บางคำอาจเต็มไปด้วยคำถาม
แต่หลายครั้งบางคำก็นำมาสู่คำตอบ
เเละหลายครั้งที่คำเดียวกัน แต่เรากลับรู้สึกแตกต่างกัน
คำนำสำนักพิมพ์
เวลาเห็นคำเดียวกัน
อาจเต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือน
หรือแตกต่างกัน
บางคำเต็มไปด้วยความทรงจำ
บางคำเต็มไปด้วยความคิดถึง
บางคำอาจเต็มไปด้วยคำถาม(ที่ค้างคาใจ)
และบางคำอาจทำให้เราอยากแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับใครบางคน
– Springbooks
คำนำผู้เขียน
เรื่องมีอยู่ว่าเราเกิดความสงสัยเล็กน้อย ว่าในคำๆนึงนั้น คนเราจะสามารถมีประสบการณ์ร่วมได้แตกต่างกันได้สักขนาดไหน ซึ่งเพื่อนร่วมทดลองในครั้งนี้คือสาวน้อยเจ้าของเพจ once เรามีช่วงวัยและลักษณะนิสัยไม่ต่างกันมาก ส่วนความรู้สึกภายในต่อโลกนั้นไม่อาจรู้ได้ สิ่งที่เจอในอดีต เรากำลังใช้หนังสือเล่มนี้เข้าสู่โลกของกันและกัน และแน่นอนเรากำลังจะชวนผู้อ่านทุกคนมาเข้าสู่โลกของพวกเรา ผ่านคำแต่ละคำ มาดูกันว่า เราถูกเชื่อมต่อกันไว้มากน้อยเพียงใด
นับเป็นการทดลองครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้น เป็นงานเขียนชิ้นแรกที่เราจะมีเพื่อนร่วมทดลอง
– บ้านข้างๆ
ก่อนจะเป็นคนที่แสนดีเพื่อใครคนหนึ่ง หรือก่อนจะเป็นตัวร้ายในบทสนทนาของใครอื่น เราต่างก็ผ่านการแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วน ร่วงหล่นจนกระทบกับพื้นห้อง หรือแม้แต่หลุดลอยไปจนสุดขอบฟ้า (ใจคนเรามันบางเธอก็น่าจะรู้ดี)
ฉันเปล่าอยากจดจำสิ่งใดเสียมากมาย บางคราวอยากปล่อยให้มันรกร้างและเลือนหายไปอย่างไม่เคยเกิดขึ้น แต่ใช่ว่าฉันหรือเธอจะเลือกสิ่งใดในชีวิตโดยปราศจากเหตุผลมารองรับ ใช่ว่าฉันหรือเธอจะเป็นตัวเองในวันนี้โดยปราศจากเงื่อนไขของวันก่อน
อย่าโกรธตัวเองนักเลย สิ่งเหล่านั้นได้เกิดขึ้นอย่างดีที่สุดแล้ว เธอเพียงคิดถึงเมื่อวานด้วยความเข้าใจ และใช้มันอย่างทะนุถนอมหลังจากนี้…
– ONCE
สารบัญ
ยินดีที่ได้รู้จัก
เหมือนเดิม
ความคาดหวัง
เหนื่อยไหม
ความสุข
พิเศษ
safe zone
เติบโต
ความทรงจำ
ไทม์แมชชีน
เวลา
เย็นวันศุกร์
กลางคืน
ความฝัน
จินตนาการ
เครื่องบิน
ระยะทาง
การเดินทาง
หลง
ดวงตา
คนดี
เป็นห่วง
ผูกพัน
บ้าน
ครอบครัว
Happy Birthday
วัยเด็ก
เพื่อนสนิท
โรงเรียน
ติสท์
กอด
ภูเขา
บังเอิญ
คลั่งรัก
กลิ่นของเธอ
ยิ้ม
ดอกกุหลาบ
ทานตะวัน
แมว
คาเฟอีน
ไม่มีสถานะ
ดาวพลูโต
ไม่คิดถึงแล้ว
แฟนเก่า
ไว้ใจ
ขอโทษ
รู้สึกผิด
เสมอต้นเสมอปลาย
