ถ้าชีวิตของคุณไม่เคยหยุดนิ่ง งานยุ่งทั้งสัปดาห์ตลอด 24 ชั่วโมง นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าร่างกายและจิตใจของคุณต้องการ ความสงบ บ้างแล้ว
เราสามารถผ่อนคลายจากความเครียดด้วยเทคนิคง่ายๆ การอยู่กับปัจจุบันและมีสติมากขึ้นส่งผลดีต่อสุขภาพ รวมทั้งวิธีจัดการกับชีวิตและการทำงานของกายและใจที่เชื่องโยงกัน จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ช้าลงและสงบขึ้น และยังช่วยกำจัดความเครียดให้หายไปด้วย
ลองมาดูว่าเราสามารถเปลี่ยนความเครียดให้กลายเป็น ความสงบ ได้โดยวิธีไหนได้บ้าง
ชีวิตมีอะไรมากกว่าการเร่งความเร็ว
ในขณะที่ร่างกายมีความเครียดสะสม การนอนหลับจะกลายเป็นเรื่องยาก เพราะฮอร์โมนเครียดตัวเดียวกับที่ให้พลังเพื่อให้ขาได้วิ่งออกแบบมาเพื่อให้คุณตื่นตัวและหนีพ้นจากอันตราย ไม่ได้มีเพื่อให้พักผ่อนสบายๆ และเคลิ้มฝัน ซึ่งการนอนหลับไม่เพียงพอก็เครียดมากอยู่แล้ว
ทีนี้ลองจินตนาการว่าร่างกายต้องทำงานเช่นนี้เป็นเวลาหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือแม้แต่หลายเดือน ในที่สุดผลที่เกิดขึ้นก็จะชัดเจน ถ้าคุณขับรถยนต์โดยเร่งความเร็วเต็มที่อย่างไม่หยุดยั้ง คุณจะต้องหมดแรง ความเครียดระยะยาวนั้นบั่นทอนทั้งสุขภาพกายและใจ
วิธีแก้ไขคือ ต้องใช้เวลาปรับตัว และหาเวลาพักเพื่อสร้างสติด้วยวิธีออกกำลังกายไม่ใช่การแข่งขัน หรือทำสมาธิ ทำกายภาพบำบัดที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางกายและช่วยสร้างความสงบให้กับเราเอง
การจัดการอารมณ์และความรู้สึก
ความรู้สึกคือสิ่งที่เรารู้สึก เช่น ความโกรธ ความเศร้า ซึ่งอาจมีผลจากอารมณ์ของเราได้เช่นกัน อย่างอารมณ์ดีหรืออารมณ์เสีย แต่อาจอยู่ยาวนานกว่า และบางครั้งก็เป็นโดยไม่รู้สาเหตุ ดังนั้นคุณอาจรู้สึกเศร้าแต่ยังอารมณ์ดี หรืออาจอารมณ์เสียจนทำให้ไม่มีความสุข บางครั้งคนที่มองโลกในแง่ดีเกิดไป กลับรู้สึกว่าชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จึงเกิดความรู้สึกผิดหวัง ในขณะที่คนมองโลกในแง่ร้ายอาจตื่นเต้นดีใจเมื่อสิ่งต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดี
ถ้าต้องการจัดการอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่ดีออกไป คุณต้องรู้ก่อนว่าอารมณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร แล้วถึงปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เช่น ถ้าคุณรู้สึกไม่ดี แต่ยังมีพลังงานมากอยู่ คุณอาจจะรู้สึกเครียดและกระวนกระวายซึ่งตรงข้ามกับความรู้สึกสงบ การออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟินอาจบรรเทาความรู้สึกเหล่านั้นได้และทำให้อารมณ์ดีขึ้น
โปรดจำไว้ว่า สิ่งที่รู้สึกทางกายอาจส่งผลถึงอารมณ์ได้ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจทำให้บางคนหงุดหงิดง่าย เช่นเดียวกับความกระหายน้ำ หรือเหน็ดเหนื่อยเกินไป
ฝึกหายใจ
ถึงแม้เราจะหายใจเป็นอัตโนมัติ แต่การหายใจสามารถใช้สติควบคุมได้ และเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะรวบรวมร่างกายกับจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว และยังช่วยให้เราสงบอารมณ์และความรู้สึกได้ด้วย
