[ทดลองอ่าน] เชิญร่ำสุรา 將進酒 บทที่ 251 : คว้าชัย

เชิญร่ำสุรา
將進酒

 

ถังจิ่วชิง
唐酒卿

กอหญ้า แปล

 

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าปีนั้น” เสิ่นเจ๋อชวน สวมเสื้อคลุมตัวใหญ่เอ่ยช้าๆ “เหตุใดข้าจึงรับปาก เช่ออัน สวมต่างหูอันนี้”
เฟ่ยเซิ่งยืนอยู่ข้างหลังไกลออกไปมาก “เพราะนายท่านกับท่านรองรักใคร่ผูกพัน”
เสิ่นเจ๋อชวนยกมือขึ้นเด็ดดอกเหมยที่บังตัวเองออก เอ่ยว่า
“เพราะข้ารู้ว่ามีคนต้องจากไป
คนที่หายลับไปในหิมะจะไม่มีวันกลับมาอีก เว้นเพียงเช่ออัน”
.
เซียวฉือเหย่ สวมต่างหูให้หลันโจว สิ่งที่ประกาศชัดแจ้งคือความเผด็จการ
แต่สิ่งที่ซ่อนแฝงอยู่คือความรักใคร่ทะนุถนอม
ทุกครั้งเวลาเขาประคองดวงหน้าหลันโจวขึ้นมา
สายตาจะเร่าร้อนถึงเพียงนั้น นี่เป็นความรักที่มิอาจถอนตัว
เป็นความปรารถนาที่มิอาจเก็บซ่อน
.
เสิ่นเจ๋อชวนสวมต่างหูที่เช่ออันมอบให้ เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของเช่นกัน
ในความเจ็บปวดและความแค้นของเขายังหลงเหลือความอบอุ่น
นี่คือความอ่อนโยนของเขา เขาจะมอบให้เซียวเช่ออันคนเดียวเท่านั้น

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

บทที่ 251 คว้าชัย

 

ฮาเซินลุกขึ้นท่ามกลางแรงสั่นสะเทือน เขาหันกลับไปมองกลุ่มเมฆทะมึนที่ถั่งโถมมาทางนี้

พายุฝนกระหน่ำใส่ทหารม้าเหล็ก กระเด็นเข้าไปในกีบเท้าม้าพร้อมดินโคลน ฝูงหมาป่าแผดเสียงควบทะยาน ความรู้สึกกดดันที่ไม่พบเจอมานานแผ่ไปทั่วสนามรบ นี่เป็นความน่าเกรงขามของทหารม้าเหล็กหลีเป่ย

เมื่อเซียวฉือเหย่ปรากฏตัวในสมรภูมิจงปั๋ว การจู่โจมกะทันหันของฮาเซินก็ล้มเหลว เขามิอาจบุกเข้าไปในตวนโจวได้ แต่กลับต้องสูญเสียขุนพลและกองกำลังฝีมือดีที่นี่ ขืนอยู่ต่อไปก็มีแต่เสีย ยามนี้เขาจึงถอนกำลังทันที

กองหน้าบริเวณประตูเมืองหันหัวม้ากลับแล้ว ทหารส่งข่าวด้านหลังคูเมืองโบกธงเหยี่ยวสีไปมาขณะห้อตะบึง ทหารม้าเหล็กหลีเป่ยที่ยาวต่อเนื่องเหมือนมังกรตัดกำลังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเปียนซา เหล่าแมงป่องเข็นเครื่องมือจู่โจมเมือง เริ่มล่าถอยไปยังแม่น้ำฉาสือที่อยู่ทางทิศตะวันออก

ประตูเมืองเปิดออกทันที ถานไถหู่พาทหารรักษาการณ์ที่อดกลั้นมาสองวันถือดาบพุ่งออกมา ตะโกนสุดเสียง “ท่านรองมาแล้ว!”

