เมื่อทราบว่า “เป็นมะเร็ง” เชื่อว่าใครๆก็คงจิตตก และหวาดกลัวกับสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น แต่ความจริงแล้ว มะเร็งสามารถรักษาให้หายได้ อีกทั้งยังมี งานวิจัยปัจจุบันมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า “ภูมิคุ้มกันในร่างกายสามารถกำจัดมะเร็งได้” 

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง คือต้องดูแลจิตใจให้ดี พยายามไม่เครียด มีกำลังใจต่อสู้กับโรค รวมถึงการเตรียมร่างกายให้พร้อมเข้ารับการรักษา ด้วยการกินอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย รู้จักเลือก อาหารต้านมะเร็ง ให้เหมาะสมกับมะเร็งแต่ละชนิด

[su_quote]แล้วคนเป็นมะเร็งต้องกินแบบไหน อาหารต้านมะเร็ง อาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเป็นอย่างไร[/su_quote]

เรามาดูหลักการง่ายๆ ดังนี้

หลายคนกังวลว่าเมื่อเป็นมะเร็งแล้ว ต้องกินอาหารให้น้อยลงเพราะกลัวว่าจะทำให้มะเร็งโตไว แต่นั่นเป็นความเชื่อผิดๆ ความจริงจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พบว่า เซลล์มะเร็งดูดอาหารไปใช้ได้ไวกว่าเซลล์ปกติ   หากปล่อยให้เซลล์มะเร็งอดอาหาร ขณะที่ร่างกายส่วนอื่นอ่อนแอ เซลล์มะเร็งจะรุนรายอวัยวะเหล่านั้นแทน

ผู้ป่วยมะเร็งจำนวนไม่น้อย “เลิกกินเนื้อสัตว์” เพราะรับทราบข้อมูลมาว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ทำให้มะเร็งโตไว แต่ความจริงมีมะเร็งน้อยชนิดที่ชอบใช้กรดแอมิโนซึ่งอยู่ในเนื้อสัตว์เป็นแหล่งพลังงาน แต่ถ้าผู้ป่วยมะเร็งไม่กินเนื้อสัตว์ทั้งหมด ร่างกายจะขาดวิตาบินบี 12 และธาตุเหล็กปริมาณมาก ซึ่งมีหน้าที่สร้างเม็ดเลือด จนทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง หากเป็นมากอาจทำให้ต้องหยุดการรักษาได้

มะเร็งส่วนใหญ่ใช้น้ำตาลกลูโคสเพื่อสร้างพลังงาน ส่วนมะเร็งต่อมลูกหมากชอบใช้กรดไขมัน ขณะที่มะเร็งเต้านมชอบทั้งไขมันและน้ำตาล ฉะนั้นจึงควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงแต่ต้องจำกัดสัดส่วนให้เหมาะสม หลีกเลี่ยวงการเติมน้ำตาลเพิ่ม และเลือกกินอาหารไขมันน้อย

หากรักษาด้วยรังสีรักษา โดยเฉพาะบริเวณศีรษะและลำคอทำให้กลืนยาก เคี้ยวอาหารลำบาก จึงควรกินอาหารเนื้อนิ่ม ไม่เห็นเมล็ดหรือผง ส่วนระดับความอ่อนของอาหารจะขึ้นอยู่กับผลข้างเคียงของผู้ป่วยว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งมีทั้งอ้าปากได้แคบ เป็นแผลในปาก ปากแห้ง น้ำลายน้อย จนถึงสูญเสียการรับรส จึงกินได้น้อย น้ำหนักตัวลดจนส่งผลต่อการรักษา

ระหว่างรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยมะเร็งจะต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้น คุณหมอจึงแนะนำให้กินไข่ขาวปริมาณมาก เพราะเป็นโปรตีนคุณภาพดี หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน การดื่มน้ำขิงหรือกินแอ๊ปเปิ้ลจะช่วยบรรเทาอาการได้  หากเข้ารับการผ่าตัด ควรเลือกกินอาการที่ย่อยง่าบ และมีโปรตีนสูง เช่น เมนูปลา เป็นต้น

แม้ตลอดการรักษา ผู้ป่วยมะเร็งจะมีข้อจำกัดในการเลือกกินอาหาร แต่ไม่ได้หมายความว่า อาหารสำหรับโรคมะเร็งจะต้องจืดชืด และไม่อร่อยเสมอไป เพียงแค่รู้จักวิธี Mix & match เมนูใหม่ๆ ก็ช่วยให้กินอาหารได้ง่ายขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นตามไปด้วย

