[ทดลองอ่าน] 社交温度 SocialOutcast เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า บทที่ 3

SocialOutcast

เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า

社交温度

 

卡比丘 ข่าปี่ชิว เขียน

G.N Voyager แปล

 

โปรย

เขาจำเสียงนี้ได้ดี

ไอ้ผู้ชายตุ้งติ้งน่ารังเกียจในห้องแล็บที่มหาวิทยาลัย

เพราะเพื่อนตัวดีของ ซ่งหย่วนสวิน แอบเล่นพิเรนทร์ติดตั้งแอปฯ หาคู่ไว้ในโทรศัพท์มือถือของเขา

แล้วจู่ ๆ มันก็เด้งเตือนการจับคู่กับบุคคลเลวร้ายที่สุดในความทรงจำของเขาอย่าง ฟางเจามู่

อีกทั้งไม่รู้ว่าปีศาจตนใดเข้าสิง แทนที่ซ่งหย่วนสวินจะลบแอปฯ นั้นทิ้ง

กลับเผลอคุยกับอีกฝ่ายไปเสียหลายประโยค

เรื่องราวหลังจากนั้นยิ่งบานปลาย

ทำให้ซ่งหย่วนสวินจำต้องแสร้งคุยต่อแล้วค่อยหาโอกาสสลัดอีกฝ่ายทิ้ง

แต่ไม่รู้ทำไม ไม่เพียงสลัดอีกฝ่ายออกไปไม่ได้ ดันติดต่อกันบ่อยขึ้นด้วยเนี่ยสิ!

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

บทที่ 3

 

ตอนเช้าเมื่อซ่งหย่วนสวินเข้าไปในห้องแล็บ เขาเห็นฟางเจามู่ยืนอยู่ข้างตู้เอกสารโดยหันหน้าเข้าหาประตูพลางจัดระเบียบข้าวของอยู่

อาจเป็นเพราะรู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้าประตูมา ฟางเจามู่จึงเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่งจนสบตาเข้ากับซ่งหย่วนสวินพอดี เพียงแต่การสบตาครั้งนี้กินเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำเขาก็ก้มหน้าลงไปอีกครั้ง

ฟางเจามู่เตี้ยกว่าซ่งหย่วนสวินอยู่ไม่น้อย แผ่นหลังกับไหล่ที่เอาแต่งองุ้มเล็กน้อย มองดูแข็งทื่อเป็นอย่างมาก ไม่เห็นถึงความผ่อนคลายอย่างในแอปหาคู่เมื่อคืนเลยสักนิด

ซ่งหย่วนสวินเดินผ่านฟางเจามู่ตรงไปทางจางหรันอวี่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มของเขาโดยไม่หยุดชะงักฝีเท้า

เมื่อคืนหลังซ่งหย่วนสวินได้ฟังคำพูดที่ฟางเจามู่กล่าวชมเขาจนจบ ก็ตัดสินใจลบแอปหาคู่นั่นโดยไม่ลังเลทันที ยังไงซะการถูกฟางเจามู่ยั่วยุถึงขั้นส่งข้อความเสียงไป มันช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลย และการคุยกับพวกเกย์ที่ผลการเรียนไม่ได้เรื่องได้ราวยิ่งเป็นการเสียเวลาเปล่า ๆ

“พี่หย่วน” จางหรันอวี่ทักทายซ่งหย่วนสวินแล้วให้เขาดูข้อมูลที่ตนเองคำนวณได้เมื่อวาน

โปรเจ็กต์ของกลุ่มดำเนินไปกว่าครึ่งและเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว หลังจากพวกเขานัดกันมาประชุมสั้น ๆ ในห้องแล็บวันนี้ก็ต้องเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์กันเสียที

ไม่นานคนอื่นในกลุ่มก็มาถึง ซ่งหย่วนสวินจัดการแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนเป็นที่เรียบร้อย แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงขวดแก้วแตกดังมาจากทางด้านหลัง

พวกเขาพร้อมใจกันหันหน้าไปมอง ฟางเจามู่ทำหลอดทดลองหลอดหนึ่งตกแตกและกำลังโน้มตัวลงไปเก็บ

“หมอนี่อีกแล้ว…” จางหรันอวี่ทำหน้าเหยียดหยัน “น่าขายหน้าชะมัด”

เสียงจางหรันอวี่ไม่ได้ดัง ทว่าฟางเจามู่ก็ได้ยินอยู่ดี เขาโยนเศษหลอดแก้วลงไปในถังขยะ หันไปหาจางหรันอวี่ก่อนถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “น่าขายหน้ายังไงเหรอ”

