SocialOutcast
เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า
社交温度
卡比丘 ข่าปี่ชิว เขียน
G.N Voyager แปล
โปรย
เขาจำเสียงนี้ได้ดี
ไอ้ผู้ชายตุ้งติ้งน่ารังเกียจในห้องแล็บที่มหาวิทยาลัย
…
เพราะเพื่อนตัวดีของ ซ่งหย่วนสวิน แอบเล่นพิเรนทร์ติดตั้งแอปฯ หาคู่ไว้ในโทรศัพท์มือถือของเขา
แล้วจู่ ๆ มันก็เด้งเตือนการจับคู่กับบุคคลเลวร้ายที่สุดในความทรงจำของเขาอย่าง ฟางเจามู่
อีกทั้งไม่รู้ว่าปีศาจตนใดเข้าสิง แทนที่ซ่งหย่วนสวินจะลบแอปฯ นั้นทิ้ง
กลับเผลอคุยกับอีกฝ่ายไปเสียหลายประโยค
เรื่องราวหลังจากนั้นยิ่งบานปลาย
ทำให้ซ่งหย่วนสวินจำต้องแสร้งคุยต่อแล้วค่อยหาโอกาสสลัดอีกฝ่ายทิ้ง
แต่ไม่รู้ทำไม ไม่เพียงสลัดอีกฝ่ายออกไปไม่ได้ ดันติดต่อกันบ่อยขึ้นด้วยเนี่ยสิ!
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 4
ซ่งหย่วนสวินติดตั้งแอปใหม่อีกครั้ง ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเขาไม่อยากให้จ้าวหานใช้แอ๊กเคานต์นั้นไปยุ่งวุ่นวายกับฟางเจามู่
เมื่อครู่ซ่งหย่วนสวินเพิ่งเดินขึ้นไปชั้นบน ทันทีที่หย่อนตัวลงนั่งด้านหลังฟางเจามู่ เขาก็ได้รับรหัสผ่านแอ๊กเคานต์ของแอปที่จ้าวหานส่งมาให้
จ้าวหานถามเขาว่าเล่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง หาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเจอหรือยัง
“ลบไปตั้งนานแล้ว” ซ่งหย่วนสวินตอบเขา
ทางด้านจ้าวหานนั้นถึงกับสะดุ้ง ก่อนส่งข้อความเสียงยาวเหยียดมาประณามซ่งหย่วนสวินว่าทำให้สมาชิกรายเดือนที่เขาซื้อมาต้องสูญเปล่า จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ช่างเถอะ นายไม่ใช้เดี๋ยวฉันใช้เอง”
ตอนนั้นซ่งหย่วนสวินกำลังยุ่งอยู่จึงไม่ได้ใส่ใจ แต่แล้วจู่ ๆ คำพูดไม่กี่ประโยคที่ฟางเจามู่ซึ่งอยู่ด้านหลังเขาเปล่งออกมาเบา ๆ ก็ดึงดูดความสนใจของเขาไป
ไม่ใช่ว่าตัวซ่งหย่วนสวินรู้สึกดีด้วย แต่เป็นเพราะน้ำเสียงของฟางเจามู่ช่างเหมือนกับเมื่อคืนมากต่างหาก แล้วยังพูดถึงเรื่อง ‘ทำงาน’ และ ‘วิศวกรเครื่องกล’ อะไรนั่นอีก พอได้ยินแบบนั้นแล้วในใจซ่งหย่วนสวินก็มีเสียงเตือนภัยดังลั่นขึ้นมาทันที
เขาคว้าโทรศัพท์เดินลงไปจากตึกแล้วโหลดแอปกลับมาอีกครั้ง ซ่งหย่วนสวินลงชื่อเข้าใช้เพื่อบังคับให้จ้าวหานออกจากระบบก่อนจะเปิดหน้าต่างแชตขึ้นมา หลังอ่านบันทึกการสนทนาระหว่างจ้าวหานและฟางเจามู่จนจบในอึดใจเดียวเขาก็เปลี่ยนรหัสผ่านทันที
หลังกล่องข้อความเล็ก ๆ ที่แจ้งเตือนการเปลี่ยนรหัสผ่านสำเร็จเด้งขึ้นมาเพียงไม่กี่วินาที จ้าวหานก็โทรศัพท์มาถามซ่งหย่วนสวินอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันกำลังคุยกับเสี่ยว Mu อยู่เลย นายจะเปลี่ยนรหัสผ่านทำไม”
“นายอยากคุยกับเขาก็ไปสมัครแอ๊กเคานต์อื่น อย่ามาใช้แอ๊กเคานต์นี้” ซ่งหย่วนสวินพูดด้วยความหงุดหงิด เขานึกถึงบันทึกการสนทนาที่เพิ่งเห็นเมื่อครู่ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา จ้าวหานไม่ต่างอะไรจากพวกสแกมเมอร์ที่พูดคุยในแอปหาคู่ไม่หยุดได้ตั้งครึ่งค่อนวัน
“นี่พี่ชาย แอปนี้สุ่มจับคู่ตามระยะห่าง ฉันอยู่ไกลขนาดนี้ไม่มีทางแมทช์ได้อยู่แล้วไหม รีบเปลี่ยนรหัสผ่านคืนให้ฉันเลย” จ้าวหานพูดด้วยท่าทีอ่อนลง “นายอย่าบอกนะว่าเสียงของ Mu ก็เพราะดี”
“นายชอบผู้ชายตั้งแต่เมื่อไรกัน” ซ่งหย่วนสวินถามเขา