การหายใจตื้นๆ อย่างรวดเร็วเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองแบบ “สู้หรือหนี” ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียดซึ่งทำให้เราเครียดมากกว่าที่ควรจะเป็น ในทางตรงข้าม การหายใจอย่างถูกต้องเพียงครั้งเดียวโดยหายใจให้เต็มปอดจะช่วยคลาดเครียด เพราะเมื่อเรามีสติควบคุมการหายใจ เท่ากับเราได้ส่งสัญญาณจากร่างกายถึงสมองว่า “ตอนนี้ทุกอย่างปกติ ภาวะฉุกเฉินหมดลงแล้ว” ร่างกายจึงหยุดหลั่งสารอะดรีนาลินที่ไม่จำเป็นทั้งหมด และไม่ผลิตคอร์ติซอลที่เป็นการกระตุ้นและเร่งเร้ามากเกินไปจนทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้าเรื้อรังและอ่อนแรง
หลับลึกขึ้น
ยิ่งสงบมากเท่าไร เราจะยิ่งนอนหลับได้ลึกขึ้นเท่านั้น แต่ปัญหาคือ เราทุกคนต่างรู้ดีว่ายากแค่ไหนที่จะนอนให้หลับยามที่เราตื่นเต้น ผิดหวัง หรือเครียด ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการไหลเวียนของอะดรีนาลินและคอร์ติซอลที่ทำให้เราตื่นตลอดทั้งคืน ยิ่งเพิ่มความเหน็ดเหนื่อยและทำให้เราหลับได้ยากขึ้น และยังอาจกลายเป็นวงจรแห่งความเลวร้ายได้ง่าย ยิ่งเหน็ดเหนื่อยมากเท่าไร ฮอร์โมนเครียดก็จะยิ่งหลั่งออกมามากขึ้นเท่านั้นเพื่อให้เราตื่นตัว
การสร้างความสงบชั่วขณะในระหว่างวันจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ลึกขึ้นด้วยวิธีต่อไปนี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังบ่ายสาม และทดแทนด้วยชาสมุนไพร เช่น คาโมไมล์หรือเปปเปอร์มินต์ ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารผ่อนคลาย หมั่นออกกำลังกายเช่นเดินเร็ว เพื่อลดความดันโลหิตเพื่อจะช่วยให้จิตใจสงบขึ้น หลีกเลี่ยงอุปการณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน เช่น ไอแพด สมาร์ทโฟน เพราะแสงสีฟ้าจะยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้สงบและทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
การทำให้เท้าอุ่นอยู่เสมอก็ช่วยให้นอนหลับได้ลึกขึ้นด้วย ก่อนนอนคืนนี้ลองเอาเท้าแช่น้ำอุ่นดูนะ
สร้างความสงบในที่ทำงาน
ทุกวันในที่ทำงานจะต้องมีช่วงที่รู้สึกว่าไม่สงบ อาจเป็นเพราะความเครียดจากปริมาณงาน กำหนดส่งงาน การจัดการกับคนที่คุยด้วยยาก ดังนั้นการฝึกเทคนิคเพื่อสร้างความสงบจะช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเครียดได้ เช่น การเดินช่วงสั้นๆ ก่อนและหลังออกจากที่ทำงาน แค่ลงรถเมล์ก่อนหนึ่งป้ายเพื่อเดินเพิ่มขึ้น การเดินจะช่วยให้มีช่วงเวลาว่างให้คุณได้รวบรวมความคิดและวางแผนในช่วงเวลาต่อไปได้
และควรจัดการงานทีละอย่าง การทำงานหลายอย่างไม่เป็นผลดี ถ้าต้องการให้จิตใจสงบ ให้เขียนรายการ จัดลำดับความสำคัญของงาน และต้องทำทีละอย่าง ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพราะจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น รวมไปถึงการใช้โปรแกรมพักหน้าจอแบบที่ช่วยให้สงบ อาจะเป็นภาพของวิวทิวทัศน์ ภาพทะเลสาบหรือแม่น้ำ เป็นต้น การปลูกต้นไม้เขียวๆ ต้นเล็กๆ ไว้ที่ทำงานก็ช่วยให้จิตใจของคุณสงบได้เช่นกัน
ข้อมูลจากหนังสือ ฝึกให้สงบ
วางขายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก
บทความอื่นๆ
แค่รู้จักและเข้าใจตัวเอง ก็สามารถเข้าใจคนทั้งโลกได้
“โยคะนิ้ว” ออกกำลังกายง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว ไม่เหนื่อยแถมสุขภาพดี
เทคนิคการหยุดพัก “เรื่องที่ต้องทำ” เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น