เพลงโปรด
ฝนตก
ก่อน
สัญญา
อืม
เหตุผล
ผิดหวัง
ควันบุหรี่
เหงา
กำแพง
จดหมาย
หนังสือ
ของเล่น
แต่งงาน
ตลอดไป
โชคดี
ลาก่อน
ยินดีที่ได้รู้จัก
______
เธอพูดประโยคนี้ในวันสุดท้ายของการพบกัน
ณ สถานที่ที่เป็นจุดสิ้นสุดความสัมพันธ์อันยาวนาน
เราจะไม่ได้เจอกันอีกด้วยความตั้งใจแล้ว
ยินดีที่ได้รู้จัก
เธอคงหมายความว่าในตลอดความสัมพันธ์นี้
มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป
แต่ในวันสุดท้ายนี้ เราต่างคิดว่าเป็นเรื่องดี
ที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันในช่วงเวลาหนึ่ง
เรารู้สึกเช่นนั้น เรารู้สึกตั้งแต่วันแรก
ยินดี… ที่ได้รู้จัก
คำเดิมที่เราเคยพูดกันตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน
เรารู้สึกยินดีที่จะได้อยู่ด้วยกันหลังจากนี้
แม้วันนี้ต้องแยกจากกันแล้ว
ยินดีที่ได้รู้จักที่เอ่ยในวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนยินดีที่ได้รู้จักในวันแรก
คำๆเดียวกันในสองช่วงเวลา
ยินดีที่ได้รู้จัก
——————————————
: รู้ไหม… เราดีใจที่ได้รักเธอ
(เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
และมองไปที่เขาอย่างไม่ละสายตา)
: เอ่อ… ลองอีกครั้งไหม
(เขาพูดขึ้นเบาๆ ในขณะที่สายตาของเขาเปล่าวาง อยู่ที่สิ่งใดหรือแม้แต่คู่สนทนา)
: …
(เธอเงียบ)
: เราก็…ยินดีที่ได้รู้จักเธอเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนว่า หลังจากนี้เราคงจะรู้สึกรักกันมากที่สุดอีกครั้งในวันที่เรารักกันไม่ได้อีกแล้ว
(เขาพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนหน้า)
: อือ
(เธอตอบ)
แด่เธอ…
ผู้มอบบทสนทนาสำหรับบอกลา
ที่ไม่มีคำว่าลาก่อน
เหมือนเดิม
____________
เธอเป็นเหมือนกันไหม
พอชอบอะไรแล้วก็จะอยู่กับสิ่งนั้นไปตลอด
ถ้าสั่งเมนูนี้ที่ร้านนี้แล้วอร่อย
ไม่ว่ากลับมาอีกครั้งก็จะสั่งเมนูเดิมซ้ำอยู่อย่างนั้น
ดูหนังเรื่องไหนแล้วชอบก็จะดูซ้ำอยู่อย่างนั้น
บางวันก็ใช้เวลาอยู่ในหน้าเลือกหนังในเน็ตฟลิกซ์เกือบครึ่งชั่วโมง
เพื่อสุดท้ายก็เลือกหนังที่เคยดูแล้ว
เหมือนเดิม
อาจเพราะว่ากลัวความเสี่ยง
ในระยะเวลาหรือเงินทองที่ต้องจ่ายต่อสิ่งๆหนึ่ง
ทำให้ปฏิเสธสิ่งใหม่ๆไป
ใจหนึ่งก็คิดนะว่ามันจะทำให้ชีวิตเราอยู่แต่กับอะไรเดิมๆ
จนไม่ได้ค้นพบสิ่งใหม่หรือเปล่า
แต่ท้ายสุดแล้ว โลกที่หมุนเร็วนี้มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ๆตลอดเวลา
