老婆粉了解一下
รู้ไว้ซะ ฉันนี่แหละแฟนคลับตัวแม่

 

ชุนเตาหาน เขียน
littleell แปล

 

— โปรย —

เขาเป็นไอดอลของเธอ
เธอเฝ้าติดตามเขามาตลอด
จนมาวันหนึ่งเธอไม่รู้สึกถึงสิ่งอื่นใดในโลกนี้อีกแล้ว
สัมผัสได้เพียงแค่เขา
เธอรู้แล้วว่า “เธอรักเขา”

เธอเดินมาถึงตรงนี้ มาอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไรนะ
…ที่แท้เป็นเขาเองนั่นแหละที่เดินเข้ามาหาเธอ

“เธอคงไม่เลิกเป็นแฟนคลับหรอกนะ”
“ไม่หรอก ฉันจะรักเขาตลอดไป”
“ฉันก็เหมือนกัน! โอ๊ย ไม่คิดแล้ว แค่เขามีความสุข
ก็สำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น”
แต่ไหนแต่ไรมาความต้องการของแฟนคลับ
ต่างก็ชัดเจนและมีเพียงเท่านี้

 

_______________________________

 

ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“

สำนักพิมพ์อรุณ

 

(ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)

 

124

 

ก่อนหน้านี้ช่วงที่เซิ่งเฉียวถ่ายทำรายการเรียลิตี้ซึ่งต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเคยบอกว่าตัวเองเรียนสถาปัตย์มา ตอนนั้นเธอยังถูกหัวเราะเยาะอยู่ตั้งนาน แต่ในที่สุดวันนี้ความสนอกสนใจและความเข้าใจที่เธอมีต่อสถาปัตยกรรมก็ได้รับการยอมรับจากชาวเน็ต เธอชอบสาขาวิชานี้จริง ๆ

เมื่อรายการตอนแรกออกอากาศเสร็จเรียบร้อย แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้ติดตามความหวานของคู่จิ้นนางฟ้า ทว่าการแสดงออกของเซิ่งเฉียวก็ตกแฟนคลับเพิ่มได้อีกจำนวนหนึ่ง พอรายการออกอากาศครั้งนี้จึงได้รู้ว่าคำกล่าวหาของซือเซวียนในตอนนั้นไร้สาระเพียงใด ต่อให้ไม่มีข่าวใหญ่อย่างการลักพาตัวเกิดขึ้น เมื่อรายการออกอากาศแล้วเซิ่งเฉียวก็สามารถล้างมลทินได้อยู่ดี

ชาวเน็ตต่างก็พากันถอนหายใจ ข่าวลือเชื่อไม่ได้ หลังจากนี้จะแอนตี้เซิ่งเฉียวตามคนอื่นไม่ได้แล้ว

และเซิ่งเฉียวก็ยังคงมัวยุ่งกับการเทียวไปมาระหว่างสองกองถ่ายเพื่อถ่ายทำละคร ทุกสองสามวันก็จะได้รับสิ่งของแทนความห่วงใยจากแฟนคลับเป็นตัวอย่างข้อสอบฟิสิกส์เต็มกล่อง

เซิ่งเฉียวออนไลน์เวยปั๋วแล้ว เซิ่งเฉียวโพสต์เวยปั๋วแล้ว

เซิ่งเฉียว : [ฉันทบทวนวิชาฟิสิกส์ได้พอสมควรแล้ว ไม่ต้องซื้อตัวอย่างข้อสอบวิชาฟิสิกส์ให้ฉันอีกแล้ว ขอร้องละ]

ช่วงนี้เธอยุ่งมากจึงหยุดภารกิจทบทวนบทเรียนเอาไว้ก่อน ทำข้อสอบได้หนึ่งฉบับต่อวันก็ถือว่าดีมากแล้ว ความพยายามในการทบทวนวิชาฟิสิกส์เมื่อหลายเดือนก่อนส่งผลทันตา คะแนนทำสอบในช่วงนี้สูงขึ้นแตะ 70-80 คะแนนแล้ว

ติงเจี่ยนพูดอย่างดีใจว่า “ถ้าหากเธอทำตัวอย่างข้อสอบที่แฟนคลับซื้อมาให้จนครบ ต้องได้คะแนนเต็มแน่นอน!”