ตั้งแต่เล็กจนโตจ้าวหานมีแฟนสาวมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคบเพศเดียวกันมาก่อน ใครจะไปรู้ว่ายิ่งอายุมากขึ้นเท่าไรชีวิตส่วนตัวก็ยิ่งยุ่งเหยิงมากขึ้นเท่านั้น
“ก็แค่คุยเล่น ๆ เองน่า” จ้าวหานว่า “อีกอย่าง รูปของเขาก็ไม่เลวเหมือนกันนะ เฮ้ นายลบไปแล้วไม่ใช่เหรอ ในเมื่อนายไม่ใช้แล้วฉันขอใช้หน่อยไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้” ซ่งหย่วนสวินพูดอย่างเด็ดขาด “ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าจะใช้ก็เปลี่ยนแอ๊กเคานต์ซะ”
“…ก็ได้” จ้าวหานไม่กล้าขัดใจซ่งหย่วนสวิน เขาเลยวางสายไปด้วยความเศร้าใจแล้วไปสมัครแอ๊กเคานต์ใหม่
หลังซ่งหย่วนสวินวางสายแล้วก็ได้รับข้อความที่ฟางเจามู่ส่งมาอีก เขาตอบกลับไปแค่ว่า [ยุ่งมาก ๆ] ก่อนจะล็อกโทรศัพท์ ไปดูความคืบหน้าของโจวเมิ่งสักหน่อย เมื่อเขาเดินกลับไปที่บันไดก็พบฟางเจามู่สะพายกระเป๋าเดินลงมาจากชั้นบนพอดี
เพราะในห้องแล็บร้อนมาก ฟางเจามู่จึงถอดแจ็กเก็ตพาดไว้บนแขน ด้านในสวมสเวตเตอร์คอต่ำสีอ่อนเผยให้เห็นแผ่นอกขาวกระจ่างใส ไหล่ข้างหนึ่งคล้องสายสะพายกระเป๋าอยู่ มันรั้งคอเสื้อจนเสื้ออีกข้างแทบจะเลื่อนหลุดจากไหล่อยู่รอมร่อ ดูเผยเนื้อหนังมากจนซ่งหย่วนสวินมองเพียงแวบเดียวก็ต้องเบนสายตาออกไป
ขณะเดินสวนกันบนบันไดฟางเจามู่เผอิญยื่นมือออกมาพอดี หลังมือของเขาสัมผัสกับต้นแขนของซ่งหย่วนสวิน ผิวที่หลังมือของฟางเจามู่นุ่มมาก อีกทั้งตัวเขายังมีกลิ่นหวานจนชวนเลี่ยนทำให้ซ่งหย่วนสวินรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ไปทั้งตัว
พอกลับไปถึงที่นั่งไม่ทันไร ซ่งหย่วนสวินก็ได้รับข้อความจากฟางเจามู่อีกครั้ง
[เมือง C ฝนตกแล้ว คุณพกร่มมาหรือเปล่า]ฟางเจามู่ถ่ายรูปส่งมาให้ซ่งหย่วนสวิน เขากดเปิดดู ด้านนอกดูเหมือนฝนจะตกแรงมาก สายฝนเทกระหน่ำจนสภาพอากาศขมุกขมัวไปหมด
ไม่รู้อะไรดลใจ ซ่งหย่วนสวินตอบกลับฟางเจามู่ไปหนึ่งประโยค [นายพกมาด้วยงั้นเหรอ]
“เปล่าครับ” ฟางเจามู่พูดกับซ่งหย่วนสวินอย่างน่าสงสาร “ผมคงต้องฝ่าฝนกลับไป”
ที่จริงซ่งหย่วนสวินไม่อยากตอบ แต่พอเห็นรูปที่ฟางเจามู่ส่งมาให้เขาก็ค่อย ๆ พิมพ์ไปอีกไม่กี่คำ [รอให้ฝนหยุดก่อนค่อยไปไม่ได้หรือไง]
“อืม ผมไม่อยากอยู่ในห้องแล็บ คนพวกนั้นโคตรน่ารำคาญเลย” ฟางเจามู่พูด “ไว้ผมกลับบ้านแล้วจะทักไปหาคุณนะ”
ซ่งหย่วนสวินจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และดูข้อมูลที่อยู่บนนั้น ผ่านไปไม่กี่วินาทีเขาก็ลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าต่าง มองลงไปยังด้านล่างอาคารแล็บ
ฟางเจามู่สวมเสื้อตัวโคร่งสะพายกระเป๋าเดินอยู่ท่ามกลางสายฝน เมื่อมองลงไปจากชั้นห้าเขาดูตัวเล็กนิดเดียว ดูเหมือนกำลังยกแขนขึ้นกอดอกเพราะอากาศเย็นเฉียบขณะมุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ซ่งหย่วนสวินไม่รู้ว่าฟางเจามู่อาศัยอยู่ที่ไหน แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนการเดินกลับบ้านท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำขนาดนี้คงได้เปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้าแน่ ๆ
“พี่หย่วน!” จางหรันอวี่ขึ้นมาชั้นบนพร้อมแท็บเล็ตเครื่องหนึ่งในมือแล้วเรียกซ่งหย่วนสวิน “พี่ดูข้อมูลสองชุดนี้สิ มันผิดปกติไปหน่อยหรือเปล่า”
ซ่งหย่วนสวินเดินเข้าไปโดยทิ้งฟางเจามู่ที่อยู่ท่ามกลางสายฝนไว้ด้านหลังเป็นการชั่วคราว