ฉันและเธออาจไม่ต้องไหลไปตามโลกเสมอไปก็ได้
หนังใหม่เข้าทุกวัน
มีกาแฟเมนูใหม่มาทุกวัน
มีผู้คนใหม่ๆมาให้รู้จักเพิ่มทุกวัน
มีแอพใหม่ มีร้านใหม่ มีกิจกรรมใหม่
ถ้าวันหนึ่งเธอพร้อมจะลองสิ่งใหม่แล้วค่อยลองก็ได้
เธอจะกินกาแฟอเมริกาโน่หวานน้อยไปตลอดก็ได้
เหมือนเดิมอาจไม่ได้ซ้ำซาก
เหมือนเดิมอาจเป็นความประทับใจแรก และความประทับใจสุดท้าย
ใช้ชีวิตให้มีความสุขก็พอ
เหมือนๆเดิมที่เคยเป็น
———————————————
“เราอยู่นี่”
“ไหวไหม”
“เหนื่อยล่ะซิ”
“ได้นอนบ้างหรือเปล่า”
“อยากเล่าไหม”
“มีอะไรก็โทร.มานะ”
เหมือนเดิมคืออะไรเธอรู้ไหม เหมือนเดิมของฉัน กลับมีแต่ความหมายที่ดี ที่หมายถึงรักเหมือนเดิม รักที่ไม่ได้บอกว่ารัก รักที่บอกผ่านประโยคธรรมดา รักที่บอกผ่านการกระทำเดิมๆ และแม้เวลาเปลี่ยน…
ความคาดหวัง
____________
เราจะลองจินตนาการว่า ” ความหวัง ”
เป็นลูกบอลหนึ่งลูกที่สำคัญกับมนุษย์
ความหวังที่มาก หรือความหวังที่น้อย
เราจะเทียบตามขนาดของลูกบอล
ซึ่งแต่ละลูกนั้นก็จะทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกัน
บอลบางลูกอาจจะเป็นพลาสติกที่เมื่อตกแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น
บางลูกอาจเป็นยางที่ยืดหยุ่นเด้งได้ บางลูกทำมาจากแก้ว
บางลูกทำมาจากเซรามิก
เพราะฉะนั้นความคาดหวัง
คงจะเป็นการโยนลูกบอลไปให้ใครสักคนรับ
ตามศักยภาพของแต่ละคนที่จะสามารถรับลูกบอลได้
ถ้าจะให้ฉันพูดในฐานะผู้รับฉันคงจะบอกว่า
ฉันจะพยายามรับให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าคุณโยนบอลลูกเล็กๆมาฉันยังพอรับได้ กี่ลูกก็มาเถอะ
แต่ถ้าลูกที่คุณจะโยนมันเปราะบางและพร้อมแตกสลาย
ฉันอาจจะรับพลาด
และบอลลูกเดียวที่สำคัญของคุณนั้นอาจหล่นแตก
สุดท้ายคุณจะเป็นคนเจ็บปวดเองนะ
เพราะฉันรับทุกวันมันก็แขนล้าเหมือนกัน
เช่นกันเดียวฉันจึงเลือกไม่โยนบอลลูกนี้ใส่ใคร
ฉันอาจจะเรียกคุณมาดูว่าลูกบอลของฉันมีลักษณะแบบไหน
ให้รู้ว่าฉันถือบอลลูกนี้อยู่นะ แต่ฉันจะไม่โยนใส่คุณ
ใช้ชีวิตของคุณเลย ใช้สองแขนนั้นทำตามสิ่งที่อยากทำ
บอลลูกนี้ฉันจะเก็บไว้โยนเล่นกับตัวเอง
———————————————
เราต่างก็กำลังใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสิ่งที่เลือก
และแม้บางทีมันจะไม่ใช่สิ่งที่อยากเลือก
แต่ก็ถูกเลือกแล้ว
มีคนบอกให้ยอมรับมัน และอยู่กับสิ่งนั้นต่อไป
ด้วยความรู้สึกที่เป็นสุข
ใช่แหละ,
มันอาจจะเป็นแบบนั้น
แต่การประคับประคองให้ตัวเองดูปกติเสมอ