เซิ่งเฉียวมองกล่องพัสดุที่กองสูงเป็นภูเขาเลากาอย่างหมดอาลัยตายอยาก แล้วเอ่ยปฏิเสธอย่างจริงจัง

 

หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ รายการเผชิญโลกกว้างตอนที่สองก็ออกอากาศ ในที่สุดจ้าวอวี๋ที่ทุกคนรอคอยมาเนิ่นนานก็ได้ออกโรงสักที ช่างบังเอิญเหลือเกิน เพราะขณะที่ทุกคนกำลังตามหาแขกรับเชิญคนใหม่อยู่นั้น เซิ่งเฉียวก็หาเจอเป็นคนแรก

ทีมนางฟ้า : [ดูสิดู นี่เป็นชะตาลิขิตสามชาติสามภพหรือเปล่าเนี่ย]

จากนั้นทุกคนก็ค้นพบว่าที่แท้ทั้งสองคนก็ประทับตราเป็นคู่จิ้นนางฟ้ากับมือตัวเองตั้งแต่ตอนถ่ายทำรายการแล้ว! รายการตอนนี้เป็นแรงกระตุ้นทีมนางฟ้าอย่างมาก ปฏิสัมพันธ์ที่ทั้งสองมีต่อกันในรายการช่างน่ารักหวานหยดย้อยเสียเหลือเกิน

สองคนจับมือกันวิ่งหนี นี่มันฉากในอุดมคติอะไรกัน กินไอศกรีมแท่งเดียวกันเท่ากับจูบทางอ้อม! มุดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ดูละครด้วยกัน นี่ก็สวีตเกินไปหน่อยมั้ย!!

ในสัปดาห์ถัดไปที่รายการออกอากาศ ลัทธินางฟ้าก็ขยับขยายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและเต็มเปี่ยมด้วยพลังทำลายล้าง

ทีมฮั่วเซิ่งได้แต่มองอันดับเชาฮว่าของลัทธินางฟ้าที่พุ่งทะยานจากด้านล่างสุดนำหน้าทีมไท่ไท่ จนสุดท้ายมาหยุดแน่นิ่งอยู่ด้านล่างของพวกตน

[เหอะ ชีวิตข้ายังไม่สิ้น อย่างพวกเจ้าก็เป็นได้แค่นางสนม!]

เหลียงเสี่ยวถัง : [มนุษย์ผู้ไม่รู้อะไรอย่างพวกเจ้า! ตอนนี้ก็หัวเราะไปเถอะ! ยิ่งหัวเราะอย่างมีความสุขมากเท่าไหร่ หลังจากนี้ก็จะยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น!]

ลัทธินางฟ้าฮึกเหิมมากขึ้นทุกวัน เฝ้ามองอันดับที่ใกล้จะขึ้นนำหน้าทีมฮั่วเซิ่งเข้าไปทุกที แต่ในที่สุดละครเรื่องปราศจากความกลัวก็ออกอากาศ

ทีมฮั่วเซิ่ง : [อ๊ากกก ฤดูใบไม้ผลิของพวกเรามาถึงแล้ว!! พวกลัทธินอกรีตหลบไป!! มาดูกันดีกว่าว่าอะไรถึงจะเรียกว่าความรักที่แท้จริง!!]

ตารางออกอากาศของละครเรื่องปราศจากความกลัวอยู่ในช่วงวันชาติจีนในเดือนตุลาคม ทันช่วงเวลาวันหยุดยาวพอดี โดยออกอากาศผ่านช่องหมางกั่ว สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน-8 และสามแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์พร้อมๆกัน

ทีมฮั่วเซิ่ง แฟนคลับของเซิ่งเฉียว และซีกวง ล้วนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโปรโมตละครเรื่องปราศจากความกลัว เดิมทีการรวมตัวของฮั่วซีและเซิ่งเฉียวก็มีกระแสในตัวเองอยู่แล้วด้วย ตั้งแต่เริ่มการถ่ายทำก็มีหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับละครเรื่องปราศจากความกลัวต่อเนื่องมาไม่ขาดสาย