เมื่อวานตอนบ่ายฟางเจามู่ก็ถูกจางหรันอวี่กลั่นแกล้ง

หากกล่าวว่าซ่งหย่วนสวินเป็นศูนย์กลางของการไร้ตัวตนในหมู่คนจีนภายในห้องแล็บ จางหรันอวี่ก็เป็นเหมือนขันทีใหญ่ที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ในซีรี่ส์นั่นแหละ

ซ่งหย่วนสวินต้องเรียนปริญญาสองใบเลยไม่ค่อยอยู่ในห้องแล็บ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้มีความขัดแย้งกับฟางเจามู่โดยตรง ถึงขั้นไม่เคยพูดคุยกับฟางเจามู่มาก่อนก็ว่าได้ อย่างมากก็แค่มองข้ามและหลีกเลี่ยงกันไป

แต่จางหรันอวี่ไม่ใช่ ในชีวิตของจางหรันอวี่มีงานอดิเรกอยู่สองอย่าง หนึ่งคือประจบประแจงซ่งหย่วนสวิน สองคือคิดหาวิธีต่าง ๆ นานาที่จะทำให้ฟางเจามู่รู้สึกอึดอัด

เมื่อวานตอนที่ฟางเจามู่หยิบน้ำยาทดลอง เผอิญไปสัมผัสโดนเครื่องชั่งดิจิทัลที่ซ่งหย่วนสวินกำลังใช้อยู่โดยไม่ตั้งใจ

ซ่งหย่วนสวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เลยใช้คู่มือแล็บทดลองที่อยู่ในมือปัดมือของฟางเจามู่ออกไปอย่างรวดเร็วแล้วก้มหน้ามองด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ซ่งหย่วนสวินยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไรออกมา จางหรันอวี่ก็พุ่งพรวดเข้ามาอย่างรวดเร็ว เริ่มโทษว่าฟางเจามู่ทำลายผลการทดลองกว่าครึ่งชั่วโมงของซ่งหย่วนสวิน

ตอนแรกฟางเจามู่ก็ขอโทษขอโพยดี ๆ แต่หลังจากถูกจางหรันอวี่ตำหนิไม่เลิกอยู่สักพัก จึงชักสีหน้าเย็นชาก่อนหยิบน้ำยาทดลองของตัวเองกลับหลังหันเดินจากไป

จางหรันอวี่คาดไม่ถึงว่าฟางเจามู่ที่อดทนอดกลั้นมาโดยตลอดจะกล้าแข็งข้อ เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ได้แต่มองฟางเจามู่เดินตรงมาหา

“มันน่าขายหน้ายังไงเหรอ” ฟางเจามู่เข้าไปใกล้จางหรันอวี่แล้วถามอีกครั้ง

ถึงฟางเจามู่จะไม่ได้สูงชะลูด แต่ก็สูงกว่าจางหรันอวี่ถึงครึ่งศีรษะ

สายตาของเขาทอประกายดุร้าย ในมือยังคงถือหลอดทดลองที่แตกไปครึ่งหนึ่ง จางหรันอวี่ถูกฟางเจามู่ถลึงตาใส่จึงถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ เมื่อก้นเกือบจะชนโต๊ะเขาก็รวบรวมความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง เกร็งคอแข็งขณะเผชิญหน้ากับฟางเจามู่ “ฉันว่านายรึไงล่ะ”

“งั้นนายว่าใคร” ฟางเจามู่กระตุกยิ้มมุมปากใส่จางหรันอวี่ พลางเอ่ยถาม

“ไม่เอาน่า ๆ พวกนายอย่าทะเลาะกันเลย” โจวเมิ่งที่อยู่ข้าง ๆ เข้ามาไกล่เกลี่ยแล้วพูดกับฟางเจามู่ “จางหรันอวี่ก็แค่พูดออกไปลอย ๆ นายก็จริงจังไปได้”

เดิมทีฟางเจามู่ยังอยากจะเถียงอีกสักสองสามประโยค แต่เผอิญว่าศาสตราจารย์และผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องแล็บพอดีเลยจำต้องยอมรามือ

เขาเดินขึ้นไปชั้นบน ถึงที่ของตัวเองก็เปิดคอมพิวเตอร์แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอีกครั้ง เปิดแอปที่เขาเพิ่งเริ่มใช้งานเมื่อวานขึ้นมา

เมื่อวานพอชมเรื่องกล้ามของ Andrew ไป ดูเหมือน  Andrew จะเขินและไม่ได้ตอบกลับเขามาอีกเลย