ในระหว่างที่อยู่กับความรู้สึกที่ลำบาก
หรือท่ามกลางวันที่ยาก มันเป็นเรื่องผิดปกติ
อยากร้อง ก็แค่ร้อง
อยากพัก ก็แค่พัก
ถ้าต้องการยอมแพ้ ก็แค่ยอมรับ
เราต่างก็ตัดสินใจใหม่ได้ทุกวันอย่างไม่มีวันหยุด
ความคาดหวังจากตัวเองมันหนักกว่าสิ่งอื่น
หรือแม้แต่อิฐปูนก็ยิ่งกว่า
อย่าทรมานตัวเองนักเลย
อย่าเลย…
เหนื่อยไหม
__________
โลกคงจะเป็นเรื่องน่าปวดหัวที่ไม่สิ้นสุดของจักรวาล
ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายความเหนื่อยล้า
ของการดำเนินชีวิตบนโลกนี้อย่างไร
เราอาจจะไม่ได้ต้องการคนมาเข้าใจ
ความรู้สึกข้างในขนาดนั้น
แต่บางคำถาม
อาจทำให้ชีวิตของเราถูกเชื่อมต่อกันได้
การแสดงความเป็นห่วงอย่างเรียบง่าย
ในโลกที่บังคับให้เราเหนื่อยอยู่ทุกวัน
ฉันรู้ว่าคงอีกนานแสนนานกว่าจะหายเหนื่อย
หรืออาจจะไม่มีวันหายเหนื่อยก็ได้
ฉันรู้นะว่าเธอเหนื่อย
ฉันเห็นอยู่นะว่าเธอกำลังเหนื่อย
เธอเหนื่อยได้นะ
ความเหนื่อยไม่ได้บอกว่าเธอนั้นอ่อนแอ
เหนื่อยไปด้วยกันนะ
และฉันจะคอยถามคำถามนี้กับเธอเสมอ
เพื่อให้รู้ว่าโลกใบนี้ ยังฉันก็ยังเหนื่อยไม่ต่างกับเธอ
———————————————
เหมือนเปลือกตาของฉัน
มันหนักเกินกว่าจะลืมขึ้นอย่างไม่ลำบาก
เหมือนช่วงต้นคอจนถึงบ่า
มันปวดเกิดกว่าจะขยับได้อย่างปกติ
เหมือนร่างกายกำลัง
สื่อสารกับฉันว่า ‘ไม่ไหว’
และต้องการพัก
ส่วนใจของฉัน
ก็เหมือนเอาแต่บอกว่า ‘ไหว’
อย่างไม่ยอมรู้สึกตัว
(หรือไม่ฉันก็คงกำลังหลอกตัวเองไปวันๆ)
“เหนื่อยไหมวันนี้”
(ข้อความของเขาดังขึ้น)
ฉันอ่านประโยคนั้นซ้ำไปมาอยู่หลายครั้ง
ก่อนจะค่อยๆยอมรับกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่า ‘เหนื่อย’
‘อือ แล้วเธอล่ะเหนื่อยไหม’
(ฉันพิมพ์ตอบ)
ความสุข
__________
ปลายทางของทุกการกระทำคงจะหนีไม่พ้นหนทางไปสู่ความสุข ฉันก็กำลังหาหนทางที่จะพบความสุขเหมือนกัน ทุกคนอยากมีความสุข
เคยเจอใครที่หาความสุขไม่เจอไหม
อาจเป็นเพราะนำความสุขของคนอื่นมาเป็นความสุขของตัวเองหรือเปล่า เรามองเห็นบุคคลที่ดูมีความสุขซึ่งรายล้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียง คนรัก จนเราวิ่งตามหาสิ่งนั้นเพราะเชื่อว่าจะตอบสนองความสุขของเราได้
แต่เมื่อได้มาแล้วทำไมถีงไม่ได้รู้สึกสุขขนาดนั้น
พอพูดแล้วก็ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง Soul ของ Pixar เลย ที่ตัวละครหนึ่งได้ไปถึงความฝันของตัวเองแล้วแต่กลับรู้สึกไม่มีความสุข