ถึงแม้ว่าจะมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าฝีมือการแสดงของเซิ่งเฉียวในละครปราศจากความกลัวนั้นดีมาก แต่ทุกคนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่มีผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการแสดงของเธอเลยแม้แต่เรื่องเดียว แน่นอนว่าการเป็นนักแสดงรับเชิญในละครย้อนยุคที่เพียงโผล่มาแล้วก็หายไปนั้นย่อมไม่นับ ส่วนละครเรื่องพูดบ้าๆก็ออกอากาศจบไปแล้ว จงเซินและฟู่จื่อชิงนั้นโด่งดังไปแล้ว แต่เซิ่งเฉียวกลับถูกคนหัวเราะเยาะ ทุกคนดูไม่ออกว่าฝีมือการแสดงของเธอดีมากขนาดไหน

แฟนคลับของเซิ่งเฉียวโอ้อวดเสียใหญ่โตทุกวัน ไม่รู้หรือไงว่ามีคนรอซ้ำเติมอยู่มากขนาดไหน หากฝีมือของแสดงเซิ่งเฉียวในละครเรื่องปราศจากความกลัวออกมาแค่งั้นๆละก็ เธอจะต้องอ้าแขนต้อนรับการเยาะเย้ยถากถางที่ถาโถมเข้าหาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

จิตใจของแฟนคลับของเซิ่งเฉียวแขวนอยู่บนเส้นด้าย แม้แต่ซีกวงยังบอกว่า : [อย่าทำให้ที่รักของฉันถูกหัวเราะเยาะไปด้วยละ]

ทางกองละครปล่อยตัวอย่างออกมาสองตัวอย่างติดต่อกันโดยไม่รอละครเริ่มออกอากาศ ทำลายความตั้งใจของพวกแอนตี้แฟนที่จะมาเยาะเย้ยเธอเสียย่อยยับ

ในคลิปตัวอย่างนั้นเซิ่งเฉียวมีทั้งการแสดงฉากต่อสู้ ฉากร้องไห้ ฉากแสดงอารมณ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะทางการแสดงอันโดดเด่น ทุกคนค้นพบว่าเธอไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆ

เธอมีพลัง เข้าถึงบทบาท ผมสั้นของเธอก็เสริมให้เธอดูสง่างาม เธอสวมเครื่องแบบตำรวจ ถือปืน ทว่าอารมณ์ที่สื่อออกมากลับเยือกเย็น ไม่รู้ว่าจับกุมหัวใจคนร้ายไปได้กี่คนแล้ว

เธอพากย์เสียงในละครเรื่องนี้เองด้วย ไม่ยอมให้ใครมาทำหน้าที่แทน ช่วงท้ายของคลิปตัวอย่างคือฉากที่เธอถูกยิงล้มลงกับพื้น เป็นฉากที่อาบย้อมไปด้วยเลือด เธอพูดด้วยเสียงต่ำซึ่งแฝงไปด้วยความขมขื่น “สวี่ลู่เซิง ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว อย่ารออีกเลย”

ปวดใจจริง ๆ

ดูไม่ออกเลยว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จบแบบไม่สมหวัง

แฟนคลับของเซิ่งเฉียวร้องไห้กระจองอแงไปพลาง กดฟอร์เวิร์ดคลิปตัวอย่างละครไปพลาง แม้จะใช้ทุกวิถีทางชื่นชมไอดอลของพวกเธอ แต่ก็เหมือนกับที่แอนตี้แฟนบอก เซิ่งเฉียวไม่มีผลงานชิ้นเอกที่บ่งชัดถึงความสามารถทางการแสดงเลย เธอเป็นนักแสดง แต่กลับไม่มีผลงาน จะยกยอจนขึ้นสวรรค์อย่างไรคนอื่นย่อมไม่ยอมรับ

นักแสดงหญิงรุ่นราวคราวเดียวซึ่งมีสไตล์คล้ายคลึงกับเซิ่งเฉียวบางคนซึ่งถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของกันและกัน อย่างเช่นฟู่อวี่ชวนนั้น งานละครทั้งสองเรื่องในปีนี้ของเธอล้วนก็โด่งดัง คาดว่าในช่วงสิ้นปีนี้เธอคงอาศัยละครทั้งสองเรื่องนี้เข้าชิงรางวัลนักแสดงยอดนิยมประจำปีและนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