ฮาเซินถือดาบโค้งตวัดร่างขึ้นอาชาตัวที่ว่าง ใช้ภาษาเปียนซาสั่งให้กองกำลังฝีมือดีออกจากแถว แยกเป็นสองทางคอยเป็นปราการปิดท้าย สกัดทหารม้าเสื้อแพรและทหารม้าเหล็กหลีเป่ยทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเฉียงใต้ไว้ ยื้อเวลาให้กับกองกำลังขนส่งอาวุธตรงกลางที่กำลังล่าถอย

“ฝู่จวิน!” ฮั่วหลิงอวิ๋นควบม้าด้วยมือเดียว พาเฟิงท่าซวงอีรุดมาข้างกายเสิ่นเจ๋อชวน

เสิ่นเจ๋อชวนใช้มือซ้ายหยิบดาบหย่างซานเสวี่ยขึ้นมา เขาไม่ได้ขึ้นม้า แต่มองฮาเซินนำกองกำลังฝีมือดีควบไปทางทิศใต้ รับมือกับเซียวฉือเหย่

ฝู่จวินพูด “เตรียมพร้อม”

ฮั่วหลิงอวิ๋นตอบสนองฉับไว เขาชูแขนบนหลังม้า ตะโกนเสียงดังไปยังกำแพงเมือง “เตรียมพร้อม…!”

แผ่นหลังของฮาเซินกำลังจะเร้นหายเข้าไปในสายฝนที่ตกหนัก ทว่าเส้นผมสีแดงของเขาสะดุดตาเกินไป เหมือนเป้าเป็นที่สว่างอยู่กลางสายฝน เสิ่นเจ๋อชวนจ้องมองเขาคล้ายจับจ้องกระต่ายที่กำลังเคลื่อนไหว ฮาเซินที่อยู่กลางสายฝนเหมือนตระหนักถึงบางอย่าง เขาหันกลับมาทันใด มองเสิ่นเจ๋อชวนผ่านพายุฝนและเอ่ยคำพูดคำหนึ่ง

หน้าไม้ยักษ์บนกำแพงยิงออกไปทันใด ลูกธนูยักษ์กลางอากาศเหมือนรถเทียมวัวที่พุ่งชนสรรพสิ่งสะเปะสะปะ พริบตาเดียวก็จู่โจมด้านหลังของฮาเซิน ฮาเซินถูกบีบให้ลงจากหลังม้าในชั่วเวลาคับขันตอนที่น้ำฝนสาดกระเซ็นไปทั่ว จังหวะที่เขากลิ้งตัวหลบ ลูกธนูยักษ์พุ่งเข้าใส่กองทหารม้าฝีมือดี เหล่าทหารม้าถูกแรงกระแทกจนล้มลงบนพื้น ม้าศึกหลบเลี่ยงไม่ทัน เมื่อถูกลูกธนูยักษ์พุ่งชนก็ตายทันที

ม้าศึกแผดเสียงตื่นตกใจ ร่างกายล้มลงในน้ำโคลน โลหิตสาดกระจายในพริบตา กองกำลังนี้ถูกตีแตกแล้ว หน้าไม้ยักษ์เป็นอาวุธที่ทหารม้าเปียนซาแค่ได้ยินชื่อก็หวาดกลัว เพราะอานุภาพทำลายล้างอันรุนแรงยิ่งของมันหาใช่สิ่งที่คนคนเดียวจะสามารถต้านทานได้ ทุกครั้งเมื่อปรากฏโฉมในสมรภูมิ จะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน

ฮาเซินตะเกียกตะกายลุกขึ้น ตวัดดาบโค้งไปข้างหน้าทันใด สกัดดาบหลางลี่ของเซียวฉือเหย่ไว้ กระนั้นเซียวฉือเหย่มิใช่เสิ่นเจ๋อชวน ดาบโค้งของฮาเซินชะงักเพียงชั่วครู่ ก่อนจะถูกเขากดลงบนพื้นจนดาบเกือบหลุดมือ

พละกำลังเช่นนี้น่ากลัวเกินไป!

