้มพลางขานรับ เธอเป็นภรรยาของท่านรองเซียว มาจากตระกูลใหญ่ ทั้งยังเฉลียวฉลาดมากความสามารถ เซียวเหล่าเหยียจื่อให้ความสำคัญกับเธอมาก งานในบ้านทั้งหลายนั้นให้เธอจัดการเกือบทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่ลูกชายสองสามคนของเธอไม่ได้ความสักเท่าไร ความสามารถไม่อาจเทียบเซียวติ้งปังได้ ไม่อย่างนั้นตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของตระกูลเซียวจะเป็นของใครก็คงบอกได้ไม่แน่ชัดนัก เธอริษยาเกลียดชังเซียวติ้งปัง แต่ก็ไม่อาจเอาเรื่องอีกฝ่ายได้ ได้แต่มาระบายอารมณ์เอากับเซียวจยาซู่และแม่ ยามพูดจาก็มักจะเชือดเฉือนทิ่มแทงจุดที่คนอื่นเจ็บปวดที่สุด

เซียวจยาซู่ไม่ชอบอาและอาสะใภ้คนนี้มาก แต่ถ้าไม่มาบ้านใหญ่ก็จะถูกคุณปู่ตำหนิได้ว่าไม่มีมารยาท ไม่กตัญญู เป็นสุนัขป่าตาขาวเลี้ยงไม่เชื่อง ดังนั้นจึงต้องมา ตระกูลเซียวสำหรับเขา สำหรับแม่ของเขาแล้ว ก็เป็นแค่กรงขังขนาดยักษ์เท่านั้น…

 

 

[1] เป็นคำเรียกผู้ที่มีสถานะสูงที่สุดในตระกูล เป็นผู้นำตระกูล ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีอายุมากที่สุดด้วย

[2] หมายถึง หากคนที่สนิทชิดเชื้อร่วมแรงร่วมใจกัน ก็จะก่อให้เกิดพลังมหาศาลกว่าสิ่งใด

[3]戏子(ซี่จือ) มีความหมายตรงตัวว่านักแสดงอุปรากรจีน หรือนางงิ้ว และยังเป็นคำที่ใช้เรียกอาชีพนักแสดงภาพยนตร์หรือละครทั่วไปในเชิงดูถูกอีกด้วย

[4] Acne Studios แบรนด์เสื้อผ้ายอดนิยมจากประเทศสวีเดน โดยจุดเด่นของเสื้อผ้าไม่เน้นความหรูหรา แต่เน้นที่รูปทรงใส่ง่ายและมีดีไซน์ที่ให้กลิ่นอายของความเรียบนิ่งแบบสแกนดิเนเวียน สินค้าเด่นของแบรนด์ได้แก่ เสื้อยืด แจ็กเก็ตหนัง และกางเกงยีน

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า