ทุกครั้งที่อีกฝ่ายพูดจาเยาะเย้ยเซิ่งเฉียว ก็มักจะบอกว่าผลงานชิ้นเอกของเซิ่งเฉียวคือรายการหนีตายถวายชีวิต

แฟนคลับของเซิ่งเฉียวเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเคียดแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ในที่สุดละครเรื่องปราศจากความกลัวก็มาถึง ละครซึ่งเป็นที่หนึ่งในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอันดับในวงการบันเทิง กระแสความนิยม การตัดต่อ หรือการขับเน้นให้เห็นถึงทักษะการแสดงก็ตาม สมกับการรอคอยมาเนิ่นนาน ทำให้แฟนคลับของเซิ่งเฉียวรู้สึกดีใจราวกับได้พบเพื่อนเก่าที่ห่างหายไปนาน ปลื้มปีติราวกับหญิงสาวที่กำลังจะได้แต่งงาน รู้สึกประสบความสำเร็จราวกับผู้เข้าสอบที่สอบผ่านจอหงวนเลยทีเดียว!

รู้สึกเหมือนแม่ยกที่สมหวังสักที

ร้องไห้แล้ว

 

ปลายเดือนกันยายน ละครเรื่องเพียงแสงจันทราส่องถึงก็ถึงคราวปิดกล้อง หลังจากที่งานเลี้ยงปิดกล้องอันยิ่งใหญ่เสร็จสิ้นลง ในคืนเดียวกันนั้นเซิ่งเฉียวก็เก็บกระเป๋า เช้าวันรุ่งขึ้นก็รีบไปที่กองถ่ายละครสายลมแห่งตะวันออกถ่ายฉากที่เหลือต่อทันที

ในวันที่ละครเรื่องปราศจากความกลัวออกอากาศ แอ็กเคานต์เวยปั๋วของเซิ่งเฉียวและฮั่วซีจึงต้องมีปฏิสัมพันธ์กันตามความต้องการของทีมงานกองละคร

            เซิ่งเฉียว : [ฮั่วซี ทนายสวี่ เพิ่งพบกันครั้งแรกลงมือหนักไปหน่อย โปรดอภัยด้วยนะคะ]

ฮั่วซี : [เซิ่งเฉียว เจ้าหน้าที่ตำรวจเนี่ย ผมขอแนะนำว่าอย่าใช้กำลังกับทนายความจะดีกว่า]

ทีมฮั่วเซิ่ง : [ขอแนะนำให้พวกคุณแต่งงานกันตรงนั้นเลย!]

การโต้ตอบของทั้งสองคนมีมารยาทมาก ชาวเน็ตเห็นแล้วรู้สึกตลก แฟนคลับเห็นแล้วก็ไม่รู้สึกว่ามีลับลมคมในอะไร แน่นอนว่าทั้งสองคนจำเป็นต้องรักษาปฏิสัมพันธ์แบบนี้ไปตลอดการออกอากาศ คู่จิ้นในละครจำเป็นต้องสร้างกระแส ขอเพียงไม่ข้ามขั้นมาถึงชีวิตจริง แฟนคลับส่วนใหญ่ก็ยังยอมรับได้

ปัญหาสำคัญคือ เดิมทีทั้งสองคนก็มีแฟนคลับคู่จิ้นเป็นกลุ่มใหญ่อยู่แล้ว พอมีสองคนมีปฏิสัมพันธ์กัน แฟนคลับคู่จิ้นก็รีบฉลองขึ้นปีใหม่[1]ทันที

WF : [ขึ้นปีใหม่อะไรทุกวัน ตัวเหนียน[2]อาศัยอยู่บ้านเธอหรือไง]