ร่างของฮาเซินจมลง เขาใช้สองมือประคองดาบโค้ง แผดเสียงคำรามและพยายามดันขึ้น

เซียวฉือเหย่มิได้สวมหมวกเกราะ น้ำฝนหยดลงมาตามจอนผมเขา คราบเลือดที่ยังชะล้างไม่สะอาดไหลผ่านคิ้วตา เขากดดาบหลางลี่ช้าๆ หลุบตามองฮาเซินในชั่วเวลานี้และเผยรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ชวนให้คนขนลุก

“ข้า กำ ลัง ตาม หา เจ้า”

เสียงฝนเทกระหน่ำ เมฆดำหนักทึบปกคลุมฟ้าดิน แทบจะกดลงมาบนสมรภูมิ เสียงอสนีระเบิดระลอกแล้วระลอกเล่าอยู่ชิดหนังศีรษะ ฮาเซินมองเห็นเขี้ยวหมาป่าในความมืดสลัว

ดาบโค้งปาดไปด้านข้าง พาให้ดาบหลางลี่ไถลออกไป

จังหวะที่ฮาเซินถอย กีบเท้าหน้าของลั่งเถาเสวี่ยจินย่ำลงบนรอยเท้าที่เขาทิ้งไว้พอดี ทำให้โคลนสกปรกกระเด็นขึ้นมา ทหารม้าเปียนซารอบด้านปะปนกับทหารม้าเหล็กหลีเป่ย ดาบใหม่เอี่ยมของทหารม้าเหล็กดื่มโลหิตในเปียนจวิ้นมาจนอิ่ม คมปลาบเหมือนกำลังอ้าปากร้องคำราม ฮาเซินเร่งร้อนถอยและขึ้นม้าอีกครั้ง ดาบหลางลี่จู่โจมมาตรงหน้า ม้าของเขาถอยหลังหลายก้าว เซียวฉือเหย่เหมือนได้พักผ่อนสะสมกำลังมาเต็มที่จึงรุกไล่อย่างต่อเนื่อง

ถานไถหู่กระโดดขึ้นมา กระโจนเข้าไปในกลุ่มทหารม้าเปียนซาที่คิดล่าถอย ควงดาบฟันไปที่ขาม้าก่อน จากนั้นค่อยนำกำลังไล่ตามแมงป่องที่เคลื่อนย้ายอาวุธ เขาเค้นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา “ไปตายซะเถอะ! ชดใช้ชีวิตคืนมา ไอ้พวกหัวโล้น!”

ในที่สุดตวนโจวก็เริ่มตอบโต้ ทหารม้าเสื้อแพรวิ่งข้ามคูเมือง ดันทหารม้าเปียนซาไปทางทิศตะวันออก กองกำลังทหารม้าเหล็กที่อยู่ริมแม่น้ำฉาสือสกัดทางขึ้นเหนือ ตัดทางถอยของทหารม้าเปียนซาที่ริมแม่น้ำ ร่วมกับทหารรักษาการณ์และทหารม้าเสื้อแพรโอบล้อมศัตรูสามด้าน บีบให้ทหารม้าเปียนซามารวมตัวที่พื้นที่ตรงกลาง

บัดนี้ช่องโหว่ที่เหลืออยู่มีเพียงทิศเหนือ แต่ฮาเซินยังลังเลไม่ออกคำสั่งล่าถอยไปทางทิศเหนือเสียที เพราะทิศเหนืออยู่ติดกับค่ายซาซาน เขาเกรงว่านี่จะเป็นกับดักที่เซียวฉือเหย่จงใจทำไว้ ยิ่งกังวลว่าลู่ก่วงไป๋จะซุ่มโจมตีอยู่ทางทิศเหนือ เขาตกอยู่ในสถานการณ์อับจนที่ข้าศึกโอบล้อมสี่ทิศแล้ว

ดาบหลางลี่วาดมาที่ลำคอ ฮาเซินก้มตัวหลบอย่างว่องไว ออกคำสั่งเป็นภาษาเปียนซาระหว่างยกดาบต้านไว้ “กองหน้าสับเปลี่ยน!”

กองกำลังฝีมือดีที่รับมือกับทหารม้าเหล็กหลีเป่ยถอยหลังทันที แมงป่องสบโอกาส รวมตัวกันเป็นกำแพงเฉียงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ หมุนควงค้อนเหล็กตอนควบทะยาน

ดาบหลางลี่ชูขึ้นกะทันหัน ใบดาบรองรับน้ำฝนที่เทกระหน่ำและพาดขวางอยู่กลางอากาศ ประหนึ่งโซ่เส้นสุดท้ายที่ผูกล่ามทหารม้าเหล็กไว้ เซียวฉือเหย่ไม่ขยับ ทหารม้าเหล็กหลีเป่ยข้างหลังก็ไม่ขยับ

ฮาเซินร้องสั่ง “บุกตี!”

