การใช้น้ำเสียง ที่น่าฟังเป็นปัจจัยสำคัญในการพูดคุย และยังช่วยพัฒนาทักษะการพูดด้วย มันจะช่วยทำให้การสนทนาน่าสนใจและนำมาซึ่งสายสัมพันธ์และความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมาก มาดูกันว่า การใช้น้ำเสียง แบบไหนที่น่าฟังและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด เลือกใช้น้ำเสียง ความหมายของการสื่อสารอยู่ที่น้ำเสียงที่ใช้มากกว่าคำพูดจริงๆ คุณจึงต้องใส่ใจกับเรื่องของน้ำเสียงที่ใช้ เช่น คุณสามารถพูดคำพูดเดียวกันโดยใช้น้ำเสียงที่ทำให้อีกฝ่ายมองว่าเป็นการพูดเล่นหรือเรื่องตลก และน้ำเสียงที่ทำให้อีกฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องที่จริงจังมาก เช่นคำว่า “ไปไกลๆ เลย” ซึ่งคุณสามารถพูดโดยใช้น้ำเสียงที่ดูเหมือนโกรธจริงจังหรือน้ำเสียงที่ดูเหมือนประหลาดใจและไม่อยากเชื่อ ทั้งสองสถานการณ์ใช้คำพูดเดียวกัน แต่ความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิงตามน้ำเสียงที่ใช้ นอกจากนั้นน้ำเสียงยังสำคัญมากๆ ด้วย เพราะจะทำให้คู่สนทนาสนใจสิ่งที่คุณจะพูดต่อไป เวลาที่พูดถึงประสบการณ์ที่ต้องเล่าไปเรื่อยๆ จึงต้องระมัดระวังเรื่องการใช้น้ำเสียงให้ดี เช่น ใช้น้ำเสียงเพื่อทำให้คำพูดมีพลังมากขึ้นเช่น พูดคำว่า “ช้าๆ” แบบช้าๆ เพื่อที่จะได้ความรู้สึกแบบเดียวกับตัวคำ และพูดถึงสิ่งที่ “เคลื่อนที่เร็วเรื่อยๆ” โดยพูดคำว่า “เร็วขึ้นเรื่อยๆ” แบบเร็วมาก วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความหมายและความสนใจในสิ่งที่คุณพูดได้ การสื่อสารดูมีชีวิตชีวาขึ้นด้วยการเลือกใช้น้ำเสียงนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใช้น้ำเสียงที่ดูเหมือนประหลาดใจ ตื่นเต้น กระวนกระวายใจ ที่ช่วยเพิ่มความสนใจของอีกฝ่าย น้ำเสียงที่หลากหลายย่อมน่าฟังกว่าเสียงที่สม่ำเสมอคงเส้นคงวาแน่นอน และจำไว้ว่า ถ้าอยากให้คนอื่นรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่คุณพูด คุณต้องรู้สึกตื่นเต้นกับมันก่อน ความเร็วในการพูด อีกหนึ่งวิธีที่ใช้สร้างสัมพันธ์เวลาคุยกับอีกฝ่ายคือต้องพูดให้เร็วพอๆ กัน ฉะนั้นถ้าอีกฝ่ายพูดค่อนข้างเร็ว คุณก็ต้องพยายามพูดให้เร็วพอๆ กัน แต่ต้องไม่เร็วจนน่าอึดอัดใจ และหากอีกฝ่ายเป็นคนพูดช้า […]