ไม่ว่าภายในกลุ่มแฟนคลับจะทะเลาะกันอย่างไร แต่ก็ยังต้องช่วยกันโปรโมตละครต่อไป ซึ่งก็ยังเป็นไปด้วยดี เรตติ้งตอนแรกของละครเรื่องปราศจากความกลัวเกิน 1%[3] ทิ้งห่างละครเรื่องอื่นที่ออกอากาศพร้อมกันอยู่ไกลโข และความสามารถทางการแสดงของเซิ่งเฉียวก็เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้ชม เมื่อเทียบกับละครเรื่องพูดบ้าๆที่เพิ่งจบไปเมื่อไม่นานนี้ เรียกว่าฝีมือการแสดงของเธอพัฒนาขึ้นไม่รู้กี่ขั้น

สำหรับละครที่รวมเรื่องราวการสืบสวน แง่มุมทางกฎหมาย และความรักรวมเข้าด้วยกันอย่างเรื่องปราศจากความกลัวในตลาดถือว่ายังมีน้อย ตัวละครอย่างเนี่ยชิงและสวี่ลู่เซิงก็เข้าถึงอารมณ์ผู้ชมเป็นอย่างมาก เนื้อเรื่องก็ต่อเนื่องฉับไวไม่ยืดเยื้อ ย่อมจะโด่งดังเข้าไปใหญ่

เรตติ้งเพิ่มขึ้นตลอดการออกอากาศ ครองอันดับหนึ่งอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ตอนใหม่ออกอากาศก็จะขึ้นติดอันดับค้นหายอดนิยม ก่อนหน้านี้มีเพียงแฟนคลับทีมฮั่วเซิ่งที่ร่าเริง แต่ในตอนนี้ ความรักอันลึกซึ้งของเนี่ยชิงและสวี่ลู่เซิงก็ทำให้มีแฟนคลับคู่จิ้นทีมสามีภรรยาเซิงชิงเพิ่มขึ้นมาอีก

ทีมฮั่วเซิ่ง : [จิ้นคู่จิ้นในละครไปแล้ว ยังขาดคู่จิ้นในชีวิตจริงหรือเปล่า หากคู่จิ้นเป็นจริงทั้งในจอและนอกจอก็คงดีไม่น้อย มาๆๆ รีบมาซึมซับรสชาติความฝันอันหอมหวานที่กลายเป็นจริงกับพวกเราดีกว่า]

ลัทธินางฟ้า : [พวกเธอมาสร้างคู่จิ้นอะไรเนี่ย ล้างสมองกันขนาดนี้ ไปทำงานขายตรงดีกว่าไหม]

ทีมฮั่วเซิ่ง : [พวกนอกรีตก็อิจฉาพวกเราแบบนี้แหละ]

ทีมไท่ไท่ : [ฮือๆๆๆ ชีวิตนี้พวกเราจะอยู่ถึงวันที่ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกันอีกไหม รู้สึกเหมือนจิ้นคู่จิ้นปลอม]

ไม่ได้! พวกเราจะเปลี่ยนชื่อ! พวกเราขอเปลี่ยนชื่อเป็น “คู่จิ้นสหายรัก” อย่างเป็นทางการ! จิ้นให้เป็นคู่รักหวานแหววไม่ได้แล้ว พวกเราก็จะจิ้นความสัมพันธ์แบบสหายระบอบสังคมนิยม!

ชาวเรือจะไม่มีวันยอมแพ้!

 

[1] มาจากคำว่า 过年 ซึ่งเป็นคำศัพท์นิยมทางอินเทอร์เน็ต ใช้ในความหมายว่าดีใจมากจนต้องฉลอง

[2] ล้อมาจากคำว่าฉลองขึ้นปีใหม่ ซึ่งตามคติของชาวจีน เหนียนคือปีศาจดุร้ายที่จะออกมาทำร้ายคนในช่วงเวลาตรุษจีน (ปีใหม่ของจีน) แต่ภายหลังมีชายชราสวมชุดสีแดงจุดประทัดทำให้เหนียนตกใจกลัวจนหนีไป การจุดประทัด สวมเสื้อผ้าสีแดง และตกแต่งอาคารบ้านเรือนด้วยสีแดงจึงกลายเป็นการกระทำในการฉลองขึ้นปีใหม่ของจีนมาจนทุกวันนี้

[3]ระดับเรตติ้งการรับชมของจีนในปัจจุบัน เกิน 1% ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก เพราะคำนวณจาก 1%ของจำนวนประชากรผู้รับชมทั่วประเทศ