กีบเท้าม้าของเหล่าแมงป่องย่ำเหยียบน้ำโคลน ตะโกนภาษาเปียนซาเสียงดังตอนที่น้ำโคลนกับน้ำฝนผสมกันสาดใส่หน้า เซียวฉือเหย่ลดแขนลง ทหารรักษาการณ์ที่เฝ้าดูอยู่บนกำแพงยังมองเห็นไม่ชัดก็ได้ยินเสียงดาบคืนฝักอย่างพร้อมเพรียงดังมาจากทหารม้าเหล็ก ไม่น่าเชื่อว่าทหารม้าเหล็กจะเก็บดาบในเวลานี้

เซียวฉือเหย่ยืนอยู่ข้างหน้าชักดาบยาวเล่มใหม่ออกมาทันใด ทหารม้าเหล็กเหมือนเกราะเหล็กที่ถูกกระชากผ้าคลุมออก ได้ยินเสียง “เช้ง” ดังพร้อมกัน ข้างท้องม้าปรากฏดาบยาวที่เหมือนกันทั้งหมด ดาบยาวยังไม่เคยดื่มโลหิตในเปียนจวิ้น แค่เคยอวดประกายในหลุมยุบฉาสือเท่านั้น ตอนนี้ฝนเทลงมา สิ่งที่ไหลลงมาจากปลายดาบวาววับยังคงเป็นน้ำฝน

ค้อนเหล็กของแมงป่องเหวี่ยงมาตรงหน้า กองทหารม้าเหล็กหลีเป่ยกระจายตัวทันใด พวกเขาสลายกองหน้าและขยับไปสองฝั่งอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้แมงป่องพุ่งเข้ามาโดยไร้อุปสรรค พอแมงป่องเข้ามาได้ครึ่งหนึ่ง ฮาเซินถึงรู้สึกไม่ปกติ ทว่าคำสั่งถอยของเขามิอาจถ่ายทอดมาถึงที่นี่ได้ เนื่องจากกองหน้าของทหารม้าเหล็กที่ขยับไปอยู่สองข้างเริ่มวิ่งกลับมาแล้ว

เซียวฉือเหย่ควบทะยานอยู่ด้านหน้าสุด รับมือกับแมงป่องขณะพุ่งผ่านไปโดยเร็ว อสนีผ่าเปรี้ยงปร้าง สายฝนกระหน่ำรุนแรงกว่าเดิม ค้อนเหล็กของแมงป่องยังไม่ทันแตะโดนเกราะหนักก็ถูกดาบยาวตัดหัวเสียก่อน

ทหารม้าเหล็กหลีเป่ยทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เหมือนกรงเหล็กที่แข็งแกร่ง พวกเขา ‘กัดกิน’ แมงป่อง ทำให้แมงป่องตกอยู่ในวงล้อมที่ลึกยิ่งกว่าเดิม หลังจากนั้นก็ทำเหมือนเซียวฉือเหย่ ใช้ดาบยาวปาดคอแมงป่อง

ทหารม้าเหล็กชักดาบอย่างพร้อมเพรียม หลังจากนั้นเป็นเสียงศีรษะร่วงตกลงพื้น

ฮาเซินร้องสั่งทันใด “ฝ่าออกไปทางตะวันออก!”