ฉันจึงจะถามตัวเองให้ได้คำตอบก่อนว่า ความสุขของตัวฉันคืออะไร อาจไม่ใช่มีเงินเยอะหรือเปล่า ถ้ามีเงินเยอะแล้วยังไงต่อ มีชื่อเสียงแล้วยังไงต่อ ไม่ใช่ว่าเงินหรือชื่อเสียงมันแย่นะ แต่หากมันเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะพาไปพบความสุขที่แท้จริงก็ไม่ต้องปฏิเสธ ถ้าความสุขคือการอยู่กับคนรักในบ้านหลังหนึ่ง เธอก็ต้องทำงาน เก็บเงิน อาจต้องทุกข์บ้าง เหนื่อยบ้าง
แต่เมื่อเรามั่นใจในความหมายของความสุข ในความต้องการตัวเองแล้ว
ก็คุ้มค่าที่จะเดินตามทางนั้นเพื่อให้ได้มา
ความสุขใครความสุขมัน
แต่ขอให้ได้เดินตามเส้นทางที่พาไปพบความสุขจริงๆนะ
———————————————
ฉันจะโหยหาเมื่อวานไปทำไม หากตอนนี้ชีวิตฉันดีที่หนึ่ง บังเอิญว่าฉันก็คงเหมือนคนทั่วไป ในระหว่างวันที่ยากฉันก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าฉันเหนื่อย
ฉันเหนื่อยที่ต้องนึกอะไรขึ้นมาตั้งมากมายระหว่างการเข้านอนในกลางดึก เช่นว่า ‘ฉันเคยมีความสุขได้ง่ายกว่านี้’ หรือว่าวันนี้ ‘ฉันมีความสุขดีหรือเปล่า’
ความสุขหรือสิ่งสวยงามกลายเป็นเรื่องที่แตะต้องได้ยากกว่าสิ่งไหน ในขณะที่ฉันนั่งอยู่ข้างๆใคร ก็ใช่ว่าฉันจะรู้สึกสบายใจที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ตรงนั้น ระหว่างที่ฉันกำลังทำสิ่งใดก็ใช่ว่าฉันจะสนุกกับมันได้เท่ากับวันก่อน
ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าความสุขครั้งล่าสุดของฉันคือวันไหน มันนานเกินไป หรือมันไม่เคยเกิดขึ้นเลยในระหว่างการเติบโต
: ความสุขคืออะไร
: คืออะไรที่ง่ายๆ
เหมือนว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างทันที ราวกับว่ามันเป็นคำถามธรรมดาที่ไม่น่าสงสัย
: แล้วอะไรที่ง่ายๆ คืออะไรกันนะ
: …
พิเศษ
__________
ฉันพยายามจะใช้ชีวิตแต่ละวันผ่านไปให้ธรรมดาที่สุด เพราะยังคงกลัวว่า หากวันหนึ่งได้รับสิ่งพิเศษจนเคยชินแล้ว ฉันจะอยู่กับความธรรมดาไม่ได้อีกต่อไป
เช่นเดียวกันฉันก็ไม่ได้พยายามจะทำอะไรให้พิเศษ
ไม่ได้พยายามทำตัวให้พิเศษ
บางคนอาจบอกว่าฉันมันน่าเบื่อ ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีการพัฒนา
แต่ฉันก็อยากเป็นแบบนี้นะ
หลงรักความธรรมดาของตัวเองไปแล้ว
เมื่อพบความสุขในความธรรมดาได้
นั่นคงพิเศษที่สุดเลย
———————————————
ความสำคัญของบางสิ่งย่อมไม่เท่ากับบางอย่าง เหมือนที่ความสำคัญของบางอย่างย่อมไม่เท่ากันเมื่อเวลาเปลี่ยน