ตัวอย่างเมนูอาหารต้านมะเร็ง

เจลลี่โภชนาในน้ำขิง  

เมนูนี้เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็งช่องปากหรือคอหอย

เพราะช่วยให้กินอาหารได้มากขึ้นและลดการใส่สายอาหารระหว่างรับรังสีได้

ส่วนผสม

• เจลลี่โภชนารสมะม่วง 1 ถ้วย
• ขิงผงสำเร็จรูป 100 % ชนิดซอง  1/2  ซอง
• น้ำอุ่น 1 ถ้วย
• มะม่วงน้ำดอกไม้สุกหั่นเป็นลูกเต๋า 1/2  ถ้วย
• สตรอว์เบอร์รี่หั่นชิ้นเล็ก 1/2  ถ้วย

วิธีทำ
ละลายขิงผงให้น้ำอุ่น พักไว้ แล้วเทเจลลี่ใส่จาน หั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำ  จากนั้นใส่เจลลี่ลงในถ้วย เติมน้ำขิง มะม่วงสุก และสตรอว์เบอร์รี่ เสิร์ฟได้ทันที

ต้มข่าปลานึ่งนมสด

เมนูนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัด ปลาดอรี่เมื่อนำมานึ่งจะมีสัมผัสนิ่่ม ย่อยง่าย

เมนูนี้ได้โปรตีนจากทั้งเนื้อปลาและนมสด ทั้งยังมีสมุนไพรจากข่าช่วยให้เจริญอาหารด้วย

ส่วนผสม

ปลาดอรี่แล่เป็นชิ้น                                200         กรัม

นมสดรสจืด                            1              ถ้วย

ข่าอ่อนฝานบาง                    50           กรัม

มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง         3              ลูก

กะหล่ำปลีหั่นชิ้นพอดีคำ      100         กรัม

น้ำมะนาว                               1/2             ช้อนชา

น้ำปลา                                   1/2            ช้อนชา

น้ำเปล่า                                  1              ถ้วย

วิธีทำ

1.นึ่งปลาดอรี่ให้สุก พักไว้

2.ทำต้มข่า โดยผสมน้ำกับนมสดในหม้อพอเข้ากัน ตั้งไฟให้ร้อน ใส่ข่า กะหล่ำปลีลงต้มให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว

3.ราดน้ำต้มข่าลงบนปลาดอรี่ ใส่มะเขือเทศลงไป แล้วนำไปนึ่งอีก 1- 2 นาทีพอได้กลิ่นหอม ยกลงจากเตา จัดเสิร์ฟได้ทันที

ไก่อบซอสองุ่น

เนื้ออกไก่เป็นส่วนที่ไขมันน้อยแต่โปรตีนสูง  ซอสองุ่นก็เต็มไปด้วยสารต้านอนุมุลอิสระ

และการกินคู่กับผักกาดจะช่วยกระตุ้นการกำจัดสารก่อมะเร็งอีกด้วย

ส่วนผสม

• เนื้ออกไก่ 150 กรัม
• น้ำองุ่น 100% 5 ช้อนโต๊ะ
• องุ่นแดงไร้เมล็ดสับหยาบ 50 กรัม
• ซีอิ๊วขาว 1/4 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยดำบดละเอียด 1/4 ช้อนชา
• ผงเจลาติน 1 ช้อนชา
• ผักกาดแก้ว 100 กรัม

วิธีทำ

1.หมักอกไก่กับน้ำองุ่น 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนชา และพริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา พักไว้นาน 20-30 นาที

2.ห่อไก่หมักด้วยแผ่นฟอยล์ แล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสนาน 10 -15 นาทีจนสุกดี

3.นำน้ำหมักไก่ที่เหลือมาทำซอสองุ่น โดยเติมน้ำองุ่น ซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอยที่เหลือลงไป ตามด้วยเจลาติน เคี่ยวในกระทะด้วยไฟอ่อนจนข้นหนืด จากนั้นใส่องุ่นสับลงคนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา

4.หั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำ จัดใส่จานเสิร์ฟ ราดซอสองุ่นเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมกับผักกาดแก้ว

 ข้อมูลจากหนังสือ : อาหารต้านมะเร็ง /กินเป็นมะเร็งขยาด กินฉลาดมะเร็งไม่มา