สู้ต่อไปไม่ได้แล้ว ข้อได้เปรียบของทหารม้าเปียนซาหายไปสิ้น แมงป่องบุกเข้าไปในวงล้อมของทหารม้าเหล็กมีแต่จะถูกเชือดเท่านั้น ฮาเซินเสี่ยงอันตรายบุกโจมตีตวนโจวกะทันหัน ที่นี่ทำให้เขาสูญเสียมากเกินไป เขาต้องหยุดการสูญเสียทันที ฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุดและข้ามแม่น้ำ

แมงป่องข้างหลังล้มเลิกความคิดที่จะสู้ต่อ พวกเขาขึ้นม้าและเร่งทหารราบให้ดึงลากเครื่องมือ ทั้งหมดฝ่าไปทางทิศตะวันออก

ฮาเซินควบทะยานเร็วรี่กลางสายฝน น้ำฝนเย็นเฉียบกระทบใบหน้า เขาจ้องไปข้างหน้า เปิดเส้นทางที่เต็มไปด้วยโลหิตอย่างรวดเร็ว ทว่าเสียงกีบเท้าม้าพลันดังขึ้นด้านข้าง ลั่งเถาเสวี่ยจินไม่ยอมแพ้ ดาบโค้งของฮาเซินถูกกระแทกจนบิ่นตอนยกขึ้นสกัด เซียวฉือเหย่ไวยิ่งกว่า สองคนห้อตะบึงสุดกำลัง เหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งออกไปกลางพายุฝน

ฮาเซินปราดไปจนถึงขอบวงล้อม ผืนทรายริมแม่น้ำฉาสืออยู่ตรงหน้านี้เอง ทหารม้าเปียนซาลงน้ำต่อสู้กับทหารรักษาพระองค์ที่ดักซุ่มอยู่ที่นี่อย่างไม่ลดละ หาดตื้นเต็มไปด้วยสีแดงฉาน

ฮาเซินควบม้าลงน้ำ ลั่งเถาเสวี่ยจินพุ่งชนข้างลำคอของม้าศึก ทำเอาม้าศึกของฮาเซินเซไป เขาต้องรั้งเชือกบังเหียนเพื่อควบคุมม้า เซียวฉือเหย่ตวัดดาบตัดเชือกบังเหียนของฮาเซินจนขาด ม้าศึกไม่มีแรงหมุนตัวกลับ พาฮาเซินล้มลงบนหาดตื้น

ฮาเซินร่วงลงบนพื้นและกลิ้งตัวไป เหลิงชื่อของเขาหล่นอยู่ข้างคูเมืองตอนต่อสู้กับเสิ่นเจ๋อชวน ยามนี้จึงมีเพียงดาบโค้งและมีดสั้นเท่านั้น เสียงเข่นฆ่ารอบด้านดังสนั่นหู เขาใช้มือข้างที่ว่างวักน้ำจากแม่น้ำ ถูดวงตาสองข้างที่ถูกคราบเลือดบดบัง

เซียวฉือเหย่ลงพื้นเช่นกัน ร่างสูงใหญ่บังสายตาของฮาเซินที่มองไปทางทิศตะวันออก กลายเป็นภูเขาสูงที่คั่นกลางระหว่างฮาเซินกับผืนทะเลทราย ฮาเซินยกดาบโค้งที่บิ่นงอขึ้นมาตรงหน้าอก ปรับลมหายใจแล้วพุ่งตัวออกไปในจังหวะที่เซียวฉือเหย่กระโจนเข้ามา

คมดาบปะทะกันจนเกิดเสียงดังบาดหู เซียวฉือเหย่ยันฮาเซินไว้และดันไปข้างหลัง ฮาเซินฝืนประคองร่างกาย จังหวะที่น้ำฝนตกกระทบคมดาบและกระเด็นออก เขาชักดาบกลับทันใด เบี่ยงตัวหลบในจังหวะที่ดาบหลางลี่วาดมาข้างหน้า

น้ำในแม่น้ำซัดสาดตามจังหวะฝีเท้าของทั้งสองคน

ใบหน้าของเซียวฉือเหย่ยังหลงเหลือคราบเลือด รูปแบบการต่อสู้ของเขาที่เอาแต่รุกไม่ยอมถอยเหมือนคนที่กำลังหนีเอาชีวิตรอด สะท้อนความปรารถนาในการจู่โจมอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ฟันดาบลงมาล้วนทำให้แขนของฮาเซินชา ดาบโค้งแทบจะกลายเป็นเศษเหล็กหลังการจู่โจมถี่กระชั้นของดาบหลางลี่