วันพิเศษที่เคยพิเศษอาจกลายเป็นวันปกติธรรมดาในเช้าวันหนึ่ง คนพิเศษที่เคยพิเศษอาจกลายเป็นใครคนหนึ่งที่เคยใช้เวลาร่วมกันและผ่านไป สิ่งที่พิเศษไม่เคยยั่งยืน ความรู้สึกที่พิเศษอาจเปลี่ยนเป็นเฉยๆ
ห้ามฉัน, หากฉันเผลอห้ามสิ่งที่แปรเปลี่ยนด้วยเหตุผลว่าฉันนั้นเคยพิเศษ บอกฉัน, หากความพิเศษเหล่านั้นเปลี่ยนไป…
safe zone
__________
ทำไมคนเราต้องออกจาก Safe zone ด้วย
ความคิดในใจขณะฟังเสียงโฆษณาหนึ่งบนรถไฟฟ้า
ทำไมการเลือกอยู่ในที่ๆปลอดภัย
จึงเป็นเรื่องที่ต้องมาบอกคนอื่นว่าไม่ถูกต้อง
ที่ที่เธออยู่แล้วปลอดภัยคงจะทำให้กล้าทำอะไรใหม่ๆมากขึ้น
หรือเธออาจจะชอบการทำงานหรือชีวิตที่เธอเป็นอยู่แล้ว
แต่พอใครคนนึงมาบอกเธอซ้ำๆว่าให้ออกจาก Safe zone สิ
ออกไปตามหาฝันสิ ออกไปทำอะไรที่ไม่เคยทำสิ
เธออาจจะกลับบ้านมาสงสัยในจุดที่ตัวเองอยู่
ไม่เป็นไรนะ อยากอยู่ตรงไหนก็อยู่ไปเลย
ชีวิตไม่ได้ต้องบู๊ ผจญภัยอะไรขนาดนั้น
ฉันชอบอยู่บ้าน อยู่ร้านกาแฟ ฉันชอบทำอะไรเดิมๆ
ไม่ได้ต้องวิ่งตามใคร เดินไปช้าๆอย่างปลอดภัย
อาจจะไม่ต้องมีความฝันหรือแพชชั่นอะไรขนาดนั้น
หาจุดพักสักที่ ให้ใจปลอดภัยไว้บ้างก็ดีนะเธอ
———————————————
เธอเคยรู้สึก… “เสียเวลาไหม”
ฉันเคยใช้เวลาหลายปีเพื่อที่จะรักษา Safe Zone ของตัวเองให้คงอยู่ ฉันเชื่ออย่างสนิทใจว่าสิ่งนั้นปลอดภัยและเหมาะสมกับฉันยิ่งกว่าสิ่งอื่น
แม้ฉันตัดสินใจเพื่อจากมันไปนับครั้งไม่ถ้วน แต่ในขณะที่ฉันใช้เวลาพอสมควรเพื่อทบทวน ความกังวลว่าฉันกำลังทำสิ่งที่ผิดพลาดก็ผุดขึ้นอย่างไม่หยุด
อือ, ฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันสูญเสียตั้งหลายสิ่งแค่เพราะบางอย่าง และแน่นอนฉันเสียเวลาที่ไม่อาจวนกลับมาอีกครั้ง
ฉันเอาแต่บอกใครต่อใครว่า
“เปล่า, ฉันไม่ได้เลือกอะไร ฉันแค่ปล่อยให้มันเป็นไป” และแน่นอน การปล่อยให้บางสิ่งเป็นไป คือการตัดสินใจที่ฉันไม่เคยรู้สึกตัว
เช้านี้ไม่มีสิ่งใดวนกลับมา Safe Zone ที่ฉันควรรักษา ไม่ใช่แบบที่ฉันกำลังรักษา ฉันเพียงชะลอความผิดหวังจากการตัดสินใจ ฉันเพียงสูญเสียทุกสิ่ง เพื่อสิ่งที่ฉันก็ไม่เคยรู้ว่าคือสิ่งใด
“นี่เธอ, ฉันเหมือนคนที่รักษาเงินเดือนหมื่นกว่าบาทจากงานที่ขมขื่น ด้วยการใช้เวลา 8-9 ชั่วโมงต่อวันบนโต๊ะทำงาน และอีกสัก 4-5 ชั่วโมงต่อวันบนท้องถนน เพื่อแลกมันมา เธอว่า… สิ่งนี้เรียกว่า Safe Zone หรือเปล่า”
อ่านบทอื่น ๆ ต่อได้ในหนังสือ “หนึ่งคำที่ทำให้ฉันคิดถึง”