ฟางเจามู่คิดว่าตัวเองอาจเป็นพวกที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความประทับใจแรก ดังนั้นนอกจาก Andrew เขาก็ไม่อยากคุยกับใครอีก ฟางเจามู่เปิดหน้าต่างแชตขึ้นมาแล้วส่งข้อความหา Andrew อีกครั้ง

เขาพิมพ์ข้อความไปโดยเริ่มจากการทักทายตอนเช้า ถามว่าอีกฝ่ายตื่นหรือยัง แต่เมื่อเขากลับมาดูอีกทีหลังจากเขียนรายงานการวิเคราะห์ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร Andrew ก็ยังไม่ตอบ ฟางเจามู่จึงกดปุ่มข้อความเสียง ลากเสียงพูดคุยกับ Andrew “คุณทำอะไรอยู่น่ะ

“วันนี้ผมเจอไอ้งี่เง่าคนหนึ่งอีกแล้ว อารมณ์เสียชะมัด คุณคุยเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ” ฟางเจามู่ดึงดันจะตอแยอีกฝ่าย “ตกลงไหม”

เพิ่งพูดจบ ฟางเจามู่ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบา ๆ จากทางด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็เห็นซ่งหย่วนสวินที่น้อยครั้งจะขึ้นมาชั้นบนกำลังหันหลังให้เขาและหยิบคอมพิวเตอร์ออกมา

เมื่อชั้นบนมีคนอื่นอยู่ด้วย ฟางเจามู่จึงไม่สะดวกส่งข้อความเสียงอีก เขาส่งอิโมจิหน้าร้องไห้ไปให้ Andrew อีกสองสามอันแล้วเริ่มดูข้อมูล

ฟางเจามู่อ่านรายงานจบไปรอบหนึ่งก็ทนไม่ไหว ต้องเปิดหน้าแชตขึ้นมาอีกครั้ง  Andrew ตอบข้อความกลับมาแล้วว่า [ถูกไอ้งี่เง่านั่นแกล้งจนร้องไห้งั้นเหรอ] [อืม] ฟางเจามู่ฟุบลงบนโต๊ะ พิมพ์ข้อความไปหา Andrew ทีละคำ [ร้องไห้เลย]

คราวนี้ Andrew ตอบเร็วกว่าเมื่อวานมาก เขาพิมพ์มาว่า [ฉันไม่เชื่อหรอก ถ่ายรูปมาให้ดูสิ] [ผมอยู่ในห้องแล็บ ข้าง ๆ มีคนอยู่ด้วย] ฟางเจามู่หันหน้ากลับไปมอง เห็นซ่งหย่วนสวินกำลังพิมพ์อย่างเอาจริงเอาจริง คงไม่ทันสังเกตเห็นตนเอง เลยกดเสียงต่ำพูดกับ Andrew “คุณไม่ได้กำลังทำงานอยู่เหรอ”

[กำลังทำงานอยู่] Andrew ว่า [แต่เห็นนายบอกว่าอารมณ์ไม่ดีฉันเลยหาเวลามาคุยเป็นเพื่อน]

ฟางเจามู่คิดว่า Andrew แตกต่างไปจากเมื่อวานเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะเป็นมิตรขึ้นมากทีเดียว ชั่วขณะนั้นฟางเจามู่เองก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีจึงพูดกับเขาว่า “ขอบคุณนะ พอมีคนคุยเป็นเพื่อนผม ผมก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้วละ”

[ส่งข้อความเสียงในห้องแล็บได้ด้วยเหรอ] Andrew ถามฟางเจามู่ [นายเรียนอะไรน่ะ]

“ได้สิ” ฟางเจามู่บอก Andrew เรื่องสาขาวิชาที่ตัวเองเรียน ก่อนถามเขาอีกครั้ง “เวลาทำงานพวกวิศวกรเครื่องกลเขาทำอะไรกันบ้างเหรอ ยุ่งมากหรือเปล่า”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูดก็มีเสียงความเคลื่อนไหวดังขึ้นมาจากด้านหลังฟางเจามู่ เขาหันหน้าไปมองแวบหนึ่งก็เห็นซ่งหย่วนสวินลุกขึ้นยืนแล้วหยิบโทรศัพท์เดินมุ่งไปที่บันไดอย่างรวดเร็ว

และจู่ ๆ ทางด้าน Andrew ก็เงียบไปอีกครั้ง ฟางเจามู่เงยหน้าขึ้นมาหลังวิเคราะห์ข้อมูลไปสองสามตัว ถือโอกาสส่งข้อความไปถาม [ยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอ]

ผ่านไปสักพักฟางเจามู่ถึงได้รับข้อความตอบกลับ ในนั้นพิมพ์มาแค่ว่า [ยุ่งมาก ๆ]

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า