ฮาเซินหมุนตัวล้มลงกะทันหันเมื่อถูกเซียวฉือเหย่ฟาดฟัน ตอนกำลังจะตกน้ำเขาใช้แขนฝืนยันร่างกายไว้ จากนั้นย่อตัวยกดาบขึ้นต้านไว้อีกครั้ง

เซียวฉือเหย่ไม่เปลี่ยนท่า กดดาบลงมาด้วยแรงทั้งหมดในท่านี้ ดาบโค้งที่ฮาเซินต้านไว้ลดต่ำลงช้าๆ จนแนบติดกับไหล่เขา เขาถึงขั้นรู้สึกได้ถึงความคมของดาบหลางลี่ ลำคอของฮาเซินเปล่งเสียงหอบหนักออกมา เขาถูกเซียวฉือเหย่กดจนเจ็บขา เข่างอลงไปแล้วแต่ฮาเซินไม่ยอมคุกเข่าให้เซียวฉือเหย่

สิบสองเผ่าคุกเข่าต่อหน้าต้าโจว มีคนหิวตายนับไม่ถ้วน เขาก้าวเดินมาถึงวันนี้ก็เพื่อหาทางออก ฮาเซินรักและชื่นชอบทะเลสาบชื่อถี แต่หลายปีที่ผ่านมาเขากลับต้องนอนกลางดงดาบและกระบี่ เขาไม่เคยก้มหัวให้ทหารม้าเหล็ก เป็นเหยี่ยวผู้กล้าที่บินวนอยู่บนท้องนภา

ฮาเซินใช้แรงทั้งหมดที่มีต้านกำลังของเซียวฉือเหย่ไว้ แผดเสียงคำรามขณะดันดาบหลางลี่ออก เขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ เกือบจะเฉือนคอเซียวฉือเหย่ได้

เซียวฉือเหย่ถอยหลังก้าวหนึ่งทันที จากนั้นงอศอกกระแทกดาบโค้งจนหลุดมือฮาเซิน อาชาข้างกายแผดเสียงขณะล้มลง ฮาเซินชักมีดสั้นออกมา จู่โจมอีกครั้งก่อนที่เซียวฉือเหย่จะโผเข้าหา ดาบหลางลี่เปลี่ยนทิศไม่ทัน เซียวฉือเหย่คลายด้ามดาบ ใช้เกราะแขนขวารับมีดสั้นไว้ มือซ้ายกำหมัดต่อยฮาเซินจนหงายล้มลงในน้ำ

ฮาเซินทำให้น้ำกระเซ็นเป็นวง เขาสำลักน้ำแล้วกระโจนขึ้นมาทันใดก่อนที่เซียวฉือเหย่จะโจมตีครั้งต่อไป กอดเอวเซียวฉือเหย่ไว้ใช้เท้าเกี่ยวจนสะดุดพาลงน้ำไปด้วย น้ำกระเซ็นขึ้นมาอีกระลอก เซียวฉือเหย่บิดคอเสื้อด้านหลังของฮาเซินรัดคอจากข้างหลัง ฮาเซินหายใจไม่ออก มีดสั้นแทงออกไปและชนถูกเกราะหนัก เขาล้มเลิกความพยายามทันที เปลี่ยนเป็นใช้มีดสั้นลองแทงไปที่ดวงตาของอีกฝ่าย เซียวฉือเหย่ได้แต่ปล่อยมือหลบ ฮาเซินเปลี่ยนเป็นกอดแขนเซียวฉือเหย่ เบี่ยงตัวตามและจับทุ่มข้ามไหล่

ฮาเซินกดหน้าเซียวฉือเหย่ไว้ ทำให้อีกฝ่ายหายใจไม่ได้เมื่ออยู่ในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เขาจับมีดสั้นหมายจะตัดหัวแต่เซียวฉือเหย่พลิกมือกำมีดสั้นไว้ จังหวะที่คมมีดบาดเนื้อเซียวฉือเหย่ออกแรงยกตัวขึ้น กระแทกใต้คางของฮาเซิน

ฮาเซินรู้สึกปวดตา ช่องโหว่เพียงชั่วพริบตาเดียวนี้เองทำให้หน้าอกเขาถูกข้อศอกของเซียวฉือเหย่โจมตีจนกระอักโลหิตออกมา เซียวฉือเหย่ปล่อยมีดสั้น มือที่เต็มไปด้วยโลหิตทุบฮาเซินจนล้มคว่ำอีกครั้ง

ครั้งนี้รุนแรงเกินไป

ปากจมูกของฮาเซินมีโลหิตไหลออกมา เขาถึงขั้นวิงเวียนเล็กน้อย เสียงเข่นฆ่าเดี๋ยวไกลเดี๋ยวใกล้ ฝนที่ตกหนักทำให้ทุกสิ่งพร่าเลือน ตอนยันแขนขึ้นเขารู้สึกว่าปลอกหนังที่แขนตัวเองขาด ดอกชื่อถีในกระเป๋าแขนเสื้อลอยไปตามกระแสน้ำ ฮาเซินมิอาจคว้าดอกไม้เอาไว้ได้ เพียงพริบตามันก็ถูกกีบเท้าม้าย่ำจนเละ

เซียวฉือเหย่หยิบดาบหลางลี่ขึ้นมาอีกครั้ง สองตาของเขาเปียกชื้น ฮาเซินเคยเห็นหมาป่าที่เป็นเช่นนี้ คืนวันนั้นที่หิมะตกหนัก เซียวฉือเหย่ใช้แววตาเช่นนี้ไล่ตามตนไปหลายสิบหลี่

ทหารม้าเหล็กหลีเป่ยบุกทำลายทหารม้าเปียนซาจนแตกพ่าย พวกเขารุกไล่มาตามริมแม่น้ำฉาสือ ทำให้ทหารม้าเปียนซาไร้ซึ่งทางหนี น้ำในหาดทรายตื้นกลายเป็นสีแดงฉาน ศพที่ลอยอยู่ในน้ำทับถมกันอยู่ตรงหัวเลี้ยว สายฝนชะล้างใบหน้าของทุกคนจนขาวซีด กองหนุนที่ฮาเซินทิ้งไว้ในเก๋อต๋าเล่อมิได้มาถึง

ฮาเซินแหงนหน้าตากฝนระหว่างหอบหายใจ เขาข้ามไหล่ของเซียวฉือเหย่ไปไม่ได้ มองไม่เห็นฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำฉาสือ เขาสวดภาวนาในใจอย่างสิ้นหวัง “เทพเจ้าโปรดคุ้มครอง…”

ดาบหลางลี่พลันปักลงบนหาดทราย โลหิตสาดกระจายในแม่น้ำ ร่างของฮาเซินคุกเข่าลงในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวก่อนจะล้มลง

เสียงพายุฝนดังครืนครั่น หน้าอกของเซียวฉือเหย่สะท้อนขึ้นลง เสียงกีบเท้าม้าข้างหลังหยุดลงทั้งหมด ท่ามกลางผืนดินกว้างใหญ่ไพศาล ทหารม้าเหล็กต่างมองมาที่เขา เซียวฉือเหย่หันหน้าไปทางแม่น้ำฉาสือ ชูแขนที่กำเส้นผมสีแดงไว้

ในความเงียบอันยาวนาน มีเพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว

ถานไถหู่ย่ำน้ำเข้ามาสองก้าว เขาโยนดาบทิ้ง ร้องไห้ตะโกนไปข้างหน้า “ชนะแล้ว!”

“พวกเรา…” ลำคอของทหารม้าเหล็กเปล่งเสียงสะอื้นอย่างข่มกลั้น จากนั้นก็ร้องคำรามเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น “พวกเราคือหมาป่า!”

ความหม่นมัวที่ปกคลุมพวกเขามานานครึ่งปีลดเลือนในที่สุด แม่น้ำฉาสือที่ทอดตัวในแนวเหนือใต้มีโลหิตร้อนระอุของคนนับไม่ถ้วนไหลอยู่ หลีเป่ยชิงเอาศักดิ์ศรีของตัวเองกลับคืนมาท่ามกลางพายุฝน

เซียวฉือเหย่กำหมัดแน่น ขอบตาแดงเรื่อเงียบๆ

 

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า